”ครับผมก็คิดอย่างนั้น” ซูเฟิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ผมวางแผนจะพาทีมนักฆ่าขนนกไปกวาดล้างพวกมันทั้งหมดในวันพรุ่งนี้เช้า แต่ไม่คิดเลยว่าท่านจะตัดสินใจไปด้วยตัวเองคนเดียวก่อน มันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงเร่งรีบขนาดนี้ครับ?”
”มันมีเรื่องเกิดขึ้นกระทันหันฉันไม่สามารถอธิบายได้” ชูฮันไม่สามารถบอกซูเฟิงได้ “แต่มันมีบางอย่างที่ฉันต้องการให้นายเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า”
”อะไรครับ?”ซูเฟิงเข้าสู่สภาวะจริงจังทันที
”มันได้เวลาเรียกเกียรติยศของเรากลับคืนมาแล้ว”ชูฮันพูดเสียงแผ่วหากเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น จากนั้นก็ชี้นิ้วไปยังทางแยกของถนนข้างหน้า “เราจะแยกกันตรงนี้ นายไปจัดการรวบรวมมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่ออยู่ในรายชื่อของเสาหินทั้งหมดมา ฉันจะไปจัดการซุปเปอร์ซอมบี้ในตัวเมืองอันลูเอง อีกสองวันเจอกลับแล้วเราจะมาเริ่มกันใหม่”
นัยน์ตาของซูเฟิงหดตัวอย่างสงสัยหากก็พยักหน้ารับคำสั่งของชูฮัน…การที่ชูฮันพาเขาออกมาข้างนอกคนเดียวแบบนี้แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์มันร้ายแรงและต้องเป็นความลับสุดยอด
ซูเฟิงไม่มีเวลาค้านหรือตั้งข้อสงสัยใดๆทั้งนั้นครั้งนี้ชูฮันบอกว่าเขาจำเป็นต้องสู้และต้องใช้ความสามารถของการเป็นวิวัฒนาการระยะ 7 ของเขา
ทั้งสองแยกกันไปคนละเส้นทางทันทีในตอนที่ชูฮันมุ่งหน้าไปยังทางเข้าเมืองอันลูมันก็เป็นเวลาพลบค่ำและตำแหน่งที่ชูฮันไปก็เป็นบริเวณย่านใจกลางเมืองที่มีชีวิตชีวาที่สุดของเมืองอันลู
มันไม่มีซอมบี้ในพื้นที่เลยสักตัวเดียวในช่วงเวลาปกติที่ผ่านมามันจะมีเจ้าหน้าที่คอยประจำการอยู่ที่นี้เพื่อตรวจตราให้มั่นใจว่าเมืองอันลูนั้นปลอดภัยอย่างแท้จริง เพื่อที่เหล่าผู้รอดชีวิตทั้งหลายจะสามารถอยู่อาศัยในเมืองได้จริง
กฏที่ตั้งโดยชูฮันถูกบังคับใช้อย่างเคร่งครัดเหล่าผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่รับการแจกจ่ายบ้านพักจากทีมรักษาความปลอดภัย ทำการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการและพาครอบครัวของตัวเองเข้าไปอยู่อาศัยทันที
บางคนไม่มีบัตรประจำตัวเพราะตั้งแต่แรกพวกเขาเลือกที่จะไม่สนับสนุนและทำการต่อต้านชูฮันดังนั้นเวลานี้พวกเขาจึงได้แต่ยืนมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นต่อหน้าโดยทำอะไรไม่ได้ พวกเขาไม่มีส่วนได้บ้านพัก ไม่มีเงินช่วยเหลือเพื่อตั้งตัว ไม่มีอาหารมอบให้ ไม่มีอะไรเลย…นอกจากความเสียใจต่อการตัดสินใจผิดพลาดของตัวเอง
แน่นอนว่ามันเป็นแค่กลุ่มคนเล็กๆเท่านั้นและภายใต้การปราบปรามอย่างเข้มงวดของทีมรักษาความปลอดภัย ดังนั้นกลุ่มคนเล็กๆพวกนี้จึงไม่สามารถมีปากเสียงหรือแสดงการต่อต้านที่ส่งผลอะไรได้ ขณะนี้คณะบริหารเมืองอันลูที่ได้รับเลือกใหม่ก็มีบทบาทหน้าที่ในการชี้นำและดูแลผู้รอดชีวิตที่ไม่มีบัตรประจำตัวให้มีเหตุผลที่จะอยู่อาศัยในเมืองอันลูได้
เพื่อที่จะสามารถหางานทำสร้างรายได้เพื่อจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง!
กลุ่มคนขนาดใหญ่ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองอันลูนั้นทำให้มีหลายอย่างที่จะต้องทำทั้งทำความสะอาด เคลื่อนย้ายข้าวของ หาอาหาร เสื้อผ้า ที่พักและการขนส่งทั้งหลายที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิต มันมีหลายอย่างที่ต้องเริ่มทำใหม่
ดังนั้นคนพวกนี้ที่ไม่มีบัตรประจำตัวจึงรู้สึกขอบคุณเหล่าคณะบริหารที่ชูฮันจัดตั้งขึ้นมาคอยดูแลและให้คำแนะนำพวกเขาในการหางานและหารายได้เพื่อเลี้ยงดูตัวเอง
เมืองอันลูกำลังเจริญรุ่งเรืองและอารยธรรมของยุคศิวิไลซ์ก็ได้รับการฟื้นฟู
”หยุดอยู่ตรงนั้นขอดูบัตรประจำตัว?” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจากทีมรักษาความปลอดภัยหยุดชูฮันที่กำลังเดินหน้าเข้ามา แววตาสำรวจชูฮันอย่างสงสัย
”หึ”ชูฮันมีผ้าคลุมหัวคลุมปิดทั้งหน้าอยู่ แต่อีกฝ่ายก็ยังสามารถสบตากับชูฮันและเห็นแววตาธรรมดาเหมือนมนุษย์ได้อยู่จึงไม่ได้สงสัยว่าชูฮันจะเป็นลูกผสมแฝงตัวเข้ามา
เขาอุตส่าห์เดินธรรมดาทำตัวปกติ เขาจงใจปิดบังตัวตนของตัวเอง เขาเข้ามาในเมืองอันลูโดยแต่งตัวเหมือนผู้รอดชีวิตทั่วไปเพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัย
อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดเลยว่าจะถูกเจ้าหน้าที่เรียกตัวให้หยุดแบบนี้
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากชูฮันล้วงตราที่ส่องประกายวาวออกมาแสดงต่อหน้าเจ้าหน้าที่คนนั้นก่อนจะรีบเก็บมันไปอย่างรวดเร็ว
มันคือตราของเขี้ยวหมาป่าที่หลูฮงเชิงตีเหล็กขึ้นมาใหม่ในกองทัพเขี้ยวหมาป่าจะมีเพียงไม่กี่คนที่มีในครอบครอง แต่ละคนจะมีสัญลักษณ์ประจำตัวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ปรากฏอยู่บนตรา…เป็นสัญลักษณ์ประจำตัว ตราของซูเฟิงนั้นจะมีการสลักรูปทีมนักฆ่าขนนกอยู่ด้วยของเสี่ยวเคินก็จะเป็นรูปทีมกุ้งเสือดำ ของหลูปิงเซ่อก็เป็นความลับของพระเจ้า เฉินช่าวเย่คือเทพเจ้ามือปืน และคนที่เหลือที่จะมีรูปสลักเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
นี้แสดงให้เห็นว่าตรานี้แสดงให้เห็นถึงระดับความสูงของสถานะในเขี้ยวหมาป่าและการมีตรานี้ในครอบครองก็ทำให้คนคนนั้นมีอิทธิพลและอำนาจไม่ต่างจากพลเอกยามอยู่ในเมืองอันลูเลย
ส่วนตราของชูฮันั้นมีการสลักคำว่าราชาเขี้ยวหมาป่าเอาไว้ ซึ่งราชาเขี้ยวหมาป่ามีเพียงแค่หนึ่งเดียวนั้นคือ…ชูฮัน!
เจ้าหน้าที่ของทีมรักษาความปลอดภัยที่หยุดชูฮันตาโตเบิกกว้างทันทีที่เห็นตราเบิกตาโตมองชูฮันที่แต่งตัวกลมเกลือนเหมือนกับผู้รอดชีวิตทั่วไปอย่างตะลึงค้าง จากนั้นชูฮันก็เดินผ่านหน้าทีมรักษาความปลอดภัยไปทันทีโดยไม่แสดงสีหน้าหรือพูดอะไรออกมา แน่นอนว่าทีมรักษาความปลอดภัยเองก็รับรู้ถึงความผิดปกติของการปรากฏตัวของพบเอกชูฮัน แต่พวกเขาไม่สามารถแตกตื่นและทำให้การปลอมตัวของพลเอกชูฮันล้มเหลวได้ เพราะการที่พลเอกชูฮันตัดสินใจทำเช่นนี้แสดงว่าเขาต้องการให้มันเป็นความลับ
ขณะที่ในใจของทุกคนนั้นลอยล่องไปไกลแล้ว
พวกเขาโชคดีเหลือเกินที่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของพลเอกชูฮันกับตาหลังจากรอมาเป็นปี!
ชื่อเสียงของพลเอกชูฮันนั้นโด่งดังไปทั่วเขี้ยวหมาป่าอย่างสุดขีดไม่มีใครไม่มีบูชาเขา ไม่มีใครไม่หลงใหลได้ปลื้มเขา…ชื่อที่ใครๆก็รู้จักและหวาดกลัวเพียงแค่ได้ยิน
หลังจากเดินสำรวจครบรอบเมืองและได้เห็นสถานการณ์ทั่วไปองผู้อยู่อาศัยในเมืองอันลูแล้วชูฮันก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี้อีกต่อไป เขาจึงมุ่งหน้าสู่พื้นที่ต้องห้ามในเมืองอันลูซึ่งเป็นจุดประสงค์ของการมาในครั้งนี้ของเขา
เมืองอันลูเป็นเมืองใหญ่โตมีผู้รอดชีวิตอย่างน้อยหลายหมื่นคนเข้ามาอยู่อาศัยจับจองทุกส่วน ยกเว้นพื้นที่บริเวณนี้ที่ว่างเปล่าและเป็นเขตต้องห้าม กองทัพเขี้ยวหมาป่าตั้งกำลังล้อมรอบกั้นพื้นที่ส่วนนี้เอาไว้เนื่องจากมันยังมีซอมบี้ที่หลงเหลืออยู่ด้านใน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยปล่อยให้ผู้รอดชีวิตเข้ามาใกล้บริเวณนี้เลย
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะกับใครก็ตามอีกครั้งชูฮันตัดสินใจใช้ถนนเส้นที่ห่างไกลและแปลกๆ บางครั้งต้องขึ้นไปเดินบนหลังคาอาคาร เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก
ชูฮันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทางนี้เนื่องจากจำนวนสมาชิกของทีมรักษาความปลอดภัยนั้นมีจำนวนมาก พวกเขาประจำอยู่แทบทุกจุดของเมืองอันลู
ขณะเดินไปตามทางชูฮันก็ไม่คิดวาเขาจะต้องเจอกับใครอีกระหว่างวัน
มันเป็นถนนที่กว้างขวางถนนไม่ได้สะอาดสะอ้านอะไรเนื่องจากการทำความสะอาดของเมืองนั้นยังขยายออกมาไม่ถึงจุดนี้ อีกทั้งนี้ยังอยู่ใกล้ตำแหน่งเขตต้องห้ามที่อาจจะมีซอมบี้ซึ่งเป็นภัยอันตรายอยู่
ตอนนี้มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กยืนอยู่กลางถนนซึ่งเป็นทางแยกดูแล้วน่าจะอายุประมาณสิบปี เสื้อผ้าบนตัวขาดหลุดรุ่ย ทว่าที่แปลกก็คือเพราะมันเป็นเครื่องแบบของกองทัพเขี้ยวหมาป่า
ชูฮันตะลึงเขาเพ่งมองสำรวจเด็กผู้หญิงตรงหน้าอย่างละเอียด เด็กผู้หญิงคนนี้ดูไม่หวาดกลัวอะไรเลย เธอสบตากับชูฮันอย่างไม่เกรงกลัว แถมแววตาที่มองสบตายังทำให้ชูฮันอดไม่ได้ที่จะตกใจ
เจ้าหนูน้อยคนนี้มาจากไหน?
ทำไมถึงได้สวมชุดเครื่องแบบของกองทัพเขี้ยวหมาป่า?
”นายเป็นใครไม่รู้เหรอว่าพื้นที่ตรงนี้ถูกห้าม? คนทั่วไปไม่มีสิทธิเข้ามา!” เด็กผู้หญิงตะคอกใส่ชูฮันที่ยังไม่เปิดเผยตัวตน ชูฮันยืนนิ่งและเขาสามารถสัมผัสความตึงเครียดจากน้ำเสียงของอีกฝ่ายได้ชัดเจน
อะไรกัน?
ท่าทางแปลกๆและดูผิดปกติเสียงคราวนี้เปลี่ยนไป มันแหบแห้งราวกับลำคออักเสบจากการใช้เสียงเกินกำลัง หากยังคงตึงเครียดไว้เหมือนเดิม
”มันมีเรื่องเกิดขึ้นกระทันหันฉันไม่สามารถอธิบายได้” ชูฮันไม่สามารถบอกซูเฟิงได้ “แต่มันมีบางอย่างที่ฉันต้องการให้นายเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า”
”อะไรครับ?”ซูเฟิงเข้าสู่สภาวะจริงจังทันที
”มันได้เวลาเรียกเกียรติยศของเรากลับคืนมาแล้ว”ชูฮันพูดเสียงแผ่วหากเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น จากนั้นก็ชี้นิ้วไปยังทางแยกของถนนข้างหน้า “เราจะแยกกันตรงนี้ นายไปจัดการรวบรวมมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่ออยู่ในรายชื่อของเสาหินทั้งหมดมา ฉันจะไปจัดการซุปเปอร์ซอมบี้ในตัวเมืองอันลูเอง อีกสองวันเจอกลับแล้วเราจะมาเริ่มกันใหม่”
นัยน์ตาของซูเฟิงหดตัวอย่างสงสัยหากก็พยักหน้ารับคำสั่งของชูฮัน…การที่ชูฮันพาเขาออกมาข้างนอกคนเดียวแบบนี้แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์มันร้ายแรงและต้องเป็นความลับสุดยอด
ซูเฟิงไม่มีเวลาค้านหรือตั้งข้อสงสัยใดๆทั้งนั้นครั้งนี้ชูฮันบอกว่าเขาจำเป็นต้องสู้และต้องใช้ความสามารถของการเป็นวิวัฒนาการระยะ 7 ของเขา
ทั้งสองแยกกันไปคนละเส้นทางทันทีในตอนที่ชูฮันมุ่งหน้าไปยังทางเข้าเมืองอันลูมันก็เป็นเวลาพลบค่ำและตำแหน่งที่ชูฮันไปก็เป็นบริเวณย่านใจกลางเมืองที่มีชีวิตชีวาที่สุดของเมืองอันลู
มันไม่มีซอมบี้ในพื้นที่เลยสักตัวเดียวในช่วงเวลาปกติที่ผ่านมามันจะมีเจ้าหน้าที่คอยประจำการอยู่ที่นี้เพื่อตรวจตราให้มั่นใจว่าเมืองอันลูนั้นปลอดภัยอย่างแท้จริง เพื่อที่เหล่าผู้รอดชีวิตทั้งหลายจะสามารถอยู่อาศัยในเมืองได้จริง
กฏที่ตั้งโดยชูฮันถูกบังคับใช้อย่างเคร่งครัดเหล่าผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่รับการแจกจ่ายบ้านพักจากทีมรักษาความปลอดภัย ทำการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการและพาครอบครัวของตัวเองเข้าไปอยู่อาศัยทันที
บางคนไม่มีบัตรประจำตัวเพราะตั้งแต่แรกพวกเขาเลือกที่จะไม่สนับสนุนและทำการต่อต้านชูฮันดังนั้นเวลานี้พวกเขาจึงได้แต่ยืนมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นต่อหน้าโดยทำอะไรไม่ได้ พวกเขาไม่มีส่วนได้บ้านพัก ไม่มีเงินช่วยเหลือเพื่อตั้งตัว ไม่มีอาหารมอบให้ ไม่มีอะไรเลย…นอกจากความเสียใจต่อการตัดสินใจผิดพลาดของตัวเอง
แน่นอนว่ามันเป็นแค่กลุ่มคนเล็กๆเท่านั้นและภายใต้การปราบปรามอย่างเข้มงวดของทีมรักษาความปลอดภัย ดังนั้นกลุ่มคนเล็กๆพวกนี้จึงไม่สามารถมีปากเสียงหรือแสดงการต่อต้านที่ส่งผลอะไรได้ ขณะนี้คณะบริหารเมืองอันลูที่ได้รับเลือกใหม่ก็มีบทบาทหน้าที่ในการชี้นำและดูแลผู้รอดชีวิตที่ไม่มีบัตรประจำตัวให้มีเหตุผลที่จะอยู่อาศัยในเมืองอันลูได้
เพื่อที่จะสามารถหางานทำสร้างรายได้เพื่อจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง!
กลุ่มคนขนาดใหญ่ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองอันลูนั้นทำให้มีหลายอย่างที่จะต้องทำทั้งทำความสะอาด เคลื่อนย้ายข้าวของ หาอาหาร เสื้อผ้า ที่พักและการขนส่งทั้งหลายที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิต มันมีหลายอย่างที่ต้องเริ่มทำใหม่
ดังนั้นคนพวกนี้ที่ไม่มีบัตรประจำตัวจึงรู้สึกขอบคุณเหล่าคณะบริหารที่ชูฮันจัดตั้งขึ้นมาคอยดูแลและให้คำแนะนำพวกเขาในการหางานและหารายได้เพื่อเลี้ยงดูตัวเอง
เมืองอันลูกำลังเจริญรุ่งเรืองและอารยธรรมของยุคศิวิไลซ์ก็ได้รับการฟื้นฟู
”หยุดอยู่ตรงนั้นขอดูบัตรประจำตัว?” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจากทีมรักษาความปลอดภัยหยุดชูฮันที่กำลังเดินหน้าเข้ามา แววตาสำรวจชูฮันอย่างสงสัย
”หึ”ชูฮันมีผ้าคลุมหัวคลุมปิดทั้งหน้าอยู่ แต่อีกฝ่ายก็ยังสามารถสบตากับชูฮันและเห็นแววตาธรรมดาเหมือนมนุษย์ได้อยู่จึงไม่ได้สงสัยว่าชูฮันจะเป็นลูกผสมแฝงตัวเข้ามา
เขาอุตส่าห์เดินธรรมดาทำตัวปกติ เขาจงใจปิดบังตัวตนของตัวเอง เขาเข้ามาในเมืองอันลูโดยแต่งตัวเหมือนผู้รอดชีวิตทั่วไปเพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัย
อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดเลยว่าจะถูกเจ้าหน้าที่เรียกตัวให้หยุดแบบนี้
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากชูฮันล้วงตราที่ส่องประกายวาวออกมาแสดงต่อหน้าเจ้าหน้าที่คนนั้นก่อนจะรีบเก็บมันไปอย่างรวดเร็ว
มันคือตราของเขี้ยวหมาป่าที่หลูฮงเชิงตีเหล็กขึ้นมาใหม่ในกองทัพเขี้ยวหมาป่าจะมีเพียงไม่กี่คนที่มีในครอบครอง แต่ละคนจะมีสัญลักษณ์ประจำตัวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ปรากฏอยู่บนตรา…เป็นสัญลักษณ์ประจำตัว ตราของซูเฟิงนั้นจะมีการสลักรูปทีมนักฆ่าขนนกอยู่ด้วยของเสี่ยวเคินก็จะเป็นรูปทีมกุ้งเสือดำ ของหลูปิงเซ่อก็เป็นความลับของพระเจ้า เฉินช่าวเย่คือเทพเจ้ามือปืน และคนที่เหลือที่จะมีรูปสลักเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
นี้แสดงให้เห็นว่าตรานี้แสดงให้เห็นถึงระดับความสูงของสถานะในเขี้ยวหมาป่าและการมีตรานี้ในครอบครองก็ทำให้คนคนนั้นมีอิทธิพลและอำนาจไม่ต่างจากพลเอกยามอยู่ในเมืองอันลูเลย
ส่วนตราของชูฮันั้นมีการสลักคำว่าราชาเขี้ยวหมาป่าเอาไว้ ซึ่งราชาเขี้ยวหมาป่ามีเพียงแค่หนึ่งเดียวนั้นคือ…ชูฮัน!
เจ้าหน้าที่ของทีมรักษาความปลอดภัยที่หยุดชูฮันตาโตเบิกกว้างทันทีที่เห็นตราเบิกตาโตมองชูฮันที่แต่งตัวกลมเกลือนเหมือนกับผู้รอดชีวิตทั่วไปอย่างตะลึงค้าง จากนั้นชูฮันก็เดินผ่านหน้าทีมรักษาความปลอดภัยไปทันทีโดยไม่แสดงสีหน้าหรือพูดอะไรออกมา แน่นอนว่าทีมรักษาความปลอดภัยเองก็รับรู้ถึงความผิดปกติของการปรากฏตัวของพบเอกชูฮัน แต่พวกเขาไม่สามารถแตกตื่นและทำให้การปลอมตัวของพลเอกชูฮันล้มเหลวได้ เพราะการที่พลเอกชูฮันตัดสินใจทำเช่นนี้แสดงว่าเขาต้องการให้มันเป็นความลับ
ขณะที่ในใจของทุกคนนั้นลอยล่องไปไกลแล้ว
พวกเขาโชคดีเหลือเกินที่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของพลเอกชูฮันกับตาหลังจากรอมาเป็นปี!
ชื่อเสียงของพลเอกชูฮันนั้นโด่งดังไปทั่วเขี้ยวหมาป่าอย่างสุดขีดไม่มีใครไม่มีบูชาเขา ไม่มีใครไม่หลงใหลได้ปลื้มเขา…ชื่อที่ใครๆก็รู้จักและหวาดกลัวเพียงแค่ได้ยิน
หลังจากเดินสำรวจครบรอบเมืองและได้เห็นสถานการณ์ทั่วไปองผู้อยู่อาศัยในเมืองอันลูแล้วชูฮันก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี้อีกต่อไป เขาจึงมุ่งหน้าสู่พื้นที่ต้องห้ามในเมืองอันลูซึ่งเป็นจุดประสงค์ของการมาในครั้งนี้ของเขา
เมืองอันลูเป็นเมืองใหญ่โตมีผู้รอดชีวิตอย่างน้อยหลายหมื่นคนเข้ามาอยู่อาศัยจับจองทุกส่วน ยกเว้นพื้นที่บริเวณนี้ที่ว่างเปล่าและเป็นเขตต้องห้าม กองทัพเขี้ยวหมาป่าตั้งกำลังล้อมรอบกั้นพื้นที่ส่วนนี้เอาไว้เนื่องจากมันยังมีซอมบี้ที่หลงเหลืออยู่ด้านใน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยปล่อยให้ผู้รอดชีวิตเข้ามาใกล้บริเวณนี้เลย
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะกับใครก็ตามอีกครั้งชูฮันตัดสินใจใช้ถนนเส้นที่ห่างไกลและแปลกๆ บางครั้งต้องขึ้นไปเดินบนหลังคาอาคาร เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก
ชูฮันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทางนี้เนื่องจากจำนวนสมาชิกของทีมรักษาความปลอดภัยนั้นมีจำนวนมาก พวกเขาประจำอยู่แทบทุกจุดของเมืองอันลู
ขณะเดินไปตามทางชูฮันก็ไม่คิดวาเขาจะต้องเจอกับใครอีกระหว่างวัน
มันเป็นถนนที่กว้างขวางถนนไม่ได้สะอาดสะอ้านอะไรเนื่องจากการทำความสะอาดของเมืองนั้นยังขยายออกมาไม่ถึงจุดนี้ อีกทั้งนี้ยังอยู่ใกล้ตำแหน่งเขตต้องห้ามที่อาจจะมีซอมบี้ซึ่งเป็นภัยอันตรายอยู่
ตอนนี้มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กยืนอยู่กลางถนนซึ่งเป็นทางแยกดูแล้วน่าจะอายุประมาณสิบปี เสื้อผ้าบนตัวขาดหลุดรุ่ย ทว่าที่แปลกก็คือเพราะมันเป็นเครื่องแบบของกองทัพเขี้ยวหมาป่า
ชูฮันตะลึงเขาเพ่งมองสำรวจเด็กผู้หญิงตรงหน้าอย่างละเอียด เด็กผู้หญิงคนนี้ดูไม่หวาดกลัวอะไรเลย เธอสบตากับชูฮันอย่างไม่เกรงกลัว แถมแววตาที่มองสบตายังทำให้ชูฮันอดไม่ได้ที่จะตกใจ
เจ้าหนูน้อยคนนี้มาจากไหน?
ทำไมถึงได้สวมชุดเครื่องแบบของกองทัพเขี้ยวหมาป่า?
”นายเป็นใครไม่รู้เหรอว่าพื้นที่ตรงนี้ถูกห้าม? คนทั่วไปไม่มีสิทธิเข้ามา!” เด็กผู้หญิงตะคอกใส่ชูฮันที่ยังไม่เปิดเผยตัวตน ชูฮันยืนนิ่งและเขาสามารถสัมผัสความตึงเครียดจากน้ำเสียงของอีกฝ่ายได้ชัดเจน
อะไรกัน?
ท่าทางแปลกๆและดูผิดปกติเสียงคราวนี้เปลี่ยนไป มันแหบแห้งราวกับลำคออักเสบจากการใช้เสียงเกินกำลัง หากยังคงตึงเครียดไว้เหมือนเดิม