คัมภีร์วิถีเซียน (จบบริบูรณ์) – ตอนที่ 1893 มารดามาร

คัมภีร์วิถีเซียน (จบบริบูรณ์)

โครงกระดูกนี้นอกจากจะมีดวงตาที่เปล่งแสงสีม่วงแล้วเรือนร่างยังไม่มีเนื้อหนังแขนขาทั้งสี่ร่ายรำปากบริกรรมคาถาทุ้มต่ำออกมาทำให้ผู้คนได้ยินแล้วอดที่จะขนลุกซู่ไม่ได้

ฉับพลันนั้นโครงกระดูกสิบสามตนที่อยู่รอบด้านก็ชูคอกรีดร้องพร้อมกันกระโจนออกมากลายเป็นไอสีดำจมหายเข้าไปในโครงกระดูกตรงกลาง

ชั่วพริบตานั้นร่างของโครงกระดูกก็ขยายใหญ่ขึ้น ในเวลาเดียวกันทุกส่วนของโครงกระดูกก็มีลำแสงหมุนวนโคจรเริ่มเปลี่ยนรูปร่างไป

ได้ยินเพียงเสียงราวกับฟ้าผ่าดังขึ้นโครงกระดูกขยายใหญ่จนมีขนาดเจ็ดสิบแปดสิบจั้ง เปลวมารสีดำวนล้อมรอบร่างกายราวกับมารเทวะสวรรค์ลงมาจุติก็ไม่ปาน แต่หากพิจารณาดีๆ กลับพบว่าตรงทรวงอกของโครงกระดูกยักษ์นี้กลับมีหัวกะโหลกขนาดสองสามฉื่อฝังอยู่มีทั้งหมดสิบสามหัว นั่นก็คือโครงกระดูกสิบสามตัวที่กลายร่างไป

สิ่งที่ยิ่งทำให้ตกตะลึงก็คือโครงกระดูกยักษ์ชูคอร้องคำรามแผ่นหลังพลันมีเสียงระเบิดดังขึ้น คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นแขนกระดูกสีขาวยี่สิบหกแขน

แขนทุกแขนกุมดาบ กระบี่ ขวาน และอาวุธต่างๆ ที่ทำจากกระดูกที่ไม่เหมือนกันเอาไว้โบกสะบัดเล็กน้อย พายุมารปรากฏขึ้น เปลวเพลิงมารหมุนวนคลี่ตัวไปทั่วฟ้าอย่างน่าสะพรึงกลัว

หลังจากที่รวมร่างกลายเป็นโครงกระดูกอัปลักษณ์ยักษ์นั่นก็คือมารดามารของมารแม่ลูกเที่ยงแท้ทั้งสิบสาม

แต่แค่ไม่เหมือนกับเคล็ดวิชามารทั่วไป คาดไม่ถึงว่าท่านหลันจะใช้ร่างของตนเองเป็นเตาหลอมบวงสรวงเป็นร่างมารดามาร

ประโยชน์ของการทำเช่นนี้ย่อมทำให้พลังยุทธ์ของตนเพิ่มขึ้นมีอิทธิฤทธิ์มารหลากหลายแต่ก็มีอันตรายจากการถูกมารแว้งกัด

แต่เพื่อเป็นการตอบแทนเขาที่กลายร่างเป็นมารดามารจะต้องได้รับบาดเจ็บหนักและถูกจิตมารครอบงำเสี่ยงที่จะกลายเป็นมารดามารตลอดกาล

หากไม่ใช่เพราะมารผู้นี้เห็นว่าหานลี่มีอิทธิฤทธิ์เหนือที่คาดไว้สถานการณ์กำลังตกอยู่ในอันตรายเกรงว่าคงไม่มีทางแปลงร่างเป็นมารดามาร

เมื่อรวมร่างกลายเป็นมารดามาร ในหัวของท่านหลันก็ถูกจิตสังหารครอบงำ ความกลัวที่มีต่อหานลี่หายวับไป ปากเปล่งเสียงหัวเราะ “ฮิๆ” ออกมาหนาวเย็นจนเสียดกระดูกและมีหมอกสีเทาปกคลุมอย่างมืดฟ้ามัวดิน

จากนั้นมารดามารก็สะบัดศีรษะใหญ่ยักษ์ร่างกายพลิ้วไหวจมหายเข้าไปในวายุมารอย่างไร้ร่องรอย

จากนี้ยอดเขาในมือของวานรยักษ์ขนสีทองก็ถูกโยนออกมาทำให้ยอดเขาที่อยู่ในบริเวณรอบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ หลังจากที่เห็นว่าเหลือเพียงยอดเขาที่มารดามารยืนอยู่เมื่อครู่ถึงได้เลื่อนสายตามามอง

จึงมองเห็นพายุมารที่หมุนวนเข้ามาพอดี!

วานรยักษ์เบะปากโยนยอดเขาสองลูกไปด้านหน้าโดยไม่เปล่งวาจาอันใด

หลังจากเสียง “ตึงๆ” ดังขึ้น ยอดเขาสีเขียวและดำต้านทานไว้ได้อย่างมั่นคง ลำแสงที่หมุนวนโคจรอยู่ขยายใหญ่ขึ้นพริบตาก็มีความสูงพันจั้งเศษ ไม่ต่างอันใดจากยอดเขาธรรมดาๆ

ภายใต้พายุมารที่หมุนวนโจมตีไปที่ยอดเขาสองลูกอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิดไอเย็นเยียบแผ่ออกมา

กำแพงภูเขาของยอดเขาเปล่งแสงแวววับเกิดเป็นผลึกน้ำแข็งหนาๆ ชั้นหนึ่ง

วานรยักษ์เหยียบย่ำลงไปเสียง “สวบ” ดังขึ้น ร่างใหญ่ยักษ์กระโดดไปที่ยอดเขาดวงตาทั้งสองข้างเปล่งแสงสีฟ้าสว่างวาบค้นหาพายุมารฝั่งตรงข้ามอย่างละเอียด

แต่ครู่ต่อมาวานรตนนี้ก็ส่งเสียงร้องคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว สองมือโจมตีไปที่ฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว

เงากำปั้นสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นพุ่งไปยังพายุมาร

เสียงหัวเราะประหลาดๆ ดัง “คึๆ” ดังขึ้น!

ในพายุมารมีใบมีดลำแสงยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นเช่นกันเปล่งแสงสว่างวาบอักขระยันต์สีโลหิตจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นรางๆ ท่ามกลางใบมีดลำแสงคาดไม่ถึงว่าจะทยอยกันสับเงากำปั้นสีทองที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งไม่อาจทำลายได้ออกไป

จากนั้นใบมีดลำแสงก็ไม่หยุดยั้งเลยสักนิดพลางสับลงมาที่ร่างของวานรยักษ์

วานรยักษ์ขนสีทองเห็นสถานการณ์นี้แววตาพลันมีลำแสงสีฟ้าหมุนวนโคจรเปล่งแสงเจิดจ้าจนแสบตาฉับพลันนั้นพลันกวักมือเรียก เสียงแหวกอากาศดังขึ้นบุปผาสีทองสิบสามดอกพุ่งออกมาหมุนคว้างกลายเป็นแมลงเกราะลายสีม่วงหลายตัว

นั่นก็คือราชาแมลงวิญญาณที่ได้รับเลือกสิบสามตัว

เมื่อครู่พวกมันถูกเขตอาคมกักเอาไว้ชั่วครู่ ในที่สุดยามนี้ก็หลุดพ้นจากพันธนาการมาอยู่ข้างกายของหานลี่แล้ว

แมลงวิญญาณเหล่านี้แทบจะไม่ต้องให้หานลี่กระตุ้นอันใด ก็เปล่งแสงสีม่วงออกมา ร่างกายขยายใหญ่ขึ้น จนมีขนาดสองสามจั้ง และพลิ้วไหวตรงหน้าวานรยักษ์ ชั่วขณะนั้นก็สร้างเงาลวงตาจำนวนนับไม่ถ้วนออกมา

ตรงหน้าของวานรยักษ์ราวกับมีโล่สีม่วงจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นก็ไม่ปาน

แม้ว่าใบมีดลำแสงเหล่านั้นจะแหลมคม แต่เมื่ออยู่บนร่างของแมลงเกราะเหล่านี้ กลับแค่ส่งเสียงครืดๆ ออกมาแล้วทยอยกันสลายหายไป

ความแข็งแกร่งของแมลงกลืนทองกลายพันธุ์นี้ ในโลกนี้แทบจะไม่มีอันใดทำลายพวกมันได้ ใบมีดลำแสงเหล่านี้ย่อมไม่เป็นข้อยกเว้น

ทว่าในยามนั้นเอง เหนือศีรษะของหานลี่ที่กลายเป็นวานรยักษ์พลันมีระลอกคลื่นยักษ์ปรากฏขึ้น จากนั้นเงาสีดำยักษ์ก็ร่อนลงมา และเงาสีดำของใบมีดกระดูกยักษ์ยี่สิบหกเล่มที่กำลังโบกสะบัดก็พาทะเลเพลิงสีดำมาด้วย

ในที่สุดมารลายสีฟ้าที่กลายร่างเป็นมารดามารปรากฏตัวขึ้น และลอบโจมตีหานลี่

วานรยักษ์กลับดูเหมือนว่าจะคาดเดาเอาไว้ตั้งนานแล้ว จึงไม่ได้เผยสีหน้าร้อนรนออกมา กลับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง ไอสีดำบนร่างหมุนวน เกราะสงครามสีดำปรากฏขึ้นจากในร่าง ผิวมีลำแสงสีดำเปล่งแสงสว่างวาบ อักขระยันต์สีดำจำนวนนับไม่ถ้วนทะลักออกมา แล้วห่อหุ้มร่างของเขาเอาไว้

จากนั้นสองมือพลันถูกันไปมา แยกออกกลางอากาศ ประจุไฟฟ้าสีทองขนาดยักษ์พุ่งออกมา กลายเป็นตาข่ายอัสนียักษ์พุ่งไปหาทะเลมาร

เสียง “ตูมๆ” ดังขึ้น เปลวเพลิงมารสีดำและประจุไฟฟ้าสีทองสัมผัสกัน คาดไม่ถึงว่าจะดูเหมือนเป็นคู่ปรับกันแหลกสลายหายไปครึ่งหนึ่ง แต่ใบมีดกระดูกยักษ์เหล่านั้นกลับสับไปที่ศีรษะของวานรยักษ์อย่างไม่ลังเล

วานรยักษ์เผยสีหน้าโหดเหี้ยมออกมา แผ่นหลังเปล่งแสงสีทองเงาลวงตาสีทองของสามเศียรหกกรปรากฏขึ้น กรทั้งหกโบกสะบัดพร้อมกัน ลำแสงสีทองพุ่งออกมาจากกรแต่ละกร

ภายใต้ลำแสงสีทองทั้งหกที่เปล่งแสงสว่างวาบพลันรวมตัวกันเหนือวานรยักษ์และส่งเสียงกรีดร้องกลายเป็นระลอกคลื่นสีทองขนาดสองสามหมู่นั่นก็คืออิทธิฤทธิ์ของเคล็ดวิชาพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์มารเที่ยงแท้ระลอกคลื่นสีทอง!

และภายใต้ลำแสงสีทองเจิดจ้านั้นเงาสีเขียวจางๆ สายหนึ่งพุ่งออกมาจากแผ่นหลังวานรยักษ์จมหายไปในไอมารอย่างไร้ร่องรอย

ยามนี้ระลอกคลื่นสีทองหมุนวนอย่างบ้าคลั่งคลื่นสีทองแผ่ออกมาจากด้านใน

ใบมีดยักษ์ยี่สิบหกเล่มเปล่งแสงสว่างวาบสับลงไปที่ระลอกคลื่นสีทองเหล่านั้น

ระลอกคลื่นสีทองแค่ม้วนวนก็ห่อหุ้มใบมีดยักษ์เอาไว้ข้างใน จากนั้นเงาลวงตาสามเศียรหกกรที่อยู่ด้านหลังวานรยักษ์ก็ร้องตะโกนต่ำๆ ออกมา

ชั่วขณะนั้นพลังแรงดูดมหาศาลก็ปรากฏออกมาจากระลอกคลื่นสีทองภายใต้ประสิทธิภาพของใบมีดยักษ์เหล่านั้นก็สั่นเทาอย่างรุนแรงจากนั้นพลันส่งเสียงร้องประหลาดๆ ทยอยกันพุ่งออกไปถูกระลอกคลื่นสีทองห่อหุ้มเอาไว้ข้างใน

หานลี่ที่กลายเป็นวานรยักษ์พลันตกตะลึงไปเล็กน้อย!

จัดการกับใบมีดยักษ์เหล่านั้นได้อย่างง่ายดายช่างอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาจริงๆ

ครู่ต่อมามารดามารตนนั้นก็เปล่งเสียงหัวเราะประหลาดๆ ออกมามือข้างหนึ่งชี้ไปที่ใบมีดกระดูกยี่สิบสองเล่ม

ใบมีดยักษ์ที่ดูเหมือนจะถูกดูดเข้าไปในระลอกคลื่นสีทองรวมตัวกันและเปล่งแสงสีเทาเจิดจ้าออกมา

พริบตานั้นดอกบัวกระดูกยักษ์ดอกหนึ่งปรากฏขึ้นสร้างขึ้นจากแผ่นกระดูกสีขาวโพลน กลีบทุกกลีบมีอักขระยันต์ปรากฏขึ้นเต็มไปหมดแผ่ลำแสงสีเทาออกมา

ดอกบัวกระดูกยักษ์แค่หมุนคว้างใบมีดลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนก็บินออกมาราวกับพายุฝนคาดไม่ถึงว่าจะแหวกระลอกคลื่นสีทองออกจากนั้นก็ตรงไปหาใจกลางของระลอกคลื่นสีทอง

แต่ในเมื่อระลอกคลื่นสีทองคือสิ่งที่เกิดจากเคล็ดวิชาพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์มารเที่ยงแท้ของหานลี่แน่นอนว่าจึงไม่อาจทำลายได้ง่ายๆ

เศียรเงาลวงตาสีทองสามเศียรบริกรรมคาถา กรทั้งหกร่ายอาคมพร้อมกันบินจมหายเข้าไปในระลอกคลื่น

ระลอกคลื่นสีทองส่งเสียงร้องคำรามระลอกคลื่นสีทองที่ทะลักออกมาจากใจกลางน่าตกตะลึงขึ้นเรื่อยๆ ยามนั้นพลันมีท่าทางไม่ยอมอ่อนข้อให้กับใบมีดลำแสงสีเทาที่แผ่ออกมาจากดอกบัวกระดูก!

มารดามารเห็นการโจมตีของตนเองไม่สำเร็จดวงตาพลันมีแสงสีม่วงเจิดจ้า ดูเหมือนจะร้อนใจขึ้น แขนทั้งยี่สิบหกแขนตะปบไปที่ร่างของตนเองคาดไม่ถึงว่าจะดึงกระดูกออกมาพลิ้วไหวไปกลางอากาศกลายเป็นใบมีดกระดูกยี่สิบหกเล่มชี้ไปที่วานรยักษ์อีกครั้ง

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้หานลี่ที่กลายเป็นวานรยักษ์ก็ใช้สองมือทุบอกอ้าปากออกพ่นเสาลำแสงสีทองออกมาในเวลาเดียวกันกำปั้นทั้งสองก็ปล่อยออกไปอีกครั้งจากนั้นร่างกายก็พุ่งไปที่มารดามารคาดไม่ถึงว่าจะอาศัยพลังป้องกันตัวของเกราะมารที่น่าตกตะลึงสู้กับมารโบราณตรงๆ

และในยามนี้แมลงเกราะลายสีม่วงสิบสามตัวก็ส่งเสียงร้องกระโจนไปหาโครงกระดูกยักษ์

แต่ภายใต้การร้องคำรามของมารดามารหัวกะโหลกตรงทรวงอกเผยสีหน้าโหดเหี้ยมออก มาคาดไม่ถึงว่าจะทยอยกันบินออกมาจากร่างของมารดาพ่นลำแสงสีเขียวมรกตใส่แมลงเกราะทั้งสิบสามตัว

ลำแสงสีเขียวมรกตที่พ่นออกมาจากหัวมรกตเหล่านี้แม้ว่าจะไม่อาจทำอันตรายแมลงเกราะลายสีม่วงได้แต่ก็แฝงอานุภาพแปลกประหลาดเอาไว้ทำให้แมลงกลืนทองเหล่านั้นไม่อาจรับการโจมตีนี้ได้ตรงๆ จึงพัวพันเข้าด้วยกันชั่วคราว

และในยามนี้เงาลวงตาสีทองที่ยังอยู่ที่เดิมเสียงบริกรรมคาถาพลันเบาลงและหยุดร่ายอาคม ในมือเปล่งแสงสีทองเจิดจ้ากลายเป็นร่างทองเที่ยงแท้สีทองเรืองรอง

ไอสีดำแผ่ออกมาจากศีรษะตรงกลางของร่างทองเผยทารกวิญญาณสีดำสูงสองสามชุ่นออกมา

ทารกวิญญาณนี้มีหน้าตาเหมือนกับหานลี่ทุกกระเบียดนิ้วสองมือกุมมีดสั้นสีม่วงเอาไว้มองมารดามารที่อยู่สูงกว่าด้วยแววตาเย็นชาแค่นเสียง หึ แล้วพลิ้วกายจมหายเข้าไปในหน้าผากอีกครั้ง

ครู่ต่อมาร่างทองสามเศียรก็ขยับดวงตาทั้งหกเปล่งแสงสีทองสว่างวาบ แขนข้างหนึ่งพลิกฝ่ามือใบมีดสั้นสีม่วงที่เดิมถูกทารกวิญญาณสีดำกุมเอาไว้ปรากฏขึ้นขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิมสิบเท่า

เศียรทั้งสามสะบัดเสียงบริกรรมคาถาดังขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง แขนที่เหลือทั้งห้าโบกสะบัด อักขระยันต์สีทองแผ่ออกมาจากฝ่ามือใบมีดชำรุดสีม่วงเล่มนั้นเปล่งแสงสว่างวาบหมอกลำแสงห้าสีทะลักออกมาจากใบมีดนั้น

แทบจะในเวลาเดียวกันพลังหลักเกณฑ์ฟ้าดินก็ตลบอบอวลไปทั่วท้องฟ้า

คัมภีร์วิถีเซียน (จบบริบูรณ์)

คัมภีร์วิถีเซียน (จบบริบูรณ์)

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท