Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 1140 ความลับของหวังไค

ตอนที่ 1140 ความลับของหวังไค

ตอนที่ 1140 ความลับของหวังไค

  ชั้นบนสุดของคฤหาสน์ตระกูลป่ายนอกจากจะมีคริสตัลสีฟ้าขนาดใหญ่ห้อยอยู่แล้วชั้นล่างสุดก็มีการตกแต่งอย่างหรูหราทั้งๆที่มันผ่านมาเป็นเวลาพันปีแล้ว แต่การตกแต่งภายในรวมถึงเครื่องเรือนต่างๆนั้นบ่งบอกถึงฐานะอันมีจะกิน แม้ว่าเวลาจะผ่านมายาวนานมากแต่ดูจากทุกอย่างแล้วมันไม่ได้ยากจะบ่งบอกเลยว่าในช่วงเวลานั้นตระกูลป่ายร่ำรวยมากแค่ไหน

  มันทั้งใหญ่โตกว้างใหญ่ไพศาลแม้แต่เตียงนอนยังมีขนาดใหญ่มาก

  สายฟ้าที่ฟาดใส่ชูฮันนั้นไม่เบามันสร้างบาดแผลร้ายแรงให้แก่ชูฮันและเรียกเลือดเขาได้อีก ถ้าไม่ใช่เพราะชูฮันเป็นวิวัฒนาการระยะ 6 และมีระบบการกู้คืนการบาดเจ็บจากระบบล่มสลายละก็ ป่านนี้เขาคงตายไปนานแล้ย ผิวของเขาแทบจะลอกออกมาด้วยซ้ำ ผิวชั้นนอกเกือบทั้งหมดดำเป็นถ่านและเปื่อยรุ่ยเพียงแค่มือใครมาเตะผิวหนังเขาก็จะลอกหลุดติดมือคนคนนั้นไปด้วยทันที

  ดังนั้นตลอดสองวันที่ผ่านมาชูฮันจึงได้แต่นอนนิ่งรักษาตัวอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ในคฤหาสน์ของตระกูลป่าย แถมยังมีป่ายหวีเนอสาวสวยแห่งตระกูลป่ายคอยดูแลอาการบาดเจ็บอยู่ข้างกาย

  หวังไคก็อยู่ข้างๆและทันทีที่ชูฮันได้สติมันก็เปลี่ยนร่างกลับไปที่ขนาดเท่าฝ่ามือและซุกตัวอยู่ในกระเป๋าชูฮันเหมือนเดิมเนื่องจากอาการบาดเจ็บทำให้ชูฮันตกอยู่ในโหมดฟื้นฟูตัวเองและนอนหลับสนิทอยู่แต่บนเตียง

   ชูฮันไหนนายเก่งหนัก ทำไมแค่โดนสายฟ้าอัดแค่นี้ถึงขั้นเกือบตายเลย?  หวังไคที่เห็นชูฮันกระพริบตาก็เริ่มพูดจายั่วโมโหทันที  ตอนนี้นายมีสีผิวพิเศษที่สุดกว่าใคร มีทั้งสีดำสลับขาว? เชื่อมั้ยว่าตอนนั้นหลังจากโดนสายฟ้าฟาด ตัวนายดำปี๋เหมือนถ่านเลย ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันสามารถหัวเราะเรื่องนี้ได้อีกเป็นปีเลย!    ชูฮันหน้าตึง ทำไมนายไม่ตาย? 

  ดูสภาพเขาสิตอนนี้ตัวเขาไม่สามารถลุกจากเตียงได้ด้วยซ้ำ แล้วทำไมหวังไคถึงปกติดี?

  ขณะที่เสียงหัวเราะของหวังไคยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆท่ามกลางบรรยากาศในห้องที่มืดสนิททันใดนั้นประตูก็ค่อยๆถูกเปิดออก ตามมาด้วยป่ายหวีเนอที่เดินเข้ามาพร้อมกับผลไม้และผักที่เธอหาได้จากข้างนอก ซึ่งมนุษย์สามารถกินได้มันไม่มีพิษอันตรายอะไรและเนื่องจากเงื่อนไขที่จำกัดทั้งหลายทำให้พวกเขาไม่มีเนื้อสัตว์ให้กิน

  ป่ายหวีเนอวางผลไม้และผักบนโต๊ะข้างหัวเตียงนอนของชูฮันจากนั้นก็ชำเลืองมองมาที่หวังไคเล็กน้อย  นายออกไปข้างนอกก่อน ฉันมีบางอย่างจะคุยกับชูฮัน 

  หวังไคบิดตัวเล็กน้อยและกระโดดออกไปจากห้องทันที

  ภาพที่เกิดขึ้นทำให้ชูฮันมองตามอย่างงุนงงเขาค้นพบว่าหวังไคจะทำตัวดียามที่อยู่ต่อหน้าเกาช้าวฮุ่ย ป่ายหวีเนอหรือเสี่ยวชี แต่กับเขานั้นหวังไคจะไม่มีความเกรงกลัวใดๆเลย

  ตอนที่เหลือแค่ทั้งสองคนอยู่ในห้องชูฮันก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดมากกว่าเดิมเข้าไปอีก โดยเฉพาะเมื่อตัวเขาอยู่ในสภาพย่ำแย่ การเคลื่อนไหวร่างกายนั้นก็ยังไม่สะดวกดี

  เขายังไม่ลืมว่าตอนที่เขาตื่นขึ้นมาและดีดตัวขึ้นทำให้ปากของเขาบังเอิญชนกับปากของป่ายหวีเนอ!

  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือตั้งแต่ตอนนั้นป่ายหวีเนอไม่แม้แต่จะเอ่ยถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นอีกเลยแม้แต่น้อยชูฮันเองก็อึดอัดใจ เขามองจ้องออกไปทางหน้าต่างเพื่อหลบสายตา  เรื่องกระต่าย…คุณไม่อยากคุยกับฉันรึเปล่า? 

  ชูฮันหันกลับมาจ้องตากับป่ายหวีเนออยู่พักหนึ่งตาของป่ายหวีเนอในขณะนี้โตใสชัดแจ๋ว มันไม่มีความสับสนและเย็นชาอย่างที่เคยเห็นเมื่อตอนที่ท่าเรือหนานช้า

   ความทรงจำของคุณกลับคืนมารึยัง? นี่คือความคิดแรกที่พุ่งขึ้นมาในหัวชูฮัน

  ป่ายหวีเนอส่ายหัว ยัง ฉันรู้จักคุณแต่ฉันไม่สามารถนึกย้อนความทรงจำเก่าได้ 

  ชูฮันมีแอบผิดหวังเล็กน้อยและรู้สึกว่าแรงกดดันมันหนักเกินไป

   แต่… ทันใดนั้นคำพูดของป่ายหวีเนอก็ทำให้ขูฮันหันขวับมาฟังด้วยความสนใจ  ถึงฉันจะยังจำเรื่องราวเฉพาะอะไรไม่ได้ แต่ฉันจำความรู้สึกตอนที่ฉันอยู่กับคุณได้ โดยเฉพาะตอนที่เราเจอกันครั้งแรก…เราเคยรู้จักกันงั้นเหรอ? 

  ชูฮันตาเป็นประกายวาวทันทีเขาดีใจจนเกือบจะตะโกนออกมา  ใช่แล้ว เราเคยรู้จักกัน! 

   โอ้ ซึ่งมันทำให้น้ำเสียงของป่ายหวีเนอเปลี่ยนไปทันที  ถ้างั้น คุณก็ไม่กลัว… 

  ชูฮันชะงักค้างกลางอากาศอย่างไม่กล้าพูดต่อ

  มองเห็นท่าทางเงอะงักของชูฮันป่ายหวีเนอก็ระเบิดหัวเราะออกมา ทำให้ชูฮันที่เห็นภาพนั้นหน้าแดงด้วยความเขินทันที

   ฉันได้อ่านเรื่องราวกับเกี่ยวกับความลับของตระกูลป่ายมา จู่ๆป่ายหวีเนอก็พูดขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงของเธอนั้นมีระดับชั้นอารมณ์และแสดงถึงอำนาจของผู้พูดได้เป็นอย่างดี  มันมีหนังสือโบราณที่ระบุว่าสิ่งมีชีวิตอย่างกระต่ายนั้นมีความคิดเหมือนมนุษย์และสามารถพูดคุยเข้าใจภาษามนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยม 

  นัยน์ตาของชูฮันหดวูบ พูดเรื่องกระต่าย? สัตว์ประหลาดเหรอ? 

   ใช่เหมือนกับหวังไคที่อยู่ข้างกายนาย  ป่ายหวีเนอมีสีหน้าจริงจัง หากเธอก็รีบพยายามปรับสีหน้าและสายตาทันทีที่รู้สึกตัว  สิ่งมีชีวิตนี้ถูกจำแนกออกไปหลายกิ่งก้านโดยอ้างอิงจากสีต่างๆ พวกกระต่ายสายปกป้องจะเป็นสีเทา นักสู้จะเป็นสีแดง และหัวหน้าจะเป็นสีฟ้า… 

  ป่ายหวีเนอค่อยๆไล่มาทีละสีก่อนที่ในตอนสุดท้ายน้ำจะเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา  สีสุดท้าย สีขาวคือราชวงศ์ 

   ฟุบ—- ชูฮันแทบจะสำลัก เขานิ่งงันไปทันที

  พระเจ้าช่วยกระต่ายสีขาวคือราชวงศ์?

  แล้วเจ้าโง่หวังไคละ?!

  ป่ายหวีเนอเห็นความตกใจในแววตาของชูฮันเธอจึงพูดต่อ  แต่ในหนังสือโบราณบันทึกไว้ไม่ครอบคลุม เพราะส่วนใหญ่ของประวัติศาสตร์ได้ถูกทำลายไม่เหลือแล้ว มีเพียงแค่บันทึกหน้าสุดท้ายที่บอกว่ากระต่ายเผ่าพันธุ์นี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว 

  ชูฮันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับตัวของหวังไคขึ้นมาถ้ามันไม่ได้มีชีวิตจริงๆ…แล้วทำไมมันถึงกินเหมือนสิ่งมีชีวิตปกติทั่วไป?

  แล้วถ้ามันมีชีวิตจริงๆทำไมมันถึงอยู่ในระบบล่มสลาย?

   นายคิดยังไงเกี่ยวกับพวกกระต่ายสีเทาที่เราเจอตอนมาถึงที่นี้? ทันใดนั้นป่ายหวีเนอก็ถามขึ้นมา

  ชูฮันพยายามปรับความคิดที่ยุ่งเหยิงในหัวก่อนจะถามกลับ มีใครรู้เรื่องนี้อีกบ้าง? 

  ถ้าตระกูลลึกลับควบคุมความลับนี้แล้วตัวเขากับหวังไคจะตกอยู่ในอันตรายขนาดไหนกัน?

   เกาช้าวฮุ่ยไม่รู้แต่จะไปรู้ได้อย่างไรว่าตระกูลเการู้หรือไม่ ฉันก็ไม่รู้  ป่ายหวีเนอตอบตรงๆ  ส่วนสำหรับตระกูลป่าย ฉันสามารถยืนยันได้แค่ว่าป่ายหยูที่เป็นคนของตระกูลป่ายไม่รู้ แต่สำหรับคนอื่นนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ป่ายหยูไม่แยแสประวัติศาสตร์ ไม่อย่างนั้นคนที่ควรจะอยู่ที่นี้ในตอนนี้จะไม่มีทางเป็นฉัน 

  ชูฮันฟังคำบอกของป่ายหวีเนอและคิดตาม

   จุดที่สำคัญที่สุด จู่ๆป่ายหวีเนอก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้น้ำเสียงลุ่มลึกและดูน่าสงสัย  หนังสือโบราณบันทึกว่ากระต่ายสายพันธุ์ราชวงศ์นั้นเก็บความลับเกี่ยวกับทั้งโลกเอาไว้! 

 

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท