ตอนที่ 1172 ถ้าพวกมันบ้าไปแล้วจริงๆ
เหอเฟิงพลันรู้สึกบางอย่างในใจเขามองไปที่ชูฮัน แผนกกลยุทธ์ได้ถูกก่อตั้งขึ้นแล้วเรียบร้อย แผนการรบทั้งหมดจะถูกกำหนดโดยแผนกกลยุทธ์จากทางซางจิง พูดอีกอย่างก็คือไม่ว่าภารกิจจะถูกกำหนดมาให้เราในรูปแบบไหน เราไม่มีทางรู้ได้เลย…
ชูฮันที่คิดถึงประเด็นหนึ่งขึ้นได้พูดต่อ ถ้าพวกเขาต้องการส่งเราไปตาย เราก็ต้องไปรึไง?
ใช่นั่นคือสิ่งที่พวกเราทุกคนเป็นกังวลกันมากที่สุด เหอเฟิงประกบมือ การตัดสินใจไม่ได้ขึ้นอยู่กับพลเอกของแต่ละเขต แต่ละสิบห้ากลุ่มโจมตีจะมีกลยุทธ์ต่างกันอย่างไรบ้างไม่มีทางรู้ได้เลย? สนามรบไหนที่กองทัพเขี้ยวหมาป่าของเราจะต้องไปต่อสู้ เราไม่มีทางรู้ นอกจากรอทำตามคำสั่ง
แต่ถ้ามันมีไส้ศึกของตระกูลป่ายแทรกอยู่ในแผนกกลยุทธ์แบบนั้นมันจะไม่พยายามหาทางทำลายเราเหรอ? หลิวยู่ติงถาม
แน่นอนว่าเรื่องนั้นต้องมีอยู่แล้วเราทำได้แค่เดินไปตามเกม เหอเฟิงพูด เขาหันไปสบตากับชูฮัน กว่าที่สงครามจริงๆจะมาถึงในอีกครึ่งปีหน้า ฉันไม่รู้หรอกว่ามันจะมีแผนกลยุทธ์การรบอะไรออกมาบ้าง แต่ที่ฉันวิเคราะห์ดูแล้วยังไง ความลับของการประชุมที่ซางจิงก็ต้องหลุดรอดออกไปก่อนสงครามจริงเกิดขึ้นแน่นอน
มันจะต้องมีข่าวหลุดออกไปก่อนสงครามแน่ๆ หลูเหวินเเฉิงหัวหน้าแผนกหน่วยข่าวกรองพูด แผนกหน่วยข่าวกรองของเราจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อหาข้อมูลทุกอย่างมา
ชูฮันเหยียดขาออกอย่างสบายๆพร้อมแสยะยิ้มออกมา การป้องกันทั้งหลายนั้นมันเปล่าประโยชน์ ป่านนี้ราชาลูกผสมคงรู้ทุกอย่างแล้ว
ทั้งห้องประชุมเงียบสนิท!
เหอเฟิงหนวดกระตุก ทำไม? ชูฮันเคาะนิ้วลงโต๊ะและพูดประโยคที่ทำให้ทุกคนไม่สามารถสงบจิตใจได้อีกต่อไปออกมา เพราะตระกูลป่ายสมรู้ร่วมคิดกับลูกผสม
(*&^%$!#$%^&(!*&^%!!!
ทั้งห้อปงระชุมพลันระเบิดเสียงลือสนั่น!
นี้มันเลวที่สุด! หลี่บี๋เฟิงกัปตีนทีมนักฆ่าขนนกชั่วคราวคำรามลั่น หยิบอาวุธขึ้นมาและแทบจะวิ่งพุ่งออกไปอย่างเลือดร้อน พ่อจะไปฆ่าพวกมันให้หมด!
คนอื่นเองก็มีอารมณ์โกรธโมโหกันยกใหญ่ไม่มีใครข้องใจคำพูดของชูฮันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ภายใต้การทำงานให้ชูฮันมานาน พวกเขาเชื่อมั่นใจทุกการตัดสินใจของชูฮันเสมอ
แม่งเอ๊ย!ไอ้เวร! ตระกูลป่าย พวกมันกล้ามากที่สมรู้ร่วมคิดกับลูกผสมแล้วยังมาหลอกเรา คิดว่าจะรอดไปได้ง่ายๆเหรอ?
ไม่ได้!ทั้งๆที่เรารู้ว่ามีงูเห่าแฝงอยู่ แล้วจะลอบทำร้ายเรา ทำไมเราต้องยอมพวกมัน? เราควรรีบแจ้งข่าวให้ซางจิงรู้เดี๋ยวนี้เลย!
ในขณะที่ความโกรธของทุกคนเริ่มไต่ระดับขึ้นสูงเรื่อยๆหลูปิงเซ่อที่มักจะใช้ความคิดอยู่กับตัวเองเงียบๆก็พูดขึ้นมา แถมมันยังสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนมาก หัวหน้าพูดว่ามันมีการสมรู้ร่วมคิดกับลูกผสม ไม่ใช่ทั้งหมด แค่ตระกูลป่าย ไม่ใช่ทั้งหมด จะแตกตื่นอะไรกัน?
เฮือก!
ทุกคนพลันนิ่งชะงักสายตามองไปที่ชูฮันและเลยไปยังเหอเฟิงอย่างทำตัวไม่ถูก
รอยยิ้มบนสีหน้าของชูฮันนั้นชัดเจนในความหมายเขาชี้นิ้วไปยังเมืองหยินบนแผนที่ ใช่ และไม่ใช่ลูกผสมแต่เป็นราชาลูกผสมต่างหากที่เราจะโจมตี ลูกผสมพวกนี้ก็แค่ลูกผสมที่อยู่ในเมืองหยิน เป็นค่ายลูกผสม แต่ไม่ใช่ค่ายหลัก
มันหมายความว่ายังไง?มันต่างกันยังไง? เหอเฟิงไม่เข้าใจจริงๆ มันมีค่ายลูกผสมสองค่าย ชูฮันพูดสิ่งที่ทำให้ทุกคนตาโตกว้าง
%^&*(!&^&!)!!
ห้องประชุมแตกฮืออีกครั้งแต่ครั้งนี้ทุกคนรีบเงียบเสียงลง สายตาจับจ้องไปยังชูฮัน รอให้ชูฮันพูดต่อ
เมืองหยินเป็นค่ายแรกที่ราชาลูกผสมสร้างขึ้นมีลูกผสมมากมาใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เรื่องนั่นไมท่ต้องสงสัย แต่มันยังมีค่ายลูกผสมอยู่อีกที่หนึ่ง มันเป็นสถานที่ที่มู๋เย๋ตั้งใจจะพัฒนาต่อไปในอนาคต
ค่ายลูกผสมในชาติที่แล้วนั้นไม่ได้อยู่เมืองหยินหรือแม้แต่ใกล้เคียงเลยนี้เป็นเรื่องที่ชูฮันรู้มานานแล้ว เมืองหยินก็เปรียบเสมือนค่ายทดลอง
ถ้างั้นที่แผนกกลยุทธ์จะเล็งเป้าไปที่เมืองหยินแบบนั้นมันก็เป็นการวางแผนที่เปล่าประโยชน์นะสิ แบบนี้มันก็แค่สร้างความวุ่นวายได้เล็กน้อย เหอเฟิงเริ่มกังวลขึ้นมา แบบนี้เราต้องเตรียมตัวยังไงอีก เราจะสู้กับพวกมันได้มั้ย?
ไม่เราต้องเดินตามเกมเดิม ชูฮันตัดสินใจ ตอนนี้กองทัพพันธมิตรจะโจมตีค่ายลูกผสมที่เมืองหยิน ซึ่งมู๋เย๋กับตระกูลป่ายสมรู้ร่วมคิดกันอยู่ ดังนั้นเราจะยังปล่อยให้พวกมันรู้ไม่ได้ว่าเรารู้ทันแผนของพวกมันแล้ว เราจะใช้แผนของพวกมันเนี่ยแหละตลบหลังและฆ่าพวกมันให้มันในทีเดียว
พวกลูกผสมที่เมืองหยินก็อาจจะไม่รู้เรื่องเพราะทุกอย่างถูกเตรียมการภายใต้การจัดการของมู๋เย๋ฉันต้องการจะจัดการทุกอย่างให้จบในครั้งเดียว ถึงเราจะกำจัดลูกผสมไปได้เกือบหมด แต่มันก็ใช่ว่าการฆ่ามู๋เย๋จะเป็นไปได้ ชูฮันวิเคราะห์ ในสงครามครั้งนี้ เราจำเป็นต้องระวังกันอย่างมากที่สุด ฉันกังวลว่าพวกเราอาจจะมีอันตรายเกิดขึ้นได้
ยิ่งได้ยินชูฮันพูดเช่นนี้ทุกคนก็ตระหนักได้ถึงความผิดปกติของเหตุการณ์นี้
แล้วพวกเราควรจะเตรียมตัวกันอย่างไรก่อนสงครามจะเกิดขึ้น? เหอเฟิงถามด้วยความสงสัย
เตรียมการด้วยข้อกำหนดสูงสุด ชูฮันออกคำสั่งเสียงเรียบ การขยายกองทัพนั้นต้องใช้ทรัพยากรเยอะมาก การฝึกฝนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทหารทุกค่ายจะต้องเชื่อมโยงถึงกันถึงจะรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในเมื่อพวกเขาต้องการให้เราส่งมอบสารล่อซอมบี้ให้ ค่ายๆอื่นๆเองก็ต้องมอบอย่างอื่นให้เราเป็นการตอบแแทน ไป ไปถามพวกเขากัน!
ครับ!!!
ทุกคนตาโตเป็นประกายแน่นอว่าชูฮันไม่มีทางยอมมอบสารล่อซอมบี้ให้ไปโดยไม่ได้อะไรตอบแทน ถ้าพวกเขาอยากได้ พวกเขาก็ต้องให้อะไรกลับมาที่มันมีค่าเท่ากันกับเขี้ยวหมาป่า!
การเตรียมการก็ส่วนการเตรียมการการฝึกก็ส่วนการฝึก ข้อสงสัยก็คือข้อสงสัย ทุกอย่างมันคนละเรื่องกัน จะมาเหมารวมกันไม่ได้ ชูฮันพูดทิ้งท้ายก็จะเดินออกจากห้องประชุมไปอย่างเป็นการประกาศว่าการประชุมได้จบลงแล้ว ไม่ปล่อยให้ใครได้ตั้งคำถาม
เหอเฟิงตาวาวหลังจากชูฮันออกไป เขาก็เดินตามหลังไปในบริเวณไม่มีใครและพูดขึ้น นายมีแผนอะไรในหัว? อย่างน้อยก็ควรบอกเจ้าหน้าที่ระดับสูงให้รู้มั้ย?
ชูฮันยิ้มมองกลับไปที่เหอเฟิง มันยากที่จะพูด เพราะฉันยังไม่มีข้อสรุป
ไม่เป็นปัญหาเอาสิงที่นายคาดเดาไว้ บอกมาเลยฉันพร้อมฟัง หัวใจของเหอเฟิงเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมาจากอก
ชูฮันมองออกไปไกลรอยยิ้มบนหน้าดูแข็งกระด้างเล็กน้อย อย่างที่ฉันบอก ตระกูลป่ายที่มีข้อขัดแย้งกับฉัน และลุกผสมที่ต้องการทำลายเขี้ยวหมาป่า พวกมันร่วมมือกับเพื่อจัดการพวกเรา แล้วเราจะรับมือยังไงกับสงครามครั้งนี้? มันจะมีแผนการอะไรที่ไส้ศึกซึ่งอยู่ในแผนกกลยุทธ์ถูกมอบหมายมาเพื่อวางกับดักให้พวกเรา? แล้วครั้งนี้การร่วมมือกันต่อสู้ทั้งสิบห้ากองกำลัง ใครเป็นแกนหลักในการสั่งการ? มันจะเป็นไปได้เหรอที่ทุกคนจะร่วมมือกันได้จริงๆ?
เหอเฟิงหรี่ตา ครับกองกำลังของเทียนหยางมีมากที่สุด ประกอบกับการเตรียมตัวก่อนเวลาที่กำหนดไว้ครึ่งปี คงเป็นไปไม่ได้ที่อำนาจในการควบคุมจะเป็นของเขี้ยวหมาป่าของเรา?
เพราะฉะนั้นถ้าพวกมันต้องการเล่นเล่ห์วางแผนให้แยกเดินทัพไปเมืองหยินคนละทางละ? ชูฮันยิ้มเยาะกับตัวเอง
สองทางหมายความว่าไปด้านหน้าและด้านหลัง นายคิดว่าถ้าแผนกกลยุทธ์วางแผนให้เราเดินทัพไปเมืองหยินเพียงลำพัง? นี้มัน…จะเป็นไปได้ยังไง? แล้วพวกเราเพียงลำพังจะรับมือกันได้ยังไง?!
ถ้าไส้ศึกของตระกูลป่ายที่อยู่ในแผนกกลยุทธ์มีน้ำหนักเสียงมากมันก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะทำการตัดสินใจบ้าบอแบบนั้นได้ นัยน์ตาของชูฮันเย็นยะเยือก ใครจะไปรู้ ดังนั้นเราต้องคิดในแง่ลบที่สุดก็จะเกิดขึ้นเพื่อเตรียมตัวรับมือเอาไว้