มองภาพตรงหน้าจากการสนทนาปกติเปลี่ยนเป็นการพูดคุยเรื่องการแต่งงานของทั้งสองค่ายหลูชูซเวที่นั่งนิ่งมาตลอดก็เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นพูดขึ้นขัดจังหวะ ฉันขอถามเจ้าเมืองหน่อยว่าทำไมถึงได้กล้าเอาชีวิตผู้คนมากขนาดนี้มาเสี่ยงให้เข้ามาอยู่ในเมืองแบบนี้? แล้วคุณจัดการปัญหาเรื่องซอมบี้กับลูกผสมยังไง? ทั้งประมาทเลินเล่อ แถมยังไม่มีคำอธิบายอะไรให้ทุกอย่าง เอาชีวิตของทุกคนมาล้อเล่นแบบนี้ได้ยังไง!
เสียงตะคอกดังของหลูชูซเวเรียกความสนใจของทุกคนในงานเลี้ยงแถมยังพุ่งเป้าโจมตีซางจิ่วตี้เพื่อให้จนมุมและอับอาย ราวกับจะบอกว่าถ้าซางจิ่วตี้ไม่ให้คำตอบที่น่าพอใจแก่เธอละก็ เกรงว่าคืนนี้ทั้งเมืองอันโรคงไม่ได้อยู่ในความสงบแน่
ซางจิ่วตี้เงียบไปในคราแรกหากไม่นานหลังจากนั้นเธอก็พูดขึ้น ในที่สุดก็ถามซะทีฉันรอให้ถามออกมาอยู่ตั้งนาน
คนของเมืองอันโรต่างก้มหน้าปิดปากเงียบไม่มีใครแสดงอาการใดๆออกมา
หากกลุ่มตัวแทนกับส่งเสียงกระซิบดังหึ่มๆหลายคนคาดเดากันไปเองต่างๆนาๆ ท้ายที่สุดแล้วในสายตาของเหล่าตัวแทน การที่คนทั้งค่ายย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองแบบนี้มันไม่ต่างจากการรนหาที่ตายชัดๆ คิดทำอะไรเกินตัว!
ดิฉันขอเชิญตัวแทนทุกคนมาตรงนี้ฉันได้ยินว่าพวกคุณไม่ต้องการเป็นพันธมิตรกับพวกเราชาวเขี้ยวหมาป่า? ทันใดนั้นซางจิ่วตี้ก็ถามขึ้น หลีกเลี่ยงการตอบคำถามก่อนหน้านี้ของหลูชูซเว
ทันทีที่ได้ยินเหล่าตัวแทนทั้งหลายก็แย่งกันตอบจนเกิดความวุ่นวายขนาดย่อมขึ้น
ฉันคิดว่าเป็นทางที่ดีแล้ว!
ผมต้องการเป็นพันธมิตรแต่ค่ายคุณปิดกั้นพวกเรามาตลอดหลายวันจนฉันรับไม่ได้ ดังนั้นมันก็ถูกต้องแล้วที่ตัดสินใจแบบนี้! ค่ายของเราไม่ต้องการเข้าร่วมกับค่ายที่กำลังพาตัวกระโดดลงไปในหลุมไฟ!
คุณต้องการจะฆ่าผู้รอดชีวิตทั้งหมดเลยพาทุกคนเข้ามาอยู่ที่นี้ให้ตายเพื่อที่จะได้ไม่ต้องคอยดูแลพวกเขาสินะ!
เสียงแห่งความสงสัยยังคงดังขึ้นตัวแทนหลายคนพร้อมใจกันประนามการกระทำนี้ หากคนของเขี้ยวหมาป่ากลับปิดปากเงียบสนิท ทำให้ภาพที่เกิดขึ้นการเป็นการโจมตีจากฝ่ายๆเดียว
ซางจิ่วตี้กวาดสายตามองภาพตรงหน้าโดยไม่พูดอะไรเช่นเดียวกับคนของเขี้ยวหมาป่าที่ยังคงรักษาท่าทีนิ่ง และกิน ดื่มอาหารตรงหน้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ขณะที่การต่อว่าเริ่มที่จะเลวร้ายลงหลูชูซเวก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าเมือง คุณเองก็ไม่รู้ว่าพลเอกชูฮันไหนใช่มั้ย? เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ฉันเกรงว่าไม่มีทางที่คุณจะตัดสินใจเองได้คนเดียวหรอก?
ชูฮันไม่ได้อยู่ที่นี้เพราะทุกอย่างในเมืองอันโรอยู่ในการควบคุมของฉัน ซางจิ่วตี้พูดสวนขึ้นทันที
หลูชูซเวนิ่วหน้าและถามอีกครั้ง แสดงว่าคุณมีอำนาจใจการตัดสินใจเรื่องพันธมิตรงั้นเหรอ?
ครั้งนี้แววตาซางจิ่วตี้มีประกายวิบวับเล็กน้อยและถามคำถามที่เต็มไปด้วยอุบาย มันขึ้นอยู่กับว่าค่ายของคุณต้องการจะเป็นพันธมิตรกับเมืองอันโรหรือค่ายเขี้ยวหมาป่า?
หลูชูซเวชะงักหากประโยคต่อมาของเธอได้สร้างความประหลาดใจให้ทุกคน ค่ายตวนของเราต้องการเป็นพันธมิตรกับเขี้ยวหมาป่าทั้งหมด ไม่ใช่แค่ค่ายเขี้ยวหมาป่าหรือแค่เมืองอันโร แต่ต้องการเป็นพันธมิตรกับเขี้ยวหมาป่าทั้งหมด!
หลังจากได้ยินคำพูดของหลูชูซเวตัวแทนทั้งหมดรวมถึงคนของเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดก็ต่างมองมาที่เธอเป็นตาเดียวด้วยความประหลาดใจ สิ่งที่เป็นคำถามในหัวของคนตัวแทนส่วนใหญ่ตอนนี้คือหลูชูซเวอวดดีมากเกินไป กล้าเข้ามายุ่งในเรื่องที่ต้องเป็นระดับพลเอกถึงจะมีสิทธิในการตัดสินใจ…ทั้งๆที่ความจริงแล้วคือตัวแทนคนอื่นๆนั้นโง่เง่าเกินไปจนไม่สามารถทำความเข้าใจได้ว่าหลูชูซเวกำลังทำอะไรอยู่
มีเพียงแค่มู๋หรงยู่เฉิงที่ถอนหายใจและพูดโพล่งขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงัน ผมเป็นตัวแทนจากค่ายหนานตู้และต้องการเป็นพันธมิตรกับเขี้ยวหมาป่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม
การประกาศจากทั้งสองค่ายใหญ่ต่อๆกันทำให้เกิดบรรยากาศอึดอัดแปลกๆตามมาท่าทีของหลูชูซเวและมู๋หรงยู่เฉิงอาจถือได้ว่าหุนหันพลันแล่น
ซางจิ่วตี้มองมู๋หรงยู่เฉิงและหลูชูซเวสลับไปมาก่อนจะยิ้มออกมาในที่สุด มั่นใจจัง ไม่กลัวฉันหรือไง?
มู๋หรงยู่เฉิงยิ้มและไม่พูดอะไรตอบที่จริงเขาเองก็พอจะคาดเดาอะไรบางอย่างได้
หลูชูซเวเองก็รีบพูดขึ้น เดิมทีดิฉันได้รับคำสั่งโดยตรงจากพลเอกตวนเจียงเหว่ย บอกว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น การเป็นพันธมิตรระหว่างค่ายตวนและเขี้ยวหมาป่าคือสิ่งที่จำเป็นที่สุด
อืม เมื่อเป็นเช่นนี้ ซางจิ่วตี้ก็รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องทดสอบพวกเขาอีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจเอ่ยคำประกาศขึ้นมาทันที เนื่องจากทั้งสองค่ายต่างมีความเชื่อมั่นในทางเราอย่างมากขนาดนี้ ฉันก็ขอประกาศอย่างเป็นทางการในฐานะภรรยาของพลเอกชูฮันว่าเรายินยอมให้ทั้งสองค่ายเป็นพันธมิตรของเรา
นอกจากนั้นหลังจากประกาศอย่างเป็นทางการจบ ซางจิ่วตี้ก็ยิ้มเล็กน้อยพร้อมพูดต่อ ในแง่ของความร่วมมือซึ่งกันและกันระหว่างพันธมิตร ฉันหวังว่าค่ายของพวกคุณจะเสนอสิ่งบรรณาการมาให้เราอย่างไม่ขายหน้า ทว่าในทางกลับกันพวกเราเขี้ยวหมาป่าสามารถตอบแทนกลับได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น
อะไรนะ?!
ตัวแทนทุกคนที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ตลอดอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน
ปล่อยให้ทั้งสองค่ายคิดบางอย่างขึ้นมาเพื่อแสดงจุดยืนของพวกเขาและทั้งๆที่พวกเขาชัดเจนแล้วแต่คุณกลับบอกว่าสามารถเลือกพันธมิตรได้ค่ายเดียว นี้เขี้ยวหมาป่าเป็นโจรรึเปล่า? หรือนักต้มตุ๋น?!
กรอดดด~!โลภมาก คิดว่าแบบนี้จะมีค่ายไหนอยากเข้าร่วมด้วยรึไง?
คิดว่าทุกคนต้องง้อรึไง!
แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วพวกงูสองแฉก!
ท่ามกลางเสียงดังระงมหลูชูซเวหลังจากเงียบไปพักหนึ่งก็ตัดสินใจพูดขึ้น ดิฉันไม่เข้าใจว่าท่านเจ้าเมืองหมายถึงอะไรกันแน่? นอกจากนี้ฉันเองก็จำเป็นต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เขี้ยวหมาป่าจะมอบให้เราเป็นการตอบแทนอย่างเป็นเฉพาะเจาะจง…
มู๋หรงยู่เฉิงไม่ถามอะไรสักคำเพราะไม่ว่าอย่างไรค่ายหนานตู้และเขี้ยวหมาป่าก็ผูกสัมพันธ์เข้าด้วยกัน และซางจิ่วตี้ก็พูดอย่างชัดเจนเองในเรื่องของฉางกวนยวีซินและชูฮัน และความเป็นพันธมิตรระหว่างค่ายหนานตู้และเขี้ยวหมาป่านั้นก็เป็นเรื่องของคนในครอบครัว ดังนั้นมันจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโต้แย้งเรื่องผลประโยชน์
ซางจิ่วตี้ลอบมองมู๋หรงยู่เฉิงจากนั้นก็หันไปกระซิบคุยกับหลูชูซเว คุณเองก็น่าจะเคยเห็นทุกอย่างภายในของเขี้ยวหมาป่ามาแล้วตลอดหลายวันที่ผ่านมา พื้นที่โดยรอบของเมืองนั้นมีภูเขาล้อมรอบตลอดทั้งสามฝั่งปิดกั้นการเดินทางทำให้ขาดแคลนในด้านทรัพยากรอย่างมาก แต่สิ่งที่เราต้องการจริงๆนั้นเรียบง่ายมาก มาดูกันว่าค่ายตวนจะสามารถเสนอให้เราได้มากถึงเท่าไหร่?
คิ้วของหลูชูซเวขมวดเข้าหากันดูเหมือนเธอจะต้องใช้เวลาคิดสักพักหนึ่ง ซางจิ่วตี้พูดต่อไปครั้งนี้เธอเริ่มการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ สำหรับสิ่งที่เขี้ยวหมาป่าสามารถตอบแทนได้นั้นมันก็ง่ายมาก พวกคุณคงจะแปลกใจว่าทำไมเราถึงมีความกล้าที่นำผู้รอดชีวิตหลายหมื่นคนเข้ามาอยู่ในเมืองเช่นนี้?
ทันทีที่หัวข้อนี้ถูกกล่าวขึ้นสายตานับไม่ถ้วนก็จับจ้องมาที่ซางจิ่วตี้กันหมด หลายคนเริ่มหายใจเร็วขึ้นด้วยความตื่นเต้น
มันมีความลับอะไรซ่อนอยู่จริงๆสินะ?!
ซางจิ่วตี้เอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อยสีหน้ายิ้มกริ่ม ในเมื่อพวกคุณก็อยู่ในเมืองเองอยู่แล้ว พวกคุณสามารถสำรวจดูรอบๆได้ด้วยตัวเองและพวกคุณจะได้เห็นว่าทุกซอกทุกมุมหรือแม้แต่ใต้ดินของเมืองอันโรมันมีซอมบี้อยู่หรือไม่?
ฮือฮา~!
เสียงดังเซ็งแซ่พูดคุยกระหึ่มไปทั่ว
คะ—คุณหมายถึงอะไร? หลูชูซเวพูดติดอ่างด้วยความตกใจ
เธอเป็นคนที่หยิ่งผยองอย่างมากเธอคิดว่าเขี้ยวหมาป่าไม่มีความน่าไว้วางใจและไม่มีความคิดที่จะเอาทรัพยากรมีค่ามาลงทุนกับชูฮัน แต่เธอก็นึกถึงคำพูดของตวนเจียงเหว่ยก่อนที่เธอจะจากมา
‘เบื้องหลังของทุกการกระทำของเขี้ยวหมาป่ามีชูฮันคอยกำกับอยู่ดังนั้นไม่ว่ามันจะมีหลุมพรางอะไรอยู่ก็ตาม ทางที่ดีที่สุดคือควรจะแสดงเจตนารมณ์ของเราออกไปให้ชัดเจนก่อนตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเกี่ยวกับการเป็นพันธมิตรก็ตาม เธอจะต้องอดทน คอยหลีกเลี่ยงและทำให้ค่ายของเราได้รับการเป็นพันธมิตรค่ายแรกให้ได้ ชูฮันจะต้องมีกับดักใหญ่รออยู่แน่ๆสำหรับค่ายที่ไม่ได้เป็นพันธมิตรด้วย เพราะฉะนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตามเราต้องทำให้สำเร็จ!’