บทที่ 417 มอนสเตอร์ชื่อแดงกลุ่มหนึ่ง!
ต่งเฉียงเซิงเป็นลูกชายคนโตของครอบครัว พอรู้ว่าผู้เป็นพ่อป่วยก็รีบให้คนขับรถจากมณฑลเป่ยไห่ซึ่งอยู่ติดกันกลับมาส่งที่บ้านทันที
ต่งเฉียงเซิงเป็นคนเก่ง เป็นรองผู้บังคับบัญชาอยู่ในที่ว่าการอำเภอของเมืองเอกในมณฑลเป่ยไห่ นับว่าเป็นคนมีหน้ามีตาและมีอำนาจ คราวนี้เขารีบร้อนกลับมาโดยไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนั้น
เมื่อได้ยินผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่าการผ่าตัดยากลำบากก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่เมื่อเห็นบิดานอนหมดสติอยู่บนเตียง ในฐานะที่เป็นลูกชายคนโตย่อมอดเป็นห่วงไม่ได้
อย่างไรก็ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้!
คิดไปคิดมา เขาก็ตัดสินใจว่าจะลองหาวิธีด้วยตัวเอง เช่นหาผู้เชี่ยวชาญคนอื่นมาตรวจดูสักหน่อย
“เอ่อ หมอครับ ดูจากสภาพร่างกายของพ่อผมจะทนได้ถึงหนึ่งวันหรือเปล่าครับ” ต่งเฉียงเซิงถามเฉียนเลี่ยง
เฉียนเลี่ยงตอบไปว่า “หนึ่งวันยังพอได้ แต่อย่าปล่อยเวลาไว้นานเกินไปนะครับ ถึงตอนนี้อาการของผู้ป่วยพอจะทรงตัวบ้างแล้ว แต่พวกเรากลัวว่าอาการจะเลวร้ายยิ่งขึ้น ถ้าจะใช้วิธีการทางอายุรกรรมในการรักษาและประคองอาการคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือหากไม่ผ่าตัด อาการจะเลวร้ายลง ผมเคยเห็นอาการประมาณนี้มาแล้ว การรักษาด้วยการให้ยาไม่ได้ให้ผลดีเท่าการรักษาด้วยการผ่าตัด และอาจทำให้อาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว”
ต่งเฉียงเซิงพยักหน้า เขาตัดสินใจได้แล้ว และถือโอกาสขณะกำลังว่างๆ ออกไปโทรศัพท์
เพียงไม่นานต่งเฉียงเซิงก็ติดต่อไปหาหัวหน้าแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีของโรงพยาบาล 301 ได้แล้ว เขาคือหัวหน้าแผนกโจวหงกวง
หัวหน้าแผนกโจวเป็นหมออันดับต้นๆ ในวงการศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีระดับประเทศ ปัจจุบันคนที่อยู่ในวงการล้วนทราบดีว่าอีกไม่นานหัวหน้าแผนกโจวจะได้รับเลือกให้เป็นนักวิชาการของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
โจวหงกวงให้เกียรติต่งเฉียงเซิงมาก ตัดสินใจว่าจะเดินทางมาที่มณฑลตงหยางในคืนนี้เลย
ต่งเฉียงเซิงดีอกดีใจเป็นล้นพ้น รีบเข้ามาในห้องผู้ป่วยแล้วพูดขึ้นว่า “หัวหน้าเฉียน หัวหน้าหลี่ ผมติดต่อไปหาหัวหน้าแผนกโจวที่โรงพยาบาล 301 แล้วครับ เขาบอกว่าจะรีบเดินทางมาคืนนี้เลย เอาไว้พวกเราค่อยตัดสินใจพรุ่งนี้ได้หรือเปล่าครับ วันนี้ประคองอาการไปก่อน”
เมื่อเขากล่าวออกมาเช่นนี้ทุกคนก็ชะงักไปทันที
เฉียนเลี่ยงถามอย่างแปลกใจ “หัวหน้าโจว คุณหมายถึงหัวหน้าแผนกโจวหงกวงหรือครับ”
ต่งเฉียงเซิงพยักหน้า “ใช่ครับ เป็นหัวหน้าแผนกโจว”
เมื่อเขากล่าวออกมาเช่นนี้ทุกคนก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก ถึงอย่างไร…หัวหน้าโจวคนนั้นก็เป็นหมออันดับต้นๆ ในวงการศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีของประเทศจีน อีกไม่นานจะได้รับเลือกเป็นนักวิชาการแล้ว เป็นรองประธานสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีแห่งประเทศจีน คนเช่นนี้ยิ่งใหญ่เกินไปแล้ว!
ตอนนี้ทุกคนจึงค่อยมองต่งเฉียงเซิงอีกครั้ง เขามีความสามารถมากขนาดนี้เชียวหรือ สุดยอดไปเลย! อีกอย่างสำหรับพวกเขาก็ไม่ถือเป็นเรื่องแย่อะไร กลับเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ
หากหัวหน้าโจวมาแล้ว ไม่ว่าจะรักษาดี หรือแย่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขานัก หน้าที่และความรับผิดชอบก็จะเบาลง ไม่แน่ว่าอาจได้โอกาสสานสัมพันธ์กับหัวหน้าโจวด้วยก็เป็นได้ ต่อไปหากจะเชิญอีกฝ่ายมาร่วมสัมมนาหรือผ่าตัดที่โรงพยาบาลอันดับสองก็จะสะดวกขึ้น
……
……
วันต่อมาเวลาประมาณเก้าโมงเช้า ต่งเฉียงเซิงพาโจวหงกวงมาที่โรงพยาบาลอันดับสองด้วยตัวเอง
ทางด้านเฉียนเลี่ยงก็ไม่ทำงานทำการแล้ว รีบแลกเวรให้เรียบร้อยแล้วมาที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองทันที ในฐานะที่เป็นประธานสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีแห่งมณฑลตงหยาง เฉียนเลี่ยงย่อมรู้จักกับโจวหงกวงอยู่ก่อนแล้ว นับว่าเป็นเพื่อนเก่าที่มีความสัมพันธ์ไม่เลว มักร่วมประชุมด้วยกันอยู่บ่อยๆ
เมื่อเห็นโจวหงกวงเดินเข้ามา เฉียนเลี่ยงก็รีบเดินไปต้อนรับ “หัวหน้าโจว ไม่เจอกันนานเลยนะครับ!”
โจวหงกวงเห็นเฉียนเลี่ยงก็ยิ้มให้ “ไม่เจอกันนานเลยนะครับหัวหน้าเฉียน”
เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาเร่งด่วนจึงไม่ได้พูดจาตามมารยาทมากมายเกินไป หลังจากเตรียมพร้อมแล้ว ทุกคนก็มายืนอยู่หน้าเตียงชายชราผู้เป็นบิดาของต่งเฉียงเซิง
หลังจากโจวหงกวงตรวจผู้ป่วยเสร็จแล้วก็หันไปปรึกษาเฉียนเลี่ยง จางโหย่วฝูและคนอื่นๆ จากนั้นจึงมองต่งเฉียงเซิงแล้วกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “คุณต่ง ตอนนี้ผมเข้าใจสภาพอาการของคุณพ่อคุณแล้วนะครับ อันที่จริงความเห็นของผมก็เหมือนกับพวกหัวหน้าเฉียน หากใช้การรักษาทางอายุรกรรมจะให้ผลไม่ดีเท่าไหร่ หากปล่อยเวลาให้ยืดเยื้อต่อไปอาการจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ”
“แต่หากผ่าตัด ผมจะต้องพูดกับคุณให้ชัดเจนก่อนนะครับ การผ่าตัดครั้งนี้ยากเกินไปด้วยสาเหตุหลายอย่าง ประการแรกก็คือพ่อของคุณค่อนข้างอ้วน มีชั้นไขมันหนา พอเริ่มผ่าตัดจะหาถุงน้ำดียาก
ประการต่อมา อาการถุงน้ำดีอักเสบของผู้ป่วยกำเริบมาแล้วสี่วัน พื้นที่ส่วนใหญ่ในช่องท้องติดเชื้อไปแล้วและยังมีภาวะพังผืดอีกด้วย ทำให้การผ่าตัดยากขึ้นไปอีก
ประการสุดท้ายและเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดก็คือ ผู้ป่วยอายุมากแล้ว และมีโรคประจำตัวมากมาย นี่จะทำให้การผ่าตัดอันตรายมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย”
“หากจะตัดถุงน้ำดีออก ผู้ป่วยคงทนไม่ไหวแน่นอน ต่อให้ทนรับไหวผมก็ไม่กล้าทำ บอกตามตรงเลยนะครับ ตอนนี้ผมประเมินแค่ว่าจับแยกถุงน้ำดีออกมาก็สร้างความเสียหายให้ตับอย่างแน่นอนแล้ว นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นข้อเสนอแนะของผมก็คือผ่าตัดระบายถุงน้ำดี”
โจวหงกวงเป็นความหวังสุดท้ายของต่งเฉียงเซิง เมื่อได้ยินโจวหงกวงกล่าวเช่นนี้ยังจะพูดอะไรได้อีก ทำได้เพียงให้ความร่วมมือเต็มที่เท่านั้น
ไม่นานก็เตรียมการผ่าตัดเสร็จสิ้น โจวหงกวงเป็นศัลยแพทย์หลัก เฉียนเลี่ยง จางโหย่วฝูและหลี่เป่าซานก็ให้ความร่วมมือด้วย การผ่าตัดเคสนี้ คนที่จะเข้าร่วมได้มีเพียงหมอระดับหัวหน้าแพทย์ขึ้นไป
แต่…ข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียวก็คือเฉินชาง
หลี่เป่าซานอายุมากแล้ว ความจริงเขาไม่อยากมาคลุกคลีกับเรื่องเช่นนี้แล้ว ที่มาเพราะอยากช่วยเสริมความกล้าให้เฉินชางเท่านั้น!
“เสี่ยวเฉิน คุณมาดูเพื่อการศึกษาด้วยนะครับ โอกาสเรียนรู้แบบนี้หายากจริงๆ!” หลี่เป่าซานพูดยิ้มๆ
เฉียนเลี่ยงก็พยักหน้า “ใช่แล้วเสี่ยวเฉิน คุณมานี่สิ หัวหน้าโจว ไม่สิ อีกเดี๋ยวได้เป็นนักวิชาการก็คงต้องเปลี่ยนคำเรียกแล้วละ ท่านนี้เป็นคนใหญ่คนโตในวงการศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีแห่งประเทศจีนในปัจจุบันนี้ คุณต้องดูให้ดีนะครับ”
เฉินชางพยักหน้า “อาจารย์โจว สวัสดีครับ”
โจวหงกวงยิ้มมองหลี่เป่าซาน “หัวหน้าหลี่ เขาเป็นนักเรียนของคุณเหรอ”
หลี่เป่าซานยิ้ม “เป็นหมอในแผนกของพวกเราน่ะครับ มีพรสวรรค์ทางด้านศัลยกรรมมากเลย เรียนรู้อะไรก็เรียนได้เร็ว ผ่าตัดก็ทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว”
โจวหงกวงยิ้มแบ่งรับแบ่งสู้พลางพยักหน้า
เขามองว่าหลี่เป่าซานอยากมอบโอกาสให้เฉินชาง ดังนั้นจึงถือโอกาสแสดงน้ำใจไปตามน้ำ “เสี่ยวเฉิน คุณมาเป็นผู้ช่วยผมสิครับ ทำได้หรือเปล่า”
เฉินชางได้ยินดังนั้นก็ดวงตาเป็นประกาย เป็นผู้ช่วยก็ดีแล้ว! นี่เท่ากับว่าระดับความร่วมมือในการผ่าตัดสูงยิ่งขึ้น โอกาสในการขโมยเรียนทักษะก็สูงขึ้นอีก!
คิดถึงตรงนี้เฉินชางก็พยักหน้า “ขอบคุณครับหัวหน้าโจว”
จางโหย่วฝูและคนอื่นๆ ก็ยิ้มตาม ความจริงพวกเขาเห็นการผ่าตัดในระดับยอดเยี่ยมมาไม่น้อยจึงไม่สนใจการผ่าตัดเคสสองเคสเช่นนี้ แต่เสี่ยวเฉินเพิ่งเริ่มต้น ยังขาดการฝึกฝนและเรียนรู้
สภาพของผู้ป่วยค่อนข้างพิเศษ หากใช้ยาชาเฉพาะที่จะค่อนข้างยุ่งยาก จะต้องรมยาชาบริเวณกล้ามเนื้อหน้าท้องและช่องท้องใหม่ทั้งหมด คิดไปคิดมาจึงวางยาสลบทั้งตัว
โจวหงกวงรับมีดผ่าตัดมา จากนั้นจึงเริ่มกดลงบริเวณซี่โครงขวา กรีดเบาๆ เป็นแผลในแนวเฉียง ระยะค่อนข้างยาว เฉินชางเข้าใจดีว่าคงเป็นเพราะจะสร้างพื้นที่ผ่าตัดให้มากที่สุดเพื่อให้เห็นถุงน้ำดีเต็มๆ และเพื่อการผ่าตัดที่ดี
แผลผ่าตัดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ชั้นไขมันปรากฏให้เห็นในพื้นที่ผ่าตัด เฉินชางรีบเข้าไปช่วยทันที
ผ่านไปครู่หนึ่งก็เห็นช่องท้อง เมื่อเปิดช่องท้องเรียบร้อยแล้วก็มีกลิ่นเหม็นโชยออกมา!
โจวหงกวงสีหน้าเปลี่ยนไปโดยพลัน!
ดูเหมือนอาการจะแย่กว่าที่เขาคิด เฉินชางมองไปในช่องท้องพบว่าภาวะพังผืดรุนแรงมาก ส่วนกลิ่นเหม็นคงมาจากน้ำดีที่กลายเป็นหนองไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าช่องท้องติดเชื้อรุนแรง
เมื่อเฉินชางมองไปในช่องท้อง ก็พบมอนสเตอร์ชื่อสีแดงอยู่กลุ่มหนึ่ง ท่าทางแปลกมาก!