บทที่ 450 คอรัปชั่นต่อหน้าผมแบบนี้จะบ้าเกินไปแล้ว!
คะแนนเสียงมาจากคะแนนของทุกคน ซึ่งรวมไปถึงผู้ตัดสินในงานด้วย!
ชั่วขณะที่พวกเขาเห็นข่าวของเมืองอันหยาง ทุกคนต่างก็ตกตะลึง! พวกเขารู้สึกว่าชื่อที่ปรากฏในข่าวช่างคุ้นเคยจนน่าตกใจ!
ใช่แล้ว เฉินชางนั่นเอง
พวกเขาจำได้ดี มีหมอคนหนึ่งชื่อเฉินชางไม่ได้มาร่วมงาน
จากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย ขณะนี้ทุกคนพากันเปิดอ่านข่าว ในข่าวเขียนอย่างชัดเจนว่า ‘มีรายงานว่าเดิมทีวันนี้หมอเฉินชางต้องไปเข้าร่วมงานสัมมนาประจำปีของสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดี…’
ทุกคนชะงักไป
ชื่อเหมือนกันเฉยๆ หรือเปล่า
คงไม่ใช่หรอก!
เนื่องจากโปรแกรมลงคะแนนเป็นแอปฯ ที่ใช้กันเฉพาะในวงการแพทย์ ซึ่งแอปฯ จะคอยนำเสนอเรื่องราวข่าวสารใหม่ล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับวงการแพทย์ด้วย ดังนั้นขณะที่ทุกคนกำลังจะลงคะแนนย่อมเห็นข่าวเด้งขึ้นมา
ชั่วขณะนั้น ทุกคนต่างก็เงียบไป!
ภาพข่าวภาพแรกเป็นภาพเฉินชางจากกล้องวงจรปิด เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เต็มไปด้วยเลือด กำลังกดปากแผลให้ผู้บาดเจ็บ มีเวลาเขียนไว้ว่า 07.25 น.
อีกภาพหนึ่งเป็นภาพบริเวณหน้าห้องผ่าตัด เฉินชางดูท่าทางเหนื่อยล้า เวลาคือ 16.40 น.
อีกภาพหนึ่งเป็นภาพเด็กชายถือหูฟังแพทย์กำลังโค้งคารวะให้เฉินชาง เวลาคือ 17.15 น.
ทั้งสามภาพทำให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนในงานคิดถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าจนถึงห้าโมงเย็น เวลารวมทั้งสิ้นสิบชั่วโมง จินตนาการได้เลยว่าการกู้ชีพในคราวนี้ยากลำบากเพียงใด จินตนาการได้เลยว่าภายในห้องผ่าตัดจะเคร่งเครียดเพียงใด
สุดท้ายมีนักข่าวลงสัมภาษณ์สั้นๆ ว่า
นักข่าว “หมอเฉิน ตอนเห็นผู้ป่วยนอนจมกองเลือด คุณคิดอย่างไรคะ”
เฉินชาง “ผมเป็นหมอ ควรช่วยเธอ!”
……
……
“ผมเป็นหมอ ควรช่วยเธอ!”
ประโยคง่ายๆ ประโยคนี้ถึงกับทำให้หมอทุกคนที่ได้เห็นข่าวรู้สึกแสบจมูก
นี่คือหมอ!
ทุกคนพากันอ่านคอมเมนท์ที่วิ่งอยู่ในข่าว แต่ละคนสงบใจไม่ได้เลย!
ใช่แล้ว!
งานสัมมนาประจำปีอะไรกัน!
การคัดเลือกอะไรกัน!
ของเหล่านี้สำคัญด้วยหรือ
ต่อให้สำคัญเพียงใด จะสำคัญกว่าชีวิตผู้ป่วยหรือ
ความหมายเบื้องหลังของการรักษาสิบชั่วโมงนี้คืออะไร ทุกคนล้วนเข้าใจกระจ่างแจ้ง
เฉินชางเผชิญหน้ากับผู้ป่วย รักษาอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ นี่ทำให้ทุกคนรู้สึกหลากหลาย
นี่คือจิตวิญญาณของหมอ!
ไม่ว่าเวลาใด ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด สมควรเตือนตัวเองทุกชั่วขณะว่าเราคือหมอ!
คำว่าหมอคำนี้ไม่ใช่เพียงอาชีพเท่านั้น บางครั้งมันก็คือความรับผิดชอบด้วย
เฉินปิ่งเซิงเห็นข่าวนี้แล้ว จางจื้อซินที่อยู่ข้างๆ ก็เห็นข่าวนี้แล้วเช่นกัน ทั้งสองรู้สึกสะเทือนอารมณ์ยิ่งนัก นี่ถึงจะเป็นลักษณะที่เสี่ยวเฉินควรมี!
งานสัมมนาประจำปีอะไรกัน!
ไม่มาก็ช่างเถอะ!
เฉินปิ่งเซิงดีใจมาก เฉินชางทำเช่นนี้ เขาก็ภาคภูมิใจไปด้วย!
เขาชี้ไปที่รูปเฉินชาง พูดกับเพื่อนที่ยืนอยู่ด้วยกันว่า “ดูสิ ลูกศิษย์ผมเอง!”
คนอื่นยกนิ้วโป้งให้แล้วกล่าวว่า “เยี่ยมไปเลย ผมนับถือเลยครับ!”
หมอจากแผนกศัลยกรรมทั่วไปของโรงพยาบาลประชาชนแห่งอำเภอหลันก็มาร่วมงานสัมมนาประจำปีนี้ด้วย หัวหน้าแผนกต้วนปัวและรองหัวหน้าแผนกหยางเผิงเห็นภาพคนคุ้นหน้าในรูปก็คิดไปถึงผู้ป่วยไฟไหม้ในตอนนั้นที่เฉินชางช่วยรักษาด้วยการใส่สายระบายเลือดในที่เกิดเหตุ!
ทั้งสองรู้สึกตื่นเต้นและตื้นตัน
นี่สิถึงจะเป็นลักษณะที่หมอสมควรมี!
เฉินชางสุดยอดไปเลย!
บนเวที จางโหย่วฝูเห็นข่าวนี้แล้ว เฉียนเลี่ยงก็เห็นข่าวนี้แล้ว พวกเขาสองคนชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง!
ทันใดนั้นพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมโทรหาเฉินชางหลายสิบสายแต่กลับไม่มีการโทรกลับแม้แต่สายเดียว!
ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายเช่นนั้นจะโทรกลับได้อย่างไร!
จะเอาเวลาที่ไหนมาโทรกลับ
พวกเขารู้แล้วว่าทำไมเฉินชางจึงไม่ได้มาร่วมงานสัมมนาประจำปี! นั่นก็เพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่างานสัมมนาประจำปีเป็นร้อยเท่าให้เขาต้องจัดการ มีเรื่องที่สำคัญกว่าการเลือกคณะกรรมการสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีรอให้เขาไปทำอยู่
หากเฉินชางละเลยการช่วยชีวิตคนเพื่อมาร่วมการเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการแล้วล่ะก็ คณะกรรมการเช่นนี้ไม่มีก็ช่างมันเถอะ!
หากเป็นหมอก็สมควรเป็นหมอที่หนักแน่น รักษาผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บตามหน้าที่ได้อย่างดี! ไม่ใช่หมอที่แข็งกระด้างเอาแต่ไล่ตามผลประโยชน์และชื่อเสียงส่วนตัว!
ชั่วขณะนี้ ในใจของจางโหย่วฝูพลันเกิดความภาคภูมิใจและหยิ่งผยอง!
เขาภูมิใจในตัวเจ้าเด็กนั่น!
ไอ้หนูนี่เป็นคนยอดเยี่ยมจริงๆ!
แม้ต้องเลือกระหว่างชื่อเสียงและผู้ป่วยก็ไม่อาจทำให้เขาไขว้เขวได้เลย
เฉียนเลี่ยงพิงตัวไปกับพนักเก้าอี้ มองดูมือถืออยู่เช่นนั้น ผ่านไปนานก็ยังคลายอารมณ์ลงไม่ได้
เขาเข้าใจเฉินชางผิดไป
เขาเสียใจจริงๆ
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเฉินชางต้องทำเรื่องที่มีความหมายมากกว่างานนี้!
หากเปรียบเทียบเฉินชางกับเหล่าคนที่นั่งอยู่ในงานสัมมนาประจำปีเช่นพวกตนแล้ว แตกต่างกันอย่างชัดเจน…
เฉินชางเอ๋ย เฉินชาง!
คุณเป็นคนยังไงกันแน่
เฉียนเลี่ยงถอนใจออกมา เขาคิดไปถึงหมอหนุ่มมากพรสวรรค์ผู้มีลักษณะหนักแน่นมั่นคงทั้งยังเต็มไปด้วยความสามารถคนนั้น ผู้ที่มีทั้งเทคนิคฝีมืออันยอดเยี่ยม มีทั้งจิตใจอันเมตตา!
สุดยอด!
คิดแล้วเฉียนเลี่ยงก็ลงคะแนนให้เฉินชาง
ทางด้านโจวหงกวง เขามองทุกคนด้วยความงุนงง การลงคะแนนมีไว้สำหรับคนในมณฑลตงหยางที่มาร่วมงานนี้เท่านั้น ดังนั้นโจวหงกวงจึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาไม่ทราบว่าทำไมงานลงคะแนนถึงดูสับสนวุ่นวายแต่กลับไม่มีใครสนใจทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงการลงคะแนนเสียง!
ทุกคนพากันกดไปยังชื่อของเฉินชาง ส่วนอีกสี่คนที่เหลือค่อยตัดสินใจทีหลัง
ทุกคนเข้าใจดีว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่
หมอหนุ่มคนนี้เป็นหมอที่ไม่สนใจชื่อเสียงของตน ยอมทิ้งผลประโยชน์ของตนเพื่อช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ พวกเขาสมควรลงคะแนนให้คนเช่นนี้ไม่ใช่หรือ
หมอคืออะไร
ก็คือคนเช่นนี้ไม่ใช่หรือ
หากเขาไม่ได้เป็นคณะกรรมการ ยังจะมีใครเหมาะสมกว่าเขาอีก
ขณะนี้ทุกคนกดเลือกเฉินชางด้วยใจที่หนักแน่น
ทางด้านฉินเยว่ที่ยืนถือโทรศัพท์อยู่ข้างหลังเวทีก็เห็นข่าวนี้แล้วเช่นกัน ในที่สุดเธอก็รู้แล้วว่าทำไมเฉินชางไม่มา!
เพราะหน้าที่!
เธอปลาบปลื้มใจจริงๆ ซาบซึ้งจนน้ำตาแทบไหล เพราะคนคนนี้ก็คือแฟนของเธอ เป็นคนที่จะปกป้องเธอไปชั่วชีวิต
คิดแล้วฉินเยว่ก็เต็มไปด้วยความปลาบปลื้มและพึงพอใจ
ตอนนี้เอง โทรศัพท์มือถือของฉินเยว่ก็ส่งเสียงดังขึ้นจากแอปวีแชท มันเป็นข้อความเข้าจากเฉินชาง เป็นเพียงคำสามคำเท่านั้น
“ขอโทษครับ!”
ฉินเยว่เห็นแล้วก็หลุดหัวเราะออกมา
ตาทึ่มนี่ ไม่รู้หรือไงว่าเธอเห็นข่าวแล้ว
คิดแล้วฉินเยว่ก็ส่งข้อความกลับไปว่า “ที่รัก ฉันรักคุณ คุณคือภาคภูมิใจของฉัน!”
ในใจของเธอเต็มไปด้วยความสุข จากนั้นก็ยัดโทรศัพท์มือถือกลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ
ส่วนเฉินชางถึงกับชะงักจนนิ่งไปเลยทีเดียว
อะไรกันครับเนี่ย
ผ่านไปหลายนาที จางโหย่วฝูก็พูดขึ้นว่า “เอาละครับ ทุกคนลงคะแนนเสร็จแล้วใช่ไหมครับ ตอนนี้ขอเชิญทุกท่านดูที่หน้าจอนะครับ คณะกรรมการคนใหม่ทั้งห้าคนได้แก่…”
โจวหงกวงหันกลับมา รอเวลาที่จะร่วมปรบมือแสดงความยินดีไปพร้อมทุกคน แต่ทันใดนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้าง!
เขาพบว่ารายชื่อผู้ได้รับเลือกอันดับหนึ่งก็คือเฉินชาง!
แถมยังได้คะแนนเต็มด้วย!
ขณะนี้เขารู้สึกสะท้านสะเทือนไปหมดแล้ว!
นี่มันบ้าอะไรกัน
หลอกกันหรือเปล่า
นี่มันคอรัปชั่น!
ผมจะรายงานเบื้องบนแน่!
ไม่สิ ผมก็คือรองประธานสมาคมศัลยกรรมตับและน้ำดีแห่งประเทศจีนนี่นา
พวกมณฑลตงหยางทำบ้าอะไรอยู่
เฉินชางไม่มาร่วมงานแต่กลับได้คะแนนเต็ม
ผม…