ตอนที่ 1173 นี่ยังใช่สถาบันวิจัยของฉันอยู่ไหม?
ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรในการอธิบายความมึนงงสับสนของทุกคนในห้องประชุมเลยเพราะทันทีที่ชูฮันพูดจบและเดินออกไปทันที ทุกคนก็มีอาการและสีหน้าเดียวกันหมด
ซางจิ่วตี้มองตามไปอย่างเข้าใจเธอเองก็อยากจะให้ชูฮันได้กลับไปพักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อน แถมเธออยากจะเป็นคนพาชูฮันไปพักเองด้วยซ้ำ แต่เพราะสถานการณ์ในขณะนี้ทำให้พวกเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ โดยเฉพาะในตอนที่ทุกคนในอยู่ในห้องประชุมที่กำลังตึงเครียดมากแบบนี้ มันเป็นแผนการฉุกเฉินที่ต้องรีบดำเนินการภายในหกเดือนเท่านั้นเอง
กึก!
เหอเฟิงที่หลังจากคุยกับชูฮันจบก็เดินกลับเข้ามาในห้องประชุม สายตาของทุกคนพลันมองไปที่เหอเฟิงเป็นตาเดียวกันหมดด้วยความอยากรู้
เขาว่าไง? ซางจิ่วตี้เป็นคนเปิดนำถามก่อนคนแรก
ไม่ใช่แค่เหอเฟิงแต่ซางจิ่วตี้และคนอื่นๆเองก็สังเกตได้ว่าในคำพูดของชูฮันดูเหมือนมีกักเก็บอะไรบางอย่างอยู่ เหมือนชูฮันไม่ได้พูดทุกอย่างออกมา
ถ้าไม่รู้ตัวแปรทุกด้านแบบนั้นมันก็เสียเวลาเปล่าไม่ใช่เหรอ?
เหอเฟิงชะงักไปก่อนจะพูดขึ้น ก็เหมือนเดิม
นัยน์ตาของหลายคนหดวูบสบตามองกันไปมาโดยไม่พูดอะไร…ยิ่งชูฮันครุมเครือเท่าไหร่ สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดมากเท่านั้น นี้คือสิ่งที่ทุกคนที่หลังจากติดตามชูฮันมาได้ข้อสรุปกัน
ดูเหมือนจะเกี่ยวกับการต่อสู้ ซูเฟิงที่มีความหนักอึ้งในใจ ลุกขึ้นยืนพูดเชิญชวนเหล่ากัปตันทีมและเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งทั้งหลายออกไป พวกเราทำได้ สิ่งที่ทำได้คือเราต้องเสริมสร้างการฝึกให้แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะทำได้!
แผนกต่อสู้ของกองทัพเขี้ยวหมาป่าไม่ได้สนใจชูฮันอีกเพราะระบบการฝึกและการวางแผนรบนั้นสมบูรณ์อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อมีหัวหน้าอย่างเหอเฟิงเป็นคนดูแล
หลังจากที่เจ้าหน้าที่หลักของทีมต่อสู้ออกไปจากห้องเจ้าหน้าที่ธุรการที่เหลือซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเตรียมการสำหรับครึ่งปีก็เริ่มดำเนินการ ทุกแผนกทุกหน่วยต่างมารวมกันอยู่ที่นี้ทั้งหมด เพราะตอนนี้เมื่อชูฮันกลับมาแล้ว ก็เหมือนกับว่ากระดูกสันหลังที่เป็นหลักพักพิงของพวกเขากลับมา ทำให้ทุกคนมีความมั่นใจและพลังใจเต็มเปี่ยม
มาเริ่มกันเลย! เหอเฟิงยืนอยู่หัวโต๊ะยาว ในเมื่อพลเอกชูฮันได้อธิบายทุกอย่างแล้ว พวกเราก็ต้องพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเตรียมการรับมือ ส่วนเรื่องอื่นนั้นจะถูกสั่งมาจากแผนกกลยุทธ์อีกที
ครับ!
————————–
ในตอนนั้นเองชูฮันที่เดินออกจากห้องประชุมก็เดินฝ่ามุ่งหน้าไปยังสถาบันวิจัยซึ่งมีเจียงโจวอยู่ที่นั่น แม้แต่เสื้อผ้าชูฮันยังไม่มีจะเปลี่ยน เนื้อตัวเปรอะเปื้อน หน้าตามอมแมมไปหมด
ชูฮันปรากฏตัวที่ค่ายในสภาพเช่นนี้ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนจำเขาไม่ได้
แค่เพราะสภาพที่เปลี่ยนไปแค่นี้แต่เจ้าหน้าที่ทีมรักษาความปลอดภัยของเขากลับจำเขาไม่ได้? เขาแสนจะหงุดหงิดที่จะต้องมาจัดการคนพวกนี้?
ในตอนที่ชูฮันเดินมาถึงทีมทหารเขี้ยวหมาป่าที่พึ่งได้รับตำแหน่งในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็หยุดชูฮันไว้อีก
ครั้งนี้ชูฮันหมดความอดทนเขาหยิบตราตำแหน่งของเขี้ยวหมาป่าออกมาโบกส่ายใส่หน้าทุกคน จะเลิกตามได้รึยัง!
ทันทีหลังจากพูดจบชูฮันก็เดินเข้าไปในสถาบันวิจัยโดยไม่มีการเหลียวหลังกลับมา ชูฮันกระวนใจและต้องการจะมาตามหาเจียงโจวถึงสถาบันวิจัยเพราะเขามีเรื่องที่ต้องพูดคุยเดี๋ยวนี้
หากสิ่งที่ชูฮันไม่คิดว่าจะเจอหลังจากแสดงตราตำแหน่งนั้นก็คือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังจะส่งเสียงห้ามเขาตามหลังมาอีก ไม่ได้ครับ ท่านพลเอก! ยังไงก็เข้าไปไม่ได้ครับ!
ชูฮันเหลือบมองไปยังเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ตะโกนห้ามเขาด้วยท่าทีร้อนรนอย่างไม่พอใจมือข้างหนึ่งเปิดประตูค้างไว้พร้อมพูดกลับเสียงแข็ง สถาบันวิจัยเป็นของฉัน ถ้าฉันอยากจะเข้าไป ฉันก็จะเข้า มีใครกล้าสั่งห้ามฉันเข้าไป?
และทันทีที่ชูฮันพูดจบ——–
พั้วะ! ทันใดนั้นก็มีมีดเล่มหนึ่งลอยออกมาจากข้างในสถาบันวิจัยปักเข้าสู่คอประตูอย่างไร้ซึ่งความปราณี!
ชูฮันรีบหันหน้ากลับมาต้องขอบคุณประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปีของเขา ทำให้ร่างกายเขามีปฏิกิริยาและหลบหนีมีดได้พ้น
มีดปักลงที่คอประตูจนประตูสั่นอยู่สองสามที
ภาพน่าหวาดกลัวที่เกิดขึ้นทำให้ชูฮันแทบเหงื่อตกหลังจากตะลึงไปอยู่ครึ่งหนึ่ง เขาก็รีบหันหน้ากลับมาตะโกนดังลั่นด้วยอารมณ์โกรธ ใครมันกล้าถึงขั้นลอบฆ่าพลเอก
แรงโกรธของชูฮันไม่ใช่ของปลอมเขี้ยวหมาป่าถูกเขาสร้างขึ้นมาเองกับมือ เขาเป็นคนคัดเลือกทหารทุกคนเข้ามาฝึก ทุกคนคือพี่น้องหรือไม่ก็เป็นคนที่เขาเคยช่วยขีวิตไว้ ใครมันกล้ามีทัศนคติแบบนี้ต่อเขา?
มากไปกว่านั้นนี่คือสถาบันวิจัย ใครอนุญาตให้ใช้กำลังรวมถึงอาวุธได้?! เจ้าหน้าที่หลายคนพลันแตกตื่นหน้าตาตื่นกลัวสุดขีด ไม่เพียงว่านี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เจอกับชูฮัน แต่ยังกล้าเจอชูฮันในรูปแบบที่อารมณ์เดือดจนน่ากลัวอีก ทุกคนได้แต่ยืนก้มหน้าไม่กล้าาขยับตัว
หวังไคตกใจอดไม่ได้ที่จะยื่นหัวออกมาจากกระเป๋าด้วยความสงสัย เป็นครั้งแรกที่มันเห็นชูฮันอาละวาดใส่ผู้ใต้บังคับบัญชา!
ชูฮันยิ่งกว่าโกรธสายตาของที่ใช้มองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปลี่ยนไปไฟลุกโชน นี่คือทีมรักษาความปลอดภัยที่หยางเทียนเลือกมาฝึกงั้นเหรอ? เอาแต่ยืนกลัวหดหัวตัวสั่นราวกับเด็กน้อยแบบนี่เนี่ยนะ? ต่อไปนี้อย่าไปบอกใครละว่าเป็นทหารของเขี้ยวหมาป่า! บอกมา ใคร! ใครที่มันกล้าคิดจะทำร้ายฉันแบบนี้!
สีหน้าของเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหลายยิ่งย่ำแย่เข้าไปกว่าเดิมในใจแสนจะอึดอัด พวกเขาอยากจะให้เรื่องมันจบไปซะที หนึ่งคนก็คือพลเอกชูฮันผู้บัญชาการสูงสุดของพวกเขา แต่อีกคนก็เป็น….
แล้วพวกเขาจะเลือกได้ยังไง?
ขณะที่ชูฮันตัวสั่นและผิดหวังอย่างมากกับทีมรักษาความปลอดภัยมันก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากไม่ไกลและค่อยๆเข้ามาใกล้เรื่อยๆ น้ำเสียงทื่เอ่ยออกมาก็เป็นเสียงผู้หญิง ก็เป็นหญิงชราที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามา แล้วพ่อหนุ่มละเป็นลูกใคร?!
พรึบ!
ชูฮันชะงักค้างตัวแข็งทื่อทันทีเมื่อได้ยินเสียงนั้นราวกับถูกสายฟ้าฟาด
ตอนนี้สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปยังผู้หญิงที่สวมเสื้อคลุมสีขาวและแว่นใสกรอบสีดำดูเหมือนว่าจะเป็นนักวิจัยของสถาบัน แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะดูผอมแห้งเหมือนคนป่วย แต่ภาพที่เห็นมือข้างหนึ่งของเธอถือมีดอยู่นั้นอธิบายทุกอย่างชัดเจน
ชูฮันเห็นผู้หญิงคนนั้นชำเลืองมองมาที่ตัวเองตัวสั่นสะท้าน เขาหมุนตัวกลับหลังหัน เข่าแทบอ่อนและเอ่ยเสียงเครือ แม่! ผมไม่เจอแม่มานานมาก!