Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 1151 ความวุ่นวายในหมู่บ้านมนุษย์ปลา

ตอนที่ 1151 ความวุ่นวายในหมู่บ้านมนุษย์ปลา

ตอนที่ 1151 ความวุ่นวายในหมู่บ้านมนุษย์ปลา

  ที่หาดชายทะเลซึ่งซ่อนอยู่ในหุบเขาหยินหยางที่ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของเผ่ามนุษย์ปลา ตอนนี้เหล่ามนุษย์ปลาทั้งหลายมารวมตัวกัน แต่ละคนมีสีหน้าและอารมณ์หลากหลายแตกต่างกันไป ทั้งโกรธ อับอาย โมโห ไม่ชอบใจ

  และก็มีกลุ่มคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้คุมไล่ตรวจเช็คห้องและบ้านพักของทุกคนไปมา สีหน้าจริงจังและดูวิตกกังวล ราวกับว่าพวกเขากำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่

  ยู่ยงหนานยืนอยู่ตรงหน้าคนของเผ่าตัวเองและตะโกนพูดเพื่อให้ทุกคนได้ยิน ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสสุดท้ายที่จะสารภาพกับฉันว่าใครเป็นคนขโมยเกล็ดนางเงือกสีทองของนักบุญจากอดีตพันปีก่อนไป? ไม่อย่างนั้นฉันจะ—- 

  น้ำเสียงขู่อันดุดันของยู่ยงหนานดังก้องไปทั่วผู้อาวุโสที่อยู่ข้างๆรีบแทรกตัวขึ้นมาเพื่อคุมสถานการณ์ให้ตึงเครียดน้อยลงโดยพยายามใช้น้ำเสียงที่อ่อนลง  ฉันรู้ว่าทุกคนพึ่งจะกลับมาถึงบ้านกัน แต่ก็ยังสงสัยเกี่ยวกับทุกอย่างที่นี้ มันทั้งน่าตื่นเต้นและน่าสงสัยไม่น้อย มันเข้าใจได้ถ้าบางคนอาจจะเผลอหยิบเกล็ดนางเงือกสีทองไปเพราะความอยากรู้อยากเห็น 

   แต่… เมื่อพูดมาถึงตรงนี้น้ำเสียงของผู้อาวุโสก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง  เกล็ดนางเงือกสีทองทั้งสองชิ้นนี้เป็นของนักบุญเมื่อพันปีก่อนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของท้องทะเลของเรา มันถูกส่งต่อผ่านนักบุญรุ่นต่อรุ่นมาเป็นเวลานานและมีความสำคัญมากๆต่อหลายอย่าง แต่กลับมาสูญหายในรุ่นของเรา แล้วแบบนี้พวกเราจะกล้าไปเผชิญกับบรรพบุรุษได้อย่างไร? 

  คำพูดของผู้อาวุโสสามารถกระตุ้นเสียงตื่นตัวและตกใจของเหล่ามนุษย์ปลาทั้งหลายจนดังก้องไปทั่วพวกเขาต่างเลิกเสื้อผ้าขึ้นและร้องตะโกนกันไปมาจนเกิดเป็นความวุ่นวายขนาดย่อม

   ใครขโมยไป?แสดงตัวออกมา! 

   มันเป็นของทุกคนอย่าแอบเอาไปใช้เพื่อสนองตัณหาของตัวเองคนเดียว! 

   ต่อให้ขโมยไปได้ก็เอาไปใช้ทำอะไรเองไม่ได้อยู่ดี! 

   มีแค่นักบุญเท่านั้นที่สามารถสัมผัสเกล็ดนางเงือกสีทองนี้ได้เพราะมันเป็นของสืบทอดต่อจากนักบุญแต่ละรุ่นเท่านั้น! 

   เอาไปคืนท่านนักบุญเดี๋ยวนี้! 

  เสียงตะโกนโวยวายยังคงดังต่อไปโดยไม่มีใครแสดงตัวออกมาเพื่อส่งมอบเกล็ดนางเงือกสีทองคืนเลยจนทีมที่ทำการตรวจสอบที่พักของทุกคนก็กลับมาในที่สุด

   เป็นยังไงบ้าง? ยู่ยงหนานรีบถามทันทีด้วยความกังวล

  หัวหน้าทีมส่ายหัวปฏิเสธ ขอโทษครับท่านหัวหน้า ผมหาไม่เจอครับ 

  ยู่ยงหนาานสีหน้าเคร่งเครียดหนักกว่าเดิม ทำไมถึงหาไม่เจอ ได้หาดูดีแล้วรึยัง?! 

  หัวหน้าทีมตรวจสอบปาดเหงื่อบนหน้าผากออก พวกผมได้ทำการรื้อค้นตั้งแต่ข้างในยันข้างนอกทุกจุดแล้ว แถมยังตรวจซ้ำอีกรอบหนึ่งด้วย แต่ก็ไม่พบจริงๆครับ! 

  ยู่ยงหนานตะคอกกลับด้วยความโมโห ใครก็ตามที่ได้เกล็ดนางเงือดสีทองไปยังไม่ได้ออกไปจากพื้นที่ของเรา ถ้าจะออกไปพวกเราต้องรู้และคนที่ขโมยก็ไม่ได้มีปีกที่จะบินได้ 

  และในตอนนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังที่มีร่องรอยความแคลงใจดังขึ้นมา เป็นไปได้มั้ยว่าจะเป็นคนนอกคนนั้นที่เข้ามาในพื้นที่ของเราขโมยไป? 

   ใช่แล้ว! คนที่เหลือมีปฏิกิริยาตอบสนองทันที  ฉันจำได้ว่าเขาชื่อชูฮัน ใช่มั้ย? 

   โอ้ฉันลืมนึกไปเลย! 

   เราถือว่าเขาเป็นเพื่อนและชวนเขาเข้ามาในบ้านของเราเราบอกความลับของเราให้เขาฟังแต่เขากลับขโมยของเราไป? 

   เกินไปแล้ว! 

   แต่ตอนนี้เขาไปแล้วแล้วแบบนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี? 

  ยู่ยงหนาตะลึงค้างอย่างทำอะไรไม่ถูกเขาหันหน้าไปส่งสายตาถามผู้อาวุโสเป็นนัยว่า…ชูฮันขโมยไปเหรอ? คิดว่าไง?

  มันค่อนข้างเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะสุดท้ายแล้วยู่ยงหนานพูดกับชูฮันเองว่าตราบใดที่ชูฮันยินดีจะช่วย เขาสามารถให้อะไรกับชูฮันก็ได้ แต่การขโมย…?

  การขโมยแบบนี้มันไม่ถูกต้อง

  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือยู่ยงหนานให้คำสัญญาว่าเขาจะมอบชูฮันในที่สิ่งเขาสามารถให้ได้แต่สำหรับของส่วนตัวของนักบุญ ยู่ยงหนานไม่มีสิทธิในส่วนนี้!

  ถ้าเป็นฝีมือของชูฮันขึ้นมาจริงๆเขาจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี?

  ขณะที่เสียงของความสงสัยและอารมณ์โกรธดังผสมกันไปมาอย่างต่อเนื่องนักบุญนางเงือกสาวที่ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อนก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคน เธออยู่ในชุดที่เหมือนกับทุกๆคน แต่ของเธอนั้นมันเป็นแค่ผ้าผืนสีขาวเรียบๆที่สวมลงมาเพื่อปกปิดร่างกายเท่านั้น ทว่าอำนาจที่แผ่ออกมารอบๆตัวนั้นกลับทำให้เธอโดดเด่นอย่างชัดเจน

   ท่านนักบุญ! 

   ท่านนักบุญศักดิ์สิทธิอยู่ที่นี้! 

   ท่านแม่พระ! 

  ชาวมนุษย์ปลาทั้งหลายมัวแต่วุ่นวายอยู่กับการแสดงความเคารพจนลืมอารมณ์ก่อนหน้านี้ไปเลย

  นักบุญสาวกวาดสายมองไปที่ชาวมนุษย์ปลาและหันไปขึ้นเสียงใส่ยู่ยงหนาน ฉันไม่ชอบชูฮันเลยจริงๆ 

  คำพูดของนักบุญสาวได้กระตุ้นอารมณ์ของทุกคนให้พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง

   ดูเหมือนจะเป็นฝีมือของชูฮัน?     เลวมาก! 

   งั้นพวกเราออกไปรอเขาตรงทางออกของหุบเขาหยางกัน! 

   ฉันจะพาเขากลับมาที่นี้ให้ได้ต่อให้ต้องฉีกร่างเขาเป็นชิ้นๆ! 

  ยู่ยงหนานได้แต่ยืนมองภาพความรุนแรงที่เริ่มทวีคูณขึ้นตรงหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูกและอดไม่ได้ที่จะหันไปมองน้องสาวของเขาอย่างเหงื่อตกแถมยังส่งสายตาอ้อนวอนไปหาน้องสาวด้วยซ้ำ…ถ้าชูฮันเอาเกล็ดนางเงือกสีทองไปจริงๆ มันอาจจะดีถ้าช่วยเขาในหุบเขาหยางและนำของที่เราต้องการกลับมาให้ได้ เพราะมันก็ไม่สมควรนะที่จะให้ชูฮันเอาชีวิตไปเสี่ยงโดยไม่มีตัวช่วยเลย? 

  ในตอนนั้นชาวมนุษย์ปลาทั้งหลายที่ตื่นเต้นและเตรียมตัวรวมพลเพื่อไปดักรอชูฮันที่ทางออกของหุบเขาหยางทันใดนั้นนักบุญสาวก็ส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันพลิกสถานการณ์ได้จากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว   แม้ว่าฉันจะไม่ชอบชูฮันแต่เขาไม่ได้ขโมยสิ่งนั้นไป  นักบุญสาวพูดยืนยันออกไป

  ทันใดนั้นบรรยากาศทั้งหมดก็หยุดนิ่งและเงียบสงบทันทีทุกคนต่างมองไปที่นักบุญสาวด้วยสายตาตะลึงงัน โดยเฉพาะยู่ยงหนานที่ไม่สามารถหันหน้าไปเผชิญกับทุกคนได้เพราะมันยากที่เขาจะจัดการสีหน้าตัวเอง ไม่อย่างนั้นเขาคงจะได้แสดงสีหน้าเหรอหราให้กับทุกคนเห็นไปแล้ว

   ทำไม? บางคนเอ่ยขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ  ทำไมท่านนักบุญถึงมั่นใจว่าชูฮันไม่ได้ขโมยไป? 

  หลายๆคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วยทันทีเพราะที่ผ่านมาชนเผ่ามนุษย์ปลาทุกคนรวมใจกันเป็นหนึ่งมาตลอดและไม่เคยมีปัญหาใดๆ นอกจากคนนอกอย่างชูฮันแล้ว พวกเขาก็ไม่เคยต้อนรับคนอื่นอีกและหลังจากที่ชูฮันมาของสำคัญของพวกเขาก็หายไป แล้วแบบนี้จะไม่ใช่ฝีมือชูฮันได้อย่างไร?

  มองไปที่ทุกคนที่ต้องการคำอธิบายนักบุญสาวก็พูดต่อ  ตั้งแต่ที่ฉันเป็นนักบุญ ฉันสามารถสัมผัสได้ถึงเกล็ดนางเงือกสีทองอยู่เสมอ มันเป็นความรู้สึกละเอียดอ่อนที่เชื่อมโยงเข้ากับตัวฉัน 

  ขณะพูดนักบุญสาวก็ยกมือขึ้นมากุมตรงหน้าอกและนิ่วหน้า ถ้าเกล็ดนางเงือกทองถูกขโมยไปและอยู่ในระยะที่กำหนด ฉันจะสามารถสัมผัสได้ ต่อให้มันถูกกลืนลงท้องไปฉันก็ยังหาเจออยู่ดี แต่ตอนที่ชูฮันออกไปจากหมู่บ้านของเรา มันไม่มีความผันผวนหรือเปลี่ยนแปลงใดๆต่อสัมผัสของเกล็ดนางเงือกสีทองเลย 

   เพราะฉะนั้น ในที่สุดนักบุญสาวก็ตัดสินใจที่จะสรุป  มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นชูฮัน! 

  คราวนี้ทุกคนก็ยอมรับได้อย่างที่นักบุญสาวยืนยันเพราะถึงอย่างไรนักบุญก็คือนักบุญที่พวกเขาไม่มีทางเทียบถึง

  หลังจากนั้นอารมณ์ของทุกคนก็ค่อยเริ่มสลายลงได้แต่มองนักบุญสาวด้วยสายตาที่ยังคลางแคลงใจเล็กน้อย ในเมื่อนักบุญสาวบอกว่าชูฮันไม่ได้เป็นคนขโมยไป แล้วแบบนั้นตอนแรกทำไมถึงได้พูดขึ้นมาว่าไม่ชอบชูฮัน? ปล่อยให้พวกเขาเข้าใจผิดทำไม!

  ยู่ยงหนานที่สบโอกาสก็รีบตะโกนดังก้องขึ้นฟ้าเพื่อดึงดูดความสนใจของทุกคนแทน แล้วแบบนี้เกล็ดนางเงือกสีทองทั้งสองชิ้นหายไปไหน?! 

  แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางรู้ว่าหวังไคเป็นคนนำไปเก็บไว้ในประตูมิติส่วนตัวในตอนที่ขโมยเกล็ดนางเงือกสีทองทั้งสองชิ้นไปนอกเหนือจากประตูมิติส่วนตัวของชูฮันแล้ว หวังไคที่เป็นคนควบคุมระบบล่มสลายและการจัดการส่วนใหญ่ของระบบทั้งหมด แน่นอนว่ามันจะต้องมีพื้นที่ส่วนตัวที่เปรียบเสมือนกับห้องนิรภัยเล็กๆของมันเองเช่นกัน

  ลักษณะพิเศษของประตูมิติคือกาารปิดกั้นการเข้าถึงจากโลกภายนอกทั้งหมดดังนั้นแน่นอนว่านักบุญสาวจึงไม่สามารถสัมผัสถึงการเชื่อมต่อกับเกล็ดนางเงือกสีทองที่หายไปได้

 

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท