เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 252 อบรมหลักสูตรพิเศษวิธีเย็บเส้นเอ็นของบันเนลล์

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

บทที่ 252 อบรมหลักสูตรพิเศษวิธีเย็บเส้นเอ็นของบันเนลล์

ความจริงแล้วเฉินชางอธิบายให้ฟ่านอวิ๋นสยาฟังไปพร้อมกับที่อธิบายให้ตนเองฟังด้วย!

หมายความว่าอย่างไร

ทุกคนล้วนเคยมีประสบการณ์ในการอธิบายอะไรให้คนอื่นฟังแล้วระหว่างที่กำลังอธิบายก็เกิดความรู้สึกอย่างหนึ่งขึ้นมา ก็คือจู่ๆ ก็พบว่าระหว่างที่อธิบายอยู่นั้น ตนเองเกิดความเข้าใจในเรื่องที่กำลังอธิบายลึกซึ้งขึ้น หรือไม่ก็พบว่าตนยังเข้าเรื่องที่อธิบายไม่มากพอ หรือไม่ก็รู้สึกเกิดความมั่นใจในความรู้ที่ตนมีในเรื่องที่ตนกำลังอธิบายเพิ่มขึ้น

การทบทวนความรู้เป็นประจำด้วยการใช้งานจริงช่วยพัฒนาความรู้ความเข้าใจในทฤษฎีนั้นๆ!

ฉินเยว่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ตั้งใจฟังยิ่งกว่าฟ่านอวิ๋นสยาเสียอีก เธอพบว่าเฉินชางเข้าใจเรื่องการเย็บเส้นเอ็นลึกซึ้งมากจริงๆ มิน่าเล่า ถึงเย็บเส้นเอ็นได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้น!

ปกติหลังจากเลิกงานกลับบ้านไปแล้วเขาจะต้องหาความรู้เพิ่มเติมเป็นประจำแน่เลย?

ฮาร์ดดิสก์ของเขาจะต้องมีคลิปการผ่าตัดเยอะมากแน่ ไว้วันหลังค่อยขอเขาก็อปปี้ไว้หนึ่งชุด

จู่ๆ ฉินเยว่ก็พลันรู้สึกว่า บางทีเฉินชางอาจจะต้องการที่จะคิดค้นวิธีการเย็บเส้นวิธีใหม่ขึ้นมาจริงๆ ก็ได้ วิธีที่เรียกว่าวิธีเย็บเส้นเอ็นของเฉิน บางทีความคิดนี้อาจจะเป็นไปได้ก็ได้!

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินเยว่ก็อดหัวใจเต้นระรัวไม่ได้

เป็นไปได้ว่าเฉินชางกำลังจะทำเรื่องอะไรที่ยิ่งใหญ่อยู่

ในตอนนี้ฉินเยว่รู้สึกได้ถึงภารกิจอันหนักอึ้ง ถึงอย่างไรเสีย เฉินชางก็ชวนเธอร่วมภารกิจนี้ด้วย เฉินชางพยายามขนาดนั้น ตนจะทำตัวถ่วงรั้งไม่ได้เช่นกัน

เดี๋ยวนี้เฉินชางเจตนาลดความเร็วในการเย็บบาดแผลลง เพราะตั้งใจที่จะเก็บรายละเอียดสิ่งที่ได้ระหว่างที่กำลังเย็บบาดแผลกับหาข้อบกพร่องให้เจอ

พยายามค้นหาว่าจะทำอย่างไรถึงจะลดปัจจัยที่ทำให้เกิดพังผืดและเพิ่มความเร็วในการฟื้นตัวของบาดแผลได้ เฉินชางต้องการที่จะหาข้อสรุปของสองข้อนี้?

งานรัดตลอดช่วงเช้า ผู้ป่วยเส้นเอ็นบาดเจ็บแห่แหนกันมาราวกับผึ้งแตกรัง ทยอยกันเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน

เฉินชางไม่เพียงไม่บ่นว่า แต่กลับรู้สึกปีติยินดีเป็นพิเศษ ย่นระยะเวลาที่ตนจะต้องเย็บเส้นเอ็นให้ครบห้าร้อยเคสได้มาก

ในช่วงเช้า เฉินชางเย็บเส้นเอ็นไปได้หกเคสโดยมีฉินเยว่เป็นลูกมือ ถึงแม้ว่าจะมีสามเคสที่ต้องทำที่ห้องหัตการซึ่งก็สะดวกสบายดี แต่เมื่อเทียบกันห้องผ่าตัดแล้ว การเย็บในห้องหัตถการมีความยุ่งยากอยู่สักหน่อย

หลังจากที่ทั้งสองเดินออกมาจากห้องหัตถการก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว เฉินชางบิดขี้เกียจ พลางมองดูฉินเยว่ที่กำลังกางแขนทั้งสองข้างทำท่าบริหารอก!

ทันทีที่จ้องมองไป เขาก็ถึงกับชะงักเล็กน้อย!

เอ๊ะ?

ดูเหมือนว่า…

จะไม่ใช่คัพเอ!?

จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าตนเองกำลังช็อกกับสิ่งที่ค้นพบ

สิ่งนี้น่าประหลาดใจเสียยิ่งกว่าตอนที่พบข้อบกพร่องของวิธีการเย็บเส้นเอ็นแบบเคสเลอร์เสียอีก

เฉินชางอดกล่าวไม่ได้ว่า “บ้าจริง…ปกปิดได้มิดชิด!”

ฉินเยว่หันมาอย่างฉับพลัน สายตาของเธอดุดันเชือดเฉือนดั่งคมมีด ราวกับปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะควักลูกตาทั้งสองข้างของเฉินชางออกมา

เฉินชางกระแอมออกมาหนึ่งที กล่าวอย่างฉับไว “ผมเลี้ยงข้าวกลางวันคุณ ลำบากคุณแล้ว”

ฉินเยว่ “จัดว่าคุณเป็นคนมีจิตสำนึก”

ในช่วงเช้าเย็บเส้นเอ็นไปหกเคส ถึงแม้ว่าเคสเย็บเส้นเอ็นจะไม่ได้ทำเงินเท่าไหร่นัก เมื่ออิงจากระบบคำนวณค่าผ่าตัด เฉินชางจะได้เงินจากเคสประเภทนี้ไม่กี่ร้อยหยวน แน่นอนว่าฉินเยว่ก็ได้ด้วยเหมือนกัน นี่เป็นข้อดีของการเป็นบุคลากรในสังกัด ยิ่งทำยิ่งได้ ขอแค่คุณเซ็นชื่อเข้าร่วมผ่าตัด คุณก็มีเงินเข้าแล้ว

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบบ่ายโมงกว่าแล้ว ช่วงเวลาพักรับประทานอาหารกลางวันของคนจำนวนมากผ่านพ้นไปแล้ว ทั้งสองเดินไปด้วยกัน ซึ่งดูเข้ากันได้ดี

ฉินเยว่ชอบสวมเสื้อผ้าตัวใหญ่ๆ สไตล์เกาหลีที่เสื้อผ้าตัวใหญ่โคร่ง ก็เลยทำให้มองไม่เห็นขนาดของทรวงอก

เฉินชางอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ฉินเยว่ ทำไมคุณไม่สวมเสื้อผ้าเน้นทรวดทรง? คุณสวมเสื้อผ้าแบบนี้จะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าคุณเป็นผู้ชาย!”

ฉินเยว่พ่นลมออกทางจมูกด้วยความไม่พอใจ “ชิ! ฉันกลัวคุณจะหลงใหลในความสวยของฉัน!”

เฉินชางแทบกระอักเลือด!

หลงใหลในความสวยของคุณเนี่ยนะ…

ทั้งสองรับประทานทานเมนูเนื้อตุ๋นสมุนไพรสิบห้าชนิดที่ร้านหลิวอี้กัวเป็นมื้อกลางวัน อาหารเลิศรสคือยาฟื้นฟูร่างกายชั้นยอดจริงๆ หลังจากที่ออกมาจากร้านแล้ว เฉินชางกับฉินเยว่อิ่มเอมและผ่อนคลายอย่างที่สุด ถ้าได้นอนสักงีบในตอนนี้คงจะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก

แต่เนื่องจากว่าช่วงเช้ากว่าจะได้ออกไปพักก็สายแล้ว หลังจากที่รับประทานอาหารมื้ออร่อยไป ก็เป็นเวลาเกือบบ่ายสามโมงแล้วแล้ว เลยทำได้แค่เพียงกลับเข้างานทันที

ช่วงบ่ายผู้ป่วยยังคงไม่ลดลง มีเคสเย็บเส้นเอ็นหกถึงเจ็ดเคส

แม้แต่เฉินชางก็ยังยืนปวดเอว ส่วนฉินเยว่ก็เหนื่อยจนพูดอะไรไม่ออกสักคำ

เฉินชางคิดจะโอดครวญออกมาว่าปวดเอว แต่เขาก็หยุดความคิดที่จะพูดออกไป เกิดพูดออกไปแล้วโดนย้อนถามว่าคุณไตพร่อง[1]หรือไง จะไม่เท่ากับหาเรื่องให้โดนแขวะว่าไร้สมรรถภาพทางเพศหรือ

เขาเหนื่อยขึ้นนิดหน่อย แต่สิ่งที่ได้ก็ท่วมท้นทีเดียว!

เฉินชางรู้สึกว่าช่วงบ่ายวันนี้เขาเข้าใจในสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับการเย็บเส้นเอ็นลึกซึ้งขึ้นมาก

เฉินชางกลับมาถึงบ้านด้วยความเหนื่อยล้า แล้วเขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้น

[ติ๊ง! ภารกิจประจำวันเสร็จสิ้น ได้รับ: อบรมหลักสูตรพิเศษวิธีเย็บเส้นเอ็นของบันเนลล์ เริ่มการอบรมเลยหรือไม่?]

เฉินชางนอนว่างอยู่บนเตียงนอนไม่มีอะไรทำก็เลยกดเริ่มอบรมเสียเลย

ภาพตรงหน้าเปลี่ยนไปในทันใด เฉินชางปรากฏตัวอยู่ในห้องผ่าตัด

ทว่าตรงหน้าเฉินชางมีชายชาวต่างชาติคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า ชายชาวต่างชาติสวมชุดกาวน์สีขาวยืนอยู่ตรงนั้น

“สวัสดีครับ ผมชื่อบันเนลล์!” ชายชาวต่างชาตแนะนำตนเองด้วยรอยยิ้ม

เฉินชางค่อนข้างตะลึง นี่คือสิ่งที่เรียกว่าการอบรมหลักสูตรพิเศษวิธีเย็บเส้นเอ็นของบันเนลล์?

แต่คุณบันเนลล์จากโลกนี้ไปตั้งนานแล้ว แบบนี้เท่ากับเจอผีหรือเปล่าเนี่ย?

เฉินชางรีบโค้งคำนับ กล่าวทักทายท่านผู้อาวุโส “สวัสดีครับคุณบันเนลล์ที่เคารพ”

บันเนลล์หัวเราะพร้อมกับพยักหน้า “วันนี้ผมมาอบรมหลักสูตรพิเศษวิธีเย็บเส้นเอ็นของบันเนลล์ให้คุณ”

หลังจากที่กล่าวจบ บันเนลล์ก็ผายมือข้างหนึ่งออกไป แล้วผู้ป่วยคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น

เขากวักมือเรียกเฉินชาง “ความจริงแล้ว แทนที่จะเรียกว่าวิธีเย็บเส้นเอ็นของบันเนลล์ ไม่สู้เรียกว่าเทคนิค Pull-out method จะเห็นภาพมากว่า หลักการคือสำคัญคือการเย็บเส้นเอ็นจากด้านในแล้วมัดปมด้านนอก โดยมัดปมเหนือหมุดที่วางอยู่บนแผ่นเล็บ…

…คุณเข้าใจกระบวนการสำคัญของวิธีเย็บเส้นเอ็นของบันเนลล์แล้วใช่มั้ยครับ ลำดับต่อไปลองเย็บเส้นเอ็นด้วยวิธีนี้ดูนะครับ”

“ตอนนี้คุณอาจจะพบว่า ความจริงวิธีเย็บเส้นเอ็นของบันเนลล์ไม่ได้เหมาะกับทุกเคส เส้นเอ็นของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกันออกไป เส้นเอ็นที่ไม่เหมือนกัน การวางตำแหน่งในการรักษาก็แตกต่างกัน วิธีรักษาก็ไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกันกับลักษณะของบาดแผลที่มีความแตกต่างกันออกไป สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องให้คุณวินิจฉัยว่าลักษณะของเส้นเอ็นกับบาดแผลแบบไหนที่เหมาะกับวิธีของบันเนลล์ ตัวเลือกไหนที่ยอดเยี่ยมที่สุด…เชิญทดลองครับ…”

“โอเค หลังจากผ่านการการฝึกอบรมเป็นเวลานาน ตอนนี้คุณเข้าวิธีเย็บเส้นเอ็นของบันเนลล์มากพอแล้ว งั้นในลำดับต่อไป สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้คือ จุดเด่นของวิธีการเย็บเส้นเอ็นของบันเนลล์!…

…จุดเด่นของวิธีนี้ชัดเจนมาก นั่นก็คือไม่มีวัสดุเย็บแผลที่ค้างอยู่ภายในเส้นเอ็น! ซึ่งส่งผลดีต่อการฟื้นฟูของเส้นเอ็นในในภายหลัง ในขณะเดียวกันก็ไม่ก่อให้เกิดพังผืดเพราะไม่มีสิ่งวัสดุเย็บแผลค้างอยู่ภายใน…

…แต่กระบวนในการเย็บเส้นเอ็นด้วยวิธีนี้ค่อนข้างซับซ้อนมาก ถ้าฝีมือไม่ถึงก็จะทำให้เกิดพังผืดได้ง่ายมากเช่นกัน ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องให้คุณฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง…

…ดังนั้นช่วงเวลาต่อจากนี้ ขอให้คุณเริ่มฝึกฝนจนกว่าผมจะพึงพอใจ แล้วคุณถึงออกจากการอบรมได้”

ภายใต้คำชี้แนะของบันเนลล์ เฉินชางราวกับได้ผ่านประสบการณ์ในการปรับเปลี่ยนเทคนิคในการเย็บเส้นเอ็นมาเป็นเวลาสิบปี สิ่งเหล่านี้เป็นความรู้ใหม่ และเป็นความเข้าใจในเชิงลึกในเกี่ยววิธีเย็บเส้นเอ็น ผ่านการฝึกฝนครั้งแล้วครั้งเล่า การเรียนรู้ซ้ำๆ ทำให้เฉินชางเกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยววิธีเย็บเส้นเอ็นวิธีนี้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ!

ทุกครั้งหลังผ่าตัดเสร็จ บันเนลล์จะวิเคราะห์ให้เฉินชางฟังด้วยตัวเขาเอง มองหาจุดบกพร่อง พยายามบุกทะลวงคอขวดอย่างเต็มที่!

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าผ่านประสบการณ์ในการเย็บเส้นเอ็นวิธีนี้ไปกี่เคส เฉินชางมีความความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยววิธีเย็บเส้นเอ็นวิธีนี้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อัตราความสำเร็จในการเย็บเส้นเอ็นก็สูงขึ้นเรื่อยๆ!

ส่วนบันเนลล์ก็มองเฉินชางแล้วหัวเราะออกมา “พ่อหนุ่ม คุณยอดเยี่ยมมาก หวังว่าวิธีเย็บเส้นเอ็นของบัลเนลล์ในมือคุณจะส่องแสงเรืองรอง แต่จำไว้นะครับว่า วิธีการเป็นเพียงแนวทางสำหรับการรักษา แต่อย่าเคร่งจนขาดความคิดนอกกรอบ ทุกวิธีการล้วนมีข้อจำกัดของแต่ละวิธี คุณจะต้องก้าวข้ามขีดจำกัดของแนวคิดให้ได้ ทำความเข้าใจกับโรค เพื่อเลือกวิธีในการรักษาที่เหมาะสม ความจริงแล้วการเย็บเส้นเอ็นไม่มีวิธีไหนที่ยืดหยุ่นไม่ได้ ถึงขั้นที่คุณเลือกวิธีต่างๆ มาผสมผสานกันตอนผ่าตัดได้!”

เฉินชางพยักหน้า โค้งคำนับด้วยความเคารพอย่างจริงใจ “ขอบคุณคุณบันเนลล์อย่างสุดซึ้งที่ให้คำชี้แนะครับ!”

ในครั้งนี้เฉินชางรู้สึกขอบคุณจากใจจริงๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นภาพเสมือนของระบบ แต่ความรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริง

เฉินชางเพิ่งจะกล่าวขอบคุณไป เขาก็กลับมานอนอยู่บนเตียงแล้ว

กล่าวตามความจริง เฉินชางผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรพิเศษมาหลายครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่เฉินชางรู้สึกสมจริงมากที่สุด!

การเรียนรู้วิธีเย็บเส้นเอ็นในครั้งนี้เป็นการเรียนรู้ภายใต้คำชี้แนะของบันเนลล์จริงๆ

เขาหลับตาลง ยังคงหวนนึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนได้เรียนรู้จากการอบรมหลักสูตรพิเศษครั้งนี้

การอบรมในครั้งนี้ได้ความรู้อย่างลึกซึ้งมากจริงๆ ทำให้เฉินชางได้เรียนรู้ถึงจิตวิญญาณกับแก่นแท้ของการเย็บเส้นเอ็น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก

ถึงทักษะการเย็บเส้นเอ็นของเฉินชางจะอยู่ระดับปรมาจารย์แล้ว แต่เขาก็รู้สึกว่าถึงแม้ว่าเทคนิคการเย็บเส้นเอ็นของคุณบันเนลล์จะยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์แบบแต่ก็อยู่ไม่ไกล

แต่เฉินชางมองว่าทักษะการเย็บเส้นเอ็นระดับปรมาจารย์ของตนยังห่างไกลความสมบูรณ์แบบอยู่

ทว่าความสำเร็จในการเย็บเส้นเอ็นด้วยวิธีของบันเนลล์นี้ ทำให้ทักษะการเย็บเส้นเอ็นของเฉินชางก้าวเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นอีกหนึ่งก้าวใหญ่!

[1] ภาวะไตพร่อง เป็นโรคที่ทำให้มีอาการปวดเอว ความรู้สึกทางเพศลดลง ร่างกายอ่อนเพลีย

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท