เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 1115 นี่ไม่ใช่โรงงานคุณด้วยซ้ำ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 1115 นี่ไม่ใช่โรงงานคุณด้วยซ้ำ

บทที่ 1115 นี่ไม่ใช่โรงงานคุณด้วยซ้ำ

ซูเสี่ยวเถียนกำลังสงสัยคนในโรงงาน

เพราะไม่เชื่อว่าจะไม่มีบุคคลที่สามเข้ามาเอี่ยวด้วย

หากไม่มีคนชี้นำ แล้วครอบครัวนี้จะเริ่มคิดยักยอกเงินไปทำไม

ที่มาลี่เฉิงก็เพื่อมาดูโรงงานนี่แหละ!

เรื่องนี้จะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างรอบคอบ

กินหรูและอยู่อย่างสุขสบายแท้ ๆ ดันไม่ชอบ

ซูหม่านซิ่วยืนกรานจะไปด้วย

แต่อีกฝ่ายปฏิเสธ

“อาใหญ่ยังไม่รู้ความสามารถของหนูอีกหรือคะ? ต่อให้รุมเข้ามาพร้อมกันสี่ห้าคน หนูก็ไม่ไหวติงหรอกนะ”

“แล้วอาจะมั่นใจได้ยังไง? ไม่งั้นเรากลับบ้านไปรอให้ซื่อเลี่ยงมาด้วยดีกว่าเถอะ”

ถึงจะรู้ว่าหลานสาวเก่ง แต่เจ้าตัวยังเด็กอยู่เลย

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หนูเก่งกว่าพี่รองอีก ถ้าเราสองคนสู้กันพี่รองสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ”

ดูคำพูดคำจา น่าตีจริงเชียว!

แต่ที่หลานพูดมันคือเรื่องจริงนั่นแหละ

ให้อู่ร่างที่สู้เก่งที่สุดมาก็คงเสมอด้วยซ้ำ

จื่ออันเคยพูดอยู่ว่าหลานสาวเป็นคนที่เข้าตากรรมการที่สุด น่าเสียดายที่ไม่ได้มาสมัครเป็นทหาร

เขาเสียใจอยู่นานเลยตอนที่เห็นเธอเลือกเรียนที่จิ่งเฉิง

สุดท้ายซูเสี่ยวเถียนก็เดินทางไปโรงงาน

ฝั่งอวี๋กวางฮุยกำลังสืบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจังเช่นกัน

ตอนที่ได้ยินข่าวความขัดแย้งระหว่างซูเสี่ยวเถียนกับครอบครัวเซี่ยงอิง ตนก็สัมผัสได้ถึงปัญหาใหญ่

เจ้านายเพิ่งมาอยู่ลี่เฉิงได้ไม่กี่วัน จึงยังไม่มีคนรู้จักเยอะเท่าไร

แม้ว่าครอบครัวเซี่ยงอิงจะจงใจทำ แต่คงไม่มีทางหาตัวเจ้านายพบหรอก

ภายในโรงงานต้องมีหนอนบ่อนไส้แน่

โรงงานของเราเป็นโรงงานเอกชน

ดูแลอย่างดีไม่ต่างไปจากโรงงานของรัฐด้วยซ้ำ

ต้องมีคนไม่พอใจเจ้านายและคิดใช้ประโยชน์จากครอบครัวเซี่ยงอิงจัดการอยู่เบื้องหลัง

คิดดังนั้น เขาจึงเริ่มสอบสวนคนที่สนิทกับเจ้านายทันที

เมื่อคิดว่าเจ้านายจะต้องผิดหวัง เขาก็รู้สึกผิดเหลือเกิน

ยังไม่ทันให้ท่านจะได้เห็นความก้าวหน้าของโรงงานเลย กลับต้องมาเห็นเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นเสียแล้ว

อวี๋กวางฮุยเรียกประชุมกับผู้บริหารทุกคน

หลังจากคิดอย่างรอบคอบ ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

ช่วงหลังปีใหม่จะมีการประชุมแน่ แต่พอจู่ ๆ โดนเรียกตัวก็ได้แต่ประหลาดใจกัน

พวกคนงานต่างคาดเดาไปต่าง ๆ นานาว่าเจ้านายมีแผนการอะไรหรือเปล่านะ

เนื้อหาการประชุมในวันนี้ก็สร้างความตกใจไม่น้อย

เนื่องจากเนื้อหาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบคนไม่เข้างานในวันนี้

ที่นี่ทำงานกันสามกะ จึงมีคนงานสองในสามที่ไม่ได้อยู่ในที่ทำงาน

เก้าสิบเปอร์เซ็นต์พักในโรงงาน ด้วยเหตุนี้ การสืบสวนจึงไม่ใช่เรื่องยาก

กับคนที่ถึงกะของตัวเองแล้วไม่ได้มาประจำตำแหน่ง อวี๋กวางฮุยยิ่งสนใจเป็นพิเศษ

เขาตั้งใจตามหาบุคคลที่มีแรงจูงใจแฝง ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงก็ตรวจสอบคนที่อยู่ในโรงงานและไม่ได้อยู่เสร็จสิ้น

แล้วก็สอบสวนคนที่เจ้านายได้พบก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งวันนี้พวกเขาน่าจะอยู่ที่โรงงาน

แล้วก็เจอเป้าหมาย

คนคนนั้นทำให้เขาต้องประหลาดใจ!

อวี๋กวางฮุยรู้สึกว่าสิ่งที่ทำมาตลอดมันผิดพลาดไปหมด

เป็นอี้เทียนเลี่ยงไปได้ยังไง?

จากความคิดตน ชายคนนี้เป็นคนเก่ง และเป็นคนดี

เวลาปกติก็มีบ้างที่คิดเล็กคิดน้อย

แต่ก็ถือว่าเป็นคนที่ใช้ได้ในโรงงานนะ เขาไม่ควรทำเรื่องแบบนี้สิ!

อีกอย่างที่ไม่เข้าใจคือ เขาไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับเจ้านาย แล้วทำไมถึงช่วยครอบครัวเซี่ยงอิงสร้างเรื่องล่ะ?

แล้วในบรรดาคนที่สนิทกับเจ้านายก็มีเขาคนเดียวด้วย

วันนี้คนที่ควรมาทำงานก็คือเขา แต่ดันไม่มา

ทั้งยังลอบออกจากโรงงานไปด้วย

ระหว่างที่สงสัย เจ้าตัวการก็กลับมา

“ผู้อำนวยการครับ ผมได้ยินว่าคุณนัดประชุมหรือ?”

อี้เทียนเลี่ยงกลับมาถึงแล้วได้ยินพอดี แต่ยังไม่รู้เนื้อหาการประชุม พอเห็นผู้อำนวยการเลยเข้าไปทักทายก่อน

“อืม! แล้ววันนี้คุณไปไหนมาหรือ?” แค่นึกเรื่องที่อีกฝ่ายคิดทำเรื่องไม่ดีลับหลังก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าเย็นเยียบ

อี้เทียนเลี่ยงไม่ได้คิดเยอะ นึกว่าผู้อำนวยการจะจัดประชุมแต่เราดันไม่อยู่เขาเลยไม่พอใจ

เขาจึงรีบขอโทษขอโพย “คุณแม่ไม่สบายน่ะครับ เลยพาไปส่งโรงพยาบาล”

สีหน้าอวี๋กวางฮุยดำทะมึนกว่าเดิม

อี้เทียนเลี่ยงกำลังโกหก คิดว่าเราจะไม่รู้หรือยังไง?

หลายวันก่อนยังบอกพาแม่ไปต่างจังหวัดอยู่เลย ทั้งยังบอกด้วยนะว่าแม่ตั้งใจจะไปอยู่ที่นั่นสักเดือนถึงค่อยกลับ!

แต่วันนี้บอกพาแม่ไปหาหมอ!

บ้านเกิดอี้เทียนเลี่ยงอยู่ไกลจากลี่เฉิง ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันจึงจะถึง

“หัวหน้าอี้ ออกไปข้างนอกไม่คิดจะขอลาหน่อยหรือ?”

เขาไม่ได้เปิดโปงทันที แต่กำลังให้โอกาสอยู่

ซึ่งอีกฝ่ายไม่คิดคว้าโอกาสนั้นไว้

อี้เทียนเลี่ยงรีบขอโทษด้วยรอยยิ้ม “เป็นความผิดของผมเองครับ ผมไม่ได้นึกเลย แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าท่านจะจัดประชุมกะทันหัน หลังจากนี้จะไม่ไปไหนโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วครับ”

“แล้วออกไปนานขนาดไหนล่ะ?”

อี้เทียนเลี่ยงเริ่มไม่พอใจนิดหน่อย เรื่องแค่นี้ต้องใส่ใจด้วยหรือ?

โง่เง่าเหลือเกิน โรงงานก็ไม่ใช่ของตัวเองแล้วจะถามซอกแซกอะไรขนาดนั้น?

“ครึ่งชั่วโมงครับ!”

โกหกอีกแล้ว การกระทำนี้ยิ่งทำให้อวี๋กวางฮุยมั่นใจกว่าเดิมว่าท่าทีของอีกฝ่ายผิดปกติมาก!

“ผมถามคนอื่นแล้ว คุณออกไปตอน 09.30 น. แต่นี่กลับมาตอน 16.40 เนี่ยนะ! อันนี้คือครึ่งชั่วโมงที่ว่าหรือ?”

อี้เทียนเลี่ยงหุบยิ้ม ใบหน้าแสดงความอึดอัดและไม่พอใจ

เขาคิดว่าตัวเองเก่ง การศึกษาสูง แต่กลับต้องมาเป็นลูกน้องอวี๋กวางฮุยซึ่งตนไม่เต็มใจสักนิด!

เมื่อก่อนก็ไม่ได้มาระรานกันนะ แต่เดี๋ยวนี้ชักเหิมเกริม!

“ตำแหน่งเราก็ไม่ได้ต่างกันแท้ ๆ นะ นี่ไม่ใช่โรงงานคุณด้วยซ้ำ!”

—————————————————————–

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท