Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 1088 การเจรจากับเสือ

ตอนที่ 1088 การเจรจากับเสือ

   ฉันหมายความตามที่พูด 

  ซางจิ่วตี้มองอย่างไม่แยแสเธอนั่งอยู่ที่ตำแหน่งเดิม หน้าตานิ่งเฉยไม่มีการขยับเลยสักนิด ตรงกันข้ามกับฝั่งตัวแทนทั้งหลายอย่างสิ้นเชิงที่ดิ้นราวกับไฟลนตูด

  มู๋หรงยู่เฉิงไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงกระทันหันเช่นนี้เขาหยุดคิดกับตัวเองพักหนึ่งจากนั้นก็จ้องไปซางจิ่วตี้  แล้วเรื่องการหายไปของซอมบี้ทั้งหมดในเมืองล่ะ? มันเป็นไปได้ยังไง? 

   มันไม่มีทางเป็นไปได้! 

   ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด! 

   ไหนล่ะศพซอมบี้ทั้งหมด?มันไม่มีทางเป็นเรื่องจริงแน่! 

  เสียงโวยวายต่อต้านของเหล่าตัวแทนดังตามขึ้นมาทันทีทุกคนต่างใส่อารมณ์ขุ่นเคืองไม่พอใจไปที่ซางจิ่วตี้กันหมด  ในสถานการณ์เช่นนี้ซางจิ่วตี้ขี้เกียจจะมาเสียเวลานั่งอธิบายอะไรให้ใครฟังเธอเพียงหันหน้ามองไปที่มู๋หรงยู่เฉิงและหลูชูซเว  และนี่คือผลตอบรับที่จะได้จากการเป็นพันธมิตรกับเขี้ยวหมาป่า พวกคุณก็ได้เห็นมันชัดกับตาตัวเองแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าพวกคุณต้องการจะเป็นพันธมิตรกับเราต่อไหมนั่น ก็แล้วแต่จะตัดสินใจเลย… 

  เต็มไปด้วยความมั่นใจ!

  หลูชูซเวไม่อยากจะพูดอะไรให้มากความเพราะมันเปล่าประโยชน์ ค่ายตวนไม่มีทางล้มเลิกแน่นอนค่ะ! 

  มู๋หรงยู่เฉิงใช้เหตุผลมากกว่า ทัศนคติของค่ายหนานตู้ชัดเจนมาโดยตลอด ถึงจะไม่มีเรื่องนี้…ไม่ว่าอย่างไรทางเราก็ต้องการเป็นพันธมิตรที่ดีกับเขี้ยวหมาป่า แต่เจ้าเมืองช่วยกรุณาอธิบายความหมายเรื่องนี้ให้ชัดเจนทีครับ? 

  เสียงรอบๆเริ่มเบาลงเรื่อยๆเพราะความสนใจของทุกคนอยู่ที่ซางจิ่วตี้ทุกคนอยากจะได้ยินคำตอบจากเธอ

  ซางจิ่วตี้หัวเราะในลำคอเบาๆ ไม่แน่ใจว่าคุณเคยได้ยินสารล่อซอมบี้มั้ย? 

  ทันทีที่ซางจิ่วตี้พูดออกมาทั้งงานก็ตกอยู่ในความเงียบกริบ ทุกคนมีอาการตื่นตัว

   สารล่อ…ซอมบี้? มู๋หรงยู่เฉิงงุนงง  มันคืออะไรกัน? 

   มันคือความลับที่ทำให้เมืองอันโรไม่มีซอมบี้ ซางจิ่วตี้ยังคงพูดครุมเครือต่อไป  พวกเราวิจัยและคิดค้นแผนการในการกวาดล้างซอมบี้ในเมืองอันลูเป็นเวลากว่าครึ่งปีเพื่อที่จะสร้างเมืองอันโรอย่างเช่นวันนี้ขึ้นมา เราต้องการทำให้มันเป็นเขตพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด ไม่มีซอมบี้ ไม่มีลูกผสม ไม่มีสัตว์ประหลาด 

   สำหรับสารล่อซอมบี้นั้นมันทำหน้าที่ล่อลวงซอมบี้ได้อย่างดีเยี่ยมเหมือนเลือดมนุษย์จริงๆ แผนกวิจัยของเขี้ยวหมาป่าทุ่มหมดหน้าตักเพื่อพัฒนามันขึ้นมา และผลลัพธ์พิเศษที่ได้…พวกคุณสามารถสำรวจรอบๆเมืองได้ด้วยตัวเองเพื่อพิสูจน์ 

  ทั้งงานเลี้ยงคงตกอยู่ในความเงียบงันโดยเฉพาะเหล่าตัวแทนที่ได้แต่ยืนกระพริบตาปริบๆ หูอื้อตาลายไปหมด พวกเขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเลย

  ซางจิ่วตี้บอกว่าอะไรนะ?

  เขี้ยวหมาป่าพัฒนาสารล่อซอมบี้ที่สามารถกวาดล้างซอมบี้ในเมืองอันลู1.5 ล้านตัวไปได้ขึ้นมาเอง!

  แม้กระทั่งในยามค่ำคืนพวกเขาก็ไม่ได้ยินเสียงซอมบี้เลยสักนิดท่ามกลางเมืองที่เงียบสนิท ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าจางๆใดเลย แถมกลับกัน…อากาศมันช่างบริสุทธิ์สะอาดหมดจน ให้ความรู้สึกราวกับได้ย้อนกลับมาในยุคศิวิไลซ์

  พั้วะ!

  ตัวแทนคนหนึ่งมีปฏกิริยาเขาวิ่งออกไปพร้อมกับคนติดตามของตัวเองสองคน ดูเหมือนว่าตัวแทนคนนั้นต้องการจะไปพิสูจน์ให้แน่ชัดด้วยตาตัวเองว่าพื้นที่ทั้งหมดในเมืองอันโรนั้นไม่มีซอมบี้อยู่เลยจริงๆ

  ตัวแทนที่เหลือไม่พอใจที่ช้ากว่าไปก้าวหนึ่งเมื่อได้สติพวกเขาก็รีบวิ่งตามตัวแทนคนแรกออกไปดูทันที ในใจของพวกเขาตอนนี้มันเต็มไปด้วยความกระวนกระวายจนอยู่ไม่สุก

  ถ้าทุกอย่างเป็นจริงอย่างที่ซางจิ่วตี้ว่ามา…ดังนั้นทั้งเมืองอันโรก็ปลอดภัยไร้ห่วงถ้าผลลัพธ์ของสารล่อซอมบี้มันน่าทึ่งอย่างที่ซางจิ่วตี้อวดอ้างจริงๆละก็ เช่นนั้นสถานการณ์ของการเป็นพันธมิตรก็จะพลิกผันเปลี่ยนข้อได้เปรียบทั้งหมดให้กับฝั่งเขี้ยวหมาป่า!

  หลูชูซเวเองก็อยากจะไปให้เห็นกับตาตัวเองเหมือนกันแต่ในช่วงนาทีวิกฤตเธอเหลือบมองมู๋หรงยู่เฉิงที่ไม่มีการขยับเขยื้อนใดๆ หลูชูซเวจึงระงับความอยากรู้อยากเห็นของเธอเอาไว้และอยู่ที่นี้เหมือนเดิม

  ซางจิ่วตี้มองดูตัวแทนสองคนที่ไม่ขยับไปไหนก่อนจะเผยรอยยิ้มบนใบหน้าออกมา  ทำไมพวกคุณไม่อยากไปดูกับตาตัวเองละ?     ไม่จำเป็นต้องดูเราเชื่อใจเขี้ยวหมาป่า  แน่นอนว่ามู๋หรงยู่เฉิงต้องการจะเห็นมันกับตาตัวเอง แต่เขาก็แสดงออกชัดเจนว่าเขาไม่ได้เร่งรีบ

   ดี ซางจิ่วตี้ชี้นิ้วไปที่โต๊ะ  ต่อไป เรามาพูดเรื่องกฎบัตรเฉพาะกันเถอะ? 

  ทันทีที่พูดออกไปสมาชิกทั้งหมดของเขี้ยวหมาป่าก็ลุกขึ้นยืนกันหมดและทำการปรับเปลี่ยนสถานที่กินเลี้ยงให้การเป็นโต๊ะนั่งประชุมอย่างรวดเร็วการเคลื่อนไหวอย่างเป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพทำให้หลูชูซเวตะลึงจนตกอยู่ในภวังค์ไปพักหนึ่ง ขณะที่มู๋หรงยู่เฉิงนั้นเหงื่อแตกพลั่ก

  ซางจิ่วตี้คนนี้เตรียมการเอาไว้ทุกอย่างหมดแล้วทั้งงานกินเลี้ยงมื้อค่ำและการวางแผนหลอกล่อให้เขาติดกับ!

  ทุกคนจงใจเล่นละครตบตาพวกเขา!

  ไม่นานหลังจากการเตรียมการหลูชูซเวและมู๋หรงยู่เฉิงก็ถูกจับวางนั่งตามตำแหน่งเก้าอี้ ส่วนซางจิ่วตี้ก็ยกมือขึ้นกวักเรียกติงเซวซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกข้อมูลให้เข้ามาแสดงตัวพร้อมในมือที่ถือปากกาและสมุดจดสำหรับเตรียมจดบันทึกเรียบร้อย

  ท่าทางที่เป็นทางการและจริงจังของติงเซวทำให้หลูชูซเวและมู๋หรงยู่เฉิงประหม่าในใจของทั้งคู่พึ่งจะทำความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับสมาชิกทั้งหลายของเขี้ยวหมาป่า

  ทั้งที่ชูฮันไม่อยู่ด้วยซ้ำแต่ทุกคนยังคงทำงานกันอย่างเป็นระเบียบมาตรฐาน!

  หลูชูซเวที่นั่งอยู่ตัดสินใจเปิดประเด็นขึ้นก่อน ในฐานะที่เป็นตัวแทนการพิจารณาการเป็นพันธมิตรระหว่างค่ายตวนและเขี้ยวหมาป่า ค่ายตวนยินดีตจะมอบทรัพยากรให้แก่เขี้ยวหมาป่ามากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แน่นอนว่าทางเขี้ยวหมาป่าจะต้องมอบรายชื่อสิ่งของที่สมเหตุสมผลและให้เวลาที่เหมาะสมแก่เราในการเตรียมการด้วยเช่นกัน 

  ขณะพูดสายตาของหลูชูซเวก็เริ่มดุดันขึ้นเรื่อยๆ สำหรับสารล่อซอมบี้… 

  หลูชูซเวมองเรื่องนี้เป็นเรื่องผิดปกติเธอเชื่อว่าสารล่อซอมบี้นั้นเป็นอาวุธสังหารรุนแรงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เขี้ยวหมาป่ามีอาวุธพลานุภาพแรงสูงนี้มากเกินกว่าพออยู่ในมือ เพราะเหตุนั้นจึงสามารถนำมันมาใช้ควบคุมการต่อรองในครั้งนี้ได้ ดังนั้นหลูชูซเวจึงต้องพูดประเด็นที่อ่อนไหวนี้ด้วยความระมัดระวังอย่างสุดๆ

  ซางจิ่วตี้เงยหน้าขึ้น เขี้ยวหมาป่าของเรามีขอว่า…ค่ายตวนจะต้องส่งมอบของที่เราส่งให้ไปรายชื่อโดยไม่มีข้อแม้ 

  ขณะพูดติงเซวที่อยู่ข้างๆก็แสดงรายชื่อความต้องการยาวเป็นหางว่าวให้หลูชูซเวได้ดู

  หลูชูซเวหันไปมองพร้อมกัดฟันแน่นด้วยความแค้นใจทันทีมันกลายเป็นว่าเธอเปิดทางให้อีกฝ่ายเต็มที่ รายชื่อสิ่งของที่ต้องการนั้นมากมายจนเธอไม่อยากจะเชื่อตาตัวเอง!

   แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะหาของทั้งหมดนี้ได้ในครั้งเดียวค่ายตวนสามารถจัดส่งมันมาได้หลายๆรอบ  ซางจิ่วตี้พูดพร้อมยิ้มหวาน  แต่ละการส่งมอบ เราก็จะส่งสารล่อซอมบี้กลับไปให้ด้วยทุกครั้งในจำนวนเท่ากัน เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่าพวกคุณจะไม่ขาดทุน 

   อืม… หลูชูซเวตะลึง  ไม่ใช่สูตรของสารล่อซอมบี้หลอกเหรอ?! 

   ฉันบอกเมื่อไหร่กันว่าจะให้สูตร? ซางจิ่วตี้เรียนรู้ความร้ายกาจทั้งหมดมาจากชูฮัน

   นี่…นี่มัน…เธอ! หลูชูซเวโกรธจนหน้าดำหน้าแดง ทุกอย่างมันจุกอกจนพูดอะไรไม่ออก

  ถ้าไม่มีสูตรถ้าอย่างนั้นนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับการทำธุรกิจขาดทุนเลย?

   แต่… ทว่าจู่ๆซางจิ่วตี้ก็พูดขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้สายตาของซางจิ่วตี้แน่วแน่ราวกับเธอทำการคำนวณมาแล้ว  ถ้าคุณต้องการสูตร คุณต้องรับข้อแลกเปลี่ยนจากเราสองข้อ 

   อะไรนะ!แต่นี้เป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดจากค่ายตวนแล้ว!  เมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไป หลูชูซเวก็รีบพูดขึ้นทันที

  ซางจิ่วตี้เหลือบมองหลูชูซเวก่อนจะพูดอย่างไม่สนใจ ข้อหนึ่ง ค่ายตวนจะต้องให้ความเคารพเขี้ยวหมาป่า ข้อสองหลังจากผ่านไปครึ่งปี เมื่อเข้าสู่ปีที่สามของโลกาวินาศเราจะมอบสูตรสารล่อซอมบี้ให้ แต่ก่อนหน้าที่เวลานั้นจะมาถึงกรุณาสิ่งของที่เราต้องการมาส่งมอบเพื่อแลกกับสารล่อซอมบี้จากเรา 

 

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท