Martial God Space – ตอนที่ 331

ตอนที่ 331

Martial god space ตอนที่ 331 สภาวะหยั่งรู้

เย่ ซีหวิน เดินอย่างไม่รีบร้อน เพราะมีกฏห้ามบินในสถาบันยอดยุทธ การเดินทางส่วนใหญ่ภายในสถาบันยอดยุทธจะต้องเดินเท่านั้น มันเป็นการฝึกฝนอีกรูปแบบหนึ่งเพื่อทดสอบความมุ่งมั่น และความตั้งใจของเหล่าบรรดาสาวก

เย่ ซีหวิน เดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงยอดเขา ทันใดนั้น เขาก็พบชายหนุ่มคนหนึ่งยืนรออยู่ เขาอายุประมาณ 20 ปี ขนคิ้วของเขาเฉียงขึ้นด้านบน และมีดวงตาอันแหลมคมเหมือนกับเหยี่ยว ตัวของเขาสูงแต่ดูสง่า เขาสวมเสื้อคลุมสีขาว และสีหน้าของเขาดูปลอดโปร่งไร้ซึ่งความกังวล

” เจ้าคือ เย่ ซีหวิน? ” ชายหนุ่มคนนั้น ถามเขา

” ใช่! ” เย่ ซีหวิน พยักหน้า

” มากับข้า! ” ชายหนุ่มคนนั้น ไม่ได้พูดปฏิเสธเขาตั้งแต่แรก ทำให้ เย่ ซีหวิน รู้สึกผ่อนคลาย และถอนหายใจด้วยความโล่งใจ

” ชื่อของข้าคือ ไป่ เจี้ยนสง เป็นศิษย์อันดับ 3 ของยอดขุนเขาดาราลี้ลับ ตอนนี้เจ้าเป็นศิษย์ของยอดขุนเขาดาราลี้ลับของเราแล้ว นอกจากเจ้าแล้วยังมีศิษย์อีกสองคน อีกครู่หนึ่งเราจะตามไปสมทบกับพวกเขา! ” ไป่ เจี้ยนสง กล่าว

” ยินดีที่ได้พบ ศิษย์พี่สาม! ” เย่ ซีหวิน ประสานมือคำนับเขาด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะกล่าวต่ออีกว่า ” ไม่ต้องทดสอบหรือ? “

” มีอะไรให้ทดสอบ ปกติเรารับศิษย์ไม่มาก และเจ้าเองก็ไม่ต้องแข่งขันกับใคร หากเจ้าอยากจะทดสอบข้าก็จัดให้ได้ ศิษย์ใหม่ที่เข้าร่วมสถาบันยอดยุทธ ทุกคนล้วนเป็นจอมยุทธที่มีความสามารถ ส่วนคนที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมก็ถูกยอดขุนเขาอื่นๆ ตัดหน้าดึงตัวไปหมดแล้ว! ” ไป่ เจี้ยนสง พูดออกมาตรงๆ และไม่ได้สนใจว่า เย่ ซีหวิน จะคิดอย่างไร

เมื่อนานมาแล้ว ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ เคยมีสาวกมากมาย แต่สถานการณ์ปัจจุบันของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ ใครๆ ก็ทราบถึงสภาพที่เป็นอยู่ในตอนนี้ อาจกล่าวได้ว่าไม่มีอะไรต้องปิดบัง

นั่นก็เพราะ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ ตกต่ำมาตลอดหลายปี แต่ก็ยังติดอยู่ในมรดก 100 อันดับแรก ที่แข็งแกร่งที่สุด ครั้งหนึ่งมีคนที่สามารถฝึก คัมภีร์ดาราลี้ลับ จนประสบความสำเร็จ และกลายเป็นศิษย์อันดับหนึ่งของสถาบันยอดยุทธ คัมภีร์ดาราลี้ลับ ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งใน 10 อันดับแรก ของมรดกที่แข็งแกร่งที่สุด ทำให้ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ผลจากสงครามทำให้ปรมาจารย์หลายคนต้องเสียชีวิตลง เป็นสาเหตุให้ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ เริ่มตกต่ำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แต่เดิม คัมภีร์ดาราลี้ลับ นับว่าเป็นเคล็ดวิชาระดับขั้นสุดยอด มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถฝึกฝนได้ เมื่อบรรดาปรมาจารย์เหล่านั้นตายไป คัมภีร์ดาราลี้ลับ สูญหายไปพร้อมกับพวกเขา

อย่างไรก็ตาม คัมภีร์ดาราลี้ลับ ยังไม่ได้สูญหายไปซะทีเดียว เพราะเชื่อกันว่าที่ ผาชมดาว บนยอดขุนเขาดาราลี้ลับ มีร่องรอยของเคล็ดวิชาการต่อสู้ในยุคโบราณหลงเหลืออยู่ กล่าวกันว่าบรรพบุรุษรุ่นแรกของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับได้รับแรงบันดาลใจมากจากร่องรอยเหล่านี้ หลังจากนั้นเขาก็สร้างคัมภีร์ดาราลี้ลับนี้ขึ้นมา

การมีอยู่ของ ผาชมดาว เป็นเหตุผลเดียวที่บ่งชี้ว่า มีโอกาสที่ใครบางคนจะสามารถเข้าใจ คัมภีร์ดาราลี้ลับ ที่ซ่อนอยู่ ทำให้มีผู้คนมากมายต่างพากันมาที่ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องผิดหวังกลับไป

หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครสนใจ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ เพราะมรดกของยอดขุนเขาอื่นๆ ก็มีความแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่า คัมภีร์ดาราลี้ลับ และไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่าหลังจากเสียเวลาไปนับพันปี พวกเขาจะสามารถเข้าใจมัน และประสบความสำเร็จ เหตุใดพวกเขาจะต้องเข้าร่วม ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ เพียงเพื่อ คัมภีร์ดาราลี้ลับ ที่ไม่สมบูรณ์ด้วย?

ดังนั้น ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ แต่ละรุ่นจึงมีลูกศิษย์เพียงแค่ 2 – 3 คน เท่านั้น ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดมีลูกศิษย์เพียงคนเดียวที่ได้รับการสืบทอดมรดกในรุ่นนั้น

เย่ ซีหวิน มองสำรวจไปที่ศิษย์พี่สาม ไป่ เจี้ยนสง ออร่าที่ส่งออกไปถูกยับยั้งทันที เขาไม่สามารถแอบดูระดับลมปราณของเขาได้

ทันใดนั้น เย่ ซีหวิน ก็รู้สึกสั่นสะท้านขึ้นมา เมื่อสัมผัสถึงออร่าของเขา แม้จะไม่แข็งแกร่งเท่าระดับลมปราณนักปราชญ์ แต่ก็น่าจะอยู่ในระดับลมปราณครึ่งก้าวนักปราชญ์ ผู้สืบทอดมรดกสามารถกลายเป็นบุคคลที่มีอำนาจอย่างแท้จริง แม้ว่า ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ จะตกต่ำมาตลอดหลายปี แต่เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของเขาเกินกว่าที่จินตนาการเอาไว้มาก

อีกฝ่ายมีระดับลมปราณเหนือกว่าเขาถึง 2 ระดับ ความยากลำบากในแต่ละระดับที่พวกเขาต้องเผชิญ ไม่ต้องพูดถึง มันเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จในเวลาอันสั้น

” ศิษย์พี่สาม! แต่ข้ามีเรื่องบาดหมางกับคนของหอตุลาการ ข้าเกรงว่า ท่านจะเดือดร้อนเพราะข้า! ” เย่ ซีหวิน ตัดสินใจบอกความจริงกับเขา

” ขนาดข้ายังไม่กลัวเล๊ยยย! แล้วเจ้าจะกลัวทำไม? คนของหอตุลาการตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกมันหยิ่งยโส และชอบข่มเหงคนอื่นให้ตกเป็นทาส สาวกของสถาบันยอดยุทธหลายคนต้องยอมก้มหัว และคอยรับใช้พวกมัน ชะตากรรมของพวกเขาช่างมืดมนจริงๆ! ” ไป่ เจี้ยนสง กล่าวต่ออีกว่า ” ข้ารับเจ้าเป็นผู้สืบทอดมรดก ตั้งแต่เจ้าก้าวขึ้นมาบน ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ นับแต่นี้เจ้าเป็นคนของเราแล้ว หากพวกมันกล้ามาที่นี่เพื่อจับตัวเจ้าก็ไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย! “

คำพูดของ ไป่ เจี้ยนสง แต่ละคำเต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเอง เย่ ซีหวิน ฟังคำพูดของเขาก็รู้สึกอบอุ่น และสัมผัสได้ว่า ศิษย์พี่สามคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา

” เมื่อเจ้าเข้าร่วมกับเราแล้ว ข้าก็จะอธิบายกฏของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ ให้เจ้าฟัง กฎของเรานั้นค่อนข้างเรียบง่าย เจ้าห้ามพูดจาโกหก หรือหลอกลวงท่านอาจารย์ และไม่ทำร้ายศิษย์ยอดขุนเขาเดียวกัน! ” ไป่ เจี้ยนสง กล่าวต่ออีกว่า ” ตอนนี้ศิษย์ของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ มี 5 คน หากนับรวมเจ้าด้วยก็มีทั้งหมด 6 คน “

เย่ ซีหวิน ยิ้มอย่างขมขื่น ยอดขุนเขาดาราลี้ มีศิษย์เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ตามหลักการแล้วแทบจะไม่นับว่าเป็นนิกายขนาดเล็ก

” ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์อันดับหนึ่งของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ เขาติดตามท่านอาจารย์มาตั้งแต่เด็ก ห้าปีก่อนเขาติดตามไปพร้อมกับท่านอาจารย์ยังไม่ได้กลับมา นอกจากนี้ยังมีศิษย์พี่หญิง เธอเป็นศิษย์พี่อันดับสอง เธอชื่อ หลิว เยี้ยนหลัน เนื่องจากท่านอาจารย์ของยอดขุนเขาดาราลี้ลับ และศิษย์พี่ใหญ่ไม่อยู่ ศิษย์พี่สองเองก็กำลังอยู่ในระหว่างปิดด่านฝึกตน ดังนั้นตอนนี้เรื่องทั้งหมดภายใน ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ ข้าเป็นผู้รับผิดชอบ ถัดจากข้าคือศิษย์น้องสี่ หยาง เหวินจุน และศิษย์น้องห้า เติ้ง สุ่ยซิง พวกเขาเข้าร่วมก่อนเจ้าเมื่อหนึ่งปีก่อน! “

ไป่ เจี้ยนสง พูดคุยรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ อยู่ครู่หนึ่ง และเป็นไปตามที่คาดไว้ศิษย์ของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ มีไม่มาก เมื่อนับจำนวนศิษย์ทั้งหมดแล้วช่างน่าสมเพชจริงๆ

เย่ ซีหวิน เดินตาม ไป่ เจี้ยนสง หลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็เดินมาถึงยอดเขาของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ ในขณะนั้นมีคนกำลังยืนรออยู่สองคน

หนึ่งในนั้นสวมเสื้อคลุมสีสันสดใส และตัวสูงกว่า เย่ ซีหวิน เล็กน้อย เขามีขนคิ้วหนา และดวงตาโต ใบหน้าสี่เหลี่ยมของเขามีรอยยิ้มปรากฏอยู่

ถัดจากเขาเป็นหญิงสาว เธออายุประมาณ 20 ปี เธอสวมชุดยาวสีเขียว ผิวของเธอขาวราวกับหิมะ คิ้วโค้งบางเล็ก รับกับใบหน้าที่เรียวแหลมของเธอ ดวงตาสีน้ำทะเลทำให้เธอดูน่ารักและมีเสน่ห์มาก

เย่ ซีหวิน รู้ในทันทีว่า พวกเขาควรจะเป็นศิษย์พี่สี่ และห้า หยาง เหวินจุน และ เติ้ง สุ่ยซิง

” ศิษย์พี่สาม! นี่คงจะเป็นศิษย์ใหม่ของเราใช่มั้ย เยี่ยมมาก! ข้าจะไม่ใช่ศิษย์น้องเล็กอีกต่อไปแล้ว ท่านไม่สามารถบังคับให้ข้าทำอย่างโน่นทำอย่างนี่อีกแล้ว! ” รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของ เติ้ง สุ่ยซิง ปนไปด้วยความดีใจ และตื่นเต้นบนใบหน้าเล็กๆ ของเธอ

” เจ้าก็พูดเกินไป! ใครจะกล้าไปสั่งให้เจ้าทำอย่างโน่นทำอย่างนี่กันเล่า? ” หยาง เหวินจุน กล่าวอย่างจนปัญญา

” ข้าคือ เย่ ซีหวิน! ดีใจที่ได้พบกับศิษย์พี่สี่ และศิษย์พี่ห้า! ” เย่ ซีหวิน กล่าวพร้อมกับประสานมือ เมื่อเห็นว่าท่าทีของพวกเขาค่อยข้างเป็นมิตรไม่ได้เลวร้าย ทำให้เขามองพวกเขาไปในแง่ที่ดี

ระดับลมปราณของพวกเขาทั้งสองก็ไม่ได้ธรรมดา พวกเขาอยู่ระดับ 9 ลมปราณระดับตำนาน ขอบเขตลมปราณของพวกเขาอยู่ในจุดสูงสุด และอีกในไม่ช้าก็จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวนักปราชญ์ จากนั้นขอบเขตลมปราณของพวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก

” เอาล่ะ! ไว้พวกเจ้าค่อยพูดกันภายหลัง ข้าจะพาศิษย์น้องหกไปที่ ผาชมดาว! ” ไป่ เจี้ยนสง กล่าว เพื่อขัดจังหวะพวกเขากับ เย่ ซีหวิน

ภายใต้การนำของ ไป่ เจี้ยนสง ไม่นาน เย่ ซีหวิน ก็เดินมาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ ซึ่งเป็นที่ตั้งของผาชมดาว ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ เคยเจริญรุ่งเรืองมาได้ก็เพราะผาชมดาวนี้

ผาชมดาว เป็นเหมือนกับหน้าผาทั่วไป อย่างไรก็ตาม ไป่ เจี้ยนสง กล่าวอีกว่า ” ในเวลากลางวัน เราจะมองไม่เห็นร่องรอยใดๆ ต้องรอจนกว่าจะค่ำ ถึงจะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงในเวลานั้น! “

เมื่อม่านแห่งรัตติกาลเริ่มปกคลุมสถาบันยอดยุทธ พลังของดวงดาวในท้องฟ้าก็ฉายแสงออกมา ผาชมดาวดูดซับพลังของดวงดาวเอาไว้อย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นปราณจิตวิญญาณรอบๆ ผาชมดาวก็เกิดการผันผวน ร่างเงาอันเลือนลางของใครคนหนึ่งปรากฏขึ้น ไม่มีใครสามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ แต่สัญชาตญาณของทุกคนสามารถสัมผัสได้ว่าชายคนนี้มีวรยุทธที่ไม่ธรรมดา

นอกจากนั้น มีเสียงเหมือนกับบทสวดจากคัมภีร์โบราณดังก้องทะลุเข้ามาในจิตใจของ เย่ ซีหวิน โดยตรง ทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์ ทันใดนั้นพื้นที่ห้วงมิติภายในจิตใจของเขาก็เริ่มทำงานอย่างบ้าคลั่ง เสียงบทสวดโบราณได้กระตุ้นกลไกการวิวัฒนาการของ เย่ ซีหวิน ให้ตื่นขึ้นมา

ไป่ เจี้ยนสง ยืนถัดจาก เย่ ซีหวิน ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่า เย่ ซีหวิน กำลังตกอยู่ในภวังค์ ราวกับกำลังพยายามทำความเข้าใจกับบางสิ่ง ผาชมดาวแห่งนี้ ปรากฏขึ้นตั้งแต่เมื่อใดไม่มีใครรู้ อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปหลายพันปีความเข้าใจเกี่ยวกับ คัมภีร์ดาราลี้ลับ เป็นเพียงเรื่องเล่าในตำนานที่ผู้คนกล่าวถึงมาโดยตลอด แต่คนส่วนใหญ่กลับมองเห็น ผาชมดาวแห่งนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภูเขา และเรืองแสงขึ้นเฉพาะในเวลากลางคืน แม้ว่า ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ จะเป็นหนึ่งในมรดก 100 อันดับแรก แต่มันก็เป็นเพียงมรดกที่ไม่สมบูรณ์ นอกจากท่านบรรพบุรุษรุ่นแรกแล้ว ไม่มีใครสามารถเข้าใจเคล็ดวิชาลับของ คัมภีร์ดาราลี้ลับ ที่ซ่อนอยู่บน ผาชมดาว

ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ อยู่ในช่วงเวลาที่ตกต่ำมาตลอดหลายพันปี จนในที่สุดอาจารย์ และศิษย์พี่ใหญ่ก็มาพบ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับแห่งนี้ และค่อยๆ ฟื้นฟูเคล็ดวิชาลับที่ซ่อนอยู่ใน คัมภีร์ดาราลี้ลับ คืนกลับมาทีละน้อย แม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ ได้รับการปรับปรุงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากนั้นพวกเขาก็สามารถเข้าใจความลับของ คัมภีร์ดาราลี้ลับ ถึงแม้พวกเขาจะเข้าใจเพียงบางส่วน แต่ด้วยความช่วยเหลือของ ผาชมดาว ทำให้พวกเขาเข้าใจมันมากขึ้น พวกเขาทั้งสองทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ และเชื่อว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะฟื้นฟู คัมภีร์ดาราลี้ลับ ให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง

ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า ศิษย์คนที่หกของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ สามารถเข้าใจความลับของ คัมภีร์ดาราลี้ลับ ที่ซ่อนอยู่บน ผาชมดาว หรือบางทีสวรรค์อาจจะเห็นถึงความตั้งใจ จึงมอบโอกาสให้กับ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ กลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง หลังจากผ่านไปหลายพันปี?

ไป่ เจี้ยนสง ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นที่ปรากฏบนใบหน้าของเขาได้ ก่อนหน้านี้บน ผาชมดาว มีอัจฉริยะหลายคนสามารถเข้าใจความลับของ คัมภีร์ดาราลี้ลับ พวกเขาล้วนมีประสบการณ์เช่นเดียวกับเขา นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าจะมีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น?

เขาไม่ได้คาดหวังว่า เย่ ซีหวิน จะมีพรสวรรค์ถึงระดับนี้ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ ตัดสินใจรับเขาเข้ามาเป็นศิษย์ ถือว่าเป็นการลงทุนที่ถูกมาก

ไป่ เจี้ยนสง รีบนั่งลงด้านข้าง เย่ ซีหวิน แล้ววางม่านพลังปกป้องเขาเอาไว้ เพื่อไม่ให้เขาถูกรบกวนในระหว่างติดอยู่ใน สภาวะหยั่งรู้ โอกาสที่จอมยุทธคนหนึ่งจะตกอยู่ในสภาวะหยั่งรู้นั้นเกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก บางคนโชคร้ายตลอดชีวิตของพวกเขาไม่มีโอกาสได้สัมผัสถึง สภาวะหยั่งรู้ เลย

อย่างไรก็ตาม ไป่ เจี้ยนสง ไม่รู้ถึงการมีอยู่ของพื้นที่ห้วงมิติของ เย่ ซีหวิน เนื่องจากการมีอยู่ของพื้นที่ลึกลับนี้ทำให้ เย่ ซีหวิน สามารถเข้าใจข้อมูลในระดับลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ภายในได้

สำหรับ เย่ ซีหวิน พื้นที่ห้วงมิติ เป็นเหมือนกับ สภาวะหยั่งรู้ สำหรับเขา และตราบใดที่เขามี ผลึกหลอมจิตวิญญาณ เพียงพอทุกอย่างก็ไม่ใช่ปัญหา

ในเวลานี้ มีดาวดวงหนึ่งกำลังก่อตัวอย่างรวดเร็วภายในจิตใจของ เย่ ซีหวิน จากนั้นไม่นานมันก็ระเบิดออกมาเหมือนกับ การระเบิดของบิ๊กแบงในอวกาศ การกำเนิด และการแตกดับของดวงดาวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในจิตใจของ เย่ ซีหวิน

ขั้นตอนการกำเนิด และดับสูญของดวงดาวเหล่านั้น ทำให้ความเข้าใจในพลังดวงดาวของ เย่ ซีหวิน เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

Martial God Space

Martial God Space

Status: Ongoing

เย่ ซีหวิน ก่อนหน้านี้เป็นเพียงนักศึกษาธรรมดาคนหนึ่ง แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เขาถูกส่งมายังอีกโลกหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า โลกแห่งวรยุทธ โลกใบนี้ที่เต็มไปด้วยเหล่าจอมยุทธที่น่าเกรงขาม พวกเขาสามารถทำลายภูเขาทั้งลูกได้ในหมัดเดียว พวกเขายังสามารถยืดอายุขัยของตนเองออกไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด เดิมทีความสามารถของเขาค่อนข้างธรรมดาๆ แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาได้ค้นพบบางสิ่งเข้าโดยบังเอิญ และสิ่งนั้นเรียกว่า พื้นที่ลึกลับ เขาสามารถเรียนรู้ทักษะการต่อสู้ต่างๆ ภายในพื้นที่ลึกลับ สำหรับคนทั่วไปการฝึกฝนเคล็ดวิชาจนสำเร็จจะต้องใช้เวลาหลายปี แต่สำหรับเขาสามารถฝึกสำเร็จได้ภายในหนึ่งปี ตราบเท่าที่เขามีหินวิญญาณมากพอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน