เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 237 พวกดูถูกสาวคัพเอ!

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

บทที่ 237 พวกดูถูกสาวคัพเอ!

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ทันใดนั้นทุกคนก็เสนอว่าจะไปนั่งเล่นที่สนามฟุตบอล

นั่งกินลมที่สนามฟุตบอลก็ชิลดี

ทุกคนนั่งล้อมวงกันอยู่ที่สนามหญ้าเทียม ดมกลิ่นหญ้าเทียมที่คล้ายกลิ่นยางลบ ส่งเสียงหัวเราะสนุกสนาน

ต่างฝ่ายต่างถามกันและกันว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ทำอะไร แล้วพรุ่งนี้จะไปไหน เล่าให้กันฟังว่าช่วงสามปีที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

ติเรื่องที่โรงพยาบาลไม่มองแพทย์ที่เข้ามาฝึกอบรมเป็นแพทย์

บ่นเรื่องหางานยาก

บ่นเรื่องอาชีพแพทย์ แพทย์ที่มีอายุรายได้ดี สวัสดิการดีกว่าแพทย์วัยหนุ่มสาว ซึ่งเป็นวัยที่ต้องการเงินไปขอสาวแต่งงานมากที่สุด แต่กลับมีรายได้น้อย

คุยกันเรื่องตลาดค้าหมูว่าค้าขายดีมาก หรือว่าพวกเขาควรจะเป็นอาชีพดี

พออายุสามสิบ คิดอะไรก็รอบคอบมากยิ่งขึ้น

ขณะที่เฉินชางกำลังนั่งใจลอยอยู่นั้น จู่ๆ เขาก็พบว่าแค่พริบตาเดียวก็ผ่านไปสามปีแล้ว ทุกคนต่างก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ยังคงไร้เดียงสา ยังคงเรียบง่าย ยังคงจน

มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลง เฉินชางรู้สึกว่าเส้นผมบนศีรษะของทุกคนบางลงไปมากจนหัวเถิกขึ้นเล็กน้อย ทุกคนต่างเผชิญกับความกดดันที่สูงขึ้น เลือกแฟนคนที่หน้าตาธรรมดามากขึ้น ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันมากว่าอนาคต

เฉินชางกลับมาถึงบ้านเวลาสี่ทุ่มกว่า

เขาไม่ได้พักผ่อน แต่เปิดดูคลิปศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์

ในเมื่อต้องการจะทำเรื่องนี้ เป็นธรรมดาที่จะต้องทุ่มเททั้งกายใจ

เฉินชางเปิดคอมพิวเตอร์ หลังจากศึกษาวิเคราะห์การเย็บเส้นเอ็นทุกชนิดอย่างละเอียด ก็สรุปและแยกประเภทออกมาอีกครั้ง

หลังจากรวบรวมเทคนิคการเย็บเส้นเอ็นระดับปรมาจารย์ครบแล้ว โลกทัศน์ของเฉินชางก็กว้างขึ้น ตอนที่ดูคลิปเย็บเส้นเอ็น มุมมองกับแนวคิดของเขาก็เปลี่ยนไปมากด้วยเช่นกัน

มีวิธีเย็บเส้นเอ็นแบบตัวอักษรเอสของบันเนลล์ ความจริงแล้ววิธีนี้เหมาะกับการเย็บเส้นเอ็นบริเวณมือเป็นพิเศษ แล้วก็ยังมวิธีเย็บแบบถัก วิธีเย็บแบบมัดปม มีวิธีเย็บเส้นเอ็นของเคสเลอร์ มีวิธีเย็บเส้นเอ็นของสึเกะ (วิธีเย็บแบบวงกลม) มีวิธีเย็บเส้นเอ็นของไคลเนิร์ท เป็นต้น แต่ละวิธีล้วนมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เฉินชางคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะดึงจุดเด่นของแต่ละวิธีออกมาได้ และหลีกเลี่ยงจุดด้อยของแต่ละวิธีเหล่านั้น จากนั้นก็ค้นหาวิธีที่ดียิ่งกว่าออกมา

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากอย่างเห็นได้ชัด

วิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทัง เฉินชางทำไม่ได้…

อย่าว่าแต่เฉินชางเลย แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในมณฑลตงหยางก็มีไม่กี่คนที่เย็บเส้นเอ็นด้วยวิธีการเย็บเส้นเอ็นของทังได้ ประเด็นที่หนึ่ง ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรบวิธีการเย็บเส้นเอ็นของทังสูง อีกทั้งเป็นการผ่าตัดทีมีความยากอยู่ในระดับค่อนข้างสูง และความเสี่ยงในขั้นตอนผ่าตัดเย็บเส้นเอ็นด้วยวิธีนี้ก็สูงมากด้วย

วิธีการเย็บเส้นเอ็นของทังเป็นวิธีการเย็บเส้นเอ็นที่แพทย์ต้องมีคุณสมบัติสูงมาก และระยะเวลาในการฝึกอบรบก็ใช้เวลานาน ทำให้ค่าใช่จ่ายในการฝึกอบรบสูงตามไปด้วย วิธีการเย็บเส้นเอ็นของทังเป็นวิธียกระดับผลลัพธ์ในการรักษาให้สูงขึ้นจากหกสิบปอร์เซ็นต์เป็นแปดสิบห้าเปอร์เซ็นต์

ระดับความยากที่สูงขึ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ ทำให้ศัลยแพทย์ต้องทุ่มเทความพยายามในการฝึกฝนเรียนรู้เป็นเท่าตัว ใช้เวลาในการอบรบนานยิ่งขึ้น สำหรับผู้ป่วยแล้ว ก็ต้องจ่ายค่าผ่าตัดที่แพงเกินครึ่งของค่าผ่าตัดด้วยวิธีอื่นด้วย

ดังนั้นไม่ได้บอกว่าศัลยแพทย์ในมณฑลตงหยางค่อนข้างโง่เขลา แต่เพราะปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม ทุกคนเลยไม่จำเป็นต้องพยายามหาทางปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นอีก

เมื่อเทียบกันแล้ว วิธีการเย็บเส้นเอ็นของเคสเลอร์ค่อนข้างง่าย ผลลัพธ์ในการรักษาดี ใครๆ ก็เรียนรู้ได้ แบบนี้ไม่น่าสนใจกว่าหรือ

กล่าวได้ว่าการเย็บเส้นเอ็นแบบวิธีของทังที่ทำได้อย่างครึ่งๆ กลางๆ ไม่อาจสู้ผลลัพธ์การฝึกฝนวิธีการเย็บเส้นเอ็นของเคสเลอร์ได้อย่างชำนาญ

เฉินชางดูคลิปพร้อมวาดๆ เขียนๆ บันทึกข้อมูลสำคัญไปจนกระทั่งเวลาตีหนึ่งกว่าถึงเข้านอน

ทว่าในเวลานี้ฉินเยว่ยังไม่เข้านอน

เมื่อเปรียบเทียบฝีมือการเย็บเส้นเอ็นกับเฉินชางแล้ว ฉินเยว่เห็นข้อบกพร่องของตนเองในการเย็บเส้นเอ็นชัดมากขึ้น เธอไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ แต่หลังจากที่เข้ามาอยู่แผนกฉุกเฉิน เธอก็ได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างมาก ไม่มีใครรู้ว่าทำไม จู่ๆ เฉินชางถึงฝันกลางวัน จนตั้งเป้าหมายเพ้อฟันขึ้นมาหนึ่งเป้าหมาย

ปรับปรุงวิธีการเย็บเส้นเอ็นของทัง คิดค้นวิธีการเย็บเส้นเอ็นของเฉินชาง ทำไมใจคุณมันใหญ่โตนักนะ

แต่แขวะไปก็เท่านั้น เรื่องที่ต้องทำก็มีไม่น้อย

เธอหยิบปากกาขึ้นมาวาดๆ เขียนๆ ตลอดทั้งคืน เขียนไปยี่สิบกว่าหน้า ค้นหาวิทยานิพนธ์ทั้งในและต่างประเทศ หาเป้าหมายการวิจัยแต่ละหัวข้อเป็นต้น

หลังจากที่ดูคลิปไปหลากหลายคลิป ฉินเยว่รู้สึกว่ารอยหยักในสมองของเธอเพิ่มอีกหลายหยัก เธอเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก ทันใดนั้นความคิดอันเฉียบแหลมก็ผุดขึ้นในหัว เธอลูบหน้าอกตัวเอง เล็กขนาดนั้นจริงๆ หรือ

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินเยว่รู้สึกไม่ยอมรับในความคิดเห็นนี้ เปิดแอปบิวตี้แคมบนโทรศัพท์มือถือ ปลดกระดุมชุดนอนออก ถ่ายรูปวิเคราะห์อยู่นาน ก็มีอยู่นะ? ไม่ได้แบนราบสักหน่อย!

คนกลุ่มนั้นเป็นพวกไม่รู้จริง เป็นพวกชอบดูถูกสาวคัพเอ!

โดยเฉพาะเฉินชาง!

เขาทำให้ฉันวิตกกังวล คอยดูเถอะ ฉันจะอัพไซส์เป็นคัพดี พวกคุณทุกคนจะต้องตกตะลึงจนช็อกตายไปเลย!

เธอใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปตนเองหลายสิบมุม ฉินเยว่ชื่นชมด้วยความปลื้มอกปลื้มใจหนึ่งรอบ ฉันสวยมากจริงๆ!

ใบหน้าของฉินเยว่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง “กระจกวิเศษ บอกข้าเถิด ใครงามเลิศที่สุดในปฐพี”

ลำโพงอัจฉริยะ “แน่นอนว่าต้องเป็นท่าน! ท่านคือสตรีที่งามเลิศที่สุดในปฐพี”

เมื่อฉินเยว่ได้ยินเช่นนั้นก็อารมณ์ดีเป็นพิเศษ “แล้วใครหน้าอกหน้าใจใหญ่บิ๊กบึ้มที่สุดในปฐพี”

“โอ้ นายท่าน ข้าช่างน่าอัปยศอดสูนัก ข้าตอบคำถามนี้ไม่ได้”

เช้าวันถัดมา เฉินชางไปที่คลินิกศัลยกรรมจื้อซินแต่เช้าตรู่

วันนี้หน้าอกของฟู่อวี้ฟางที่เสริมไปน่าจะเข้าที่แล้ว ไม่ว่าจะในแง่ของรูปทรง ขนาด ความนิ่ม ความเป็นธรรมชาติ เฉินชางอยากเห็นเหลือเกินว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรกันแน่ ถึงอย่างไรเสีย นี่ก็เป็นผลงานศัลยกรรมเสริมหน้าอกเคสแรกของตน ที่ตนทั้งทุ่มเทกำลังกายกำลังสมองไปไม่น้อย

เฉินชางเพิ่งจะย่างเท้าก้าวเข้าไปในคลินิก สวีโหรวก็มาถึงแล้ว เธอพยักหน้าพร้อมกล่าวทักทายเฉินชางด้วยความเคารพว่า “สวัสดีค่ะหมอเฉิน!”

เฉินชางพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “สวัสดีครับผู้จัดการสวี”

สวีโหรวในตอนนี้ดูสุภาพกับเฉินชางมากกว่าเมื่อครั้งแรกที่เจอกันมาก แม้แต่ค่าความรู้สึกดีก็ยังสูงขึ้นถึงสิบห้าแต้ม

ท้ายที่สุดแล้วคนมีศักยภาพยังคนเป็นบุคคลที่ค่อนข้างได้รับความเคารพ

คนอื่นแค่ยิ้มให้เล็กน้อย แต่สวีโหรวยิ้มจนเนื้อตัวสั่น “หมอเฉินคะ น้องสาวของฟู่อวี้ฟางมาถึงแล้วค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ห้องติดตามผล อ้อ จริงด้วยค่ะ ช่วงนี้มีลูกค้าสามรายอยากเสริมหน้าอก หลังจากที่เห็นราคาของคุณแล้ว พวกเธอต่างก็รู้สึกประหลาดใจ เลยอยากจะเข้ามาสอบรายละเอียดสักหน่อย”

พอสวีโหรวกล่าวมาถึงตรงนี้ เธอก็หยิบนิตยสารฉบับหนึ่งยื่นให้เฉินชาง

เฉินชางรับนิตยสารฉบับบนั้นมา เขาถึงกับชะงักเล็กน้อย รูปตนเองเต็มๆ หน้า เป็นรูปครึ่งตัวของตน (ภาพหน้าปกนิตยสาร) รอบๆ เป็นประวัติ (ฉบับจางจื้อซิน) ราคาศัลยกรรมเสริมหน้าอกหนึ่งล้านหยวน!

สวีโหรวยิ้ม “นี่เป็นความต้องการของผู้อำนวยการจางค่ะ ตอนนี้คุณเป็นจุดขายของคลินิกเราแล้ว เรารับคิวนัดหมายล่วงหน้า แล้วค่อยติดต่อคุณ หมอเฉิน คุณลองดูว่าโอเคมั้ยคะ”

เฉินชางพยักหน้า ศัลยแพทย์ตกแต่งระดับไฮเอนด์จริงๆ เลย ค่าศัลยกรรมเสริมหน้าอกหลักล้าน นี่มันเรื่องตลกแท้ๆ

“เช้านี้นัดพวกเธอเข้ามาที่คลินิกหน่อย พวกเธอรับราคานี้ได้?” เฉินชางรู้สึกยากจะเชื่อ ถึงอย่างไรเสียราคาเสริมหน้าอกก็สูงมากจริงๆ ราคาสูงที่สุดในประเทศแล้ว ราคาทั่วไปอยู่ที่สองแสนหยวน ราคานี้แพงกว่าคนอื่นทำห้าเคสรวมกันเสียอีก!

สวีโหรวยิ้ม “พวกเธอเป็นกลุ่มลูกค้าไฮโซ กระเป๋าหนัก กำลังในการจ่ายค่อนข้างสูง พวกเธอเป็นลูกค้าวีไอพีของเรา ปกติค่าใช้จ่ายในบำรุงรักษาสุขภาพของพวกเธอตกประมาณหลักล้านต่อปีอยู่แล้วค่ะ”

เฉินชางพยักหน้าเหมือนว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง

ดูแล้วสภาพแวดล้อมที่ทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่เช่นนั้นถ้าไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถที่มีอยู่ในตัวออกมา ความสามารถนั้นก็เปล่าประโยชน์

อนาคตตนคงต้องร่วมงานกับหยางเทากับฉินเสียงสักหน่อยแล้ว

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท