เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 9 ภารกิจของ NPC ระดับสูง

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เมื่อกลับไปถึงห้องทำงาน ฉินเยว่ก็นั่งอยู่ที่นั่นแล้ว ดูเหมือนกำลังหงุดหงิด

เฉินชางแย้มยิ้ม “หือ? ยังโกรธอยู่เหรอครับ? ผู้ปกครองของเขาก็แค่ห่วงจนกังวลเกินเหตุเท่านั้น”

ฉินเยว่กลอกตาใส่เฉินชาง ยู่ปากเล็กน้อย “ยังมาหืออะไรอีก? คนทรยศอยู่ ข้างใครกันแน่? ทรยศ!”

เฉินชางหัวเราะ “ผมก็ต้องอยู่ข้างบุปผางามแห่งแผนกของเราอย่างคุณหมอฉินเยว่น่ะสิครับ!”

“แต่ว่าคุณมาที่โรงพยาบาลนี้นานแล้ว เดิมทีแผนกฉุกเฉินก็มีคนไปๆ มาๆ มากมาย ยังไม่ชินอีกเหรอครับ? ตอนเข้าร่วมแผนกฉุกเฉิน คุณลืมไปแล้วเหรอว่าผู้อำนวยการเฒ่าของพวกเราพูดไว้ยังไง?”

“พอเข้าแผนกฉุกเฉินแล้ว คุณต้องโยนความภาคภูมิใจในตัวเอง งานอดิเรก และนิสัย…อะไรต่างๆ นานาพวกนี้ทิ้งไปด้านข้าง ให้จำไว้ว่าคุณเป็นหมอคนหนึ่งก็พอแล้ว! งานของคุณก็คือรักษาและช่วยเหลือคนอื่น” ฉินเยว่ถอนใจ พูดต่อจากคำพูดของเฉินชาง

เมื่อพูดจบฉินเยว่ก็ยังรู้สึกไม่ดี “แต่ว่า…ฉันคิดว่าอาศัยอะไรกัน? ฉันเรียนปริญญาตรีห้าปี ปริญญาโทอีกสามปี แล้วยังต้องผ่านการอบรมด้านกฎระเบียบต่างๆ นานาอีก อาศัยอะไรที่ฉันต้องดูสีหน้าของคนที่ต่ำกว่า? ใครบ้างไม่มีพ่อมีแม่ ใครบ้างไม่ใช่ลูกรักของครอบครัว! ฉันเสียอะไรไปมากขนาดนี้ ต้องการความภาคภูมิใจเล็กน้อยไม่ได้เลยหรือไง?”

เฉินชางไม่ได้พูดต่อ นี่คือความจริง

ฉินเยว่กล่าวต่อไป “บางทีฉันก็คิดว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ ฉันพยายามจนยอดเยี่ยมยิ่งกว่าพวกเขา พยายามเรียนมาหลายปีขนาดนั้น ต้องเสียอะไรไปมากขนาดนั้น เรียนหลายปี พอจบออกมาเดือนหนึ่งยังได้เงินเดือนแค่สามพันกว่าหยวน ฉันจะอายุสามสิบแล้วยังตั้งตัวไม่ได้ คุณดูครอบครัวคนอื่นสิ เพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายของฉัน หลังจากจบปริญญาตรีก็หางานได้เลย ตอนนี้กลายเป็นชนชั้นกลางไปแล้ว หนึ่งเดือนได้เงินหมื่นกว่าหยวน ใช้ของแบรนด์เนมทั้งตัว แล้วยังได้ไปเที่ยวต่างประเทศอีกด้วย!”

“เหอะ? สามพันหยวนมันจะไปพออะไร? ถ้าไม่ใช่เพราะยุ่งจนไม่มีเวลาไปเดินเล่นช้อปปิ้ง ฉันว่าคงหิวตายไปแล้ว!”

เฉินชางได้ยินก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้

อาชีพหมอก็เป็นแบบนี้จริงๆ ไม่เกี่ยวกับว่าคุณจะหาเงินได้หรือเปล่า ถึงอย่างไรก็ไม่มีเวลาใช้เงินอยู่ดี รวมกับที่ตามทฤษฎีแล้วฉินเยว่ยังอยู่ในการฝึกอบรม ดังนั้นจึงไม่มีเงินพิเศษ

หลังจากฉินเยว่ระบายออกมา หมอในแผนกก็พากันกลับมาแล้ว เฉินปิ่งเซิงได้ยินคำพูดระบายของฉินเยว่ก็ยิ้มออกมาโดยพลัน “เสี่ยวฉิน? ถ้าผมเป็นคุณ โตมาสวยขนาดนี้ผมคงหาสามีรวยๆ ไปแล้ว จากนั้นก็ไปอยู่แผนกดูแลผู้สูงวัย ใช้ชีวิตสบายๆ”

แม้อันเยี่ยนจวินจะไม่ชอบยิ้มแต่ก็ยังพูดออกมาประโยคหนึ่ง “เห็นด้วย”

ฉินเยว่ยิ้ม “อาจารย์เฉิน อาจารย์อัน พวกคุณมาแล้วหรือคะ”

“เมื่อกี้ฉันแค่รู้สึกอัดอั้นตันใจ พอได้พูดออกมาก็รู้สึกสบายใจบ้างแล้วค่ะ ความจริงฉันคิดว่าแผนกฉุกเฉินดีมาก ได้ช่วยชีวิตคนมากมายทุกวัน ฉันคิดว่างานของฉัน อย่างน้อยก็ต้องมีความหมายและมีค่าแบบนี้แหละ!”

ตอนนี้เอง อาจารย์แพทย์อาวุโสของฉินเยว่ที่ชื่อว่าสือน่าเดินเข้ามา “ว้าว ครึกครื้นขนาดนี้เชียว? กำลังคุยอะไรกันอยู่เหรอ? เสี่ยวฉิน เมื่อคืนผู้ป่วยมีปัญหาหรือเปล่า?”

ฉินเยว่หันไปแลบลิ้นใส่เฉินชางก่อนจะรีบรายงานกลับไป “อาจารย์คะ เมื่อคืนสงบมาก!”

ผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉินชื่อหลี่เป่าซาน เมื่อเข้ามาก็มองไปที่ทุกคน “เปลี่ยนเวรกันก่อน เปลี่ยนเวรเสร็จค่อยประชุม”

ที่แผนกฉุกเฉินนั้น นอกจากหลี่เป่าซานแล้วยังมีหมออีกสิบสองคน แบ่งเป็นหกกลุ่ม อาจารย์แพทย์อาวุโสหนึ่งคนดูแลหมอหนึ่งคน สามกลุ่มฝ่ายอายุรกรรม สามกลุ่มฝ่ายศัลยกรรม ถูกจัดให้ทำงานร่วมกัน

เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนเวร พยาบาลสามสิบกว่าคนและหมออีกสิบกว่าคนต่างอยู่กันเต็มห้อง

เมื่อคืนไม่มีสถานการณ์พิเศษอะไร จึงมีเพียงการรายงานสถานการณ์ผู้ป่วยที่เข้ามาใหม่และการจัดการของหมอเวรเมื่อคืนเท่านั้น

หลี่เป่าซานมองทุกคน “ปีนี้เป็นปีเฉลิมฉลองของโรงพยาบาล ท่านผู้อำนวยการตัดสินใจแล้วว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องสัญญาของหมออัตราจ้างกลุ่มหนึ่ง แผนกฉุกเฉินของพวกเราเป็นแผนกที่มีหมออัตราจ้างมากที่สุดในโรงพยาบาล มีพยาบาลหกคนและหมออีกสามคน”

“ปกติทุกคนตั้งใจทำงานดีมาก ผมเห็นอยู่ตลอด แต่ว่า…การตรวจสอบครั้งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม แต่มาจากการพิจารณาขององค์กรในโรงพยาบาล ทุกคนจะต้องพยายามแข่งขันกันให้ดี หมอสามคนของแผนกเราก็คือ ฝ่ายศัลยกรรม เฉินชาง หวังหย่ง ฝ่ายอายุรกรรมมี หูเทา จ้าวเฉิงไค มาตรการการตรวจสอบจะเป็นความลับ โดยจะมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากนอกโรงพยาบาลเข้ามา ทุกคนต้องเตรียมตัวให้ดี”

“หมายความว่ายังไงน่ะหรือ? ก็คือการตรวจสอบครั้งนี้ไม่ได้ใช้ข้อสอบกลาง แต่จะมีกลุ่มคนเล็กๆ มาตรวจสอบโดยเฉพาะ โดยจะดูจากระดับความสามารถตามปกติของพวกคุณ รวมไปถึงประสิทธิภาพในการทำงาน ทัศนคติในการบริการและอื่นๆ เพื่อทำการประเมิน ตอนที่คุณต้อนรับคนไข้พวกเขาอาจจะรวมกลุ่มสังเกตการณ์อยู่ ตอนที่พวกคุณกำลังจัดการคนไข้พวกเขาก็อาจสังเกตการณ์อยู่ หรือกระทั่งอาจเป็นตอนที่กำลังผ่าตัดก็ได้ วันนี้ผมมาเตือนพวกคุณก่อน แต่เวลาเริ่มคงจะเป็นช่วงต้นเดือนหน้า”

“ผมหวังว่าทุกคนจะแก้สัญญาได้อย่างราบรื่นนะครับ เอาละ แยกย้ายได้”

ข่าวนี้นำมาซึ่งความสั่นสะท้านจริงๆ!

“ประเมินอย่างลับๆ หรือ? จะลึกลับเกินไปหรือเปล่า?”

“อืม ก็ใช่น่ะสิ!”

สำหรับทุกคนแล้ว ข่าวนี้ทำให้ตื่นตะลึงจริงๆ แต่เป็นแบบนี้ก็ดี อย่างน้อยก็ยุติธรรม

แต่สิ่งที่เฉินชางได้ยินกลับแตกต่างกันไป!

[ติ๊ง! ภารกิจจาก NPC ระดับสูง หลี่เป่าซาน: ผ่านการทดสอบ เซ็นสัญญากลายเป็นบุคลากรในแผนกอย่างเป็นทางการ

รางวัลเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ: ได้รับทักษะจากหลี่เป่าซาน 1 รายการ!]

ดวงตาทั้งสองของเฉินชางพลันส่องแสง!

ทักษะของหลี่เป่าซาน!

นี่มันจะดีเกินไปหรือเปล่า?

หากดูจากระดับ หลี่เป่าซานคงจะเป็นบอสใหญ่ระดับแปดสิบแล้ว!

ดังนั้นไอเทมที่ดรอปคงเป็นไอเทมสีม่วง ตำราทักษะที่ดรอปอย่างน้อยก็ต้องเป็นตำราระดับสูง!

ถึงอย่างนั้น…

หลี่เป่าซานคือแพทย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งตงหยาง อยู่ในวงการการแพทย์มาหลายสิบปี ในที่สุดก็มีวันนี้ ย้ายโรงพยาบาลมาหลายแห่ง ผ่านการผ่าตัดมานับหมื่นเคส และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ไม่มีเพียงแต่มีคุณธรรมความเมตตาล้ำเลิศ ทั้งยังมีทักษะความรู้ทางการแพทย์ราวกับหมอเทวดา ปีนี้อายุห้าสิบเจ็ดแล้ว ดำรงตำแหน่งรองประธานสมาคมแพทย์ฉุกเฉินแห่งตงหยางและรองประธานสมาคมศัลยแพทย์แห่งตงหยาง

หัวหน้าแผนกหลี่นับเป็นตัวละครสำคัญเลยทีเดียว!

เฉินชางมองดูเครื่องหมายคำถามบนศีรษะของหัวหน้าแผนกหลี่ เต็มไปด้วยความคาดหวัง

ถ้าบนร่างของหัวหน้าแผนกหลี่ส่งเสียงชี่ๆ ออกมาก็คงกินได้พอดี

ไม่ได้!

ช่วงนี้ตนต้องทำเวลา ทำงานไปดีๆ และต้องเตรียมตัวอยู่ตลอดเวลา

จู่ๆ ตอนนี้เฉินชางก็พบว่าฉินเยว่กำลังจ้องมาที่ตน

เฉินชางเกิดความรู้สึกระแวงขึ้นมาทันที!

เธอคงไม่ได้ถูกใจเขาหรอกนะ?

ไม่ได้ จะต้องตรวจสอบ!

[ฉินเยว่ หมอแห่งแผนกฉุกเฉินที่มีนิสัยซับซ้อน ชอบบ่นวุ่นวาย ชอบดูการ์ตูน ความรู้สึกดี: 16!]

เฉินชางรู้สึกกระอักกระอ่วน

ความรู้สึกดีสิบหก?

เอาละ บางทีผมคงเข้าใจคุณผิดไป หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ

เฉินชางสูดหายใจลึก

งานในช่วงเช้ายังคงเป็นการเขียนประวัติผู้ป่วย หัวหน้าเฉินกล่าวว่า “ตอนเช้ามีการผ่าตัดเคสหนึ่ง คุณตามไปเย็บแผลด้วยนะครับ”

เฉินชางชะงักไป “ให้ผมเย็บอย่างเดียวเหรอครับ? หัวหน้า ผมว่าคุณต้องประเมินความสามารถและระดับของผมใหม่นะครับ!”

ถูกต้อง เฉินชางรู้สึกว่าตัวเองตัวพองขึ้นแล้ว!

เฉินปิ่งเซิงชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหยิบเคสผู้ป่วยขึ้นมาตบไปที่หน้าอกของเฉินชาง “มา เคสนี้ให้คุณ คุณมาทำซะ!”

เฉินชางยิ้มอย่างพอใจ ต้องแบบนี้สิถึงจะถูก!

เขาจึงเปิดสมุดประวัติคนไข้ออกดู “ผ่าตัดกระเพาะ…”

เมื่อเห็นตัวอักษรเหล่านี้ เฉินชางพลันทอดถอนใจ เฮ้อ!

นี่ไม่ใช่ว่ารังแกกันเหรอ?

จากนั้นเฉินซางก็สูดหายใจลึกๆ อีกรอบ!

“คุณหมอเฉินปิ่งเซิง โบราณว่าน้ำไหลทางตะวันตกสามสิบปี น้ำไหลทางตะวันออกสามสิบปี รังแกคนอ่อนแอแบบนี้ อีกหลายปีผ่านไปผมก็อาจจะ…”

เฉินปิ่งเซิงถลึงตาใส่ “ไปซะ! เขียนประวัติคนไข้มา!”

เฉินชางยิ้มแห้ง จากนั้นจึงปิดสมุดประวัติคนไข้ลง “ขอรับ! หัวหน้า ผมว่าผมควรฟังคำพูดของคุณนั่นแหละ จะเรียนรู้การเย็บแผลไปดีๆ”

Next

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท