เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 105 แบกรับภาระอย่างกล้าหาญ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

ไม่นานเรื่องที่เหล่าเฉินหมดสติไปในห้องผ่าตัดก็แพร่ไปถึงห้องผ่าตัดต่างๆ ทั้งยังแพร่ไปถึงแผนกต่างๆ อีกด้วย

ห้องผ่าตัดเป็นสถานที่ที่มีการซุบซิบมากที่สุดในโรงพยาบาลแล้ว

หากการผ่าตัดคราวนี้ของเหล่าเฉินเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา และหากเกิดเรื่องเพราะเขาหมดสติไป เช่นนั้นเขาอาจพลิกฐานะไม่ได้ไปตลอดชีวิต นี่เป็นสาเหตุที่เฉินชางพยายามปกป้อง

โชคดีที่เฉินชางเตรียมพร้อมไว้นานแล้ว และพยาบาลเหล่านั้นก็เป็นคนของแผนกฉุกเฉิน ทุกคนตัดสินใจเรื่องนี้ไปในทิศทางเดียวกันโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ย

วันนั้นหลี่เป่าซานอธิบายสถานการณ์ให้ผู้ป่วยฟัง ช่วงเวลาสามวันนี้ เฉินปิ่งเซิงอยู่กับเตียงผ่าตัดต่อเนื่องกันเป็นเวลาประมาณสี่สิบสองชั่วโมง ผ่าตัดไปเกือบยี่สิบเคส ทำให้เหนื่อยจนล้มไประหว่างการผ่าตัด ทว่าแม้จะเหนื่อยแต่ก็ยังยืนหยัดทำการผ่าตัดจนสำเร็จ ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอะไร

ทุกคนพากันทอดถอดใจ ไม่ต้องพูดถึงอยู่กับเตียงผ่าตัดต่อเนื่องสี่สิบสองชั่วโมงเลย แค่ทำงานสี่สิบสองชั่วโมงภายในสามวันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว คุณไม่ต้องนอน ไม่ต้องกินข้าว ไม่ต้องเข้าห้องน้ำหรืออย่างไร?

เหล่าเฉินคงจะเหนื่อยจริงๆ!

ตอนที่เฉินชางมาถึง เหล่าเฉินก็ฟื้นแล้ว เขาเอ่ยถามอย่างระมัดระวังว่า “ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรใช่ไหม?”

เฉินชางยิ้มออกมาโดยพลัน “หัวหน้า คุณเครียดเกินไปแล้วครับ ไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้น คุณผ่าตัดเสร็จแล้ว ผมแค่ไปเย็บท้องเท่านั้น”

เฉินปิ่งเซิงเอ่ยถามอย่างสงสัย “จริงหรือ?”

เฉินชางพยักหน้าพลางหัวเราะ “นี่ไม่ใช่เรื่องโกหก เป็นเรื่องจริงแน่นอน”

เฉินปิ่งเซิงจึงค่อยผ่อนคลายลงได้

“ใช่แล้วหัวหน้า คุณ…ทำไมคุณถึงเหนื่อยจนเป็นแบบนี้ล่ะครับ?” เฉินชางไม่คิดว่าสาเหตุของเหล่าเฉินจะมาจากการผ่าตัด

เฉินปิ่งเซิงทอดถอนใจก่อนจะหัวเราะเสียงขืนพลางส่ายหน้า “สัปดาห์นี้ผมไม่ได้พักผ่อนให้ดีน่ะครับ แต่ละวันนอนไม่ถึงสามสี่ชั่วโมง ทำให้นอนไม่พอทุกวัน คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้”

เฉินชางถามอย่างใส่ใจทันที “เป็นอะไรไปครับ? มีเรื่องอะไรหรือ?”

เฉินปิ่งเซิงมีท่าทีอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ถอนใจออกมาแล้วพูดยิ้มๆ “สงสัยช่วงนี้คงเป็นโรคนอนไม่หลับ กดดันเกินไป ทำให้เป็นโรควิตกกังวลมั้งครับ เลิกงานแล้วผมจะไปซื้อยาสักหน่อย กินยาเดี๋ยวก็หาย”

เฉินชางรู้สึกว่าเหล่าเฉินกำลังโกหกตนจึงพูดไปว่า “ไม่งั้นให้ผมโทรไปแจ้งพี่สะใภ้สักหน่อยเถอะครับ!”

เฉินปิ่งเซิงรีบหยุดเอาไว้ทันที “อย่าๆๆ พี่สะใภ้ของคุณยุ่งกว่าผมอีก อย่าโทรไปรบกวนเธอเลย”

หลี่เป่าซานให้เหล่าเฉินลาพักสามวันเพื่อให้เขาไปพักผ่อนให้ดี

คราวนี้เหล่าเฉินไม่ได้ปฏิเสธ เรื่องครั้งนี้ทำเอาเขาตกใจไปเหมือนกัน ยังดีที่ไม่ได้เป็นการผ่าตัดพิเศษอะไร มิฉะนั้น…ไม่แน่ว่าอาจเกิดปัญหาใหญ่อะไรขึ้นมาก็เป็นได้ ไปพักผ่อนสักหน่อยน่าจะดี

เหล่าเฉินไปพักแล้ว แต่แผนกฉุกเฉินไม่ได้พักด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น หลี่เป่าซานเพิ่งจะติดต่อกับศูนย์ฉุกเฉิน 120 เพื่อร่วมมือกัน ทำให้ต้องจัดการผู้ป่วยเคสถุงน้ำดียากๆ เหล่าเฉินมาป่วยเอาในเวลาสำคัญเช่นนี้ แล้วใครจะทำได้ล่ะ?

หลี่เป่าซานร้อนใจเหมือนถูกไฟเผา

เขาอยู่ผ่าตัดถุงน้ำดีในแผนกทุกวันไม่ได้ ภารกิจของเขาสำคัญกว่า เคสผ่าตัดยากๆ และสำคัญหลายเคสของโรงพยาบาลอันดับสองมีเขาเป็นศัลยแพทย์หลักทั้งนั้น

หรือจะยกเลิกการร่วมมือกับศูนย์ฉุกเฉิน 120 ดี?

หากยกเลิกแล้ว ภายหน้าจะร่วมมือกันอีกได้อย่างไร? คิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไป คุณคิดว่าศูนย์ฉุกเฉิน 120 คุยง่ายหรือ!

แต่หากไม่ยกเลิกจะทำอย่างไรได้? หากมีเคสผ่าตัดยากๆ คุณจะจัดการอย่างไร!

ตัวเลือกอันยากลำบากทั้งสองตัวเลือกปรากฏเบื้องหน้าหลี่เป่าซาน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลี่เป่าซานก็รู้สึกกังวล

จะทำอย่างไรดี?

มิฉะนั้น…ลองคุยกับพนักงานที่ศูนย์ฉุกเฉิน 120 ก่อนแล้วกัน ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นวิธีรับมือกับสถานการณ์พิเศษ เชื่อว่าพวกเขาคงเข้าใจ

ช่วงเวลาแลกเวรในตอนเช้า หลี่เป่าซานยืนอยู่ในห้อง มองไปที่ทุกคน “ตอนนี้มีเรื่องบางอย่างที่ผมต้องปรึกษาทุกคนสักหน่อย เหล่าเฉินเป็นกำลังสำคัญของแผนกเรา ช่วงนี้เขาคอยจัดการการผ่าตัดเกี่ยวกับระบบตับและถุงน้ำดี ตอนนี้เหล่าเฉินลาพักผ่อนแล้ว แต่ 120 ไม่ได้พักด้วย แผนกฉุกเฉินของพวกเราก็ไม่ได้พักด้วย ถ้าเคสพวกนี้ถูกส่งมา ผมคนเดียวคงทำไม่ไหวแน่…ดังนั้นทุกคนมีข้อเสนอแนะอะไรไหมครับ?”

หลังจากหลี่เป่าซานบอกปัญหาออกมา ทุกคนก็พากันถอนใจ ปัญหาประดังประเดเข้ามาต่อเนื่องจริงๆ ไม่ง่ายเลยกว่าที่แผนกฉุกเฉินจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี แต่เหล่าเฉินกลับป่วยเสียได้

อันเยี่ยนจวินพยักหน้า “ยกเลิกการร่วมมือไปชั่วคราวก่อนเถอะครับ เราจะทำให้ผู้ป่วยเสียเวลาไม่ได้ 120 เป็นศูนย์ที่จัดสรรผู้ป่วยแบบครบวงจร หากมาที่โรงพยาบาลของพวกเราแล้วพวกเราไม่มีทรัพยากรในการรักษาที่เพียงพอ จะเป็นการทำให้ผู้ป่วยเสียเวลาไปเปล่าๆ หากเป็นแบบนี้ยกเลิกการร่วมมือไปดีกว่า”

จางซูจากฝ่ายอายุรกรรมพูดขึ้นมาว่า “พวกเราเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้ เกรงว่าภายหลังศูนย์ฉุกเฉินคงไม่ร่วมมือกับแผนกฉุกเฉินแล้ว! เหล่าเฉินพักผ่อนสามวัน…ไม่งั้นพวกเราพยายามยืนหยัดกันสักหน่อย ให้ผ่านสามวันนี้ไปได้ก่อนเป็นไงคะ! ฉันคิดว่าควรคุยกับแผนกศัลยกรรมภายนอกนะคะ นี่เป็นเรื่องหน้าตาของโรงพยาบาล พวกเราควรวางอคติลงก่อน ฉันเชื่อว่าจางโหย่วฝูคงไม่ใช่คนใจแคบแบบนั้นแน่”

คำพูดของจางซูทำให้ทุกคนเงียบลง

จางซูพูดต่อไปว่า “หากแผนกฉุกเฉินผ่านด่านนี้ไปได้ จะต้องก้าวหน้าไปอีกขั้นแน่นอน วันหลังจะได้ร่วมมือกับศูนย์ฉุกเฉิน 120 มากขึ้น พวกเราต้องคิดหาวิธีให้ดี ไม่งั้น…อีกเดี๋ยวให้ฉันไปหาจางโหย่วฝูเพื่อคุยเรื่องนี้กับเขาดีไหมคะ ถ้าเขาไม่เต็มใจฉันจะไปหาผู้อำนวยการเอง!”

หลี่เป่าซานทอดถอนใจ ตัวเขาจะอย่างไรก็ได้ ที่สำคัญก็คือจางโหย่วฝูคนนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องหน้าตามาก ครั้งที่แล้วเขาทำให้จางโหย่วฝูลำบากในการประชุมใหญ่ของโรงพยาบาลจนไม่มีทางลง คราวนี้…คงถูกเอาคืนแน่!

ไปหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลหรือ หากอีกฝ่ายบอกว่าพวกเรามีความพยายาม แต่ความสามารถไม่พอก็คงทำอะไรไม่ได้

ตอนนี้จางโหย่วฝูคงอยากเห็นเรื่องน่าขำของคุณจนทนไม่ไหวแล้ว!

เฉินชางยืนอยู่ในห้อง พบว่ามีเครื่องหมายคำถามปรากฏเหนือศีรษะหลี่เป่าซาน

[ติ๊ง! ความลำบากใจของหลี่เป่าซาน สถานการณ์ยากลำบากของแผนกฉุกเฉิน

ข้อเสนอแนะของภารกิจ: รับภาระการผ่าตัดฉุกเฉินในช่วงที่เหล่าเฉินพักผ่อน ท้าทายความยากลำบากในช่วงเวลาสำคัญ ช่วยเหลือผู้ป่วยเคสยากๆ ที่ศูนย์ฉุกเฉิน 120 ส่งมา

รางวัลภารกิจ: เลือกรับทักษะการผ่าตัดระดับสูง (คุณจะได้รับทักษะการผ่าตัดที่ระบุหนึ่งรายการ คำเตือน: จำกัดอยู่ที่ทักษะการผ่าตัดในรายการหนึ่งและสองเท่านั้น)]

สุดยอดไปเลย!

ระบุได้ว่าจะรับทักษะการผ่าตัดไหน

เฉินชางหายใจลึก พูดอย่างหนักแน่นว่า “หัวหน้าแผนกครับ ผมทำได้!”

ทุกคนตามหาต้นเสียง พากันจ้องมองไปที่เฉินชาง!

คราวนี้เฉินชางไม่ได้มีท่าทางเขินอายอะไร กลับพูดอย่างหนักแน่นจริงจังว่า “หัวหน้าแผนกครับ ผมผ่าตัดถุงน้ำดีได้ ผมผ่าตัดผู้ป่วยที่ 120 ส่งมาได้!”

หวังหย่งรู้สึกสั่นสะท้านไปในพริบตา! เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังส่งเสียงเรียก

สิ่งที่เรียกว่าชะตาชีวิตมักปรากฏในยามทุกข์ตรม นี่ทำให้เขารู้สึกแสบจมูกจนหลุดปากออกมาว่า “หัวหน้าแผนก ผมเป็นผู้ช่วยเฉินชางได้นะครับ ผมร่วมมือผ่าตัดกับเขาได้!”

ฉินเยว่ก็พูดออกมาเช่นกัน “ใช่แล้ว! เฉินชางทำได้! ฉันก็ทำได้!”

ท่าทีของทั้งสามทำให้การแลกเวรจมลงสู่ความเงียบงัน! ทุกคนมองไปยังคนหนุ่มสาวทั้งสาม

ภายใต้ใบหน้าอ่อนเยาว์ทั้งสามคล้ายกับมีคำว่า ฉันทำได้และจะไม่ยอมแพ้ เขียนเอาไว้!

นี่ทำให้หวังเชียนรู้สึกอิจฉาจริงๆ!

นี่เป็นสิ่งที่คนหนุ่มสาวสมควรมี

เผชิญหน้าความยากลำบาก!

ฝ่าฟันอุปสรรค!

ยืนหยัดท่ามกลางกระแสอย่างกล้าหาญ!

เป็นผู้บุกเบิกแห่งยุคสมัย!

บอกตามตรง สิ่งนี้ทำให้ในใจของหวังเชียนเกิดความรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาแล้ว!

แต่อิจฉาก็ส่วนอิจฉา แม้เขาอยากพูดแต่กลับพูดออกไปไม่ได้ เพราะเขาทำไม่ได้ เขาเป็นหมอกระดูก มาทำงานเกี่ยวกับการผ่าตัดได้ก็ไม่เลวแล้ว ถ้าผ่าตัดไส้ติ่งยังพอทำได้ แต่หากเป็นการผ่าตัดถุงน้ำดี เขาจะทำได้ที่ไหนกัน?

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท