บทที่ 445 เมื่อได้พบปาฏิหาริย์ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ย่อมเป็นไปได้!
“ห้ามเลือดก่อน!”
หลี่เป่าซานสั่งอย่างเด็ดขาด เถามี่ก็รีบหันมารับคีมห้ามเลือดแล้วหนีบลงตรงเส้นเลือดที่มีเลือดออกโดยตรง ส่วนเฉินชางก็ไม่ลังเลอีกต่อไป!
เขาจะเย็บแผล!
ทุกคนได้ประจักษ์แจ้งในฝีมือการเย็บเส้นเลือดของเฉินชางด้วยตาตนเองมาแล้วจึงเชื่อมั่นในตัวเขามาก หลี่เป่าซานและเถามี่จึงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากมายอีก
การหยุดเลือดก็เปรียบเสมือนกองหน้าในสงครามผ่าตัดครั้งนี้
หลี่เป่าซานตรวจสอบช่องท้องอย่างระมัดระวัง เถามี่ใช้คีมจับและกดไปตามตำแหน่งที่สมควร ส่วนเฉินชางก็เย็บเส้นเลือดอย่างแน่นหนา!
เพียงไม่นานการเย็บเพื่อหยุดเลือดก็ดำเนินไปตามขั้นตอนไม่มีสะดุด ทว่าตอนที่หลี่เป่าซานย้ายไปตรวจบริเวณม้ามกลับพบว่าเส้นเลือดบริเวณม้ามมีเลือดไหลพุ่งออกมา
เถามี่มีปฏิกิริยาว่องไวมาก เขารีบใช้คีมหนีบไว้ทันที!
ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องเลือกปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว นั่นก็คือควรจะจัดการม้ามเช่นไร
หลี่เป่าซานลังเลเล็กน้อย “ตัดออกหมดเลยดีไหมครับ”
เถามี่พิจารณา “เหลือไว้สักหน่อยไหมครับ…ผู้ป่วยยังอายุน้อยอยู่เลย…”
หลี่เป่าซานเงียบไป! ทว่าจะอย่างไรตอนนี้ก็ต้องเลือกอยู่ดี
เฉินชางพูดขึ้นว่า “เย็บเส้นเลือดที่ม้ามก่อนแล้วกันครับ!”
ทั้งสองมองเฉินชางครู่หนึ่งด้วยสายตาครุ่นคิด จากนั้นจึงพยักหน้า
ม้ามเป็นอวัยวะที่คอยสร้างภูมิคุ้มกันและเม็ดเลือดเป็นด่านสุดท้ายของร่างกาย ตอนคนเรายังเป็นทารกอยู่ในครรภ์มารดา สมรรถนะในการสร้างเลือดของม้ามจะดีเยี่ยม จนกระทั่งถึงวัยผู้ใหญ่ม้ามจะเริ่มทำงานถดถอยและเปลี่ยนถ่ายงานสร้างเม็ดเลือดไปให้ไขกระดูกแทน แต่ม้ามยังคงรับผิดชอบหน้าที่ในการสร้างเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์และโมโนไซต์อยู่!
นอกจากนี้ งานวิจัยในปัจจุบันยังชี้ให้เห็นว่า เมื่อมนุษย์เราเสียเลือดมาก หรือไขกระดูกทำงานผิดปกติ ม้ามก็ผลิตเม็ดเลือดแดงได้ด้วย! เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุดของร่างกายมนุษย์เลยทีเดียว
บางทีทุกคนอาจไม่ทราบว่าเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์และโมโนไซต์คืออะไร
จะขอยกตัวอย่างเช่นนี้ หากเปรียบเทียบกับสังคมมนุษย์ เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์และโมโนไซต์ก็เหมือนกับทหารและตำรวจที่คอยต่อต้านศัตรูจากภายนอกและจัดการคนชั่วภายใน ทำงานเกี่ยวกับการปกป้องร่างกายทั้งหมด
หากตัดม้ามออกหมด ร่างกายจะตกอยู่ในสภาพอย่างไร ทุกคนคงจินตนาการได้! ด้วยเหตุนี้ เมื่อม้ามแตกจึงต้องพยายามรักษาม้ามเอาไว้ให้ได้มากที่สุด แต่ไม่ว่าจะพยายามรักษาม้ามเอาไว้อย่างไรก็ยังต้องตัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วออกไปให้หมดอยู่ดี
ตอนนี้หลอดเลือดแดงม้ามเสียหายไปแล้ว จะต้องพยายามเย็บให้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งของหลอดเลือดแดงม้ามค่อนข้างพิเศษ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความยากในการใช้คีมจับเข็มเย็บแผลเลย เพียงแค่มุมในการเย็บก็ยากมากแล้ว ทำให้ขณะเย็บอาจส่งผลกระทบจนทำให้อวัยวะและเนื้อเยื่อรอบๆ เสียหายได้ง่าย
เฉินชางสูดหายใจลึกเพื่อรวบรวมสมาธิ มองเถามี่โดยไม่พูดไม่จา จากนั้นทั้งสองก็เริ่มงานเย็บงานจับของตน
หากลดเวลาไปได้หนึ่งวินาทีก็อาจลดความเสียหายของม้ามลงได้ส่วนหนึ่ง
การเย็บของเฉินชางทำให้หมออาวุโสทั้งสองคนรู้สึกอัศจรรย์ใจอีกครั้ง!
เฉินชางจับอุปกรณ์การเย็บอย่างคล่องแคล่วเชี่ยวชาญ เข้าใจมันเสมือนเป็นมือคู่หนึ่งของตน
หลอดเลือดแดงม้ามไม่หนาเท่าไหร่ แต่เย็บยากมาก เพราะจะต้องรักษาระยะห่างระหว่างไหมแต่ละเส้นให้ดี และต้องระวังไม่ให้ไปโดนเส้นเลือดข้างเคียงจนทำให้ผนังหลอดเลือดเสียหายในภายหลัง
เวลาไหลผ่านไปทุกวินาที จนกระทั่งหนึ่งนาทีต่อมา การเย็บก็เสร็จสิ้น!
ต่อจากนี้คือการผ่าตัดรักษาม้ามแล้ว ต้องดูแล้วว่าจะเลือกอย่างไร! จะรักษาซ่อมแซมม้ามที่เสียหาย หรือจะตัดม้ามทิ้ง นี่เป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องเลือก
แม้การเย็บม้ามจะไม่ยาก แต่การตัดม้ามก็เป็นตัวเลือกที่ดีในสถานการณ์พิเศษเช่นนี้ เนื่องจากตอนนี้ส่วนล่างของม้ามแตกในแนวขวาง ทำให้เส้นเลือดเล็กๆ บริเวณใกล้เคียงฉีกขาดไปด้วย หากจะเย็บย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะส่วนที่เย็บจะกลายเป็นสิ่งกีดขวาง ทำให้ม้ามบริเวณอื่นสูบฉีดโลหิตไม่ได้
หลี่เป่าซานลังเลครู่หนึ่ง “ตัดแล้วกันครับ!”
เถามี่พยักหน้า!
ทว่าตอนนี้เอง เฉินชางก็รีบพูดขึ้นว่า “พวกเราเชื่อมหลอดเลือดเล็กๆ เข้าด้วยกันได้ไหมครับ ยังไงซะ…ผู้ป่วยก็เพิ่งได้รับบาดเจ็บมาไม่นาน ส่วนนี้ยังมีกระบวนการ Collateral Circulation[1] และเส้นเลือดส่วนอื่นๆ คอยช่วยอยู่ พวกเรา…เลือกรักษาม้ามไว้ส่วนหนึ่งได้นะครับ”
เป็นเช่นนั้นจริงๆ!
อย่างที่เถามี่บอก ผู้ป่วยยังอายุน้อย หากตัดม้ามออกย่อมส่งผลเสียต่อร่างกาย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจเลือกหนทางรักษาได้ไปชั่วขณะหนึ่ง
เฉินชางมองทั้งสองแล้วพูดว่า “ผมเย็บเส้นเลือดเล็กๆ พวกนั้นได้นะครับ! มอบหมายให้ผมเถอะ!”
หลี่เป่าซานชะงักไป “ม้ามยังเสียหายไม่หมดใช่ไหม”
เฉินชางพยักหน้า “ครับ!”
ดวงตาของเขามองเห็นชัดเจน หากม้ามเสียหายทั้งหมดแล้วเขาย่อมต้องเห็น ทว่าตอนนี้ชื่อม้ามที่ปรากฏยังคงเป็นสีเหลือง ไม่ได้เป็นสีแดง เท่ากับว่ายังช่วยได้!
แต่การเย็บเส้นเลือดเล็กๆ เช่นนี้ยุ่งยากและมีระดับความยากสูงมาก อีกทั้งการถูกชนอย่างแรงก็ทำให้ม้ามที่อ่อนแอเสียหายไปมากแล้ว ดังนั้นการรักษาระดับสูงเช่นนี้ย่อมแตกต่างออกไป! ที่สำคัญที่สุดก็คือเฉินชางจะทำสำเร็จหรือไม่
การรักษาระดับนี้ ผู้เป็นหมอจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นเลือดบริเวณม้ามอย่างลึกซึ้งจึงจะทำได้! และยังต้องมีทักษะการเย็บเส้นเลือดอันละเอียดประณีตมากอีกด้วย! จะขาดสิ่งใดไปไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว!
หลี่เป่าซานสังเกตสภาพของผู้ป่วยอย่างละเอียดอีกครั้ง เขาพิจารณาผู้ป่วยอย่างจริงจังจนเมื่อวินิจฉัยโดยรวมได้แล้วก็มองเฉินชางแล้วพูดว่า “เสี่ยวเฉิน…คุณทำได้นะครับ”
เฉินชางพยักหน้า “ผมทำได้ครับ!”
เขาไม่ได้ตอบว่าจะลองดู แต่ตอบว่าทำได้ตรงๆ
เถามี่มองเฉินชางแล้วหันไปพูดกับหลี่เป่าซาน “ลองดูเถอะครับ!”
หลี่เป่าซานเงยหน้ามองเฉินชาง ในดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง “ได้! พยายามเข้าล่ะ!”
เขาเองก็อยากมอบร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงให้ผู้ป่วยด้วยตนเอง แต่ตอนนี้…นอกจากให้กำลังใจแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้อีก
งานนี้มีรายละเอียดยิบย่อยมากมาย ปริมาณงานที่ต้องทำก็มาก ดังนั้นเรื่องความประณีตและความละเอียดก็ยิ่งต้องมีมาก ในขั้นต้น หมอจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับตำแหน่งของเส้นเลือดบริเวณม้ามให้มากพอเสียก่อน
โชคดีที่เฉินชางทำความเข้าใจเรื่องนี้ได้! เขารีบกดเลือกเปิดระบบการอบรมพิเศษของ [ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายมนุษย์] ตั้งใจศึกษาเส้นเลือดบริเวณม้ามอย่างละเอียด…ไม่ทราบว่าใช้เวลาไปนานเพียงใด
ในตอนที่เฉินชางลืมตามองม้ามอีกครั้ง ในสมองก็ปรากฏตำแหน่งและเส้นทางการทอดตัวของเส้นเลือดขึ้นมาแล้ว ตอนนี้ในสายตาของเฉินชาง เส้นเลือดที่เปรียบดังกิ่งก้านของต้นไม้กลายเป็นระเบียบเรียบร้อยราวกับถูกจัดประเภทมาอย่างดี
บางทีเขาอาจจะทำได้จริงๆ!
ขณะเดียวกัน หัวหน้าแผนกวิสัญญีก็เริ่มสังเกตสัญญาณชีพของผู้ป่วยอย่างละเอียดแล้ว ทุกคนล้วนพยายามกันอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเป็นพลังที่แข็งแกร่งให้เฉินชาง!
พวกเขาเฝ้ารอให้เฉินชางทำภารกิจที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้นี้ งานที่พวกเขาไม่เคยคิดทำมาก่อน
สำหรับบุคลากรทางการแพทย์อย่างพวกเขาแล้ว หากตัดม้ามออกไปก็นับว่าช่วยชีวิตผู้ป่วยสำเร็จแล้วเช่นกัน แม้จะมีผลเสียรุนแรงต่อการฟื้นตัวในภายหลังของผู้ป่วยและทำให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตไม่สะดวก แต่…อย่างไรพวกเขาก็มีข้อจำกัดในด้านทักษะทางการแพทย์
ทว่าครั้งนี้ เฉินชางตัดสินใจแล้วว่าจะพยายามสุดความสามารถเพื่อมอบร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ให้กับเธอ จะให้ม้ามที่มีสภาพค่อนข้างดีแก่เธอ!
เมื่อเฉินชางคิดถึงแววตาเฝ้าหวังของเด็กชายคนนั้น พานให้เขารู้สึกว่าตนจะต้องพยายามเต็มที่เพื่อช่วยครอบครัวนี้ให้ได้ เขาติดตั้งกล้องจุลทรรศน์สำหรับผ่าตัดและปรับกล้องไม่หยุด ไหมและเข็มสำหรับเย็บในมือถูกเปลี่ยนครั้งแล้วครั้งเล่า
เวลาไหลผ่านไปทุกชั่วขณะ เท่ากับชีวิตของผู้ป่วยที่กำลังไหลผ่าน
โทรศัพท์มือถือของเฉินชางที่ถูกโยนเอาไว้ในห้องเก็บสัมภาระดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า!
เส้นเลือดเล็กๆ ของผู้ป่วยถูกเย็บด้วยความพยายามของเฉินชางเข็มแล้วเข็มเล่า!
เส้นเลือดเหล่านี้มีมากมาย แต่เฉินชางไม่สนใจ เขาทำเพียงพยายามเย็บรักษาอย่างเต็มที่ นี่ก็เพื่อให้ม้ามอยู่ในสภาพดีที่สุดและเป็นการเตรียมตัวสำหรับการฟื้นตัวในภายหลัง!
เมื่อเห็นเฉินชางทำงานอย่างละเอียดประณีตเช่นนั้น หลี่เป่าซานและเถามี่ก็สบตากัน! จากนั้นจึงถอนใจออกมา
ไม่ทราบว่าผ่านไปนานเพียงใด ในตอนที่เฉินชางรู้สึกว่าหลังของตนชาจนไร้ความรู้สึกไปแล้ว ในที่สุดเขาก็ผ่อนคลายลง!
การเย็บเสร็จสิ้นแล้ว!
เขาลืมไปแล้วว่าตนเย็บเส้นเลือดไปกี่เส้น แต่เขาก็ทำสำเร็จ
ทุกคนมองเฉินชาง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสั่นไหว เขาทำได้จริงๆ…
หลี่เป่าซานผ่าตัดม้ามมาชั่วชีวิต ไม่ทราบว่าผ่าตัดเช่นนี้มาแล้วกี่เคส ทว่าวันนี้เขาได้เป็นประจักษ์พยานถึงความอัศจรรย์ในการรักษาม้ามด้วยตาตนเองแล้ว
อารมณ์ซับซ้อนในใจช่างยากบรรยาย!
[1] Collateral Circulation กระบวนการที่ร่างกายสร้างเส้นทางบายพาสโลหิตขึ้นมาแทนส่วนเส้นเลือดที่ตีบไปเพื่อปรับเส้นทางการไหลเวียนโลหิต ซึ่งกระบวนการนี้จะเกิดน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น