Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 1070 การเริ่มต้นของพันธมิตรนักล่า

ตอนที่ 1070 การเริ่มต้นของพันธมิตรนักล่า
  ตงหรุ่ยเริ่มทำการปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าของอาคารอย่างลำบากลำบนด้วยเพราะขนาดตัวที่เล็กและความสามารถที่ยังไม่สูงพอทว่าชูฮันกลับทำเพียงยืนมองดูอยู่อย่างเงียบๆเพราะนี้เป็นบาดแผลในใจของตงหรุย ดังนั้นเธอจะต้องจบมันลงด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีใครช่วย
ตงหรุยรู้สึกอับอายเล็กน้อยเพราะตัวเธอนั้นเป็นแค่พรสวรรค์ระยะแรกเท่านั้นแถมความแข็งแกร่งทางร่างกายก็ยังไม่มีหากเธอก็พยายามอย่างสุดกำลัง ทุ่มพลังลงไปที่แขนทั้งสองข้างและปีนขึ้นไป
ตงหรุยไม่ได้ฆ่าเถาจินให้ตายในทันทีแต่เลือกที่จะใช้วิธีการโหดร้ายโดยการทรมานเถาจินไปเรื่อยๆจนกว่าอีกฝ่ายจะช็อคตายไปเองมีเสียงกรีดร้องทรมานของเถาจินดังก้องไปทั่ว ตามด้วยเสียงร้องอ้อนวอนที่มีแต่ความสิ้นหวังซึ่งแม้แต่ชูฮันที่ได้ยินยังรู้สึกอึดอัด  ”ฆ่าฉันที…ได้โปรดฆ่าฉันเถอะ! อ๊ากกกก!”
เสียงร้องอันน่าเวทนายังคงดังต่อไปมันฟังดูเลวร้ายมาก ยิ่งโดยเฉพาะท่ามกลางความเงียบที่โล่งเปล่า
ตงหรุยยังคงไม่หยุดเธอใช้มีดสั้นกรีดตามเนื้อของเถาจินไปเรื่อยๆจนอวัยวะหลุดออกมา เธอกรีดมีดลึกเข้าไปถึงกระดูกเถาจิน
ในที่สุดเถาจินก็ตายคาที่ชูฮันมองตงหรุยด้วยสายตาซับซ้อน
บรรยากาศประหลาดไหลอบอวลไปทั่วราวกับว่าพวกเขาอยู่ในด้านที่มืดมิดที่สุดของโลกอันโหดร้าย
ท้ายที่สุดแล้วเถาจินไม่ได้จบชีวิตลงเหมือนมนุษย์ทั่วไปหากเขาถูกแขวนห้อยจากดาดฟ้ามาเป็นเวลานานจนเนื้อตัวผอมแห้งติดกระดูก สภาพไม่ต่างกับโครงกระดูกมีชีวิต และตงหรุยจบชีวิตของเถาจินโดยการกรีดเนื้อเป็นชิ้นๆไปเรื่อยๆจนเถาจินช็อคตายด้วยความทรมาน  ในใจชูฮันรู้สึกอึดอัด…ตงหรุยเด็กผู้หญิงคนนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัด!
ตงหรุยปีนลงมาจากดาดฟ้าอย่างระมัดระวังและเกิดพลัดตกลงมาตอนที่ใกล้จะถึงพื้นหากเธอก็แสดงความเข้มแข็ง ลุกขึ้นยืนและก็กระเพลกเข้ามาหาชูฮัน ภาพความโหดเหี้ยมของคนที่สามารถกรีดเนื้อทรมานคนจนตายก่อนหน้านี้หายไปจนสิ้นเหลือเพียงแต่หน้านิ่งๆไร้สีหน้า
”รู้สึกยังไงที่ได้ชำระความแค้นในใจได้แล้ว?”ชูฮันมองหน้าตงหรุยพร้อมตั้งคำถาม
”ไม่มีเป้าหมายชีวิตแล้ว”ตงหรุยตอบเพียงสั้นๆ
ชูฮันยิ้มเขารู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้เพราะงั้นเขาถึงตัดสินใจรออยู่ตรงนี้ รอจนตงหรุยจัดการเสร็จและไม่ไปไหนจนกว่าจะได้คุยกับตงหรุย
ตอนนี้ตงหรุยยังเด็กเกินไปเธอยังไม่เข้าใจว่าในโลกนี้มันไม่มีความหมายชัดเจนระหว่างคำว่าถูกหรือผิด มันไม่มีมุมมองที่ครอบคลุมทุกอย่างในโลก มันไม่ง่ายที่จะสงบสติอารมณ์เมื่อมีความสับสนมากมายด้วยอายุเพียงแค่นี้
”มันยังมีคนชั่วร้ายอีกมากในโลกนี้ที่น่าชิงชังและเลวทรามยิ่งกว่าเถาจิน” ชูฮันเว้นจังหวะพักหนึ่ง “มันยังมีหลายชีวิตที่น่าเศร้ากว่าเธออีกมาก น่าเศร้ายิ่งกว่าที่เธอเคยพบเจอ ความเกลียดชังที่พวกเขามีอยู่ในใจส่วนใหญ่จะสลายไปตามกาลเวลา ไม่มีใครแก้แค้นให้พวกเขา”
ตงหรุยเปิดเปลือกตาขึ้นหากยังคงความเงียบต่อไป
”แน่นอนเรื่องของคนพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอซะหน่อย” ชูฮันยิ้มอย่างเย้ยหยันพร้อมทำสีหน้าไปด้วย
”พุฟ!ฮ่าฮ่าฮ่า!” ตงหรุยขบขันกับท่าทางของชูฮัน เธอยิ้มออกมาในที่สุด
ชูฮันยกยิ้มมุมปากฝ่ามือกว้างใหญ่วางลงบนหัวของตงหรุยอีกครั้ง “ความรู้สึกของการฆ่าครั้งแรกเป็นยังไง?”   ”ฉันไม่รู้…”
แม้เธอจะได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวดแต่นี้เป็นครั้งแรกที่ตงหรุ่ยได้ฆ่าคนจริงๆ
”ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้ดูแลเธอเลยแต่หลังจากนี้มันจะเปลี่ยนไป” ทันใดนั้นชูฮันก็เปลี่ยนเรื่อง “รู้เอาไว้แค่ว่าถ้าเธอติดตามฉันจะไม่มีใครรังแกเธอได้อีกต่อไป ใครที่มันกล้าทำร้ายเธอ ถ้าเธอฆ่ามันไม่ได้…ฉันจะมาฆ่ามันเอง”
หลังจากพูดจบชูฮันก็จากไปทันทีเขายังมีเรื่องอื่นๆที่ต้องรีบไปจัดการ ส่วนตงหรุยนั้นชูฮันเชื่อว่าเด็กที่สามารถเดินเร่ร่อนไปมาในพื้นที่อันตรายนี้ด้วยตัวคนเดียวมาตลอด แค่การเดินกลับออกไปเองคงจะไม่ใช่ปัญหาอะไร
และถึงแม้จะยังมีซอมบี้หลงเหลืออยู่บางส่วนแต่มันก็ถูกกันเอาไว้ในเขตต้องห้าม ดังนั้นมันจึงไม่ได้อันตรายอะไรมาก
ตงหรุยยืนนิ่งมองตามแผ่นหลังของชูฮันที่ห่างออกไปเรื่อยๆนัยน์ตาแดงก่ำ แววตาเริ่มมีความมั่นคงและซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ  ก่อนหน้านี้ชูฮันบอกว่ามันมีคนชั่วอยู่อีกมากและมีอีกหลายคนที่มีชีวิตน่าเศร้ากว่าเธอในตอนนั้นตงหรุยก็มีความรู้สึกเห็นใจขึ้นมาแต่ไม่นานหัวใจของเธอก็เกิดการต่อต้านขึ้นมา…ก็อย่างที่ชูฮันพูด
มันไม่ใช่เรื่องของเธอ?
เพราะงั้นเธอไม่เห็นจะต้องใส่ใจไม่จำเป็นต้องเก็บมาสนใจ!
อย่างไรก็ตามหลังจากชูฮันเปลี่ยนหัวข้อไปอย่างกระทันหันมันทำให้ตงหรุยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาจริงๆ เธอรู้สึกเข้มแข็งขึ้นมามากและก็ไม่อยากจะโดนใครรังแกอีกต่อไปแล้ว
———————
ในวันเดียวกันนั้นห่างไกลออกมาจากเมืองอันลู ขบวนเฮลิคอปเตอร์บินผ่านผืนป่ากว้างใหญ่เข้าไปยังหุบเขาลึก
มันมีหินผาล้อมร้อบทะเลตรงกลางทั้งสี่ด้านทะเลสาบนี่ไม่ได้กว้างใหญ่อะไรทว่าตัวน้ำนั้นใสสะอาด เฮลิคอปเตอร์ลำแรกทำการลงจอดที่พื้นว่างที่ถัดจากทะเลสาบ ตามมาด้วยเฮลิคอปเตอร์ลำต่อมาที่ค่อยๆทยอยลงจอดตามกัน หลังจากนั้นคนที่ถูกปิดตาก็ถูกส่งลงมา
หลังจากการมาเยือนของตัวแทนจากค่ายต่างๆจบลงกลุ่มคนจำนวนหนึ่งถูกส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์โดยถูกปิดตาเอาไว้และจะได้รับอนุญาตให้ถอดผ้าปิดตาออกเมื่อถึงที่หมาย
กลุ่มคนที่ถูกพามาคือทีมก่อสร้างซึ่งมีซูชิงเป็นหัวหน้าทีมและที่แห่งนี้ก็คือสถานที่ที่ชูฮันและราชานักล่าอย่างฟานเจี้ยนได้ตกลงที่จะก่อตั้งพันธมิตรนักล่าขึ้น!
”ตรงนี้แหละ”ซูชิงมองไปรอบๆอย่างไม่เข้าใจ “มันพิเศษตรงไหน?!”
ซูชิงเองก็เป็นคนที่ถูกปิดตาเหมือนกันพวกเขาไม่ได้รับการอนุญาตให้จำเส้นทางการเดินทาง
แม้ว่าซูชิงเองก็จงรักภักดีต่อชูฮันอย่างมากแต่ชูฮันก็ยังต้องการเก็บเรื่องครั้งนี้เป็นความลับเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบนอกเหนือจากราชานักล่า ไม่มีบุคคลที่สามรับรู้ถึงแผนการก่อตั้งพันธมิตรนักล่าและสมาชิกของหน่วยข่าวกรองลับที่ชูฮันคัดเลือกมาก็ไม่ได้รู้อะไรเลยนอกเหนือจากทำตามคำสั่งจากชูฮัน
”สภาพแวดล้อมที่นี้ดีมาก”ทีมก่อสร้างคนหนึ่งที่ทำงานคุ้นเคยกับซูชิงดีพูดขึ้น ก่อนจะตั้งคำถามต่อมา “แต่เรากำลังจะสร้างอะไรที่นี้กันแน่?!”
ซูชิงส่ายหัวอย่างไม่ทราบเช่นกันจากนั้นก็หยิบภาพแผนร่างในกระเป๋าเสื้อที่ชูฮันให้เขามาขึ้นมากางออก ภาพร่างที่สะเปะสะปะและไม่เป็นระเบียบทำให้ซูชิงค่อนข้างหงุดหงิด
”นี่ฉันต้องสร้างตามภาพนี่?!”ซูชิงตั้งคำถามกับตัวเอง ภาพที่มีอาคารขนาดใหญ่หนึ่งอาคารและอาคารขนาดเล็กอีกหนึ่งอาคารเท่านั้น หลังจากเงียบอยู่พักหนึ่งซูชิงก็ร้องออกมาอย่างต้องการระบายอารมณ์ “อยากจะบ้าตาย!”   ภายใต้การรักษาความลับขั้นสุดยอดองค์กรพันธมิตรนักล่าก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเงียบๆ การก่อสร้างใหญ่โตที่จะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นใจกลางหุบเขา ซึ่งมันส่งผลให้ทั้งแผนกก่อสร้างหายตัวไปจากหน้าผู้คนในค่ายเขี้ยวหมาป่าเป็นเวลานานกว่าสองเดือน
ซึ่งมันสร้างข้อสงสัยให้ทุกคนไม้เว้นแม้แต่เหอซางก็ยังอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้”มันคืออะไร? หน่วยงานภายในของค่ายเขี้ยวหมาป่าเหรอ?”
นอกจากจัดการให้ซูชิงทำการก่อตั้งองค์กรพันธมิตรนักล่าขึ้นมาอย่างลับๆแล้วชูฮันยังเปิดให้เหอซางเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเงียบๆ
องค์กรพันธมิตรนักล่าจะถูกสร้างเป็นอาคารใหญ่ยักษ์ภายในนอกจากจะมีพื้นที่พักอาศัยขนาดใหญ่โตแล้ว ยังมีห้องผลิตและสะสมอาวุธที่ล้ำหน้าที่สุด ล้ำหน้ายิ่งกว่าของที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าซะอีก  สาเหตุที่ทำไมชูฮันถึงทุ่มทุนมากขนาดนั้นก็ง่ายนิดเดียว…
เพราะค่ายเขี้ยวหมาป่าจะต้องทำตัวไม่โฉ่งฉ่างต้องซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ไม่ให้ใครได้รู้ถึงพลังที่แท้จริง ดังนั้นองค์กรพันธมิตรนักล่าที่สื่อถึงความแข็งแกร่งจะต้องแสดงออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อรับมือกับความกดดันจากซอมบี้ ลูกผสมและมนุษย์ด้วยกัน!

 

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท