หยางเทาเป็นแพทย์อาวุโสในด้านศัลยกรรม มีชื่อเสียงในโรงพยาบาลแห่งประชาชน เป็นผู้บุกเบิกการผ่าตัดศัลยกรรมกลุ่มแรกสุดในเมืองอันหยาง
เขาสั่งสมประสบการณ์มาหลายปี กระทั่งคลินิกศัลยกรรมซีหย่ากลายเป็นหนึ่งในคลินิกศัลยกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองอันหยาง
แต่ช่วงหลายปีมานี้เมืองอันหยางมีการพัฒนาไม่หยุดหย่อน คลินิกใหญ่ๆ พากันเข้ามาสู่ตัวเมือง ทั้งยังมีเหล่าม้ามืดปรากฏตัว คลินิกศัลยกรรมซีหย่าจึงทำได้เพียงอยู่ในระดับกลางของคลินิกชั้นนำ ไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนตอนแรก
แต่ในฐานะที่หยางเทาเป็นหัวหน้าใหญ่ของซีหย่า แม้จะไม่ได้สร้างเทคนิคใหม่ๆ แต่มีฝีมือยอดเยี่ยม เชี่ยวชาญเทคนิคมากมาย คราวนี้เชิญหยางเทามาได้ ทำให้จางจื้อซินดีใจมาก
หลังจากนำกระดาษภาพวาด แผนงานศัลยกรรม รวมไปถึงข้อมูลต่างๆ มาปรึกษาหยางเทาและฉินเสียงแล้ว ทั้งสองก็รู้สึกประทับใจ
คนที่ทำอาชีพนี้มานานย่อมไม่รู้สึกกังวลมากนัก เมื่อทุกคนเห็นกระดาษร่างแบบที่ถูกนำมาขยายขึ้นจอก็ไม่ได้รู้สึกสับสนหรือแปลกใจแม้แต่น้อย ถึงอย่างไรก็เป็นแค่การผ่าตัดศัลยกรรมธรรมดา
เรียกได้ว่าธรรมดาเสียจนไม่อาจธรรมดาไปกว่านี้ได้อีก
แค่แก้ดวงตาและดูดไขมันเท่านั้น
ก็แค่การผ่าตัดเล็กๆ!
แต่…ในตอนที่เสี้ยวเถียนฮวาเดินเข้ามาในห้อง หยางเทาและฉินเสียงก็อดตะลึงไม่ได้
ช่าง…เป็นผู้หญิงที่มีความเป็นเอกลักษณ์จริงๆ!
จางจื้อซินรีบเดินเข้าไปต้อนรับ “ประธานเสี้ยวมาแล้วหรือครับ เชิญนั่งก่อน สองท่านนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่จะมาผ่าตัดให้คุณในวันนี้ ท่านนี้คือฉินเสียง หัวหน้าแผนกฉิน ท่านนี้คือหยางเทา ผู้อำนวยการหยาง!”
เมื่อกล่าวจ บฉินเสียงและหยางเทาก็เบิกตากว้าง สบตากัน ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองในตอนนี้!
นี่คือคนไข้ที่จะมาทำศัลยกรรมในวันนี้หรือ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ฉินเสียงก็รีบหยิบภาพเมื่อครู่มาจากมือจางจื้อซิน ซึ่งก็คือภาพที่เฉินชางเป็นคนวาด
ปกติก่อนการผ่าตัดแพทย์ผู้ผ่าตัดจะต้องจินตนาการรูปแบบผลงานในสมองเสียก่อน นี่คือความเป็นมืออาชีพอย่างหนึ่ง
ก็เหมือนกับความสามารถอันยิ่งใหญ่ของไมเคิลแองเจโลที่ทำให้เขาแกะสลักก้อนหินออกมาได้!
ร่างภาพในสมอง ก่อนจะจดปากกาสร้างผลงานอย่างเป็นธรรมชาติ
แต่ว่า…
ฉินเสียงไม่คิดว่าผู้หญิงสองคนนี้มีจุดเหมือนกันตรงไหนเลย!
เนื่องจากผู้หญิงเบื้องหน้ามีเอกลักษณ์เกินไป แตกต่างกับคนที่มีกลิ่นอายความใจดีมีคุณธรรมในรูปภาพเกินไป!
แม้แต่หยางเทาก็ต้องก้มเงย…ก้มเงย…หลังจากมองอยู่หลายรอบจึงค่อยพบว่านี่เป็นคนเดียวกันจริงๆ
อวัยวะเช่นจมูกและปากเหมือนกันมาก สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนก็คือดวงตา!
เพียงแก้ไขดวงตาทั้งสองก็ทำให้รูปลักษณ์และกลิ่นอายของผู้หญิงคนหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างสะเทือนฟ้าสะเทือนดินได้เลยทีเดียว
นี่เป็นแบบที่ผู้ยิ่งใหญ่คนไหนออกแบบกัน?!
พวกเขาคิดไม่ถึงว่าจางจื้อซินจะมีความสัมพันธ์อันดีกับนักออกแบบเช่นนี้ด้วย
เมื่อคิดถึงจุดนี้ หยางเทาก็มองไปยังจางจื้อซินด้วยความอิจฉา พูดด้วยอารมณ์ริษยาเล็กน้อย “หมอจางมีเบื้องหลังลึกล้ำจริงๆ นะครับ มีคนเก่งคอยช่วยแบบนี้ วันที่คลินิกศัลยกรรมจื้อซินจะยิ่งใหญ่คงอยู่ไม่ไกลแล้ว!”
คำพูดของหยางเทาคือความจริง!
คลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่งต้องการคนอยู่สองประเภท หนึ่งก็คือนักออกแบบชั้นยอด อีกหนึ่งก็คือหมอผู้มีฝีมือผ่าตัดชั้นยอด
ในหมู่คนทั้งสองประเภทนี้ นักออกแบบคือจิตวิญญาณ ส่วนหมอคือเครื่องมือ!
หากนำมาเทียบกัน ย่อมรู้ถึงความสำคัญของมัน
คลินิกศัลยกรรมซีหย่าไม่ขาดแคลนหมอผู้มีฝีมือผ่าตัดยอดเยี่ยม เขามีบุคลากรมากเทคนิคมากประสบการณ์อยู่มากมาย แต่กลับขาดแคลนนักออกแบบชั้นยอด ประกอบกับกระแสศัลยกรรมจากเกาหลีที่ถาโถมเข้ามาสู่เมืองอันหยาง ซัดสาดใส่อุตสาหกรรมศัลยกรรมทั้งหมดจนเกลี้ยง
ถ้าเขารู้จักกับนักออกแบบเช่นนี้…จะดีขนาดไหนกัน?!
จางจื้อซินหัวเราะ รีบตอบไปยิ้มๆ ว่า “ไม่หรอกครับ เทียบกับคลินิกที่มีเบื้องหลังยิ่งใหญ่อย่างคลินิกศัลยกรรมซีหย่าของผู้อำนวยการหยางแล้วยังห่างชั้นอีกไกล”
แน่นอนว่าเขาไม่อยากให้ของล้ำค่าอย่างเฉินชางถูกคนอื่นแย่งชิงหรือ…ล่อลวงไป
ฉินเสียงไม่ได้เปิดคลินิกเป็นของตัวเองย่อมไม่สนใจและไม่อิจฉาเรื่องพวกนี้ แต่ว่า…ไม่อิจฉาก็ส่วนไม่อิจฉา ทว่ายังคงรู้สึกนับถือจากใจจริง
ฉินเสียงผงกศีรษะ “คนที่ออกแบบได้จะต้องมีพรสวรรค์จริงๆ! ดูถูกไม่ได้เลยนะครับ”
เสี้ยวเถียนฮวามองไปยังพวกเขา ชะงักไปครู่หนึ่ง “ใช่แล้วค่ะ พวกคุณก็คิดว่าออกแบบได้ดีใช่หรือเปล่า? แต่ว่า…พวกคุณไม่รู้หรือคะว่าใครเป็นคนออกแบบ?”
“ก็คนที่อยู่ข้างหลังพวกคุณนั่นไง! หมอเสี่ยวเฉินน่ะค่ะ!”
เมื่อกล่าวเช่นนี้ออกมา จางจื้อซินถึงกับมีความคิดอยากเอาหัวโขกกำแพงตาย!
หยุดไม่ทันแล้ว!
ในที่สุดก็หยุดไม่ทันแล้ว!
ทำให้เขาโกรธแทบตายแน่ะ
เขามองไปยังทุกคนด้วยท่าทางตื่นตระหนกและระมัดระวัง กลัวว่าอีกฝ่ายจะเอาเงินมาล่อโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง!
อย่างไรเสียเสี่ยวเฉินก็ดีทุกอย่าง…นอกจากจนไปหน่อย
หากว่า…จุดยืนไม่มั่นคงมากพอ จะไม่กลายเป็นเรื่องแย่หรือ?
หยางเทาและฉินเสียงตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นจึงหันตัวไปโดยพลัน มองไปยังเฉินชางที่กำลังยืนอ่านหนังสืออยู่ด้านหลังด้วยใบหน้าเปล่งประกาย!
หนังสือในมือเฉินชางคือ “กรณีศึกษาการศัลยกรรมหน้าอก” จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าทุกคนกำลังจ้องมองมาที่ตนจึงรีบเปลี่ยนสีหน้า ปิดหนังสือลงแล้ววางไว้บนโต๊ะ
แต่ว่า…เขาพบว่าทุกคนยังคงจ้องตนเช่นเดิมจึงอดหน้าแดงไม่ได้ “ผม…ผมอยากจะเรียนรู้สักหน่อยน่ะครับ…”
หยางเทาเอ่ยโดยพลัน “หมอเสี่ยวเฉิน! ความสามารถไม่อาจดูกันที่อายุจริงๆ! ตอนแรกผมว่าผมประเมินคุณไว้สูงแล้ว คิดไม่ถึงว่า…เจอหน้ากันคราวนี้ คุณจะทำให้ผมตกตะลึงได้อีก!”
“ไม่นึกเลยว่าคุณอายุน้อยแค่นี้จะประสบความสำเร็จในด้านการออกแบบศัลยกรรมสูงขนาดนี้ ดูท่าทาง…คุณเป็นผู้มีพรสวรรค์ในด้านการศัลยกรรมจริงๆ!”
แม้ฉินเสียงไม่ได้พูด ทว่าในใจกลับกำลังวางแผนการใหญ่อยู่!
เขาตัดสินใจแล้วว่าหลังจากกลับไปคราวนี้ต้องติดต่อกับเฉินชางให้มากเสียหน่อย จะต้องศึกษาและบุกเบิกเทคนิคใหม่ให้ได้เร็วๆ เพื่อทำลายกระแสศัลยกรรมแบบเกาหลี!
ตอนนี้เฉินชางจึงค่อยทอดถอนใจ พูดยิ้มๆ ว่า “อ้อ? คุณพูดถึงการออกแบบหรือครับ? แค่กๆ…ผู้อำนวยการหยางอย่าชมผมเลย ความจริงผมก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก แค่วาดออกมาตามความรู้สึกเท่านั้นน่ะครับ ผมคิดว่า…ผมอาจมีพรสวรรค์เรื่องนี้เล็กน้อย…”
เมื่อพวกเขาได้ฟัง สีหน้าพลันมืดครึ้มลง
ถ้าคุณบอกว่าคุณพยายาม พวกเรายังพอรับได้ อย่างไรเสียความสำเร็จก็มักเกิดจากความยากลำบาก!
คุณอาศัยความพยายามของตัวเองยังควรค่าให้นับถือ!
แต่นี่คุณบอกว่ามีพรสวรรค์ ผมฟังยังไงก็ไม่รู้สึกนับถือเลยสักนิด!
……
……
เริ่มเตรียมการผ่าตัดแล้ว!
การผ่าตัดทั้งสิ้นรวมแล้วมีทั้งหมดสองขั้นตอน เริ่มด้วยการลอกหัวตา จากนั้นจึงทำศัลยกรรมดวงตาจากภายนอก สุดท้ายจึงดูดไขมันที่แก้มทั้งสองข้างนำไปเติมบริเวณขมับเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เรื่องความอวบอิ่มและกำจัดริ้วรอย
คนทั้งหลายมองไปยังใบหน้าของเสี้ยวเถียนฮวาที่เริ่มชาแล้ว ยังคงอดถอนใจไม่ได้!
ด้วยใบหน้าแบบนี้ เพียงแค่เปลี่ยนดวงตาก็ได้ผลลัพธ์เช่นนั้นแล้ว เป็นพรสวรรค์ที่น่ากลัวจริงๆ!
จะไม่เลื่อมใสได้หรือ?
เฉินชางเป็นผู้สังเกตการณ์เต็มตัว ดังนั้นจึงไปเตรียมตัวก่อนแล้ว
ส่วนคนที่เหลือทั้งสามก็พูดคุยกันในขณะที่กำลังล้างมือและเปลี่ยนชุด
ฉินเสียงอดถามไม่ได้ว่า “พวกคุณว่า…จะฝึกฝนพรสวรรค์แบบนี้ได้ยังไงครับ? ความสามารถในการค้นพบความงดงามของสิ่งต่างๆ แบบนี้ ถือเป็นปาฏิหาริย์ในความสามัญจริงๆ!”
หยางเทาถอนใจ “ถ้าผมรู้ ตอนนี้ผมคงไม่มีสภาพแบบนี้หรอก”
จางจื้อซินคิดอยู่นานก่อนจะพูดขึ้นว่า “คงเป็นพรสวรรค์อย่างหนึ่งมั้งครับ!”
ตอนนี้เอง จางจื้อซินรู้สึกราวกับหัวสมองเปล่งประกาย จู่ๆ ก็เข้าใจกระจ่างขึ้นมา จึงพูดว่า “ผมว่าบางทีนี่อาจเป็นความสามารถในการจินตนาการก็ได้นะครับ!”
หยางเทาและฉินเสียงชะงักไป “ความสามารถในการจินตนาการ? หมายความว่ายังไงครับ?”
จางจื้อซินพูดด้วยน้ำเสียงน่าเชื่อถือ “จินตนาการเป็นความสามารถที่น่าอัศจรรย์อย่างหนึ่ง มันก็คือ ตอนที่เห็นใครสักคน คุณจะขับเน้นของเขาจุดเด่นออกมาได้ทันที และเริ่มใช้ความคิดจินตนาการเพื่อเสริมจุดด้อย วาดใบหน้าที่เหมาะสมที่สุดเอาไว้ในสมอง!”
หยางเทาขมวดคิ้ว “คุณจะบอกว่า…”
ฉินเสียงพูดต่อ “เสี่ยวเฉินจินตนาการถึงเสี้ยวเถียนฮวา?”