บนโต๊ะทำงานของซางจิ่วตี้ในขณะนี้เต็มไปด้วยเอกสารทางราชการมากมายกองพะเนินเป็นภูเขางานชิ้นใหญ่ที่เกิดขึ้นกระทันหันทำให้เป็นอีกครั้งที่ซางจิ่วตี้ต้องอยู่โยงทำงานลากยาว ซางจิ่วตี้นิ่วหน้า คิ้วขมวดขณะกรั่นกรองแผนการที่ชูฮันอธิบายไว้เพื่อจะนำไปสั่งการให้แต่ละแผนกดำเนินการต่อ…
ตอนที่ชูฮันมาถึงด้านนอกห้องทำงานของซางจิ่วตี้เขาก็เห็นซางจิ่วตี้นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะไม่ขยับ หน้าตาคิ้วขมวดอย่างกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ดูเหมือนว่าเธอไม่สามารถทำความเข้าใจเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์แต่เธอพยายามประมวลผลมันอยู่
”ทำตัวเป็นถ้ำมองอีกแล้ว?”หวังไคที่อยู่ด้านนอกหน้าต่างของห้องทำงานซางจิ่วตี้กับชูฮันพูดประชด
”หุบปากแกซะ”ชูฮันเอ็ดใส่หวังไค “แกไม่เข้าใจความรู้สึกมนุษย์ของความตื่นเต้นที่ได้แอบมองหรอก?”
”แล้วนายใช่มนุษย์เหรอ?”หวังไคยังคงไม่ยอม
”อยากตายสินะ?”
”ขอให้สักวันนายโชคไม่ดีและโดนจับได้เถอะ!”
”ทำไมฉันต้องกลัวด้วยฉันก็แค่มองดูผู้หญิงของฉัน?”
”เพราะฉันกลัวว่านายจะทนไม่ไหวและเข้าไปนะสิ!”
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งแววตาของชูฮันก็แสดงความจริงจังออกมา “หวังไค บอกฉันมาตามตรง ความทรงจำที่ได้กลับคืนมา 20% มีอะไรบ้าง?”
ชูฮันสงสัยใคร่รู้ในเรื่องนี้มานานแล้วแต่ก่อนหน้านี้เขามัวแต่ยุ่งกับปัญหาอื่นๆมาตลอดจึงมองข้ามมันมาตลอด
ระบบล่มสลายกู้คืนความทรงจำกลับคืนมา20% ทำให้หวังไคก็ได้ความทรงจำกลับคืนมา 20% เหมือนกัน ดังนั้นมันน่าจะเป็นการเปลี่ยนครั้งใหญ่สำหรับเขาเหมือนกัน
”จำได้มั้ยที่ทั้งเสี่ยวเมิงชีและเกาช้าวฮุ่ยต่างบอกให้นายไปเจอที่หนานเรือหนานช้าเหมือนกัน?”หวังไคไม่ตอบคำถามตรงๆแต่จู่ๆก็ตั้งคำถามให้ชูฮันย้อนนึก
ชูฮันอึ้งไป”มันเกี่ยวข้องกันใช่มั้ย?”
”ในความทรงจำของฉันมันมีข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับท่าเรือหนานช้าหรือถ้าจะพูดใช้ชัดเจนก็คือ เสาหินประเมิณพิเศษ” หวังไคแสดงท่าทีจริงจังและภูมิปัญญาออกมา “ถ้าให้แนะนำ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือนายต้องไป”
”เสาหินประเมิณพิเศษที่มีแค่สิบที่นายจะบอกว่าเสาหินประเมิณพิเศษของระยะ 6 อยู่ที่ท่าเรือหนานช้า?” ชูฮันจับใจความสำคัญได้ในทันที หลังจากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจขึ้นมา “แต่นายบอกฉันว่าในจีนมีเสาหินทั้งหมด…”
”มากกว่าสิบ”หวังไคพูดแทรกชูฮันขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ ”อะไรนะ?”ครั้งนี้ชูฮันตกใจจริงๆไม่ได้แกล้งทำ
เสาหินประเมิณพิเศษทั้งหมดสิบเสาหินเช่นเดียวกับลำดับระยะของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่มีทั้งหมดสิบระยะ…แล้วนี่มันมีจำนวนเสาหินพิเศษเกินกว่าระยะของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ได้ยังไง?
”ชูฮันนายได้ดูอันดับรายชื่อประเมิณขอเสาหินรึยัง?”หวังไคหรี่ตาลงและเอ่ยถาม
”ก็ระยะหนึ่งถึงสิบไง”พูดมาถึงตรงนี้ ชูฮันก็เริ่มเอะใจ ทันใดนั้นตาก็เบิกกว้างก่อนจะมองไปที่รายชื่อเสาหินอีกครั้งด้วยแววตาตะลึง “ไม่ มันคือสิบเอ็ด!”
ในตอนแรกมันมีทั้งหมดสิบระยะของอันดับรายชื่อ…ทว่าตอนนี้มันกลายเป็นสิบเอ็ดไปแล้ว!
หวังไคกระพริบตาอย่างทำความเข้าใจ”สิบเอ็ด สิบเอ็ดเสาหินประเมิณพิเศษ ซึ่งเสาหินที่เพิ่มเข้ามาก็น่าจะอยู่ที่ท่าเรือหนานช้า” ชูฮันจับน้ำเสียงไม่มั่นคงของหวังไคได้”หมายความว่าไง นายไม่แน่ใจ?”
หวังไคส่ายหัว”ไม่แน่ใจ แต่ฉันรู้สึกว่ามันควรจะเป็นอย่างนั้น ความสามารถในการปลดล็อคข้อมูลของฉันมันยังไม่สมบูรณ์ ถึงฉันจะกู้คืนข้อมูลบางอย่างกลับมาได้แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นแค่ความทรงจำบางส่วนเท่านั้น ฉันจำเป็นต้องได้ชิ้นส่วนล่มสลายทั้งแปดชิ้นรวมกัน แล้วเราก็จะสามารถไขข้อข้องใจและตอบปัญหาทั้งหมดได้”
หวังไควิเคราะห์ต่อไป”ลองคิดดู นอกจากเสี่ยวเมิงชีที่ลึกลับและเกาช้าวฮุ่ย นายก็น่าจะสามารถคาดเดาได้ว่าการที่ทั้งคู่ไปที่ท่าเรือหนานช้ามันไม่แปลกเหรอ? แสดงว่ามันจะต้องมีบางอย่างเชื่อมโยงกับที่นั่น”
”ตระกูลลึกลับ?”ชูฮันอุทาน
”ถ้าไม่ใช่ก็คงจะต้องเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลลึกลับ”หวังไคพยักหนา
”เอาล่ะหลังจากสำรวจทั้งเมืองอันลูเรียบร้อย เราจะออกเดินทางทันที” ชูฮันได้ข้อสรุปแล้ว จากนั้นจู่ๆเขาก็หยิบกุหลาบแดงจากในประตูมิติออกมาและวางมันไว้ตรงกรอบหน้าต่าง
หวังไคแสยะยิ้ม”ผู้ชายคนนี้รู้จักความโรแมนติกบ้างมั้ย?”
———————–
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วซางจิ่วตี้ไม่คิดเลยว่าในยามดึกที่เธอเดินมาพักสูดอากาศบริสุทธิ์หลังจากตรากตรำทำงานคร่ำเครียดมาทั้งวัน เธอจะได้เห็นดอกกุหลาบดอกโตสีแดงสด ดูมีเสน่ห์อย่างมากเหมือนกับคนที่นำมันมาวาง เธอไม่รู้เลยว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่และกลับไปตอนไหน
”ไปอีกแล้วสินะ”ซางจิ่วตี้ถอนหายใจกับตัวเอง เธอไม่รู้ว่าควรจะแสดงอารมณ์แบบไหนออกมาดี
ถัดไปไม่ไกล…เจียงโจวอยู่ในห้องวิจัยอาคารก่อสร้างที่ก่อตั้งขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วัน มันดูเหมือนเป็นโกดังขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยของทุกอย่างที่ไม่เป็นระเบียบ ทุกอย่างดูวุ่นวาย มีคนงานจำนวนมากโยกย้ายขนเข้าออกจนดูวุ่นวายลานตา
เหอซางยืนนิ่งหัวล้านเกลี้ยงเกลาของเขาสะท้อนกับแสงจากหลอดไฟจนเกิดเป็นเงา
”นี่เหรอห้องวิจัยของนาย?!”ถัดมาคือเสี่ยติงก็ร้องถามเสียงหลงด้วยความตกใจ เขาไม่คิดเลยว่าชูฮันจะใจปล้ำมากขนาดนี้ ยอมทุ่นทุมสร้างที่ใหญ่โตขนาดนี้เพื่อให้เหอซางทำวิจัย
”ไม่ใช่ของฉันแต่เป็นของพวกเรา” เหอซางแก้คำพูดของเสี่ยติง ก่อนจะหันไปตะโกนใส่หัวล้านอีกคนที่อยู่ไม่ไกล “อยากจะร่วมด้วยกันมั้ยล่ะ?!”
”ได้!”
กวงโถวตอบกลับมาเขายอมอยู่ที่นี้กับเหอซางและเสี่ยติงดีกว่า ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ทั้งหลายพวกนี้ต้องใช้งานยังไง แต่มันมีเครื่องมือหลายอย่างที่ต้องอาศัยความแข็งแกร่งและพละกำลังและสองคนนั้นไม่สามารถทำได้แน่ๆ ขณะเดียวกันภายในกระท่อมไม้ซึ่งเป็นพื้นที่ต้องห้ามในค่ายเขี้ยวหมาป่าหยวนซีเยที่นอนโคม่ามาเป็นเวลายาวนานก็เริ่มมีการขยับตัวเล็กน้อย ตาของเธอยังไม่ลืมขึ้นมาและดูเหมือนจะยังไม่ได้สติดีด้วยซ้ำ หากนิ้วมือของเธอเริ่มมีการขยับเคลื่อนไหว…
ดังนั้นมันอยู่ไม่ไกลจากการตื่นขึ้นมา
น่าเสียดายที่ชูฮันไม่เวลาอยู่รอจนแม่เขาตื่นขึ้นมาเพราะกลางดึกตอนนี้ชูฮันและซูเฟิงอยู่บนทางที่กำลังมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองอันลู
”มีหลายอย่างต้องทำท่านอยากจะออกไปทำทั้งหมดคนเดียวเลยเหรอครับ?!” ซูเฟิงตื่นเต้นเล็กน้อย บนหลังของเขามีกระเป๋าเป้ใบใหญ่
”ได้เวลาฉายเดี่ยวแล้วเรื่องของทีมจัดการแล้วใช่มั้ย?!” ชูฮันพยักหน้ารับ ฝีเท้ายังคงเดินหน้าต่อไม่หยุดพัก
ซูเฟิงยืนยัน”ไม่มีปัญหาครับ ทั้งสามทีมรวมเข้าด้วยกัน แม้ว่าตอนนี้ทีมนักฆ่าขนนกจะไม่อยู่และหลี่บี๋เฟิงเป็นคนหุนหันพลันแล้น แต่ที่สำคัญกว่าคือเสี่ยวเคินเป็นคนควบคุมทั้งหมด ปกติแล้วคนที่ควบคุมทุกอย่างคือหลูปิงเซ่อ”
”ก็ดีครั้งที่แล้วนายบอกว่ามันยังมีบางเรื่องที่ตัวเมืองอันลู เกิดอะไรขึ้น?” ชูฮันสบายใจ แค่นี้มันก็มากพอแล้วว่าที่มั่นใจว่าทั้งสามทีมพิเศษไม่มีปัญหา ทหารของเขาแข็งแกร่งอยู่แล้วและการฝึกฝนจะทำให้ทุกคนเติบโต
”ซอมบี้ทั้งหลายที่หลบซ่อนอยู่ได้ถูกกำจัดหมดแล้วครับ”ซูเฟิงเลิกคิ้ว “ที่จริงแล้ว ตอนที่เกิดสงครามและกองทัพเขี้ยวหมาป่าทำการกวาดล้างซอมบี้ไป ตอนนั้นที่เราใช่กับดักล่อซอมบี้ ซอมบี้ทั้งหมดน่าจะแห่กันมาที่จุดเดียวและถูกกำจัดทั้งหมด ปัญหาทั้งหลายควรจะถูกจัดการไปหมดแล้ว ตอนที่เราทำการตรวจสอบอีกครั้งเวลาเพียงแค่วันเดียวน่าจะเรียบร้อย แต่มันมีสถานที่หนึ่งที่ดูผิดปกติและซอมบี้ทั้งหลายก็ไม่สนใจกับดักล่อซอมบี้ที่เราใช้ล่อพวกมันออกมา…” นัยน์ตาของชูฮันหดตัว”ซุปเปอร์ซอมบีั้”
ตอนที่ชูฮันมาถึงด้านนอกห้องทำงานของซางจิ่วตี้เขาก็เห็นซางจิ่วตี้นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะไม่ขยับ หน้าตาคิ้วขมวดอย่างกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ดูเหมือนว่าเธอไม่สามารถทำความเข้าใจเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์แต่เธอพยายามประมวลผลมันอยู่
”ทำตัวเป็นถ้ำมองอีกแล้ว?”หวังไคที่อยู่ด้านนอกหน้าต่างของห้องทำงานซางจิ่วตี้กับชูฮันพูดประชด
”หุบปากแกซะ”ชูฮันเอ็ดใส่หวังไค “แกไม่เข้าใจความรู้สึกมนุษย์ของความตื่นเต้นที่ได้แอบมองหรอก?”
”แล้วนายใช่มนุษย์เหรอ?”หวังไคยังคงไม่ยอม
”อยากตายสินะ?”
”ขอให้สักวันนายโชคไม่ดีและโดนจับได้เถอะ!”
”ทำไมฉันต้องกลัวด้วยฉันก็แค่มองดูผู้หญิงของฉัน?”
”เพราะฉันกลัวว่านายจะทนไม่ไหวและเข้าไปนะสิ!”
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งแววตาของชูฮันก็แสดงความจริงจังออกมา “หวังไค บอกฉันมาตามตรง ความทรงจำที่ได้กลับคืนมา 20% มีอะไรบ้าง?”
ชูฮันสงสัยใคร่รู้ในเรื่องนี้มานานแล้วแต่ก่อนหน้านี้เขามัวแต่ยุ่งกับปัญหาอื่นๆมาตลอดจึงมองข้ามมันมาตลอด
ระบบล่มสลายกู้คืนความทรงจำกลับคืนมา20% ทำให้หวังไคก็ได้ความทรงจำกลับคืนมา 20% เหมือนกัน ดังนั้นมันน่าจะเป็นการเปลี่ยนครั้งใหญ่สำหรับเขาเหมือนกัน
”จำได้มั้ยที่ทั้งเสี่ยวเมิงชีและเกาช้าวฮุ่ยต่างบอกให้นายไปเจอที่หนานเรือหนานช้าเหมือนกัน?”หวังไคไม่ตอบคำถามตรงๆแต่จู่ๆก็ตั้งคำถามให้ชูฮันย้อนนึก
ชูฮันอึ้งไป”มันเกี่ยวข้องกันใช่มั้ย?”
”ในความทรงจำของฉันมันมีข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับท่าเรือหนานช้าหรือถ้าจะพูดใช้ชัดเจนก็คือ เสาหินประเมิณพิเศษ” หวังไคแสดงท่าทีจริงจังและภูมิปัญญาออกมา “ถ้าให้แนะนำ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือนายต้องไป”
”เสาหินประเมิณพิเศษที่มีแค่สิบที่นายจะบอกว่าเสาหินประเมิณพิเศษของระยะ 6 อยู่ที่ท่าเรือหนานช้า?” ชูฮันจับใจความสำคัญได้ในทันที หลังจากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจขึ้นมา “แต่นายบอกฉันว่าในจีนมีเสาหินทั้งหมด…”
”มากกว่าสิบ”หวังไคพูดแทรกชูฮันขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ ”อะไรนะ?”ครั้งนี้ชูฮันตกใจจริงๆไม่ได้แกล้งทำ
เสาหินประเมิณพิเศษทั้งหมดสิบเสาหินเช่นเดียวกับลำดับระยะของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่มีทั้งหมดสิบระยะ…แล้วนี่มันมีจำนวนเสาหินพิเศษเกินกว่าระยะของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ได้ยังไง?
”ชูฮันนายได้ดูอันดับรายชื่อประเมิณขอเสาหินรึยัง?”หวังไคหรี่ตาลงและเอ่ยถาม
”ก็ระยะหนึ่งถึงสิบไง”พูดมาถึงตรงนี้ ชูฮันก็เริ่มเอะใจ ทันใดนั้นตาก็เบิกกว้างก่อนจะมองไปที่รายชื่อเสาหินอีกครั้งด้วยแววตาตะลึง “ไม่ มันคือสิบเอ็ด!”
ในตอนแรกมันมีทั้งหมดสิบระยะของอันดับรายชื่อ…ทว่าตอนนี้มันกลายเป็นสิบเอ็ดไปแล้ว!
หวังไคกระพริบตาอย่างทำความเข้าใจ”สิบเอ็ด สิบเอ็ดเสาหินประเมิณพิเศษ ซึ่งเสาหินที่เพิ่มเข้ามาก็น่าจะอยู่ที่ท่าเรือหนานช้า” ชูฮันจับน้ำเสียงไม่มั่นคงของหวังไคได้”หมายความว่าไง นายไม่แน่ใจ?”
หวังไคส่ายหัว”ไม่แน่ใจ แต่ฉันรู้สึกว่ามันควรจะเป็นอย่างนั้น ความสามารถในการปลดล็อคข้อมูลของฉันมันยังไม่สมบูรณ์ ถึงฉันจะกู้คืนข้อมูลบางอย่างกลับมาได้แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นแค่ความทรงจำบางส่วนเท่านั้น ฉันจำเป็นต้องได้ชิ้นส่วนล่มสลายทั้งแปดชิ้นรวมกัน แล้วเราก็จะสามารถไขข้อข้องใจและตอบปัญหาทั้งหมดได้”
หวังไควิเคราะห์ต่อไป”ลองคิดดู นอกจากเสี่ยวเมิงชีที่ลึกลับและเกาช้าวฮุ่ย นายก็น่าจะสามารถคาดเดาได้ว่าการที่ทั้งคู่ไปที่ท่าเรือหนานช้ามันไม่แปลกเหรอ? แสดงว่ามันจะต้องมีบางอย่างเชื่อมโยงกับที่นั่น”
”ตระกูลลึกลับ?”ชูฮันอุทาน
”ถ้าไม่ใช่ก็คงจะต้องเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลลึกลับ”หวังไคพยักหนา
”เอาล่ะหลังจากสำรวจทั้งเมืองอันลูเรียบร้อย เราจะออกเดินทางทันที” ชูฮันได้ข้อสรุปแล้ว จากนั้นจู่ๆเขาก็หยิบกุหลาบแดงจากในประตูมิติออกมาและวางมันไว้ตรงกรอบหน้าต่าง
หวังไคแสยะยิ้ม”ผู้ชายคนนี้รู้จักความโรแมนติกบ้างมั้ย?”
———————–
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วซางจิ่วตี้ไม่คิดเลยว่าในยามดึกที่เธอเดินมาพักสูดอากาศบริสุทธิ์หลังจากตรากตรำทำงานคร่ำเครียดมาทั้งวัน เธอจะได้เห็นดอกกุหลาบดอกโตสีแดงสด ดูมีเสน่ห์อย่างมากเหมือนกับคนที่นำมันมาวาง เธอไม่รู้เลยว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่และกลับไปตอนไหน
”ไปอีกแล้วสินะ”ซางจิ่วตี้ถอนหายใจกับตัวเอง เธอไม่รู้ว่าควรจะแสดงอารมณ์แบบไหนออกมาดี
ถัดไปไม่ไกล…เจียงโจวอยู่ในห้องวิจัยอาคารก่อสร้างที่ก่อตั้งขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วัน มันดูเหมือนเป็นโกดังขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยของทุกอย่างที่ไม่เป็นระเบียบ ทุกอย่างดูวุ่นวาย มีคนงานจำนวนมากโยกย้ายขนเข้าออกจนดูวุ่นวายลานตา
เหอซางยืนนิ่งหัวล้านเกลี้ยงเกลาของเขาสะท้อนกับแสงจากหลอดไฟจนเกิดเป็นเงา
”นี่เหรอห้องวิจัยของนาย?!”ถัดมาคือเสี่ยติงก็ร้องถามเสียงหลงด้วยความตกใจ เขาไม่คิดเลยว่าชูฮันจะใจปล้ำมากขนาดนี้ ยอมทุ่นทุมสร้างที่ใหญ่โตขนาดนี้เพื่อให้เหอซางทำวิจัย
”ไม่ใช่ของฉันแต่เป็นของพวกเรา” เหอซางแก้คำพูดของเสี่ยติง ก่อนจะหันไปตะโกนใส่หัวล้านอีกคนที่อยู่ไม่ไกล “อยากจะร่วมด้วยกันมั้ยล่ะ?!”
”ได้!”
กวงโถวตอบกลับมาเขายอมอยู่ที่นี้กับเหอซางและเสี่ยติงดีกว่า ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ทั้งหลายพวกนี้ต้องใช้งานยังไง แต่มันมีเครื่องมือหลายอย่างที่ต้องอาศัยความแข็งแกร่งและพละกำลังและสองคนนั้นไม่สามารถทำได้แน่ๆ ขณะเดียวกันภายในกระท่อมไม้ซึ่งเป็นพื้นที่ต้องห้ามในค่ายเขี้ยวหมาป่าหยวนซีเยที่นอนโคม่ามาเป็นเวลายาวนานก็เริ่มมีการขยับตัวเล็กน้อย ตาของเธอยังไม่ลืมขึ้นมาและดูเหมือนจะยังไม่ได้สติดีด้วยซ้ำ หากนิ้วมือของเธอเริ่มมีการขยับเคลื่อนไหว…
ดังนั้นมันอยู่ไม่ไกลจากการตื่นขึ้นมา
น่าเสียดายที่ชูฮันไม่เวลาอยู่รอจนแม่เขาตื่นขึ้นมาเพราะกลางดึกตอนนี้ชูฮันและซูเฟิงอยู่บนทางที่กำลังมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองอันลู
”มีหลายอย่างต้องทำท่านอยากจะออกไปทำทั้งหมดคนเดียวเลยเหรอครับ?!” ซูเฟิงตื่นเต้นเล็กน้อย บนหลังของเขามีกระเป๋าเป้ใบใหญ่
”ได้เวลาฉายเดี่ยวแล้วเรื่องของทีมจัดการแล้วใช่มั้ย?!” ชูฮันพยักหน้ารับ ฝีเท้ายังคงเดินหน้าต่อไม่หยุดพัก
ซูเฟิงยืนยัน”ไม่มีปัญหาครับ ทั้งสามทีมรวมเข้าด้วยกัน แม้ว่าตอนนี้ทีมนักฆ่าขนนกจะไม่อยู่และหลี่บี๋เฟิงเป็นคนหุนหันพลันแล้น แต่ที่สำคัญกว่าคือเสี่ยวเคินเป็นคนควบคุมทั้งหมด ปกติแล้วคนที่ควบคุมทุกอย่างคือหลูปิงเซ่อ”
”ก็ดีครั้งที่แล้วนายบอกว่ามันยังมีบางเรื่องที่ตัวเมืองอันลู เกิดอะไรขึ้น?” ชูฮันสบายใจ แค่นี้มันก็มากพอแล้วว่าที่มั่นใจว่าทั้งสามทีมพิเศษไม่มีปัญหา ทหารของเขาแข็งแกร่งอยู่แล้วและการฝึกฝนจะทำให้ทุกคนเติบโต
”ซอมบี้ทั้งหลายที่หลบซ่อนอยู่ได้ถูกกำจัดหมดแล้วครับ”ซูเฟิงเลิกคิ้ว “ที่จริงแล้ว ตอนที่เกิดสงครามและกองทัพเขี้ยวหมาป่าทำการกวาดล้างซอมบี้ไป ตอนนั้นที่เราใช่กับดักล่อซอมบี้ ซอมบี้ทั้งหมดน่าจะแห่กันมาที่จุดเดียวและถูกกำจัดทั้งหมด ปัญหาทั้งหลายควรจะถูกจัดการไปหมดแล้ว ตอนที่เราทำการตรวจสอบอีกครั้งเวลาเพียงแค่วันเดียวน่าจะเรียบร้อย แต่มันมีสถานที่หนึ่งที่ดูผิดปกติและซอมบี้ทั้งหลายก็ไม่สนใจกับดักล่อซอมบี้ที่เราใช้ล่อพวกมันออกมา…” นัยน์ตาของชูฮันหดตัว”ซุปเปอร์ซอมบีั้”