การผ่าตัดเริ่มขึ้นแล้ว!
สิ่งแรกที่เฉินชางต้องทำก็คือนำเศษลูกปืนเหล่านั้นออกมาจากภายใน รวมไปถึงเศษเหล็กทรายพวกนั้นด้วย
คนร้ายโหดเหี้ยมมากจริงๆ
ทุกชิ้นส่วนล้วนเป็นเหล็กทรายและเศษเหล็ก
เดิมทีนี่ก็เป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากและลำบากมากอยู่แล้ว แต่ในสายตาของเฉินชางกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะว่าเขาแค่ต้องหาจุดที่มีชื่อสีแดงก็พอแล้ว เพียงแค่บริเวณนั้นปรากฏสภาพให้เห็น ดวงตาก็จะมองเห็นชื่อสีแดงเขียนว่า [ทรายเหล็ก] ทำให้สะดวกขึ้นมาก!ไม่นานเฉินซางก็จัดการจนสะอาด
นี่ทำให้ฉินเยว่ต้องเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ดวงตากลมโตหรี่ลงเพราะการเคลื่อนไหวของเฉินชางดูเชี่ยวชาญเกินไป
ทำความสะอาดแผล เย็บแผล!
“น้ำเกลือสิบมิลลิลิตร!”
“คีม!”
“ช่วยผมคีบเส้นเอ็นนี้ไว้ด้วยครับ”
“เปิดไฟตรวจสอบดูหน่อย”
เฉินชางใช้คีมห้ามเลือดปลายตัดหนีบเส้นเอ็นไว้ แหวกออกมาเห็นเส้นเอ็นยาวประมาณสามสิบเซ็นติเมตร แทงเข็มที่ปลายทั้งสองข้างในระยะห่างจากปลายหนึ่งจุดห้าเซนติเมตร แล้วเย็บไปยังเส้นเอ็นตามแนวขวาง ดึงให้ทั้งสองด้านยาวเท่ากัน หลังจากนั้นจึงเย็บไปตามจุดเย็บด้านข้างในแนวทแยง ดำเนินการเช่นนี้ไปสองถึงสามครั้ง สุดท้ายจึงเย็บในตำแหน่งใกล้เคียงจุดที่คีมห้ามเลือดหนีบไว้ประมาณสามมิลลิเมตร
คุณลักษณะความคมบวกหนึ่งเพิ่มแรงให้มากจริงๆ ทำให้การเย็บของเฉินชางปราณีตขึ้นอีกหนึ่งระดับเล็กๆ
จากนั้นจึงใช้มีดคมๆ เลาะไปตามเส้นเอ็นส่วนปลายของคีมห้ามเลือด พลิกคีมห้ามเลือดเพื่อให้เห็นหน้าตัดชัดเจน เย็บในลักษณะเดียวกับเมื่อครู่นี้ ดึงเอ็นออกจากทั้งสองด้านให้สมมาตร ตัดขวาง เอาตอเส้นเอ็นออก แล้วเย็บให้แน่น
ทุกขั้นตอนเต็มไปด้วยความอันตราย เฉินชางไม่กล้าลำพองใจหรือสะเพร่าแม้แต่น้อย
เพราะถ้าไม่ระวังแม้เพียงนิดเดียวก็จะทำให้เกิดแผลใหญ่ ผลลัพธ์มีเพียงอย่างเดียว!
ทำให้เกิดพังผืด!
และต้องแก้ไข!
นี่อาจเป็นความยากที่สุดในการผ่าตัดเคสนี้
นี่เป็นงานที่ต้องใช้ความประณีต ความแข็งแรง และความแม่นยำจริงๆ เฉินชางทำงานไปอย่างน้อยก็หนึ่งชั่วโมง
ใช้เวลาไปสี่สิบกว่านาที การเย็บเส้นเอ็นเส้นแรกก็สำเร็จ!
ดวงตาของเฉินชางเปล่งประกาย เขาพบว่าสีของ [กล้ามเนื้อ EPL] เปลี่ยนไป กลายเป็นสีเขียวแล้ว!
[ติ๊ง! เย็บเส้นเอ็นส่วนกล้ามเนื้อ EPL สำเร็จ
ได้รับค่าประสบการณ์การเย็บเส้นเอ็น +100 แต้ม ค่าประสบการณ์ +100 แต้ม เงิน +100 หยวน]
เฉินชางดีใจขึ้นมาทันที
จากนั้นก็ขั้นต่อไป!
เฉินชางเริ่มงานเย็บเส้นเอ็นต่อไปอย่างระมัดระวัง
ส่วนฉินเยว่ก็เริ่มเชี่ยวชาญในฐานะที่เป็นผู้ช่วยมากขึ้น
เวลาทุกนาทีทุกวินาทีกำลังผ่านไป!
เฉินชางไม่กล้าเกียจคร้านแม้แต่น้อย
เส้นที่หนึ่ง…
เส้นที่สอง…
……
เส้นสุดท้าย!
การเย็บสำเร็จ!
ในที่สุดก็เสร็จแล้ว
การเย็บเส้นเอ็นเสร็จสิ้น!
ประสบความสำเร็จอย่างสูง!
ตอนนี้ฉินเยว่ตื่นตะลึงไปแล้ว ในฐานะที่เป็นศัลยแพทย์เหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ได้มีเทคนิคเหนือคนอื่นแต่ก็ต้องมีดวงตาเหนือคนอื่น แม้ว่าสือน่าจะเป็นอาจารย์ผู้ดูแลของฉินเยว่ แต่ฉินเยว่รู้สึกว่าการเย็บเส้นเอ็นของสือน่ายังด้อยกว่าเฉินชางอยู่ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในเรื่องของระดับความแม่นยำตลอดจนการจัดการปัญหาด้านการเกิดพังผืดในอนาคต
ฉินเยว่เรียนปริญญาโทที่วิทยาลัยแพทย์เซียงหย่า ซึ่งเป็นคำเรียกวิทยาลัยแพทย์เหมือนกับเซี่ยเหอฉีหมิน เป่ยเซี่ยเหอ และเซียงหยาใต้ของมหาวิทยาลัยจงหนาน
อาจารย์ที่ปรึกษาของเธอก็เป็นศัลยแพทย์มือดี ตอนนี้เธอก็พลันพบว่าถึงแม้เทคนิคการเย็บเส้นเอ็นของเฉินชางจะไม่ดีพอ แต่ว่า…ระดับความแม่นยำ ความปราณีต ตลอดจนความเฉียบคมของแรงยังเก่งกว่าอาจารย์ซะอีก!
นี่คือความสามารถพิเศษ!
แบบทดสอบของศัลยแพทย์ก็คือความสามารถพิเศษพวกนี้!
ต้องมีตาเหมือนเหยี่ยว หัวใจสิงห์ มือเบาเหมือนสตรี!
ต่อไปเป็นการเย็บเชื่อมเส้นเลือดธรรมดา ในขณะที่เฉินชางกำลังเชื่อมเส้นเลือดนั้น…
จู่ๆ ฉินเยว่ที่ได้เห็นก็ชะงักไป นี่เขาเป็นคนเดียวกับเฉินชางเมื่อครู่นี้อยู่หรือไม่?
เทคนิคการเย็บเส้นเลือดระดับนี้ ยังสู้เธอไม่ได้ด้วยซ้ำ…
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉินเยว่ก็ไม่ได้ตื่นตะลึงอะไรขนาดนั้นแล้ว
ถึงอย่างไรถ้าคนเรามีส่วนยอดเยี่ยมกว่าคนอื่นมากเกินไป จะทำให้ไม่สมดุล!
ตนเป็นนักศึกษาปริญญาโทจากวิทยาลัยแพทย์เซียงหย่า ส่วนเฉินชางเป็นแค่…เป็นแค่นักศึกษาที่จบปริญญาตรีคนหนึ่ง
งานสุดท้ายเริ่มขึ้นแล้ว
การเย็บผิวหนัง!
งานสุดท้าย เฉินชางใช้ทักษะ [ดวงตาแห่งความงาม] โดยไม่รู้ตัว
ในดวงตาของเขาเริ่มทำการเปรียบเทียบผิวหนังเละเทะเหล่านั้นแล้วจึงนำมันมารวมเป็นภาพเดียวกัน ไม่นานก็เกิดแผนภาพความสมบูรณ์ปรากฏในดวงตาของเฉินชาง
เฉินชางเริ่มงานของเขาต่อไป!
เมื่อเทียบกับการเย็บเส้นเอ็น การเย็บผิวหนังของเขาในตอนนี้ถึงจะเป็นจุดเด่น!
เข็มในมือให้ความรู้สึกเหมือนกับแทงทะลุกลีบดอกไม้ ดูมีจิตวิญญาณมาก ฉินเยว่ที่ดูอยู่ด้านข้าง…ทั้งตกตะลึงทั้งมึนงง
นี่มัน…
เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม!
แทบจะทนไม่ไหว
…………
…………
จางเค่อฉินเข้าพบฉินเสี้ยวยวนผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอันดับสองของจังหวัด เล่าเรื่องให้ฟังตามจริงรอบหนึ่ง ผู้อำนวยการฉินเห็นถึงความสำคัญจึงรีบตอบรับทันที
เขาเชิญผู้อำนวยการหลิวซึ่งเป็นศัลยแพทย์มือดีมาลงมีดด้วยตัวเอง!
คราวนี้จะเป็นการผ่าตัดร่วมกันระหว่างโรงพยาบาล ถูกเรียกว่าเป็นการช่วยวีรบุรุษ
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป หลิวซือฉีก็มาถึงโรงพยาบาลอันดับสอง ยังมีถานจงหลินหัวหน้าแผนกศัลยกรรมติดตามเขามาด้วย
ด้วยเหตุนี้ ทำให้จางเค่อฉินผู้เป็นหัวหน้าทีมปราบปรามอาชญากรรมพาผู้อำนวยการสองคนและหัวหน้าแผนกคนหนึ่งมายังห้องผู้ป่วยในแผนกฉุกเฉิน
เมื่อคนกลุ่มนี้เดินอยู่ในโรงพยาบาลย่อมกลายเป็นจุดสนใจ
มีผู้อำนวยการฉินเดินนำหน้าทำให้ราบรื่นมาตลอดทาง ตอนนี้อันเยี่ยนจวินเพิ่งจะผ่าตัดเสร็จ เมื่อเห็นคนกลุ่มนี้เดินมาก็ชะงักไป เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นหรือเปล่า?
ผู้อำนวยการเห็นอันเยี่ยนจวินหนึ่งพูดขึ้นว่า “หัวหน้าแผนกอัน ผู้ป่วยจากทีมปราบปรามอาชญากรรมอยู่ไหน?”
อันเยี่ยนจวินส่ายหน้า “ผู้อำนวยการฉิน ผมเพิ่งจะผ่าตัดเสร็จ เดี๋ยวจะไปถามที่ห้องปฏิบัติการนะครับ”
ฉินเสี้ยวยวนมองไปยังจางเค่อฉิน กล่าวปลอบใจว่า “หัวหน้าจาง พวกเราไม่ปล่อยให้วีรบุรุษได้รับความลำบากแน่ คราวนี้พวกเราจะร่วมมือกันช่วยเขาให้ได้!”
หลิวซือฉีพยักหน้าพูด “ใช่แล้วหัวหน้าจาง พวกเราจะต้องพยายามสุดความสามารถแน่นอน จะไม่ให้มีอาการเรื้อรังเหลืออยู่ หัวหน้าแผนกถานจงหลินเป็นศัลยแพทย์เฉพาะทางมานานหลายปี การผ่าตัดเคสนี้พวกเราจะทำสุดกำลัง”
จางเค่อฉินพยักหน้าอย่างยินดี “ขอบคุณผู้อำนวยการและหัวหน้าแผนกทุกคนมากครับ ลำบากแล้วจริงๆ! เสี่ยวอู๋เพิ่งจะอายุยี่สิบห้า ต้องรบกวนพวกคุณแล้ว”
ถานจงหลินทอดถอนใจ “รูปที่คุณส่งให้ดูเมื่อกี้นี้ผมเห็นแล้ว เส้นเอ็นของเสี่ยวอู๋เสียหายค่อนข้างหนัก ความยากในการเย็บอยู่ในระดับสูง ที่สำคัญก็คือจะต้องใช้ความแม่นยำสูง สิ่งที่ยากที่สุดในการการเย็บเส้นเอ็นก็คือการฟื้นตัวหลังผ่าตัด เส้นเอ็นที่ผ่านการเย็บมาแล้วจะเกิดพังผืดได้ง่าย ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว”
ในขณะที่พูดอันเยี่ยนจวินก็เดินมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “คือ…ผู้อำนวยการฉินครับ ผู้ป่วยถูกส่งไปเย็บแผลแล้วครับ! ใกล้จะเสร็จแล้วด้วย”
เมื่อพูดจบ ทุกคนพลันตกตะลึง!
“ใครเป็นคนทำ?” ฉินเสี้ยวยวนถามอย่างแปลกใจ
อันเยี่ยนจวินลังเลครู่หนึ่ง “เฉินชาง”
ฉินเสี้ยวยวนตกตะลึง “เฉินชาง? เขา…เป็นใครหรือครับ?”
คนระดับผู้อำนวยการและหัวหน้าแผนกถามอย่างแปลกใจ แต่ว่า…ดูเหมือนไม่เคยได้ยินชื่อคนคนนี้มาก่อน!
อันเยี่ยนจวินกัดฟัน ไอ้หนูนี่จะบ้าบิ่นเกินไปแล้ว “เป็นหมอตัวเล็กๆ ของแผนกเรา พนักงานชั่วคราว ท่านอาจไม่เคยพบ”
เมื่อกล่าวเช่นนี้ออกมาบรรยากาศรอบด้านพลันหนักอึ้ง
Next