ตอนที่ 793 ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตสมรส
คุณย่าฟางเงียบไปนานก่อนที่จะพูดด้วยเสียงต่ำ “แม่ของจั๋วเยวี่ยฆ่าตัวตายด้วยการกินยาเมื่อคืนนี้”
หลินม่ายเม้มริมฝีปากแน่นและมองไปยังฟางจั๋วหรานด้วยความตกใจ
ฟางจั๋วหรานถามอย่างงุนงง “ทำไมถึงฆ่าตัวตายอย่างปุบปับล่ะครับ?”
คุณย่าฟางถอนหายใจ “เพราะหล่อนไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของจั๋วเยวี่ยและจืออวิ๋นน่ะสิ ก็เลยฆ่าตัวตาย”
หลินม่ายพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง
เธอไม่เคยคิดเลยว่าหวังเหวินฟางจะเสี่ยงชีวิตเพื่อป้องกันไม่ให้ฟางจั๋วเยวี่ยและเถาจืออวิ๋นอยู่ด้วยกัน ช่างหวาดระแวงและบ้าคลั่งอะไรเช่นนี้!
เธอถามอย่างระมัดระวัง “แม่ของจั๋วเยวี่ยเสียชีวิตแล้ว หรือว่าหล่อนได้รับการช่วยเหลือไว้ทันคะ?”
“ฉันได้ยินแม่เฒ่าหวังโทรมาบอกจั๋วเยวี่ยว่าได้รับการช่วยเหลือแล้ว แต่ฉันไม่รู้ว่าช่วยไว้ได้ทันหรือไม่” คุณย่าฟางเอ่ยอย่างเป็นกังวล
แม้นางจะไม่ชอบหวังเหวินฟาง แต่นั่นก็คือชีวิตมนุษย์ และหล่อนก็เป็นแม่แท้ ๆ ของหลานชายนางด้วย
คุณปู่ฟางพูดอย่างกระวนกระวาย “เอาล่ะ อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย แม่ของจั๋วเยวี่ยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางโลกขนาดนั้น หากหล่อนตายจริงก็ไม่มีทางทำอะไรได้หรอก”
ทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็หยุดพูดและรับประทานอาหารเช้าอย่างเอื่อยเฉื่อย
ก่อนจะรับประทานอาหารเช้าเสร็จ โทรศัพท์ในห้องนั่งเล่นก็ดังขึ้น
คุณย่าฟางรีบวางตะเกียบแล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว
เมื่อนางรับโทรศัพท์ คุณปู่ฟางและหลินม่ายก็กลั้นหายใจและอุดหู
ฟางจั๋วหรานดูไม่แยแสและกินอาหารเช้ากับโต้วโต้วต่อไป
หลินม่ายเข้าใจเขาดี
หวังเหวินฟางเป็นภรรยาใหม่ของพ่อ
หวังเหวินฟางไม่สามารถหลีกหนีจากความผิดที่ทำให้แม่ของเขาเสียชีวิตได้
ฟางจั๋วหรานจะสนใจชีวิตและความตายของหล่อนได้อย่างไร?
อันที่จริง หลินม่ายไม่สนใจความเป็นความตายของหวังเหวินฟางด้วยซ้ำ
คุณย่าฟางพูดอย่างยินดี “แม่ของหลานได้รับการช่วยเหลือแล้วเหรอ? ดีเลย ถือเป็นข่าวดี อย่าเพิ่งยั่วแม่ของหลานในตอนนี้นะ อย่าพูดถึงเรื่องการแต่งงานกับจืออวิ๋นด้วย รอจนกว่าแม่จะสงบสติอารมณ์ได้…”
หลินม่ายคิดในใจว่าการแต่งงานระหว่างเถาจืออวิ๋นและฟางจั๋วเยวี่ยอาจพังทลายลง
นับตั้งแต่ประชาชนทั่วไปสามารถใช้โทรศัพท์ได้ ผู้บริหารที่มีรายได้สูง เช่น เจิ้งชวี่ตงและเหรินเป่าจูก็ได้ติดตั้งโทรศัพท์ในบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน
แม้เถาจืออวิ๋นจะไม่ใช่ผู้บริหาร แต่หล่อนก็เป็นหัวหน้านักออกแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่ว และรายได้ของหล่อนก็ไม่ต่ำกว่าเจิ้งชวี่ตง ดังนั้นหล่อนจึงติดตั้งโทรศัพท์บ้านด้วย
หลังอาหารเช้า หลินม่ายกลับไปที่ห้องของเธอและโทรหาเถาจืออวิ๋น
เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ในฐานะเพื่อน เธอต้องปลอบโยนไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
หลังจากกดโทรออกก็มีเสียงรอสายดังขึ้น
เมื่อหลินม่ายกำลังจะวางสาย ในที่สุดก็มีคนรับสาย
เสียงของเถาจืออวิ๋นดังไปถึงหูของหลินม่าย
หลินม่ายถาม “ทำไมรับโทรศัพท์ช้าจัง?”
เสียงของเถาจืออวิ๋นอ่อนลง “ฉันเพิ่งกลับมาหลังจากอยู่โรงพยาบาลทั้งคืน”
หลินม่ายถามอย่างลังเล “เป็นเพราะแม่ของจั๋วเยวี่ยใช่ไหม?”
เถาจืออวิ๋นพึมพำเพื่อตอบกลับอย่างเหนื่อยล้า
หลินม่ายหยุดชั่วครู่และปลอบโยนหล่อน “ในเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นแล้ว ก็คงต้องเลื่อนงานแต่งของพี่กับจั๋วเยวี่ยออกไป แต่ไม่ต้องห่วงนะ ขอให้พี่เชื่อมั่นในตัวเขา เขาจะจัดการเรื่องนี้ได้แน่นอน”
เถาจืออวิ๋นพูดเบา ๆ “ตอนนี้ฉันเลิกกับจั๋วเยวี่ยแล้ว”
หลินม่ายรู้สึกตกตะลึงก่อนจะเอ่ยขึ้น “เลิกกันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”
เถาจืออวิ๋นพูดอย่างเศร้าใจ “หากไม่ทำแบบนี้จะให้ฉันทำยังไง ฉันไม่ต้องการให้ใครต้องฆ่าตัวตายอีก”
หลินม่ายไม่มีอะไรจะพูดต่อและวางสายหลังจากพูดปลอบใจไปสองสามคำ
วันนี้เธอต้องบินไปกว่างโจวตามแผน แม้ว่าเถาจืออวิ๋นจะเสียใจ แต่เธอก็ไม่มีเวลามากพอที่จะปลอบโยน
ในโลกของผู้ใหญ่ เราต้องรู้จักการเปลี่ยนแปลงและขจัดความเจ็บปวดให้ได้ด้วยตัวเอง
หลินม่ายเพียงเก็บข้าวของและออกเดินทาง
ในวันเสาร์ เธอนัดผู้จัดการซุนไปกับเธอ
หลังจากที่ทั้งสองพบกันที่สนามบิน หลินม่ายขอให้ฟางจั๋วหรานกลับไป
ฟางจั๋วหรานยืนกรานที่จะเฝ้าดูเธอผ่านประตูก่อนจะจากไป
เมื่อถึงเวลาบ่ายโมง ทั้งสองก็มาถึงกว่างโจว
หลินม่ายและผู้จัดการซุนรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านริมถนน จากนั้นจึงเริ่มไปยังโรงงานถุงเท้า
มีโรงงานผลิตถุงเท้าหลายแห่งตามชายฝั่ง แต่พวกเขาผลิตเฉพาะถุงเท้าเท่านั้น และไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับถุงน่องเลย
เจ้าของโรงงานถุงเท้าหลายคนถามหลินม่ายว่าเธอมีตัวอย่างไหม ตราบใดที่พวกมีตัวอย่าง พวกเขาก็สามารถทำเลียนแบบได้
ด้วยคำพูดเหล่านี้ หลินม่ายจึงเชื่อว่าทักษะของนักลอกเลียนแบบชาวจีนยังคงแข็งแกร่งมาก
แต่ปัญหาคือเธอไม่มีตัวอย่างอยู่ในมือ
เมื่อเธอไม่มีตัวอย่าง เฉินเฟิงก็ส่งคนจากฮ่องกงเพื่อส่งตัวอย่างได้
เพียงเพราะไม่มีถุงน่องในจีนแผ่นดินใหญ่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีถุงน่องในฮ่องกง ฮ่องกงเป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่น
หลินม่ายกดโทรศัพท์สาธารณะเพื่อโทรหาเฉินเฟิง
เธอขอให้เขาหาถุงน่องที่สามารถรวบรวมได้ในตลาดฮ่องกงและส่งให้เธอทันที
ใช้เวลาเดินทางโดยเรือจากฮ่องกงไปยังกว่างโจวเพียงหนึ่งหรือสองชั่วโมง ดังนั้นจึงสะดวกมากในการจัดส่ง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เคอจื่อฉิงได้ให้กำเนิดลูกชายฝาแฝด และเฉินเฟิงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
วันอาทิตย์นี้เขาไม่ได้ไปไหน อยู่บ้านกับเคอจื่อฉิงและลูกที่เพิ่งคลอดของเขา
ขณะหลินม่ายและเฉินเฟิงกำลังคุยกันทางโทรศัพท์ เคอจื่อฉิงก็เอนตัวไปฟังอย่างงุ่มง่าม และได้ยินทุกสิ่งที่พวกเขากำลังพูดถึงอย่างชัดเจน
ก่อนรอให้ทั้งสองคนวางสาย
เคอจื่อฉิงตบไหล่เฉินเฟิง “ถ้าคุณไม่รู้ว่าถุงน่องคืออะไร ฉันจะออกไปซื้อให้นะคะ”
เฉินเฟิงค้านอย่างเด็ดเดี่ยว “คุณเพิ่งคลอดลูก อย่าเพิ่งออกไปตากลมเลย อยู่บ้านเถอะ”
เคอจื่อฉิงกลอกตา “ฉันมีสุขภาพดีอยู่ ไม่จำเป็นต้องเก็บตัวอยู่ที่บ้าน ขอให้ฉันออกไปเดินเล่นเถอะนะ”
“ไม่ได้ ถ้าคุณออกไปเดินเล่น ใครจะให้นมลูกล่ะ?”
“ฉันกับพี่เลี้ยงจะพาลูกไปด้วย”
เคอจื่อฉิงเป็นคนที่ไม่สามารถอยู่นิ่งได้ หล่อนอยู่ที่บ้านมาหลายวันแล้ว และไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อไป จึงต้องการออกไปข้างนอกเมื่อมีโอกาส
“ไม่!” เฉินเฟิงปฏิเสธอย่างไร้ความปรานี “ลูกยังเล็กมาก แดดข้างนอกก็จ้ามาก หากคุณพาลูกออกไปลูกจะแสบตาเอาได้”
เมื่อเคอจื่อฉิงได้ยินสิ่งที่เฉินเฟิงพูด หล่อนก็เลิกฉวยโอกาสใช้ข้ออ้างที่บอกว่าจะช่วยหลินม่ายเพื่อออกไปรับลม
เฉินเฟิงลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูสองก้าวก่อนจะกลับมานั่งที่โซฟา
เคอจื่อฉิงที่กำลังหยอกล้อลูกชายฝาแฝดเห็นดังนี้จึงถามอย่างงุนงง “ทำไมไม่ไปแล้วล่ะคะ?”
“ผมอยู่กับคุณและลูกที่บ้านดีกว่า ปล่อยให้ลูกน้องจัดการเรื่องนี้แทน”
เฉินเฟิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ส่งเรื่องของหลินม่ายให้กับลูกน้องคนหนึ่งของเขา และปล่อยให้ลูกน้องจัดการ
เวลาประมาณบ่ายสี่โมง หลินม่ายได้รับถุงน่องที่แตกต่างกันหลายสิบคู่จากคนของเฉินเฟิง
เธอเลือกแบบที่ผู้หญิงแผ่นดินใหญ่น่าจะชื่นชอบเพียงสิบคู่เท่านั้น และติดต่อโรงงานถุงเท้าขนาดใหญ่สองแห่ง
มอบให้ตัวอย่างแก่โรงงานถุงเท้าแต่ละแห่ง โดยขอให้แต่ละแห่งผลิตถุงน่องห้าแสนคู่
หลินม่ายเตือนผู้อำนวยการโรงงานทั้งสองว่าห้ามเปิดเผยข้อมูลการผลิตถุงน่อง มิฉะนั้นเธอจะไม่สั่งผลิตกับพวกเขาอีก
เมื่อผู้จัดการโรงงานทั้งสองได้รับคำสั่งผลิตจำนวนมาก พวกเขาก็เปี่ยมล้นด้วยความยินดี
พวกเขารับรองทันทีว่าจะไม่ให้ข่าวการผลิตรั่วไหล และจะไม่บอกให้ใครรับรู้ว่าพวกเขารับผลิตถุงน่องให้เธอ
ผู้จัดการซุนซึ่งอยู่กับหลินม่ายตลอดเวลา รู้สึกทึ่งกับคำสั่งจำนวนมากเช่นนี้
เขาดึงหลินม่ายไปด้านข้างและกระซิบ “คุณหลินครับ คุณขอให้โรงงานถุงเท้าแต่ละแห่งผลิตถุงน่องให้เราโรงงานละห้าแสนคู่ รวมกันแล้วมากถึงหนึ่งล้านคู่เลยนะครับ หากตลาดตอบสนองไม่ดี คุณจะต้องขาดทุนและสูญเสียอย่างมาก”
หลินม่ายเกิดใหม่มาชาติหนึ่งแล้ว และรู้ดีว่าถุงน่องกำลังจะเป็นที่นิยมในท้องตลาด
ในชีวิตที่แล้วของเธอ ในแผ่นดินใหญ่ก็มีถุงน่อง ผู้หญิงทุกคนชอบซื้อถุงน่อง และมีเพียงไม่กี่คนที่ไม่ซื้อ
ถุงน่องจะไม่หลุดเมื่อสวมใส่บนร่างกาย ข้อได้เปรียบนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้หญิง
เธอยิ้มให้ผู้จัดการซุน “คุณคิดว่าหนึ่งล้านคู่มากไปเหรอ? แต่ฉันคิดว่ามันน้อยเกินไปด้วยซ้ำ ไม่ต้องกังวล ฉันรับประกันได้ว่าเราจะไม่ขาดทุน”
ประเทศนี้มีประชากรมากกว่าหนึ่งพันล้านคน และผู้หญิงในเมืองที่มีกำลังซื้อมีอย่างน้อยสองร้อยล้านคน
ในตลาดขนาดใหญ่เช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ถุงน่องหนึ่งล้านคู่จะขายไม่ออก
เมื่อเห็นว่าหลินม่ายมีความมั่นใจมาก ผู้จัดการซุนก็เลือกที่จะไว้วางใจเธอ
แต่เมื่อเขานึกถึงคำสั่งผลิตจำนวนมากนี้ เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนรน
หลังจากเซ็นสัญญากับโรงงานถุงเท้าทั้งสองแห่งแล้ว ผู้จัดการซุนก็รับหน้าที่จัดแจงรายละเอียดอื่น ๆ และหลินม่ายก็บินกลับไปที่เมืองหลวงในคืนนั้น
…………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
คู่จั๋วเยวี่ยนี่อุปสรรคเยอะแท้
ตั้งแต่มีลูกก็ติดลูกติดเมียเลยนะเฉินเฟิง
ไหหม่า(海馬)