ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 498 เซี่ยเยียนเค่อหน้าเนื้อใจเสือ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ตอนที่ 498 เซี่ยเยียนเค่อหน้าเนื้อใจเสือ

เมื่อเปิดใช้งานสถานะปะทุพลัง ‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’ พลังที่ออกจากตัวเยี่ยเว่ยหมิงก็ไต่ขึ้นถึงจุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!

เซี่ยเยียนเค่อรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่รุนแรงนี้ เริ่มนึกเสียใจทีหลังที่ตัวเองรับปากเยี่ยเว่ยหมิงว่าจะใช้ฝ่ามือปะทะกัน

เมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ามือที่ลงมาจากฟ้าของเยี่ยเว่ยหมิง การเลือกใช้กำลังปะทะตรงๆ เป็นทางเลือกที่โง่ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

ถ้าหลบได้ ถ้าเทียบกันแล้วก็ยังถือว่าง่ายกว่ามาก ทั้งยังรอนั่งเก็บเกี่ยวความสำเร็จเฉยๆ ได้ด้วย

เพราะหลังจากเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีฝ่ามือนี้แล้วล้มเหลว แค่โดนเคล็ดฝ่ามือของตัวเองย้อนทำร้าย ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาเหลือทนแล้ว

ถ้าเปลี่ยนเป็นคนชั้นต่ำที่แท้จริงอย่างจิวหมัวจื้อ จะต้องไม่สนใจคำสัญญาก่อนหน้านี้ แต่จะเลือกหลบอย่างไม่ลังเลแน่นอน ปล่อยให้ฝ่ามือที่เยี่ยเว่ยหมิงโจมตีด้วยพลังทั้งหมดถล่มไปที่พื้นแทน

แต่เรื่องแบบนั้น เซี่ยเยียนเค่อกลับไม่ทำเด็ดขาด

ในฐานะที่เป็นจอมยุทธ์แห่งคำสัญญาอันดับหนึ่งของใต้หล้า พูดอะไรออกไปแล้วก็ต้องทำให้ได้!

บอกว่าจะไม่หลบก็ไม่หลบ!

บอกว่าจะรับฝ่ามือ ก็ต้องรับฝ่ามือ!

ต่อให้วันนี้ถูกเยี่ยเว่ยหมิงตบตายอยู่บนหน้าผาหมัวเทียนแห่งนี้ แต่เขาก็จะไม่ทำเรื่องใดๆ ที่ผิดสัญญา เด็ดขาด

นี่ก็คือเส้นตายและความมุ่งมั่นของเซี่ยเยียนเค่อ

ถ้าไม่ใช่เพราะความดึงดันที่เกือบจะใกล้เคียงกับความคร่ำครึ ประกาศิตเหล็กนิลของเขาจะกลายเป็นของล้ำค่าในยุทธภพที่ทุกคนพากันแย่งชิงได้อย่างไร

รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน เซี่ยเยียนเค่อพลันตั้งสองมือตรงหน้าอก เข็มสนที่ถูกลมฝ่ามือของเขาพัดขึ้นมา ตอนนี้มารวมอยู่ระหว่างฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาหมดแล้ว

เข็มสนจำนวนมากกระเพื่อมตามกำลังภายใน พวกมันไหลทะลักอย่างไม่เว้นระยะจนกลายเป็นลูกบอลสีเขียวมรกต ราวกับกลายเป็นพายุขนาดย่อมๆ ที่ยังก่อตัวไม่ได้สูงมากอยู่ระหว่างฝ่ามือสองข้างของเขา!

จากนั้นเข็มสนนับพันหมื่นที่ก่อตัวจากพลังฝ่ามือก็พุ่งขึ้นฟ้าตามการเปลี่ยนแปลงของสองฝ่ามือ ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นกระบี่คมนับไม่ถ้วน ยิงไปทางยี่ยเว่ยหมิงที่กำลังตกลงมาจากฟ้า เหมือนอยากจะสับร่างเขาให้เป็นพันเป็นหมื่นชิ้น!

ท่านี้ก็คือสุดยอดวิชาที่ร้ายกาจที่สุดของเซี่ยเยียนเค่อ อานุภาพเหนือกว่าดรรชนีศักดิ์สิทธิ์…ฝ่ามือสนมรกต!

ขณะเดียวกันนี่เอง เยี่ยเว่ยหมิงที่อยู่กลางอากาศก็เพิ่มพลังของตัวเองจนถึงขีดจำกัดสูงสุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้

ถ้าจะพูดให้ถูก ก็น่าจะพูดว่าเป็นระดับสูงสุดที่แท้จริงหลังจากเพิ่มพลังให้เกินขีดจำกัดจนเข้าใกล้ความตาย!

กำลังภายในที่บ้าระห่ำกำลังก่อตัวเป็นมังกรยักษ์สีทองบนร่างกายเขา เมื่อสองฝ่ามือรวมเป็นหนึ่ง ก็คำรามพร้อมถล่มโจมตีลงมา

มังกรบินอยู่สวรรค์!

กรรร!~~

หลังจากต้านทานการโจมตีของเข็มสนทั้งหมดแล้ว พลังมังกรทองที่ภายนอกดูเลือนรางก็โจมตีข้างล่างต่อไป อ้าปากเลือดคำใหญ่กลืนกินเซี่ยเยียนเค่อที่อยู่ข้างล่างจนหมดสิ้น!

บึ้ม!

ท่ามกลางเสียงดังสะท้านฟ้าสะเทือนดิน เซี่ยเยียนเค่อสะเทือนจนถอยหลังต่อเนื่องเจ็ดเก้า หลังจากพยายามทรงตัวแล้ว ก็อ้าปากพ่นลูกธนูเลือดออกมาสายหนึ่ง

ชั่วพริบตาเดียว บนตัวประสกหมัวเทียนที่เดิมทีดูมีพลังอหังการก็เซื่องซึมลงโดยสิ้นเชิง

ขณะเดียวกันนี้เอง เหนือศีรษะของเขาก็มีตัวเลขดาเมจที่สูงถึงหกหลักลอยขึ้นมา

-105580

บาดเจ็บภายใน!

หมดแรง!

เกิดสองสถานะด้านลบขึ้นบนตัวเซี่ยเยียนเค่อพร้อมกัน ทำให้พลังต่อสู้ของเขาลดลงจนเหลือไม่ถึงสามส่วนจากจำนวนเต็ม!

โชคดีที่คู่ต่อสู้ของเขาก็ไม่ได้ดีไปกว่าการสักเท่าไร

เมื่อถูกพลังของมังกรบินอยู่สวรรค์ที่ทะลวงเกินขีดจำกัดย้อนทำร้าย เยี่ยเว่ยหมิงก็ได้รับบาดเจ็บภายในไม่ใช่น้อยๆ เช่นกัน

เพียงแต่เมื่ออยู่ในสถานะปะทุพลังของ ‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’ การบาดเจ็บภายในแบบนี้จะถูกข่มไว้ทันที

แต่ดาเมจที่เกิดขึ้นในระหว่างนั้น ก็ยังลอยขึ้นเหนือศีรษะของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

-22630

ขณะที่ถูกพลังฝ่ามือย้อนทำร้าย พลังชีวิตของเยี่ยเว่ยหมิงลดลงประมาณครึ่งหนึ่ง

นี่ยังเป็นตอนที่อยู่ในสถานะใช้งาน ‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’ ด้วย ซึ่งเป็นสถานะที่ค่าพลังชีวิตสูงสุดเพิ่มขึ้นเยอะมาก!

แต่การที่โจมตีเซี่ยเยียนเค่อให้ติดสถานะบาดเจ็บสาหัสได้ เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกว่าบาดแผลพวกนี้คือสิ่งที่คุ้มค่าแล้ว!

คุ้มค่ามากจริงๆ!

เมื่อดาเมจสะท้อนกลับของฝ่ามือนี้หายไป ก็หักล้างพลังที่ลดลงของเยี่ยเว่ยหมิงแล้วเช่นกัน

เขาพลิกตัวอย่างสง่างามกลับลงมายืนอยู่บนพื้นอย่างมั่นคง

เมื่อเท้าแตะพื้นอีกครั้ง เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ให้โอกาสเซี่ยเยียนเค่อเลยแม้แต่น้อย เขาพลันพุ่งร่างไปข้างหน้า ใช้มือซ้ายวาดวงกลมหนึ่งวง จากนั้นผลักไปที่หน้าอกของเซี่ยเยียนเค่อหนึ่งที

นี่ก็คือท่าทางของมือตอนที่เตรียมใช้ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’…มังกรผยองได้สำนึก!

เซี่ยเยียนเค่อผู้น่าสงสาร เมื่อครู่ถูกโจมตีจนปราณแท้แตกกระจาย ตอนนี้ยังไม่ทันได้รวบรวมปราณแท้ขึ้นมาใหม่ ฝ่ามือของเยี่ยเว่ยหมิงก็มาถึงแล้ว

เมื่ออยู่ในสภาวะที่ไม่มีปราณแท้เสริม เซี่ยเยียนเค่ออยากจะยื่นมือไปบังฝ่ามือที่สองของเยี่ยเว่ยหมิง แต่สุดท้ายก็ช้าไปครึ่งก้าว ถูกฝ่ามือประทับลงบนหัวใจอย่างเต็มแรง!

กรรร!

-135254!

พรึ่บ!

ภายใต้การโจมตีนี้ เซี่ยเยียนเค่อบาดเจ็บซ้ำอีกครั้ง แถบพลังชีวิตที่อยู่เหนือศีรษะเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ลดลงเหลือขีดเล็กๆ อย่างที่ตาเปล่าสังเกตเห็นได้

น้องดาบที่ยืนดูการต่อสู้อยู่ข้างๆ อึ้งตะลึงค้างไปแล้ว!

เยี่ยเว่ยหมิงคนนี้ กำลังข้ามระดับไปฆ่า BOSS เลเวลแปดสิบเลยหรือ!

ซึ่งดูจากท่าทางของเขา ถ้าโจมตีต่ออีกหลายฝ่ามือ ก็เหมือนจะทำอย่างนั้นได้จริงๆ

วินาทีต่อมา เยี่ยเว่ยหมิงก็ใช้การกระทำของตัวเองบอกน้องดาบแล้ว ว่าเขาคิดจะทำอย่างนั้นจริงๆ!

ตอนที่น้องดาบกำลังสงสัย เยี่ยเว่ยหมิงก็ก้าวขึ้นมาข้างหน้าอีกครั้ง แล้วปล่อยสองฝ่ามือพร้อมกัน ท่ามกลางเสียงมังกรคำรามสะท้านฟ้า ฝ่ามือโจมตีบนหน้าอกฝั่งซ้ายและขวาของเซี่ยเยียนเค่ออย่างโหดเหี้ยม

สะท้านขวัญร้อยลี้!

-182219!

เอฟเฟ็กต์พิเศษของมังกรผยองได้สำนึก ‘เหลือเฟือไม่หมดสิ้น’

หลังจากโจมตีด้วย ‘มังกรผยองได้สำนึก’ หนึ่งฝ่ามือแล้ว ก็จะโจมตีฝ่ามือใดก็ได้ของ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ได้อีกหนึ่งฝ่ามือ ระหว่างนั้นไม่ต้องรวบรวมกำลังภายในใหม่ ปล่อยพลังฝ่ามือต่อเนื่องกันได้เลย ประสิทธิภาพของฝ่ามือยังเพิ่มขึ้น 20%! ด้วย

ซึ่งในบรรดากระบวนท่าที่เยี่ยเว่ยหมิงเรียนมา ตอนนี้ท่า ‘สะท้านขวัญร้อยลี้’ ก็เป็นท่าที่เหมาะที่สุดสำหรับใช้งานต่อจาก ‘มังกรผยองได้สำนึก’ เป็นฝ่ามือที่มีประสิทธิภาพแข็งแกร่งที่สุดด้วย

ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงได้ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ มาหกฝ่ามือแล้ว ในจำนวนนั้น ฝ่ามือที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ ‘มังกรบินอยู่สวรรค์’ อีกฝ่าหนึ่งคือ ‘สะท้านขวัญร้อยลี้’

ยิ่งไปกว่านั้น ‘สะท้านขวัญร้อยลี้’ กับ ‘มังกรบินอยู่สวรรค์’ ก็ไม่ได้เหมือนกันเสียทั้งหมด

ถ้าอยากจะใช้ ‘มังกรบินอยู่สวรรค์’ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ก็ต้องกระโดดขึ้นที่สูงก่อนปล่อยฝ่ามือ อาศัยแรงโน้มถ่วงเพิ่มความเร็วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเคล็ดฝ่ามือ

ยิ่งกระโดดสูง ประสิทธิภาพก็ยิ่งสูง!

แต่ตอนใช้ ‘สะท้านขวัญร้อยลี้’ กลับไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น ขอเพียงโคจรพลังสิบส่วนไปบนฝ่ามือสองข้าง ก็แสดงประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งที่สุดได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว

หลังจากใช้ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพของมันได้หนึ่งร้อยยี่สิบเปอร์เซ็นต์!

อาศัยการรวมตัวที่สมบูรณ์แบบของ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ และ ‘สะท้านขวัญร้อยลี้’ เยี่ยเว่ยหมิงโจมตีคริติคอลฝ่ามือเดียว ก็สร้างดาเมจบนตัวเซี่ยเยียนเค่อได้เกือบสองแสนแล้ว!

เมื่อถูกโจมตีอย่างรุนแรง ร่างของเซี่ยเยียนเค่อก็กระเด็นไปข้างหลังเหมือนว่าวสายขาด

เนื่องจากแหวนหยกเย็นถูกติดตั้งไว้ที่มือข้างเดียว พลังที่อยู่บนสองฝ่ามือของเยี่ยเว่ยหมิงจึงไม่เท่ากัน ซึ่งพลังฝ่ามือที่ไม่เท่ากันแบบนี้ เมื่อโจมตีบนตัวเซี่ยเยียนเค่อ ระหว่างที่กระเด็นก็ยิ่งทำให้ร่างกายของเขาหมุนอยู่กลางอากาศเหมือนลูกข่าง

ทุกรอบที่หมุนจะมีเลือดกระอักออกจากปากเขาหนึ่งคำ เห็นได้ชัดว่าเกิดจากการบาดเจ็บซ้ำ เดิมทีพลังก็เสียหายอยู่แล้ว เมื่อถูกโจมตีจนเลือดลดลงหลายครั้ง ตอนนี้จึงอยู่ในขั้นที่อันตรายที่สุดแล้ว

พอเยี่ยเว่ยหมิงเห็นดังนั้น ในดวงตาก็เผยเจตนาสังหารอันดุร้าย พอกวักมือขวา กระบี่ชิงชัยก็ปรากฏอยู่ในฝ่ามือของเขาแล้ว

ในเมื่อเจ้าไร้ศีลธรรมก่อน ก็อย่าโทษว่าข้าไม่มีคุณธรรม!

ในเมื่อเซี่ยเยียนเค่อตั้งใจจะเล่นงานเยี่ยเว่ยหมิงให้ถึงตาย

เช่นนั้น ฉวยโอกาสตอนที่เขาตกอยู่ในสภาพเซื่องซึมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เยี่ยเว่ยหมิงเลือกเอาชีวิตของเขาตอนที่เขากำลังป่วยอย่างไม่ลังเล!

เมื่อกระบี่อยู่ในมือ เจตนาสังหารแน่วแน่!

ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงเตรียมจะใช้ความพยายามต่อเพื่อกำจัดอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตแบบถาวร กลับเห็นแสงกระบี่สีขาวมาโผล่อยู่ตรงหน้าเขาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้

เงาร่างสีขาวพุ่งขึ้นมาจากพื้นในแนวเฉียง ใช้กระบี่แทงมาที่คอของเยี่ยเว่ยหมิงโดยตรง!

ช่วงเวลาสำคัญที่กำลังจะตัดสินแพ้ชนะ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนกระโดดออกมาป่วนสถานการณ์

เป็นใครกันแน่ จุดประสงค์ของนางคืออะไร

จู่ๆ ก็ถูกยอดฝีมือลอบจู่โจม ในใจเยี่ยเว่ยหมิงเต็มไปด้วยความสงสัย

แต่ไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร ตอนนี้ปัญหาที่สำคัญที่สุดตรงหน้าเยี่ยเว่ยหมิงไม่ใช่การรู้ตัวตนอีกฝ่าย แต่เป็นการปกป้องตัวเองจากท่าไม้ตายที่ถึงแก่ชีวิตของอีกฝ่ายต่างหาก

กระบี่ตรงหน้าทั้งเร็วทั้งเร่ง เยี่ยเว่ยหมิงที่ค่าสเตตัสไม่เต็มร้อยจะกล้ารับท่าไม่ตายนี้โดยตรงหรือ

อาศัยความสามารถในการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่ฝึกมานาน เยี่ยเว่ยหมิงใช้หนึ่งกระบวนท่าใน ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ทันที เขากวาดกระบี่ชิงชัยในแนวขวางอย่างสง่างามมาก ปัดกระบี่ที่เข้ามากะทันหันของอีกฝ่ายออกไปได้อย่างสบายๆ

ทว่า เขาป้องกันข้างหน้า แต่ไม่ได้ป้องกันข้างหลัง

ตอนที่เขาเพิ่งโบกกระบี่รับกระบี่ของเงาร่างสีขาว กลับรู้สึกเจ็บข้างหลังตรงหัวใจ มีคนขี้สกัดจุดข้างหลังเขาสามจุดต่อเนื่องกัน

เมื่อถูกจี้สกัดจุด กำลังภายในที่เดิมทีปะทุอย่างบ้าคลั่งในร่างกายเยี่ยเว่ยหมิง ตอนนี้ถูกควบคุมให้หยุดนิ่งโดยสิ้นเชิง ไม่มีทางโคจรกำลังภายในได้อีกแล้ว!

ที่แท้คนที่ลงมือโจมตีก็ไม่ได้มีแค่คนเดียว

แต่เป็นยอดฝีมือสองคนที่ศักยภาพไม่ด้อยกว่าเยี่ยเว่ยหมิงเลยสักนิด หนึ่งครั้งที่โจมตีออกมา เป็นแผนการอันสมบูรณ์แบบที่วางไว้ล่วงหน้า!

พลังของเงาร่างสีขาวที่อยู่ตรงหน้าดูเหมือนร้ายกาจ แต่ความจริงก็แค่ดึงดูดความสนใจของเยี่ยเว่ยหมิงเท่านั้น

คนรับช่วงต่อที่แท้จริง ก็คือเงาร่างข้างหลังที่เขามองไม่เห็นต่างหาก!

ทั้งสองเข้าใกล้เยี่ยเว่ยหมิงเงียบๆ ได้โดยไม่ถูกสังเกตเห็น เท่านี้ก็ตัดสินได้แล้วว่าคนใดคนหนึ่งในบรรดาพวกเขา อย่างน้อยต้องมีพลังโจมตีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางที่จะทำได้ถึงจุดนี้!

มีพลังฝีมือที่แข็งแกร่งแท้ๆ แต่กลับลอบโจมตีข้างหลัง

เจ้าสองตัวนี้ต่ำช้าจริงๆ!

ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวเหยียดหยามในใจ ก็เตรียมจะใช้ ‘ตราบชั่วฟ้าดิน’ คลายจุด แต่จู่ๆ กลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงจากภายในสู่ภายนอก ชั่วพริบตาเดี๋ยวก็ลามไปทั่วแขนขาทั้งสี่

ต่อให้เป็นคนที่สงบนิ่งอย่างเยี่ยเว่ยหมิง แต่ก็อดส่งเสียงครางแสดงความเจ็บปวดไม่ได้ จากนั้นก็กระอักเลือดสดคำใหญ่ออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ ร่างล้มลงพื้นในแนวดิ่งทันที

ที่แท้ ตอนเยี่ยเว่ยหมิงฝืนใช้ ‘มังกรบินอยู่สวรรค์’ เกินขีดจำกัดก่อนหน้านี้ เดิมทีบาดเจ็บสาหัสภายในเพราะถูกพลังย้อนทำร้ายอยู่แล้ว

เพียงแต่อาศัยสถานะปะทุพลังของ ‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’ จึงระงับอาการบาดเจ็บไว้ได้ก็เท่านั้นเอง

ตอนนี้กำลังภายในที่บ้าคลั่งถูกควบคุมไว้แล้ว อาการบาดเจ็บภายในที่ถูกควบคุมไว้ก่อนหน้านี้จึงโจมตีกลับมาทันที

ซึ่งเยี่ยเว่ยหมิงที่ยังโคจรกำลังภายในไม่ได้ พอเจอพลังย้อนทำร้ายจนบาดเจ็บภายในแบบนี้ ก็ยิ่งไม่มีทางแก้ไขได้เลย

จากนั้น ภายใต้ผลกระทบด้านลบสองชั้นของการจี้สกัดจุดและการบาดเจ็บภายใน สถานะปะทุพลังของ ‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’ จึงจบลงล่วงหน้า ทำให้ตกอยู่ในสถานะอ่อนแอหลังจากการปะทุพลังจบลง

ทว่ายังไม่ทันรอให้เยี่ยเว่ยหมิงช่วยเหลือตัวเอง เงาร่างสีขาวและสีดำก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมกัน มือขวาของพวกเขาล้วนถือกระบี่ ส่วนมือซ้ายที่ว่างก็ใช้จี้สกัดจุดบนตัวเยี่ยเว่ยหมิงต่อเนื่องหกเจ็ดจุด ปิดตายการทำงานทั้งหมดของเขารวมทั้งการใช้ข้อความของระบบด้วย

จากนั้น หนึ่งในสองคนนี้ก็คว้าแขนข้างหนึ่งของเยี่ยเว่ยหมิงดึงเขาออกไปไกล ชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงใต้หน้าผาหมัวเทียน

การเปลี่ยนแปลงตรงหน้าเร็วเกินไป จนกระทั่งน้องดาบรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เยี่ยเว่ยหมิงก็ถูก NPC สองคนที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้จับตัวไปแล้ว

แม้แต่คนที่แข็งแกร่งอย่างน้องดาบ ตั้งแต่ต้นจนจบก็ยังเห็นหน้าผู้ที่ลงมือไม่ชัดเลย

รู้เพียงว่าพวกเขาเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ชายใส่สุดสีดำ หญิงใส่ชุดสีขาว

แม้แต่กระบี่ล้ำค่าพี่อยู่ในมือพวกเขาก็เป็นสีเดียวกันกับชุดของพวกเขา กล่าวได้ว่าแบ่งแยกขาวดำชัดเจน

ตอนที่น้องดาบทำกำลังอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรรับมืออย่างไรดี ข้างหูกลับมีเสียงของเซี่ยเยียนเค่อดังขึ้น “หึ! กระบี่คู่ดำขาว ยุ่งเรื่องชาวบ้าน!”

พอได้ยินเซี่ยเยียนเค่อพูดแบบนี้ ความประทับใจที่น้องดาบมีต่อ NPC ก็ลดลงหลายส่วน

แม้ก่อนหน้านี้ทุกคนจะมีจุดยืนตรงข้ามกัน แต่นางก็มองออกว่ากระบี่คู่ดำขาวลงมือเพราะอาจมีเป้าหมายอื่น ผลปรากฏว่าเป็นการช่วยชีวิตเซี่ยเยียนเค่อจากมือของเยี่ยเว่ยหมิง!

เจ้าไม่ขอบคุณพวกเขาก็ว่าแย่แล้ว ยังมาบอกว่ายุ่งเรื่องชาวบ้านอีกหรือ

คนประเภทนี้มันช่าง…เดี๋ยวก่อนนะ!

ทันใดนั้นนางก็ตระหนักได้ว่าตอนที่เซี่ยเยียนเค่อพูดออกมาว่า ‘ยุ่งเรื่องชาวบ้าน’ ก่อนหน้านี้ เสียงของเขาเปี่ยมไปด้วยพลัง ท่าทางเหมือนคนที่ใกล้จะตายเสียที่ไหนกัน

พอหันไปมอง กลับพบว่าเซี่ยเยียนเค่อเอามือไพล่หลังเดินมาข้างกายนางตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้

ดูจากลักษณะภายนอก นอกจากสีหน้าที่ซีดเล็กน้อย มุมปากที่ยังมีเลือดสด ทั้งตัวก็ยังดูเปี่ยมไปด้วยพลัง ไม่เหมือนสภาพสะบักสะบอมอย่างที่นางจินตนาการไว้ก่อนหน้านี้เลย

เหมือนมองออกถึงความสงสัยในใจน้องดาบ เซี่ยเยียนเค่อกล่าวอย่างดูถูกว่า “เจ้าคิดว่าการบาดเจ็บของข้าร้ายแรงจนถึงขั้นถูกเจ้าเด็กที่เลเวลไม่ถึงห้าสิบฆ่าตายได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ”

น้องดาบได้ยินแล้วอ้าปากค้าง กลับได้ยินเซี่ยเยียนเค่อแสยะยิ้มพูดต่อว่า “ข้ารับปากเขาว่าตอนประมือกันจะใช้พลังเพียงเจ็ดส่วนเท่านั้น ข้าย่อมไม่ผิดคำพูดอยู่แล้ว แต่พลังอีกสามส่วน ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะหายไปในอากาศหรอกนะ พวกมันซ่อนอยู่ในร่างกายข้ามาตลอด เพียงแต่ไม่ได้ใช้งานก็เท่านั้นเอง…

…หลังจากพลาดท่าครั้งแรก ข้าก็ล้มเลิกความคิดที่จะฆ่าให้ตายเขาภายในสามฝ่ามือเสียเลย ข้าใช้พลังสิบส่วนมาปกป้องเส้นลมปราณสำคัญของตัวเองแทน จากนั้นก็ปล่อยให้เขาโจมตีอีกสองฝ่ามือ…

…ตามที่ตกลงกันไว้ ตราบใดที่ข้าไม่ใช้พลังสามส่วนที่เหลือโจมตีกลับ หรือดีดกลับโดยธรรมชาติหลังจากถูกโจมตี ก็ไม่ถือข้าว่าทำผิดสัญญา…

…ใช้เพื่อปกป้องตัวเอง แน่นอนว่าไม่มีปัญหา…

…ในสถานการณ์แบบนี้ ข้าทนรับสองฝ่ามือจากเขา แม้จะบาดเจ็บซ้ำ แต่กลับไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่เห็น”

พอพูดถึงตรงนี้ เซี่ยเยียนเค่อก็ยิ้มเย้ย “ตามกติกาที่ข้ากำหนดไว้ก่อนหน้านี้ หากข้าทำให้เขาตายไม่ได้ภายในสามฝ่ามือ ก็จะเป็นฝ่ายโจมตีเขาต่อไม่ได้อีกแล้ว…

…ข้าทำได้เพียงบอกที่อยู่ของโก่วจ๋าจ่งแต่โดยดี จากนั้นก็ปล่อยพวกเจ้าจากไป…

…แต่ถ้าผ่านสามฝ่ามือนี้ไปแล้ว เขาเป็นฝ่ายโจมตีข้าก่อน…หึ หึ หึ!”

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท