บทที่ 225 คุณเป็นคนมีพรสวรรค์จริงๆ
จิ่งหรานค่อนข้างรู้สึกสับสนงงงวย
เขาไม่รู้ว่าทำไมตนเองถึงต้องทำเช่นนี้ด้วย
เขางุนงงกับตนเอง
ผมควรจะยืนหยัดในความตั้งใจเดิมของผมไม่ใช่หรือ
จิ่งหรานรู้สึกไม่ค่อยสมัครใจ!
ทำไมผมถึงควบคุมมือทั้งสองข้างของผมไม่ได้
จิ่งหรานเติมน้ำเกลือลงไปในกะละมังอย่างระมัดระวัง เขามองเฉินชางพร้อมกับพยักหน้า “ผมเตรียมให้เรียบร้อยแล้วครับ”
เฉินชางพยักหน้า “ไม่เลว!”
แค่คำว่า ‘ไม่เลว’ เพียงหนึ่งคำ ใจของจิ่งหรานก็อ่อนระทวยไปหมด เขาชมผมอีกแล้ว
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของจิ่งหราน +5]
วิสัญญีแพทย์ถามเฉินชางว่า “หมอเฉิน เริ่มตอนไหน”
วิสัญญีแพทย์คนนี้ให้ความเคารพเฉินชางเด็กที่อายุไม่มากคนนี้มาก ถึงอายุจะน้อยแต่ฝีมือการผ่าตัดโดดเด่นกว่าใคร ก็เลยเรียกด้วยความเคารพว่า ‘หมอเฉิน’
เฉินชางพยักหน้า “รอเดี๋ยวนะครับ ผมนับถอยหลัง สาม สอง หนึ่ง!”
หลังจากที่พูดจบเฉินชางก็เอามือทั้งสองข้างไปจับที่ถุงซีสต์ชั้นในไว้ด้วยความระมัดระวัง เขาชำเลืองมองจิ่งหราน “คุณรู้มั้ยครับว่าผมจะทำอะไร”
เมื่อครู่นี้จิ่งหรานยังไงไม่รู้ แต่ตอนนี้รู้แล้ว
คุณกำลังจะอวดเก่ง!
แต่เขาไม่กล้าพูดออกไป
จิ่งหรานกลืนน้ำลาย ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่รู้ครับ…”
เว่ยจื้อเองก็ถอนหายใจออกมาด้วยความกระวนกระวายใจ พวกเราก็ไม่กล้าถาม แล้วก็ไม่กล้าพูดด้วย…
เฉินชางอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “ผมเตรียมจะกระตุ้นปอดเพื่ออาศัยอากาศจากการหายใจ ใช้ประโยชน์จากอากาศหมุนเวียนที่อยู่ด้านล่างกับปอดที่ขยายใหญ่ขึ้นดันซีสต์ทั้งก้อนออกมาจนหล่นมาอยู่ในกะละมังน้ำเกลือที่เตรียมไว้…”
“…เข้าใจหรือยังครับ”
คำพูดหนึ่งประโยคที่ทำเอาจิ่งหรานถึงกับตกตะลึง!
“เชี่ย!”
จิ่งหรานที่ได้รับการบ่มเพาะมารยาทอันดีงามมาตั้งแต่เกิดอดสบถคำนี้ออกไปไม่ได้!
นี่เป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะคิดยังไงตนก็คิดไม่ถึง!
แม้แต่ตอนที่เขาเห็นคนเป็นโรคหนอนแมลงวัน[1]เป็นครั้งแรก เขายังไม่รู้สึกสั่นคลอนขนาดนี้ ทว่าในตอนนี้พอได้ฟังแนวคิดของเฉินชางแล้ว เขาก็อดสบถคำว่า ‘เชี่ย’ ออกมาไม่ได้! (ถ้ามือซนก็ลองไปเสิร์ชรูปดูในไป่ตู้ว่าโรคนี้หน้าตาเป็นยังไง แต่อย่ามาด่าผมทีหลังนะ คำแนะนำ: ซูมดูรูปใกล้ๆ…ดูขณะที่กินข้าวไปด้วยยิ่งอร่อย)
นี่มันเป็นความคิดของคนมีพรสวรรค์?
คิดไม่ถึงว่าจะอาศัยระบบหายใจกับแรงดันภายในขับถุงซีสต์ออกมา!
นี่มันแนวคิดของคนมีพรสวรรค์ชัดๆ!
ผู้ชายที่ชื่อเฉินชางคนนี้ดูจะเก่งกาจเกินไปแล้วหรือเปล่า?
ยอดเยี่ยม!
ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ นัยน์ตาของจิ่งหรานก็เบิกโตขึ้น เขามองเฉินชางด้วยสีหน้าประหลาดใจ แล้วเขาก็คิดออกโดยพลัน “ความหมายของคุณคือ…!”
เฉินชางมองจิ่งหรานพร้อมกับยิ้มออกมา “คุณนี่ฉลาดเป็นกรดจริงๆ!”
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของจิ่งหราน +5]
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของจิ่งหราน +5]
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของจิ่งหราน +5]
เสียงแจ้งเตือนจากระบบดังติดต่อกันถึงสามครั้ง
จิ่งหรานกล่าวตามความจริง เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าจะใช้วิธีนี้ในการขับถุงซีสต์ออกมาได้ด้วย
นี่เป็นวิธีใหม่ชัดๆ!
นี่เป็นวิธีการกับแนวคิดใหม่ในการผ่าตัดเอาถุงซีสต์ไฮดาติดในปอดออก!
เฉินชางเป็นคนมีพรสวรรค์จริงๆ!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สายตาที่จิ่งหรานมองเฉินชางก็เปลี่ยนไปมาก
ตนจะต้องทำความรู้จักกับเฉินชางให้มากๆ
ในตอนที่จิ่งหรานมองเฉินชางอีกครั้ง เขาคิดอะไรมากมาย ทั้งยังคิดไปไกลมากด้วย
คิดถึงวันที่จะขึ้นไปรับรางวัลทางการแพทย์อู๋เจียผิงบนเวที คิดถึงคนที่ตนอยากจะกล่าวขอบคุณในวันที่ตนได้รับรางโนเบลบนเวที นึกถึงสีหน้าปลื้มอกปลื้มใจของเฉินชาง หลังจากที่เห็นว่าตนได้รับรางวัลโนเบลแล้ว…
ตั้งตารอคอย!
เฉินชางบอกกับวิสัญญีแพทย์ “สาม…สอง…หนึ่ง กระตุ้นปอด!”
วิสัญญีแพทย์พยักหน้า
และทันทีหลังจากจากนั้นปอดกลับมาทำงาน ถุงซีสต์ไฮดาติดถูกแรงดันจากปอดที่ขยายใหญ่ขึ้นดันออกมา
เฉินชางเอามือประคองไว้อย่างระมัดระวัง!
จ๋อม
ถุงซีสต์ไฮดาติดถูกขับออกมาแล้ว!
ในเวลานี้ ทุกคนต่างก็อดรู้สึกตื่นเต้นดีใจไม่ได้!
เว่ยจื้อมองเฉินชางด้วยความตื่นเต้น “เสี่ยวเฉิน สุดยอด!”
เฉียนเลี่ยงไม่พูดไม่จาอะไร เขาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าอีกเดี๋ยวเขาจะต้องทำเรื่องสำคัญที่เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องที่ใครก็ขวางเขาไว้ไม่อยู่
จางเผยอี้ตัดสินใจว่าจะคุยกับหลี่เป่าซานเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือของแผนกฉุกเฉิน
ในเวลานี้จิ่ งหรานประคองถุงซีสต์ด้วยมือทั้งสองข้าง เขามีสีหน้าราวกับยืนชื่นชมสายตาของทุกคนที่จับมาบนเวทีประกาศรางวัลโนเบล
ในเวลานี้เขากลายเป็นผู้ช่วยของ…พระเอกไปแล้ว
แต่จิ่งหรานไม่สนใจ ถึงอย่างไรเสีย ไม่มีใครผ่าตัดเพียงคนเดียวได้ จะต้องร่วมมือกันเป็นทีมกันทั้งนั้น
เฉินชางพยักหน้า “เร็วเข้า ยังต้อง เรายังต้องจัดการกับโพรงผนังชั้นนอกของถุงซีสต์ไฮดาติดด้วย”
จิ่งหรานพยักหน้า
เฉินชางบอกกับจิ่งหรานว่า “จบขั้นตอนสุดท้ายเป็นมั้ย”
จิ่งหรานชะงัก สีหน้าปลื้มปริ่ม “เป็นครับ! เป็น! เป็น!”
ในที่สุดเฉินชางก็เปิดโอกาสให้ตนได้แสดงความสามารถแล้ว?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สายตาที่จิ่งหรานมองเฉินชางก็แตกต่างจากเดิมไปโดยสิ้นเชิง
มีความสามารถ!
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์!
แล้วก็มีความโอบอ้อมอารี!
ถึงแม้ว่าการจบขั้นตอนสุดท้ายจะค่อนข้างยากอยู่สักหน่อย แต่เมื่อเทียบกับเมื่อครู่นี้แล้ว ก็จัดว่าง่ายกว่ามาก ความจริงควรจะกล่าวว่าพบเห็นได้บ่อยมาก
การจบขั้นตอนสุดท้ายก็แค่กำจัดผนังชั้นนอกของถุงซีสต์ไฮดาติดที่แตกรั่วและติดเชื้อกับพวกสารคัดหลั่ง แล้วก็เนื้อเยื่อปอดที่ตายแล้วออกเท่านั้นเอง
แน่นอนว่าจิ่งหรานรู้ว่าเหตุผลที่เฉินชางให้ตนได้แสดงฝีมือก็เพราะเฉินชางได้คิดอย่างรอบด้านแล้วว่าเป็นการรักษาหน้าตน
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเคสหายากเคสแรกของตน และตั้งแต่มาถึงก็ยังไม่ได้แสดงฝีมือเลย
สิ่งนี้จะทำให้บรรดาหัวหน้ามองว่าตนเป็นคนที่มีประวัติการศึกษาสวยหรูแต่ไร้ความสามารถ ไม่ใช่สิ พวกเขาจะมองว่าตนเป็นคนไร้ค่า
ทว่าในตอนนี้ ความใจกว้างเฉินชางทำให้จิ่งหรานค่อนข้างรู้สึกอาย!
คนๆ นี้ควรค่าแก่การคบหา!
เขาจะต้องพิสูจน์ความสามารถของตนให้เฉินชางได้เห็น!
ทำให้เฉินชางได้รู้ว่าเขาก็มีดีเหมือนกัน!
…
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของจิ่งหราน +10]
เฉินชางอดชำเลืองมองจิ่งหรานไม่ได้ คนคนนี้เป็นคนยังไงกันนะ ผ่าตัดหนึ่งเคส ให้ค่าความรู้สึกดีมาจะสามสิบแต้มแล้ว ใจง่ายไปแล้วหรือเปล่า?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็อดเป็นห่วงเกิ่งเหยียนไม่ได้
จิ่งหรานคงจะไม่ใช่คนเจ้าชูประตูดินหรอกนะ?
ยิ่งคิด เฉินชางก็ยิ่งรู้สึกว่าถ้ามีเวลาว่างตนควรคุยปัญหานี้กับเกิ่งเหยียนสักหน่อย
จิ่งหรานรับช่วงผ่าตัดต่อ
ขณะที่เฉินชางดูการผ่าตัดของจิ่งหราน เขาก็อดพยักหน้าไม่ได้ เป็นคนมีความสามารถจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้กรรไกรตัดเนื้อเยื่อบริเวณรอบถุงซีสต์ไฮดาติดชั้นนอก หรือจะเป็นการเย็บแผลรูเชื่อมระหว่างหลอดลมกับช่องเยื่อหุ้มปอด ทุกขั้นทุกตอนประณีตงดงามมาก ละเอียดอ่อนมาก ถ้าระบบประเมินเลเวลให้ ขั้นตอนทั้งหมดนี้จะต้องได้อย่างน้อยที่สุดก็ระดับสูง
ระหว่างผ่าตัดจำเป็นต้องล้างสิ่งตกค้างในช่องว่างต่างๆ รวมทั้งช่องอกด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้นสามเปอร์เซ็นต์หลายครั้ง แล้วตามด้วยยาฆ่าเชื้อเมโทรนิดาโซลผสมกับน้ำเกลือล้างซ้ำอีกหลายครั้ง
ถึงอย่างไรพยาธิไฮดาติดก็ไม่ใช่ของดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถุงซีสต์ไฮดาติกชั้นนอกที่แตกรั่วแล้วมีของเหลวที่ไหลออกมา
เมื่อเฉินชางมองด้วยตาเปล่า เขาไม่เห็นพยาธิไฮดาติดหลงเหลืออยู่แล้ว
เคสผ่าตัดนี้เคสนี้ไม่ได้ยุ่งยากมากขนาดนั้น
มีเพียงปัจจัยเดียวเท่านั้นที่ทำให้กังวลใจ นั่นก็คือการกำจัดถุงซีสต์ไฮดาดาติดชั้นใน ซึ่งก็ถูกเฉินชางกำจัดจนสิ้นซากด้วยวิธีการอันล้ำเลิศ
ฝีมือการผ่าตัดของจิ่งหรานทำให้นัยน์ตาของเว่ยจื้อกับเฉียนเลี่ยงเปล่งประกาย
จิ่งหรานมีฝีมือจริงๆ
เว่ยจื้อเห็นแล้วก็รู้สึกคันไม้คันมืออยากลองบ้าง
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง การผ่าตัดก็สิ้นสุดลง
ราบรื่นมาก
เว่ยจื้อยิ้ม “หมอจิ่ง คุณเป็นเพชรเม็ดงามของสถาบันโรคหลอดเลือดหัวใจแห่งชาติสังกัดโรงพยาบาลฟู่ว่ายจริงๆ ฝีมือการผ่าตัดของคุณยอดเยี่ยมมาก!”
เฉียนเลี่ยงก็พยักหน้าเห็นด้วย “หมอจิ่ง คุณเป็นคนเอาจริงเอาจังมาก”
จิ่งหรานยิ้มไม่ได้พูดอะไร
เขารอให้เฉินชางกล่าวชมเขา รอหลังจากที่เฉินชางชมเขาแล้ว เขาค่อยตอบกลับไปว่า ไม่หรอกครับ ไม่หรอกครับ หมอเฉินคุณก็เก่งมากเหมือนกัน
ทว่า…
รออยู่นานมาก เฉินชางก็ยังไม่พูดอะไรสักคำ สิ่งนี้ทำให้จิ่งหรานค่อนข้างประหลาดใจ เขาจึงหันหลังไปมอง แล้วเขาก็พบว่าเฉินชางไม่ได้ยืนอยู่ที่หน้าเตียงผ่าตัดแล้ว
สิ่งนี้ทำให้จิ่งหรานถึงกับไปไม่เป็น…
ไม่สบายใจมาก
แต่อย่างนี้การผ่าตัดก็ประสบความสำเร็จ!
เมื่อเห็นจิ่งหราน เว่ยจื้อ เฉียนเลี่ยง จางเผยอี้ ทั้งสี่คนต่างสรรเสริญเยินยอกันอยู่ในห้องผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ พวกคุณชนะแบบสบายๆ ไม่ต้องออกแรงอะไร แล้วตอนนี้เริ่มจะประจบกันไปมาแล้ว หมอเฉินต่างหากมือหนึ่งที่แท้จริง…
แน่นอนว่าวิสัญญีแพทย์กล้าแค่คิดอยู่ในใจ ไม่กล้าพูดออกมา ถึงอย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นถึงระดับหัวหน้า…
เฮ้อ ลำบากใจจัง
เอ๊ะ?
มือหนึ่งล่ะ
เฉินชางไปไหนแล้ว
เอ๊ะ?
มือหนึ่งทำไมไปยืนถ่ายรูปอยู่ตรงนั้นแล้วล่ะ
[1] โรคหนอนแมลงวัน (Myiasis) เกิดจากแมลงวันตัวเมียมาวางไข่ในร่างกายของเรา เช่น วางไข่บนบาดแผล วางไข่ในจมูก ในลูกตา จากนั้นไข่จะเจริญเติบโตเป็นหนอน และไชเข้าไปฝังตัวในเนื้อเยื่อหรือในอวัยวะของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ตัวหนอนมันจะกินของเหลวในร่างกาย กินเนื้อตายหรือเนื้อปกติเป็นอาหาร