หลังจากเดินอยู่เป็นเวลานานชูฮันก็ได้เจอกับร่างเล็กๆตรงหน้าที่คุ้นเคยยืนอยู่ห่างไม่ไกลจากเขามากเท่าไหร่ ทั้งสองฝ่ายต่างเผชิญหน้ากันและกันเป็นครั้งแรก บรรยากาศนั้นเปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง อยู่ๆมันก็ตึงเครียดและเต็มไปด้วยแรงกดดัน
ฝั่งตรงข้ามเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กทันทีที่อีกฝ่ายเห็นชูฮันก็ส่งเสียงตะโกนขึ้นมา นายเป็นใคร ไม่รู้หรือไงว่าพื้นที่นี้ของเมืองอันลูเป็นพื้นที่ต้องห้าม?
ประโยคเดิม…น้ำเสียงเดิม…คนๆเดิม
เด็กผู้หญิงตรงหน้าชูฮันคือตงหรุยที่แยกกับชูฮันไปเมื่อวันก่อนเธอเป็นพรสวรรค์ที่มีระดับพลังงานต่ำ ดังนั้นสมรรถภาพทางกายของเธอจึงมีขีดจำกัด ตอนนี้เธอเดินไปใกล้ขอบกั้นของพื้นที่ต้องห้าม ท่าทางดูอ่อนล้าแต่ยังพยายามแสดงว่าแข็งแกร่งและไม่กลัวต่อคนแปลกหน้า ตงหรุยมองมาที่ชายแปลกหน้าด้วยสายตาแปลกๆสังเกตที่เสื้อผ้าของชูฮัน เป็นเพราะชูฮันเดินอยู่ในท่อระบายน้ำตลอดทั้งคืน อยู่กับพวกซอมบี้มหาศาลตลอดเวลา กลิ่นเหม็นเน่าหนาแน่นประกอบกับสภาพในตอนนี้ ชูฮัยจึงดูไม่ต่างอะไรจากซอมบี้เลยในสายตาของตงหรุย จึงไม่แปลกที่เธอจะมองไม่ออกว่าเขาคือชูฮัน
ไม่ต้องเดาชูฮันก็พอรู้ว่าตอนนี้หน้าเขาคงมีดินโคลนเปื้อนเต็มหน้าจนดูไม่ได้
ไม่แปลกที่ทันทีที่ตงหรุยเห็นเขาแล้วจะมีท่าทางระแวงทั้งๆที่กลัวจนเหงื่อตกแต่ก็พยายามทำตัวนิ่งๆ มันไม่ง่ายเลยที่จะทำแบบนั้น
แต่ในใจของชูฮันนั้นไม่อาจเข้าใจได้…ทำไมเขาถึงกลับมาเจอตงหรุยอีกครั้งสัญชาตญาณของเขาบอกว่ามันแปลกๆ?
ดังนั้นชูฮันจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าขึ้นมาเช็ดโคลนที่เปื้อนตรงหน้าออกเผยให้เห็นใบหน้าเดิมของเขา จากนั้นก็ถามออกไป ความสามารถของเธอคืออะไร?
——————–
ตามขอบล้อมรอบพื้นที่ต้องห้ามในเมืองอันลูทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่าได้ทำการล้อมฝาท่อระบายน้ำทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นยังมีทีมย่อยที่กระโดดลงไปสำรวจสถานการณ์ข้างล่างอีก ทุกคนต่างมีอาวุธครบครัน แต่ละทีมย่อยจะมีสมาชิกจากทีมยิงปืนหนึ่งถึงสองคนพ่วงมาด้วยและสมาชิกที่มีความสามารถต่างๆมารวมตัวกันเพื่อให้ทีมสามารถปฏิบัติการได้อย่างรอบด้าน
ขณะเดียวกันเหอเฟิงและทหารระดับผู้บัญชาการคนอื่นๆก็ยืนรออยู่แถวหน้าเพื่อรอฟังข่าวที่อาจจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ที่ไหนเพื่อที่พวกเขาจะสามารถทำการตัดสินใจได้ทันที เจียงเทียนชิงและสมาชิกทีมลาดตระเวนต้องเจอกับความกดดันมากกว่าใคร พวกเขาเองก็ต้องกระจายกำลังไปเข้าร่วมกับแต่ละกลุ่มย่อยและมักจะเป็นคนนำหน้าพาทีมลุย ไม่ว่าจะมีการเคลื่อนไหวอะไรเกิดขึ้นคนจากทีมลาดตะเวนจะเป็นคนแรกที่รู้และรายงานกลับมาก่อนเสมอ สายตาที่จับจ้องทุกรายละเอียดอย่างลึกซึ้งคือหัวใจสำคัญของภารกิจนี้
เป้าหมายของทุกคนคือ…ตามหาซุปเปอร์ซอมบี้!
หลังจากดำเนินการตามคำสั่งอยู่ประมาณครึ่งวันเจียงเทียนชิงที่ได้ส่งข้อความไปกลับมาแล้วนับไม่ถ้วนก็วิ่งเข้ามาเหอเฟิงด้วยความเร่งรีบ รายงานครับ! ได้รับการยืนยันเส้นทางการเดินขบวนของซอมบี้ในท่อระบายน้ำแล้วครับ!
เอาแผนที่มาเร็ว! เหอเฟิงเริ่มปฏิบัติการทันที
แม้ว่าเขาจะยังวิตกกังวลอย่างมากกับตำแหน่งที่ตั้งของซุปเปอร์ซอมบี้แต่เขาก็รู้ว่าการจะตามหาซุปเปอร์ซอมบี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันเป็นเรื่องแสนจะยากเย็น แค่ทีมย่อยของกองทัพเขี้ยวหมาป่าออกไปสำรวจโดยไม่มีใครต้องแลกชีวิตก็ดีมากแล้ว ทหารที่อยู่ข้างๆเหอเฟิงรีบกางแผนที่ต่อหน้าทันทีซึ่งบนแผนที่นี้ก็มีเส้นลากหนาที่บ่งบอกเส้นทางที่เจียงเทียนค้นพบทั้งหมดเอาไว้ และตอนนี้เจียงเทียนก็ปาดเหงื่อที่ชุ่มหน้าผากออก เริ่มลงมือวาดเส้นทางบนแผนที่อีกครั้ง หลังจากวาดเส้นทางเชื่อมต่อกับของเดิมอยู่เป็นเวลาพักใหญ่ ในที่สุดมันก็มีรายละเอียดทิศทางการเดินทางที่ชัดเจนปรากฏขึ้น
แววตาของเหอเฟิงคมกริบ ไอ้ซุปเปอร์ซอมบี้นี่…
เป้าหมายของมันกลายเป็นผู้รอดชีวิตงั้นเหรอ? ชินหยวนสรุปขึ้นมา ที่จริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องพูดด้วยซ้ำ เพราะหลังจากเจียงเทียนชิงวาดเส้นทางเสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็สามารถมองเห็นความจริงได้ชัดเจน
เส้นที่ปรากฏเป็นรูปแบบที่กระจัดกระจายจากจุดศูนย์กลางจุดเดียวในที่สุดเส้นทางนับไม่ถ้วนก็รวมตัวกันเป็นเส้นเดียวซึ่งมุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียวอย่างชัดเจน ซึ่งมันก็เหมือนกับสิ่งที่ชูฮันคาดเดาเอาไว้ก่อนหน้านี้ทุกประการ!
มันต้องการยึดอำนาจของมันกลับคืน! เหอเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ฉลาดดีนี่!
เราจะเอายังไงต่อ? เฉินช่าวเย่ยกปืนขึ้นด้วยท่าทางเอาเรื่อง ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เราก็ถล่มมันเลย?
ยาก เหอเฟิงนิ่วหน้า นอกจากที่พวกเราจะไม่สามารถเอาชนะพลังของซุปเปอร์ซอมบี้ได้แล้ว จำนวนซอมบี้ที่อยู่ใต้การควบคุมก็มีจำนวนเยอะมากซึ่งมันก็เป็นปัญหาหลักอีกเหมือนกัน คนของเราอาจจะทำไม่สำเร็จ
ทุกคนต่างเงียบกันไปชั่วขณะพวกเขาไม่เคยได้ยินเหอเฟิงบอกว่าไม่รู้หนทางแก้ไขปัญหามาก่อน กลุ่มซอมบี้จำนวนมากที่ถูกควบคุมด้วยซุปเปอร์ซอมบี้ซึ่งซอมบี้พวกนี้ไม่มีปฏิกิริยาต่อสารล่อซอมบี้เลย พวกเขาไม่สามารถล่อมันให้ไปตามแผนได้ เธอทำได้ จู่ๆก็มีเสียงของคนหนึ่งดังแทรกความเงียบขึ้นมา
ฟรึบ!
ทุกคนต่างหันหน้าไปตามเสียงที่ได้ยินทันทีและก็ได้เห็นหัวหน้าชูฮันที่อยู่ในสภาพมอมแมมที่กำลังรีบเดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่มีท่าทางหวาดกลัวซึ่งขี่หลังชูฮันอยู่
หัวหน้า?
พลเอกชูฮัน!
พี่ชูฮัน!
เสียงร้องเรียกชูฮันจากหลายคนที่ทั้งตกใจตะลึง งุนงงดังขึ้นพร้อมกัน
ที่น่ากลัวกว่านั้นคือสภาพของชูฮันที่พวกเขาเห็นในตอนนี้ดูเหมือนกับคนที่ปีนขึ้นมาจากท่อน้ำทิ้งอย่างไรอย่างนั้นทุกคนที่เคยชินกับภาพของชูฮันที่อยู่ในมาดนิ่งและสุขุมอยู่เสมอถึงกับยอมรับไม่ได้ในครั้งแรกที่เห็น
แต่ที่ข้องใจทุกคนมากกว่าคือคำพูดของชูฮัน
เธอทำได้…
ใคร?
ใครทำอะไรได้?
เหอเฟิงเป็นคนที่ว่องไวสุดเขามองไปที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กที่อยู่บนหลังชูฮันก่อนใคร แววตาของเด็กผู้หญิงคนนี้มีคำถามชัดเจน ตงหรุยเคยเห็นเหอเฟิงแล้วหลายครั้งเพราะเธอเป็นสมาชิกของทีมสำรองทีมนักฆ่าขนนกซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการฝึกฝน
ความเฉียบแหลมในการรับรู้ของหลูปิงเซ่อและเฉินช่าวเย่ก็สูงมากเช่นกันพวกเขาคิดถึงความเป็นไปได้ที่ชูฮันคิดจะทำและรีบเตรียมแผนที่เพื่อให้ชูฮันได้ทำการตัดสินใจทันที
พี่ชูฮัน! เจียงเทียนชิงทนไม่ไหวรีบรนรายงานข้อมูลก่อน พวกเราค้นพบตำแหน่งที่คาดว่าจะเป็นที่อยู่ของซุปเปอร์ซอมบี้โดยอ้างอิงจากเส้นทางที่ค้นพบ จุดประสงค์ของมันชัดเจนและอันตรายมาก——–
ฉันสบายดี จู่ๆชูฮันก็พูดแทรกเจียงเทียนชิงที่กำลังรายงานอยู่ จากนั้นก็วางตงหรุยที่อยู่บนหลังลงด้วยท่าทางนิ่งๆ หลังจากนั้นก็เข้าสู่โหมดสั่งการทันที ไม่ต้องกังวลเรื่องผู้รอดชีวิต อันดับแรกตอนนี้ให้ทหารทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม
ถ้างั้นพวกเราควรจะทำยังไงดีครับถ้าผู้รอดชีวิตตกอยู่ในอันตราย? แน่นอนว่าเราไม่มีอะไรมั่นใจเลยว่าทุกคนจะปลอดภัย ชินหยวนถามออกมาด้วยความไม่มั่นใจ
ชูฮันเหลือบมองด้วยสายตาว่างเปล่ายิ้มมุมปากเบาๆ มันสายไปแล้ว
มีประกายบางอย่างแวบผ่านนัยน์ตาของเหอเฟิงไปเขาหันไปพูดกับชูฮัน เพราะความเร็วของขบวนซอมบี้ยังไม่เร็วพอ เราก็เลยมีเวลาพอที่จะจัดการกับซุปเปอร์ซอมบี้ระหว่างทางที่มันมุ่งหน้าไปยังที่ตั้งของผู้รอดชีวิตงั้นเหรอ?
สิ่งที่เราต้องจัดการก็คือซอมบี้ทั้งหมดต่างหาก ชูฮันแก้ไขคำพูดของเหอเฟิง
ทุกคนต่างงุนงงโดยเฉพาะเจียงเทียนชิงและชินหยวนที่ทำการวิเคราะห์สถานการณ์อยู่นาน
พวกเขาตามรอยของซอมบี้อยู่ครึ่งวันและวิเคราะห์ทุกเบาะแสร่องรอยอยู่อีกครึ่งวันแต่สุดท้ายชูฮันกลับตัดเหตุผลทุกอย่างออกหมด!