บทที่ 386 ฉันเก่งขนาดนี้เชียว…ทำไมฉันไม่รู้ตัวเลยล่ะ
หลังจากเถามี่กล่าวประโยคนี้ออกมา ทั้งห้องก็จมลงสู่ความเงียบ!
‘การผ่าตัดของผม บางที…อาจเทียบคนรุ่นใหม่บางคนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!’
ไม่ทันไรทุกคนก็ตอบสนองกับประโยคนี้ขึ้นมาทันที!
นี่มันหมายความว่าอย่างไร
กระทั่งซย่าเกาเฟิงก็ยังต้องเหลือบตามอง ในดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจและแปลกใจ
แม้เถามี่จะไม่เคยเห็นเฉินชางผ่าตัดโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเฉียบพลันที่เกิดจากการบีบรัดมาก่อน แต่เขามีลางสังหรณ์จนถึงขั้นกล้ารับประกันเลยว่าเฉินชางจะต้องทำได้ดีกว่าตนแน่นอน!
หลายสิ่งหลายอย่าง ถ้าคุณไม่มีฝีมือ ก็วิจารณ์ให้ดีขนาดนั้นไม่ได้!
เฉินชางวิจารณ์การผ่าตัดของตนได้เช่นนั้น ต้องเป็นเพราะเขามั่นใจว่าการผ่าตัดของเขาเหนือกว่าตนแน่นอน! ดังนั้นถึงได้เจอข้อบกพร่อง!
เถามี่กล่าวต่อไปว่า “ความจริงที่ผมพัฒนามาถึงระดับนี้ได้ ก็เพราะได้คนรุ่นหลังคนนั้นช่วยชี้แนะน่ะครับ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้จู่ๆ เถามี่ก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา
เอ๋? ใช่แล้ว!
ที่นี่คือโรงพยาบาลตงต้า อาจารย์ของเฉินชางก็อยู่ที่นี่สินะ
คิดได้ดังนี้ เถามี่ก็หันไปด้วยท่าทางกระตือรือร้น!
เฉินชางพัฒนามาถึงระดับนี้ได้ คงหนีไม่พ้นความช่วยเหลือจากอาจารย์ของเขาเป็นแน่
เดิมทีเถามี่ไม่พอใจที่เฉินชางไม่ยอมคารวะตนเป็นอาจารย์ คิดว่าระดับฝีมือของตนถือเป็นอันดับต้นๆ ของมณฑลตงหยางแล้ว! ดังนั้นการที่เฉินชางไม่คารวะตนเป็นอาจารย์ก็เท่ากับดูถูกอย่างชัดเจนไม่ใช่หรือ แต่หลังจากได้รับคำชี้แนะจากเฉินชาง เขาถึงค่อยเข้าใจว่าเฉินชางได้คนยอดเยี่ยมเป็นอาจารย์จริงๆ
ว่ากันว่าอาจารย์ที่ดีย่อมสร้างศิษย์ที่ยอดเยี่ยม! ถ้าอาจารย์ไม่มีฝีมือ แล้วลูกศิษย์จะเก่งได้ขนาดไหนกันเชียว ดังนั้นการที่เฉินชางพัฒนามาจนถึงขั้นนี้ได้ จะต้องหนีไม่พ้นการช่วยเหลือจากอาจารย์เมิ่งซีของเขาแน่นอน
เฉินชางยังเก่งขนาดนี้ แล้วอาจารย์จะเก่งขนาดไหน
อาจารย์ของเสี่ยวเฉินจะต้องเป็นยอดคนแน่นอน
ถึงแม้เถามี่จะพอรู้จักเมิ่งซีบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้จักหมอหนุ่มสาวมากขนาดนั้น ที่สำคัญก็คือ…อีกฝ่ายยังสาว เหล่าเถาจึงไม่ค่อยสบายใจหากต้องเป็นฝ่ายไปทำความรู้จักหรือพูดคุยด้วยก่อน…หากคนอื่นเขาไปซุบซิบนินทาคงไม่ดี…
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เถามี่ก็อดถามซย่าเกาเฟิงไม่ได้ว่า “จริงสิหัวหน้าซย่า ผมอยากจะถามอะไรหน่อยน่ะครับ พวกเราเดินไปคุยกันข้างหลังเถอะ!”
ซย่าเกาเฟิงและหัวหน้าแพทย์คนอื่นๆ กำลังรอให้เถามี่เฉลยว่าคนรุ่นหลังคนนี้เป็นใคร คิดไม่ถึงว่าเถามี่จะเปลี่ยนเรื่องเอาเสียได้!
ทันใดนั้นก็รู้สึกแย่จนเหงื่อตก!
ซย่าเกาเฟิงใจร้อนดั่งไฟแผดเผา อดพูดไม่ได้ว่า “พวกเราสองคนเป็นใครกันครับ มีอะไรก็พูดตรงๆ ได้เลย!”
ได้ยินดังนั้นเถามี่จึงพูดขึ้นว่า “ที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลผมมีหมอน้อยอยู่คนหนึ่งชื่อเฉินชาง ผมถือว่าเขาเป็นลูกหลานของผมครึ่งหนึ่ง ปีนี้เขามาเรียนแพทย์ต่อยอดในระดับปริญญาโทที่นี่ ผมอยากขอให้พวกคุณดูแลเขาให้มากหน่อยน่ะครับ เด็กคนนี้ไม่เลวเลย มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยม รบกวนพวกคุณช่วยดูแลแทนผมหน่อยนะครับ!”
เถามี่คิดว่าทุกคนอาจไม่รู้จักเฉินชาง แต่เมื่อพูดจบ ซย่าเกาเฟิงและคนอื่นๆ ก็หัวเราะออกมา!
หมอระดับหัวหน้าและรองหัวหน้าแพทย์ที่อยู่ข้างหลังก็หัวเราะตามไปด้วย
เถามี่ชะงักไป “หัวเราะอะไรกันครับ”
ซย่าเกาเฟิงรีบตอบขึ้นทันที “เหล่าเถา คุณกังวลเกินไปแล้ว ตอนนี้เสี่ยวเฉินมีหน้ามีตาในแผนกของพวกเราไม่น้อยเลยนะครับ ตอนนี้เขาเป็นเทพหนุ่มน้อยประจำแผนกพวกเราไปแล้ว!”
หัวหน้าแพทย์ที่อยู่ข้างหลังพากันยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ใช่แล้วครับ!”
เถามี่ส่ายหน้า แอบบ่นกับตัวเองว่า ก็จริง คนเก่งอย่างเฉินชางไปอยู่ที่ไหนก็เปล่งประกายได้ทั้งนั้น!
อย่างไรก็ตาม เถามี่ยังคงถามต่อไป “คือ…ไม่ทราบว่าหัวหน้าเมิ่งซีคือคนไหนหรือครับ”
เดิมทีเมิ่งซีที่ยืนอยู่ข้างหลังรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ทว่าเมื่อเห็นเถามี่ถามว่าตนคือใครก็เบิกบานใจขึ้นมาทันที!
“หัวหน้าเถา สวัสดีค่ะ ฉันคือเมิ่งซีค่ะ!”
เถามี่เห็นดังนั้นก็ชะงักไปโดยพลัน กระทั่งเหม่อลอยไปด้วยซ้ำ
สาวน้อยคนนี้สวยมากจริงๆ!
แต่ว่า…ชุดผ่าตัดดูไม่ค่อยสมตัวไปหน่อยหรือเปล่านะ
คิดได้ดังนี้ เถามี่ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
โรงพยาบาลตงต้ามีผ้าไม่พอตัดชุดหรือไง
แต่ว่า…วินาทีที่เถามี่เห็นเมิ่งซีก็เข้าใจได้ทันทีว่าเหตุใดเฉินชางจึงไม่มาขอให้ตนเป็นอาจารย์
ยอมรับทั้งกายใจ!
เขายอมรับทั้งกายและใจจริงๆ
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย เพียงแค่บรรยากาศและรูปร่างหน้าตาก็แพ้ขาดแล้ว เถามี่ลูบใบหน้าแก่ๆ ของตน รู้สึกได้ถึงความห่างชั้นอันไกลโพ้น
ที่สำคัญ คุณเธอไม่ได้มีแค่รูปร่างหน้าตาเท่านั้น แต่มีความสามารถอีกด้วย!
ผู้ที่สอนการผ่าตัดระดับสูงเช่นนี้ให้เฉินชางได้ จะต้องเป็นคนที่ดูถูกไม่ได้แน่นอน
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เถามี่ก็รู้สึกอับอายขึ้นมาโดยพลัน อายจนหน้าแดงระเรื่อ
อย่างไรเสีย…เขาถึงกับพูดว่าตนเป็นต้นฉบับการผ่าเปิดเช่นนี้ต่อหน้าอาจารย์ของเฉินชาง เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ทำให้เขาอับอายจริงๆ ดีที่เมิ่งซีไม่ใส่ใจ มิฉะนั้นคงกระอักกระอ่วนแย่!
คิดถึงตรงนี้ เถามี่ก็ยิ้มอย่างอึดอัด “หัวหน้าเมิ่ง ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว!”
เมื่อเห็นเถามี่ไว้หน้ากันขนาดนี้ เมิ่งซีก็ตกใจจนตาค้างไปโดยพลัน กระทั่งหัวหน้าแพทย์ที่อยู่รอบๆ ก็ตกใจจนอึ้ง
เมิ่งซีเก่งขนาดนั้นเชียวหรือ
มีชื่อเสียงโด่งดังออกไปถึงข้างนอกเลยหรือ
เถามี่กล่าวต่อไปว่า “หัวหน้าเมิ่ง ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้วจริงๆ นะครับ!”
เมิ่งซียืนอึ้งอยู่ที่เดิม ถูกเถามี่กล่าวชมเชยว่าได้ยินชื่อเสียงมานานแล้วติดต่อกันรัวๆ ด้วยท่าทางพินอบพิเทาเช่นนั้น เธอก็รู้สึกเขินอายบ้างแล้ว
นี่เธอ…เก่งขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ขนาดหัวหน้าแผนกเถามี่แห่งโรงพยาบาลอันดับสองก็รู้จักด้วย
หรือว่า…เฉินชางพูดถึงเธอ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เมิ่งซีก็รู้สึกเบิกบานในใจ ลูกศิษย์คนนี้เคารพเธอมากทีเดียว
อันที่จริง ฐานะของเมิ่งซีในแผนกศัลยกรรมหัวใจค่อนข้างด้อย แม้เธอจะเป็นรองหัวหน้าแผนกศัลยกรรมหัวใจแล้ว แต่ใครหลายคนก็ยังมีอคติกับเธอ พูดให้ชัดเจนก็คือไม่เคารพนั่นแหละ!
แผนกศัลยกรรมหัวใจเป็นแผนกที่รักษาโรคเฉพาะทาง ตอนเมิ่งซีมาทำงานที่นี่ เธอสมัครมากับโปรแกรมของ NSFC (มูลนิธิวิจัยวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีค่าใช้จ่ายหลายล้านหยวน นี่ทำให้แผนกศัลยกรรมหัวใจมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาทันควัน แต่…ท้ายที่สุดแล้ววัยวุฒิของเมิ่งซีก็น้อยเกินไป
ตำแหน่งรองหัวหน้าแผนกเป็นตำแหน่งที่มีผลประโยชน์มากมาย ไม่ทันไรเมิ่งซีก็ได้ขึ้นเป็นรองหัวหน้าแผนกแล้ว ทำให้มีคนมากมายไม่พอใจเธอ
ต้องทราบว่าในความเป็นจริงมีผลประโยชน์ที่เกี่ยวพันกับตำแหน่งรองหัวหน้าแผนกอยู่ด้วย โดยผู้ดำรงตำแหน่งจะได้รับส่วนแบ่งจากค่ารักษาของผู้ป่วยทุกคน เท่ากับว่าคุณไม่จำเป็นต้องทำงานมากก็ได้ส่วนแบ่งแล้ว เงินที่จับต้องได้เช่นนี้ใครไม่อยากได้บ้างล่ะ
ในแผนกศัลยกรรมหัวใจมีหมอระดับหัวหน้าแพทย์สี่ห้าคน มีหมอระดับรองหัวหน้าแพทย์ห้าหกคน แต่พวกเขากลับไม่ได้เป็นรองหัวหน้าแผนก พวกเขาล้วนเป็นหมออาวุโสที่มีวัยวุฒิและความสามารถสูง ส่วนเมิ่งซีเพิ่งอายุสามสิบก็ได้เป็นรองหัวหน้าแผนกแล้ว หากจะบอกว่าไม่อิจฉาเลยคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน
ดังนั้นจึงมีข่าวลือออกไปว่าหัวหน้าเมิ่งอะไรนั่นมีดีแค่งานวิจัย ส่วนฝีมือด้านคลินิกกลับไม่ได้เรื่อง…
เมิ่งซีก็รู้ตัวว่าความสามารถทางด้านคลินิกของตนไม่ได้ดีไปกว่าหมอระดับหัวหน้าแพทย์เหล่านั้นเลย เธอทำได้เพียงมานะพยายามเพื่อพัฒนาตนเองต่อไปเท่านั้น
ตอนนี้เมื่อได้ยินเถามี่กล่าวชื่นชมจนถึงเพียงนี้ ย่อมรู้สึกไม่ดีอยู่บ้าง!
คนอื่นๆ ก็มีสีหน้าแปลกใจ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ตอนนี้เอง เถามี่จึงพูดขึ้นว่า “ความจริงการผ่าตัดเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเฉียบพลันแบบบีบรับของผมก็ได้เฉินชางซึ่งเป็นลูกศิษย์ของเมิ่งซีชี้แนะมาน่ะครับ! ดังนั้นที่จริงผมควรขอบคุณหัวหน้าเมิ่งถึงจะถูก!”
เมื่อคำนี้ถูกกล่าวออกมา หมอระดับหัวหน้าแพทย์ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างเงียบกริบ ไม่มีใครส่งเสียงอะไรออกมาแม้แต่คนเดียว!
นี่มันหมายความว่าอย่างไร
เฉินชางเป็นใคร พวกเขารู้จักดี!
แต่ว่า…ไอ้หนุ่มนั่นก็แค่หน้าตาหล่อเหลานิดหน่อยไม่ใช่หรือ
ทำไมไปสอนหัวหน้าเถาผ่าตัดได้ล่ะ
ฝีมือของเฉินชางดีแค่ไหนกันแน่
จะต้องเรียนรู้มาจากเมิ่งซีแน่นอน!
แต่…เมิ่งซีเก่งขนาดนั้นจริงๆ หรือ
ทุกคนต่างก็สงสัย!
ไม่เชื่อ!
ไม่เชื่อแน่นอน
แต่…หัวหน้าเถามีหน้ามีตาขนาดนั้น คงไม่พูดเล่นแบบนี้หรอก ชื่อเสียงของหัวหน้าเถาดังไกลไปถึงด้านนอก ไม่จำเป็นต้องกดตัวเองให้ต่ำแล้วยกคนอื่นขึ้นสูง!
พริบตานั้น ทุกคนก็ตกตะลึงจนตาค้าง ส่วนเมิ่งซีก็ใจเต้นกระหน่ำราวถูกคลื่นซัดสาด รู้สึกเหมือนเสื้อผ้าของเธอรัดแน่นจนอึดอัด
นี่ฉันเก่งขนาดนั้นเลยหรือ อีกอย่าง…เฉินชางเก่งขนาดนั้นเลยหรือ
ทำไมฉันไม่รู้เลยล่ะ!