ตอนที่ 1157 เข้มงวดอะไรกัน
ตวนเจียงเหว่ยมองด้วยสายตกใจอย่างเปิดเผยเฉินช่าวเย่ที่นั่งหลับตาอยู่ในโลกของตัวเองก็สัมผัสได้ถึงสายตาของตวนเจียงเหว่ย เฉินช่าวเย่จึงลืมตาขึ้นและมองกลับไป จากนั้น…
ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเผยให้เห็นรอยยิ้มเยาะบนสีหน้านิ่งๆไร้อารมณ์!
ตวนเจียงเหว่ยเกือบจะสำลักเมื่อเห็นสายตาและท่าทางของเฉินช่าวเย่ที่มองมาที่เขาในขณะเดียวกันตวนเจียงเหว่ยกลับขยับตัวไม่ออก เขาได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ
นี่คือตัวแทนพิเศษจากเขี้ยวหมาป่าจริงๆเหรอ?
รู้บ้างมั้ยว่าตอนนี้มันมีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้น?
ทั้งๆที่เขาหันไปจ้องมองทว่าไม่เพียงแต่จะไม่มีปฏิกริยาตอบสนองแล้ว แต่กลับยิ้มเยาะใส่เขาอีก?
ไอ้อ้วนหมูตอนเอ๊ย!
เฉินช่าวเย่ไม่ได้รับรู้อารมณ์ภายในใจของตวนเจียงเหว่ยหลังจากที่เขายิ้มเยาะใส่ตวนเจียงเหว่ย เฉินช่าวเย่ก็ยังคงนั่งอยู่ด้วยท่าทีเดิม หน้าตานิ่งและดูใสซื่อ
ตั้งแต่ที่เขี้ยวหมาป่าได้ตัดสินใจว่าจะส่งเฉินช่าวเย่มาเปนตัวแทนพวกเขาก็ได้เตรียมแผนการในการรับมือกับการประชุมครั้งนี้ให้เฉินช่าวเย่แล้ว ไม่ต้องมีการตอบสนอง ไม่ต้องแสดงอารมณ์ ไม่ต้องได้ยิน ไม่ต้องพูด ไม่ต้องเสนอความคิดเหน และทำเป็นไม่รู้ตัวเวลาถูกถาม และเมื่อถูกบอกให้ลงคะแนนเฉินช่าวเย่จะต้องปฏิเสธ เพราะจะต้องรอให้ชูฮันกลับมาดำเนินการต่อเอง ไม่ว่าอย่างไร…การตัดสินใจจะต้องเป็นของชูฮัน
ตั้งแต่แรกเฉินช่าวเย่ไม่ได้ให้ความสนใจกับการประชุมเลยเขาทำตัวเป็นแค่ชายอ้วนโง่ๆที่เอาแต่นั่งขี้เกียจไม่ขยับ
ดังนั้นเมื่อทั้งหองประชุมตกอยู่ในสภาวะตื่นเต้นกันถ้วนหน้าการตอบสนองของเฉินช่าวเย่จึงเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมากที่สุดและแทบจะทำให้ตวนเจียงเหว่ยกระอักเลือด
ในที่สุดหลังจากที่ห้องประชุมตกอยู่ในเสียงพูดคุยดังก้องอยู่นานตอนที่อารมณ์ของทุกคนเริ่มสงบลงและในที่สุดก็เริ่มปรับอารมณ์ได้ ลดความตื่นเต้นลง ในเมื่อทุกคนต่างก็รู้กันอยู่แล้ว เราไม่จำเป็นต้องทำให้การพูดคุยครั้งนี้ตึงเครียด แต่ขอย้ำว่าข่าวที่เราชี้แจงกันในที่ประชุมวันนี้จะต้องไม่รั่วไหลออกไปข้างนอกเด็ดขาด ไม่เพียงแค่เพราะเป็นการเก็บความลับเพื่อความปลอดภัยของผู้รอดชีวิตทุกคน แต่ยังเป็นการรักษาความปลอดภัยของค่ายทั้งหลายด้วย! ผู้เข้าร่วมทุกคนจะได้รับการแจ้งเตือนการเริ่มทำการโจมตีในภายหลัว ซึ่งวิธีการจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับผู้นำของแต่ละค่ายที่จะนำกลยุทธ์และวิธีการไปปรับเปลี่ยนและประยุกต์ใช้กันเอง สาเหตุนั้นก็ตรงๆเพื่อป้องกันไม่ให้พวกลูกผสมล่วงรู้ก่อน!
ผู้ฟังทุกคนต่างฟังกันอย่างสงยนิ่งและตั้งใจพร้อมกับหน้าที่นิ่วคิ้วขมวดไปด้วย
ส่วนสมาชิกของซางจิงอีกคนก็กวาดสายตามองทุกคนในห้องก่อนจะพูดขึ้นเสริม นี้ไม่ใช่การปรึกษาหารือความเห็นจากพวกคุณ แต่เป็นคำสั่ง! กองกำลังทุกค่ายจะต้องสาบานเพื่อการรักษาความลับ นอกเหนือจากทางเราจะอนุญาตให้แจ้งข้อมูลส่วนไหนกับทางเจ้าหน้าที่หลักของแต่ละค่ายแล้ว ไม่มีใครสามารถปริปากพูดข้อมูลทุกอย่างในการประชุมวันนี้ได้ทั้งนั้น! มากไปกว่านั้น ผู้นำทุกคนจะต้องส่งมอบรายชื่อของเจ้าหน้าที่หลักทั้งหลายในค่ายตัวเองก่อนที่ผู้นำทุกคนจะเดินกลับค่ายไป!
ช่างเง้มขวดช่างละเอียดยิบย่อยสุดๆ แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่แข็งแกร่งและไม่ยอมให้เกิดการผิดพลาดใดๆ
สาบาน! ผู้บัญชาการมู๋ลุกขึ้นยืนและประกาศนำก่อน *&^%^&*!(!!!
ทุกคนลุกข้ึนยืนตามกันหมดและทำการสาบานกับผู้บัญชาการมู๋อย่างพร้อมเพรียงจนเสียงดังกึกก้อง
หลังจากกล่าวคำสาบานเรียบร้อยทุกคนก็กลับสู่ที่นั่ง ตามมาด้วยเนื้อหาของการทำสงครามก็ถูกเปิดเผยอย่างละเอียด แต่ละสมาชิกหลักของซางจิงต่างออกคำสั่งแต่ละเรื่องแยกกันไป
เป้าหมายของเราไม่ใช่เพียงแค่กวาดล้างพวกลูกผสมแต่เป็นการลบเผ่าพันธุ์ของพวกมันออกไปจากแผ่นดินจีน เพื่อลดอำนาจในการควบคุมของซอมบี้ทั้งหลายที่อยู่ในมือของพวกลูกผสมรอบๆค่ายลูกผสม!
การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการตอบโต้ครั้งสำคัญของมนุษยชาติ!
เวลาสำหรับการเตรียมการในการทำสงครามคือครึ่งปี!
สมาชิกหลักของซางจิงได้ทำการตัดสินใจที่จะก่อตั้งแผนกกลยุทธ์การรบขึ้นหลังจากการประชุมนี้เป็นต้นไปโดยมีเป้าหมายโดยเฉพาะเพื่อสงครามครั้งนี้ สมาชิกของแผนกนี้จะห้ามไปจากซางจิงนับตั้งแต่ตอนนี้ หลังจากมีการเจรจาเชิงกลยุทธ์เสร็จเรียบร้อยทางเราจะทำการส่งมอบข้อมูลต่อให้กับผู้นำค่ายทั้งหลายเองกับมือ
หลังจากพูดจบก็กวาดสายตาสบตากับทุกคนอย่างละเอียด ผู้ที่ถูกขานชื่อต่อไปนี้คือสมาชิกของแผนกกลยุทธ์…
กองกำลังจะถูกแบ่งทีมออกเป็นสิบห้าทีมตามภูมิภาคโดยจะมีซางจิงและค่ายที่อยู่รอบๆเขตพื้นที่ของซางจิวจะชื่อว่ากองกำลังซางจิง ค่ายเทียนหยางและค่ายรอบๆในพื้นที่จะชื่อว่ากองกำลังเทียนหยาง ค่ายหนานตู้และค่ายรอบๆพื้นที่จะชื่อว่ากองกำลังหนานตู้…ค่ายเขี้ยวหมาป่าและค่ายรอบๆพื้นที่จะชื่อว่ากองกำลังเขี้ยวหมาป่า! จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกกองกำลังย่อยต่างๆนั่นมีการฝึกอย่างเข้มข้นที่สุดและพยายามเพิ่มจำนวนพลทหารโดยรวมทั้งหมดให้ได้มากที่สุดภายในเวลาหกเดือน!
ผู้บัญชาการสูงสุดในแต่ละภูมิภาคคือพลเอกนอกเหนือจากพลเอกในปัจจุบันที่มีทั้งหมดสิบสามคนแล้ว จะมีผู้มีอำนาจอีกสองคนซึ่งจะถูกเสนอชื่อจากแผนกกลยุทธ์
ผู้นำค่ายทั้งหลายรวมถึงเหล่านายพลที่อยู่ในกองกำลังทั้งหลายจะต้องเชื่อฟังผู้บัญชาการของกองกำลังตัวเองหลังจากกลับไปยังค่ายแล้วให้รีบทำการขยายจำนวนกองกำลังทันที โปรแกรมมการฝึกกองทัพจะขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะของแต่ละค่าย
หัวข้อทั้งหลายถูกประกาศตามลำดับมันทั้งเข้มงวดและตึงเครียดไม่น้อยเลย ไม่มีกล้าพูดขัดแทรกใดดๆเลยสักนิด ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะตั้งคำถามเลยด้วยซ้ำ ทุกคนต่างเห็นหน้าตาทมึงถึงและเคร่งเครียดของเหล่าสมาชิกหลักของซางจิงที่นั่งเรียงอยู่บนเวทีการประชุม
ในที่สุดหลังจากผ่านไปประมาณสองสาามชั่วโมงของการร่ายคำสั่ง มันก็เริ่มเข้าสู่ลพดับขั้นตอนต่อไปหลังจากได้ทำการจัดตั้งแผนกกลยุทธ์ขึ้นเรียบร้อย
ที่กล่าวไปข้างต้นก่อนหน้านี้คือสิ่งที่สมาชิกหลักของซางจิงได้เตรียมการสำหรับการทำสงครามมีใครมีข้อเสนอแนะสำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำสงครามมั้ย? หนึ่งในสมาชิกหลักของซางจิงถามออกมา
ใครก็สามารถถามได้เลยโดนเฉพาะตัวรายละเอียด แม้ว่าการตัดสินใจในส่วนนี้จะเป็นการร่วมมือของแผนกกลยุทธ์กันเอง แต่ฉันก็หวังว่าทุกคนจะสามารถเข้าร่วมการปรึกษาหารือได้ มันจะทำให้พวกเรายิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ
คำพูดนั้นดูดีแต่ที่จริงแล้วมันคือการบังคับให้ผู้นำหรือพลเอกจากค่ายใหญ่ๆทั้งหลายแสดงทัศนคติของตัวเองออกกมา การทำสงครามครั้งนี้มันคือการใช้กำลังต่อสู้ ต้องมีอาวุธ มีอาหาร แล้วมันจะมีการเตรียมการของมากมายพวกนี้อย่างไร? ค่ายซือฉวนของผมมีประชากรบางเบาพวกเราจึงยินดีที่จะส่งมอบอาหารให้มากที่สุดเท่าที่มี เหวินชี่เชิงกล่าว
ค่ายหนานตู้ของฉันก็มุ่งมั่นในการผลิตอาวุธมาโดยตลอดเราสามารถมีส่วนร่วมในการจัดหาอาวุธให้กับกองกำลังได้ ฉางกวนหลงเอ่ย
ค่ายของเราสามารถช่วยจัดหาทรัพยากรทางการเงินได้
ถ้าอย่างนั้นค่ายของฉันก็มีกำลังพลอยู่แล้วจำนวนผู้รอดชีวิตโดยเฉลี่ยนั้นค่ายฉันมีมากที่สุด มันจะต้องมีการหากองกำลังพลมาเพิ่มให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ต่อให้ต้องบังคับ!
พลเอกทั้งหลายต่างเสนอในสิ่งที่มีเพื่อมอบให้กับส่วนรวมจนครบทุกคนแม้แต่ตวนเจียงเหว่ยยังมอบของดีของค่ายทันที แต่ทันทีหลังจากที่ทุกคนพูดครบจบ มีเพียงแค่ตัวแทนจากค่ายเขี้ยวหมาป่าอย่างเฉินช่าวเย่ที่ยังคงนั่งนิ่งเงียบไม่พูดอะไรมาตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้
หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มทยอยสังเกตเห็นว่าผู้แทนจากค่ายเขี้ยวหมาป่าไม่มีการพูดใดๆทั้งสิ้นดังนั้นสายตาทั้งหลายก็เริ่มทำการสำรวจอย่างละเอียดยิบ ภาพที่เกิดขึ้นมันดูแปลกประหลาดอย่างมากจนทำให้ทุกคนต้องเข้าสู่โหมดเงียบ
ทุกคนต่างจ้องไปที่เฉินช่าวเย่รอคอยให้เขาเปิดปากพูด ขณะที่ตัวเฉินช่าวเยานั้นเอาแต่นั่งหรี่ตาปิดปากเงียบสนิท!
หลายคนในสมาชิกของซางจิงต่างมองหน้ากันไปมาและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมึนหัวครั้งนี้ชูฮันไม่ต้องเดาอะไรทั้งนั้น มันถูกซ่อนเอาไว้และนำไปจัดเรียงใหม่โดยเฉินช่าวเย่แล้วเรียบร้อย
ผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงอดไม่ได้ที่จะคิดถึงสถานการณ์ตรงนี้ความหึงหวงของชูฮันเริ่มปะทุรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ!