บทที่ 441 เกิดเหตุไม่คาดฝัน!
เช้าวันเสาร์ เฉินชางจัดการตัวเองจนสะอาดสะอ้านเรียบร้อย เขาสวมสูทและรองเท้าหนังดูเป็นทางการ ยืนส่องกระจกอยู่สามนาที เมื่อพอใจแล้วจึงออกเดินทาง
นี่เป็นเสื้อผ้าของสามปีก่อน ตอนนี้ไม่ค่อยพอดีตัวนัก ท่าทางเขาจะตัวใหญ่แข็งแรงกว่าเมื่อสามปีก่อน หรือไม่ก็คงสูงขึ้นอีกแล้ว
วารสาร BMJ ยังคงไม่มีการตอบรับใดๆ ทว่าวารสารการปลูกถ่ายตับเพียงอย่างเดียวก็พอไปวัดไปวาได้แล้ว เมื่อรวมกับแนวคิดที่ตนเผยแพร่ไปกับคลิปการผ่าตัดทั้งสองเคส เฉินชางคิดว่าเรื่องจะเป็นคณะกรรมการคงไม่มีปัญหาแล้ว!
ตอนแรกเขาตั้งใจเดินทางไปพร้อมฉินเยว่ แต่ฉินเยว่บอกเฉินชางแล้วว่าให้เขาไปเอง ส่วนเธอจะไปสายสักหน่อย เฉินชางทำอะไรไม่ได้จึงได้แต่เดินทางไปอย่างโดดเดี่ยว
เช้าวันเสาร์ รถที่สัญจรอยู่บนถนนไม่มากนัก อีกทั้งถนนก็ดูกว้างขวางเป็นพิเศษ กระตุ้นให้ผู้ใช้ถนนอยากเหยียบคันเร่งจริงๆ
เขาใช้แอปเรียกรถไม่ถึงสองนาทีรถก็มาถึงแล้ว เป็นรถโตโยต้าคันหนึ่ง คนขับรถอายุมากแล้วประมาณห้าสิบกว่าปีเห็นจะได้ เมื่อเห็นเฉินชางเดินเข้ามาก็ยิ้มจนตาหยีแล้วพูดว่า “พ่อหนุ่ม แต่งตัวดีแบบนี้ไปนัดบอดหรือ”
เฉินชางเลือกนั่งบริเวณที่นั่งข้างคนขับ เขามองคุณลุงคนขับแล้วพูดยิ้มๆ ว่า “ผมแต่งตัวแบบนี้ไปนัดบอด คุณคิดว่าจะมีโอกาสสำเร็จมากไหมครับ”
คุณลุงหัวเราะ “หล่อแบบนี้แต่งตัวยังไงก็สำเร็จทั้งนั้นแหละ!”
ประโยคนี้ทำเอาทั้งคู่หัวเราะกันพักใหญ่
อืม เป็นวันที่ดี เริ่มด้วยการสนทนาเรื่องทั่วไป
การตกแต่งภายในรถค่อนข้างหวานแหวว ด้านหน้ามีฟิกเกอร์ตัวการ์ตูนอยู่หลายตัว มีสร้อยแขวนรถและหมอนอิงสีชมพู ทำเอาเฉินชางต้องมองคุณลุงด้วยความหวาดระแวง!
หรือว่า…คุณลุงหนวดงามคนนี้จะมีลั่วเทียนอี[1]อยู่ในใจ
คุณลุงเห็นเฉินชางสงสัยก็พูดยิ้มๆ ว่า “รถของลูกสาวครับ วันนี้เธอหยุด ไม่ได้ไปทำงาน ผมเลยเอาออกมาขับหารายได้พิเศษสักหน่อย”
เฉินชางพยักหน้า เรื่องแบบนี้ก็มีให้เห็นไม่น้อย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทำให้เฉินชางต้องคิดไตร่ตรองเรื่องซื้อรถขึ้นมาบ้างแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงชวนคุณลุงคุยเล่นไปเรื่อยๆ
เวลานี้รถบนถนนน้อยกว่าวันธรรมดามาก คุณลุงจึงขับแบบสบายๆ
ทว่าในตอนที่รถเลี้ยวซ้ายออกไป จู่ๆ ก็มีรถคันหนึ่งพุ่งเข้ามา คนขับรถรีบเหยียบเบรกกะทันหัน โชคดีที่ขับไม่เร็วนัก แต่ก็ยังทิ้งรอยล้อสีดำเป็นทางยาวไว้บนถนน กลิ่นไหม้โชยออกมา เฉินชางและคุณลุงถึงกับเหงื่อแตก!
คุณลุงถึงกับด่ากราดออกมา “แม่งเอ๊ย ขับซิ่งแต่เช้า รีบไปคลอดหรือไงวะ!”
เขาพยายามบังคับรถให้กลับมาวิ่งตรงด้วยใจที่ยังหวาดผวา ขับเคลื่อนไปเบื้องหน้าต่อไป เพียงแต่บนฟุตปาธที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงห้าสิบเมตรกลับมีรอยสีแดงปรากฏอยู่ เฉินชางมีสายตาดีเยี่ยม เมื่อเขามองไปตามรอยสีหน้าก็ต้องเปลี่ยนไปทันที
เฉินชางมองคุณลุงคนขับแล้วพูดว่า “คุณลุงหยุดรถ! ตรงนั้นมีคนบาดเจ็บ!”
คุณลุงชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงมองไปยังทิศทางที่เฉินชางชี้บอก พบว่ามีคนสองคนนอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น ข้างๆ มีเด็กชายยืนอยู่ด้วยคนหนึ่ง
เด็กชายทรุดตัวลงบนพื้น มือลูบใบหน้าของมารดา ร้องไห้สะอึกสะอื้น!
เฉินชางหน้าซีดทันที!
คุณลุงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มองเฉินชางแล้วพูดว่า “โทรเรียกรถฉุกเฉิน 120 เถอะครับ…ถ้าคุณเข้าไปตอนนี้…คง…”
ตอนนี้บริเวณนั้นมีเลือดไหลนองจนเห็นได้ชัดแล้ว!
คนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น อีกคนหนึ่งยังอยู่บริเวณเกาะกลางถนน ดูเหมือนจะถูกชนจนกระเด็นไปตรงนั้น ส่วนเด็กชายนั่งอยู่ข้างผู้หญิงที่อยู่ข้างถนน ร้องไห้สะอึกสะอื้น คนบนพื้นจะเป็นหรือตายก็ยังไม่แน่ชัด
เฉินชางเห็นภาพนี้สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที คิดเชื่อมโยงไปถึงรถที่ขับซิ่งมาทางพวกเขาเมื่อครู่นี้ คล้ายจะทราบแล้วว่าอะไรเป็นอะไร!
ชนแล้วหนี!
เฉินชางจะเปิดประตูรถออกไปแต่กลับพบว่าประตูรถถูกล็อคเอาไว้ เขาร้อนใจมาก จึงหันไปมองคนขับแล้วพูดว่า “คุณลุงเปิดประตูหน่อยครับ คุณไม่ต้องยุ่งเรื่องนี้ก็ได้ ให้ผมลงจากรถก็พอ แล้วคุณก็คิดเงินได้เลย!”
คุณลุงคนขับรู้สึกสับสน ใครจะไปคิดว่าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ จึงสับสนไปชั่วขณะ!
เฉินชางร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง “รีบเปิดประตูด้วยครับ! ผมเป็นหมอ!”
คนขับรถชะงักไปเล็กน้อย ไม่นานก็มีปฏิกิริยากลับมา เขามองเฉินชาง “ได้! ลงรถไปดูคนก่อนแล้วกัน!”
พูดจบก็จอดรถไว้ข้างทาง เฉินชางเปิดประตูรถออก รีบลงจากรถไปทันที!
เฉินชางวิ่งไปข้างกายผู้หญิงที่อยู่ข้างถนนเป็นคนแรก ตอนนี้ช่วงท้องของเธอมีบาดแผลขนาดใหญ่ มีเลือดไหลซึมออกมาด้านนอก เฉินชางหน้าเครียด มีเลือดออกบริเวณช่องท้องจำนวนมาก นี่…อาจจะบาดเจ็บไปถึงม้ามแล้ว!
ม้ามแตกหรือ…อาจไม่ใช่แค่นั้น!
คิดแล้วเฉินชางก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที!
เฉินชางถอดสูทตัวนอกแล้วนำไปกดลงบนตัวของผู้หญิงคนนั้นเพื่อห้ามเลือด! จากนั้นจึงหันไปพูดกับคนขับรถว่า “คุณรีบโทรแจ้งตำรวจเร็วเข้า! เดี๋ยวผมจะโทรเรียกรถฉุกเฉิน!”
คุณลุงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ในดวงตาอัดแน่นไปด้วยห้วงอารมณ์ พอคิดถึงคนขับรถที่ชนแล้วหนีเมื่อครู่นี้ก็เดือดดาลขึ้นมาทันที!
ต้องรีบแจ้งตำรวจ!
ส่วนเฉินชางก็รีบโทรหาเหล่าหยางซึ่งเป็นคนขับรถพยาบาลประจำแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองทันที หากจะติดต่อรถฉุกเฉิน 120 ตอนนี้คงยุ่งยากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ห่างจากโรงพยาบาลอันดับสองไม่ถึงสองกิโลเมตร เร็วกว่าและสะดวกกว่า ดังนั้นต่อสายเหล่าหยางโดยตรงย่อมดีกว่ามาก เหมาะเจาะพอดี! ไม่นานก็โทรติด
เฉินชางกล่าวเสียงดัง “คุณหยาง รีบมาที่ถนนตงเตี้ยวทีครับ ตรงฟุตปาธหน้าสี่แยกจัตุรัสสวีหยางครับ…ใช่ครับ มีโรงหนังอยู่โรงหนึ่ง คุณรีบมาเลยนะครับ มีคนถูกรถชนสองคน ตอนนี้เป็นตายไม่แน่ชัด คนขับชนแล้วหนี ครับๆ ผมจะรอนะครับ! ใช่ครับ ให้พยาบาลกับหมอเวรมาด้วยกันเลย!”
เหล่าหยางพูดน้อยมาก “จะไปถึงภายในสามนาที!”
พูดจาชัดเจนเด็ดขาดก็คือนิสัยของเหล่าหยาง และเป็นเอกลักษณ์ของเขาด้วย เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ เฉินชางก็เริ่มมั่นใจขึ้นมาแล้ว!
ในช่วงสามนาทีอันตรายนี้ เขาต้องทำให้ดีที่สุด!
เมื่อวางโทรศัพท์ไปแล้ว เฉินชางก็ใช้มือซ้ายกดปากแผลเอาไว้ อีกมือหนึ่งแตะชีพจรบริเวณลำคอพร้อมสังเกตลักษณะการหายใจไปด้วย…
ลมหายใจอ่อนแรง ชีพจรก็เช่นกัน!
จิตใจอันตึงเครียดของเฉินชางผ่อนคลายลงเล็กน้อย เพราะอย่างไร…ก็ยังมีชีวิตอยู่!
การกดเพื่อห้ามเลือดเป็นวิธีการที่ได้ผลดีที่สุดในตอนนี้ บริเวณท้องของผู้ป่วยมีเลือดออกจำนวนมาก หากเลือดไหลเร็วขนาดนี้ อีกไม่นานอาจช็อคเพราะเสียเลือดมากก็เป็นได้ หรืออาจจะ…ถึงแก่ชีวิต!
เฉินชางที่กำลังกดปากแผลหันไปพูดกับคนขับรถว่า “คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ”
คุณลุงส่ายหน้ารัว “ยังมีชีวิตอยู่! พูดได้ด้วย!”
เฉินชางมีสีหน้ายินดี จากนั้นก็พูดกับคุณลุงว่า “คุณมานี่ก่อนครับ ช่วยผมดูหน่อย!”
ขณะนั้นเองเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ใช้มือทั้งสองลูบใบหน้าของผู้เป็นมารดาโดยไม่สนใจเลือดที่ไหลออกมาแม้แต่น้อย เขาร้องไห้จนน้ำมูกน้ำตาไหลเต็มหน้า
“คุณอา! ช่วยแม่ผมด้วย ขอร้องละครับ ช่วยแม่ผมด้วย!”
เฉินชางมองเด็กชายคนนั้นแล้วพยักหน้า “ได้ อารับปาก! หนูลุกขึ้นมาก่อน อย่าไปแตะคุณแม่!”
เฉินชางคิดว่าหญิงคนนั้นจะบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังค่อนไปทางคอหรือไม่ สิ่งเหล่านี้จะต้องพิจารณาให้ดี
เด็กชายได้ยินคำพูดของเฉินชางก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วถอยหลังไปทันที!
[1] ลั่วเทียนอี คือโปรแกรมเสียงสังเคราะห์ที่มีมาสคอตเป็นตัวการ์ตูนซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Bplast ตัวแรกของประเทศจีน โดยคอนเซ็ปต์ของลั่วเทียนอี คือนางฟ้าที่ลงมามอบเสียงเพลงให้กับมนุษย์