บทที่ 481 หัวหน้าเฉินดูเด็กจัง!
ฉินเสี้ยวหยวนก็รู้สึกขุ่นเคืองเช่นกัน บางทีเมื่ออยู่ในตำแหน่งเช่นเขาอาจไม่สมควรพูดเช่นนี้ เพราะใครจะไม่อยากรักษาหน้าตัวเองบ้างล่ะ แต่ตอนนี้ขณะนี้ ฉินเสี้ยวหยวนฟังคำพูดของชายคนนั้นจนเดือดดาลไปหมดแล้ว
อะไรคืองานอย่างพวกเราจะมีหรือไม่มีก็ได้ อะไรคือเป็นงานที่ไม่มีความหมาย
ถ้าคุณหาเงินได้ถึงเรียกว่ามีความหมาย แล้วพวกเราเรียกว่าไม่มีความหมายหรือไร
นี่มันคำพูดบ้าบออะไรกัน!
ดังนั้นไม่ว่าจะอย่างไร วันนี้ฉินเสี้ยวหยวนก็ต้องก้าวออกมาพูดเสียหน่อย อย่าคิดว่าตัวเองเป็นเถ้าแก่แล้วจะทำอะไรก็ได้ วันนี้เขาไม่สนว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เขา ฉินเสี้ยวหยวน เห็นแล้วก็จะต้องพูดออกมา!
คุณจะมาปฏิเสธคุณค่าของพวกเราไม่ได้!
สาวน้อยเหล่านี้ทำงานกันตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ พวกคุณเคยพูดขอบคุณเธอหรือยัง
ดังนั้นขณะพูด ฉินเสี้ยวหยวนจึงไม่คิดเกรงใจแม้แต่น้อย ไม่คิดไว้หน้าเขาสักนิด
ใช่แล้ว ฉินเสี้ยวหยวนเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล จะต้องประเมินจากสถานการณ์โดยรวม แต่เขาก็เป็นบุคลากรทางการแพทย์คนหนึ่งเช่นกัน เขาย่อมมีความหนักแน่นของตนอยู่
กล่าวจบฉินเสี้ยวหยวนก็มองทุกคน แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ทำงานกันดีๆ นะครับ มีอะไรก็มาที่โรงพยาบาลได้”
พยาบาลน้อยรีบพยักหน้าด้วยความซาบซึ้งใจสุดเปรียบ!
จะมีผู้อำนวยการโรงพยาบาลสักกี่คนที่ทำได้อย่างฉินเสี้ยวหยวน จะมีใครบ้างไม่อยากรักษาสถานการณ์ให้สมดุล มีค่ายทหารไหนบ้างที่คอยปกป้องทหารตัวน้อย ไม่มีใครอยากล่วงเกินผู้ประกอบการท้องถิ่นหรือที่เราเรียกกันว่า ‘ชนชั้นสูง’ เพื่อพยาบาลน้อยเหล่านี้แน่ๆ
คำพูดเมื่อครู่นี้ของฉินเสี้ยวหยวนประทับอยู่ในส่วนลึกจิตใจผู้ป่วยที่อยู่รอบๆ
ทุกคนต่างก็ชื่นชม!
คนหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปไว้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ถือว่าเรื่องนี้จบลงชั่วคราวแล้ว
……
……
บุคลากรในแผนกฉุกเฉินโถมตัวเองเข้าสู่งานอันหนักหน่วงอีกครั้ง
หลังจากแลกเวรช่วงเช้าแล้ว หลี่เป่าซานก็เริ่มจัดแจงงานและเน้นย้ำสิ่งต่างๆ กับพนักงานใหม่
เจียงเทา หมอดีกรีปริญญาเอกที่เพิ่งเข้ามาทำงานถูกจัดให้ติดตามหัวหน้าอันเยี่ยนจวินอย่างถูกต้องตามกฎเกณฑ์ รับผิดชอบการรักษาที่เกี่ยวข้องกับศัลยกรรมมือ
หวังซิน นักศึกษาปริญญาโทในสาขาศัลยกรรมทรวงอกที่มาใหม่ก็ร่วมงานกับหวังข่ายอัน รับผิดชอบการผ่าตัดเกี่ยวกับศัลยกรรมมือด้วยกัน
งานเกี่ยวกับศัลยกรรมทั่วไปมีเฉินปิ่งเซิงรับผิดชอบ โดยมีหลัวโจวคอยติดตามทำงานด้วย ส่วนคนที่เหลืออีกคนหนึ่งก็มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของสือน่า
เมื่อเป็นเช่นนี้แผนกฉุกเฉินก็นับว่าเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว นับว่าได้ก่อตั้งฝ่ายศัลยกรรมมือ ศัลยกรรมทรวงอก ศัลยกรรมตับและถุงน้ำดี และศัลยกรรมทั่วไปขึ้นมาแล้ว
หลี่เป่าซานไม่ได้แบ่งหน้าที่เฉพาะเจาะจงให้เฉินชาง เนื่องจากตอนนี้เฉินชางยังอยู่ในขั้นศึกษาเรียนรู้ หากแบ่งงานไปจะต้องยุ่งขึ้นมากอย่างไม่ต้องสงสัยเลย และสาเหตุรองลงมาก็คือเอกลักษณ์ของเฉินชาง
โดยพื้นฐานแล้วเฉินชางมีความรู้หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นศัลยกรรมทรวงอก ศัลยกรรมตับและถุงน้ำดี หรือจะเป็นศัลยกรรมมือ เฉินชางก็ทำได้ทั้งหมด
ทำงานร่วมกันมาระยะหนึ่ง หลี่เป่าซานจึงรับรู้ถึงความพิเศษของเฉินชางขึ้นมาแล้ว หากจะมอบหมายตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งให้เขา สู้ให้เขารั้งตำแหน่งอิสระของแผนกจะดีกว่า ส่วนไหนต้องการก็ไปทำที่ส่วนนั้น
หากดูผิวเผินเหมือนจะเป็นตำแหน่งที่ไม่ค่อยสำคัญอะไร แต่ความจริงเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุด มีลักษณะงานเหมือนกับหลี่เป่าซานนั่นเอง
ในฐานะที่หลี่เป่าซานเป็นหัวหน้าแผนกฉุกเฉิน สิ่งที่เขาต้องทำก็คือให้ความร่วมมือกับแผนกต่างๆ และโรงพยาบาลในการผ่าตัดเคสเร่งด่วน
แม้เฉินชางจะเป็นเพียงแพทย์ดูแลไข้ แต่ก็ถูกหลี่เป่าซานจับไปวางไว้ในตำแหน่งที่สำคัญมากที่สุด นั่นเป็นเพราะหลี่เป่าซานพบว่าช่วงนี้ภาระของตนลดลงมาก ดูเหมือน…พอทุกคนมีเรื่องอะไร หากไม่มาเรียกตนก็จะเริ่มเรียกหาเฉินชางแล้ว!
นี่ทำให้หลี่เป่าซานที่วิ่งรับความกดดันของงานมาเป็นเวลานานสบายขึ้นไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น เฉินชางยังทำงานของหัวหน้าแผนกทุกวันด้วย เช่นการราวด์วอร์ด หรือตรวจเยี่ยมคนไข้นั่นเอง!
เวลาเก้าโมงกว่า เฉินปิ่งเซิงถือประวัติผู้ป่วยแล้วโยนไปให้เฉินชางอย่างคุ้นชิน “เสี่ยวเฉิน ไปราวด์”
สือน่าที่กำลังม้วนผมตัวเองเล่นรีบพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวก่อนเหล่าเฉิน ให้ฉันไปราวด์กับเขาก่อน ราวด์เสร็จฉันก็จะเลิกเวรดึกแล้ว วันนี้ต้องไปประชุมผู้ปกครอง!”
อันเยี่ยนจวินหัวเราะ พูดกับเจียงเทาว่า “ดูเหมือนวันนี้พวกเราจะได้ราวด์ทีหลังสุดแล้ว!”
เจียงเทาชะงักไป “หัวหน้าอัน…ทำไมจะไปราวด์ต้องเรียกหมอเฉินไปด้วยทุกรอบเลยล่ะครับ”
อันเยี่ยนจวินชะงักไปทันที อดพูดไม่ได้ว่า “เพราะเสี่ยวเฉินเป็นคนผ่าตัดให้ผู้ป่วยหลายคนน่ะครับ เขารู้สภาพของผู้ป่วยดีที่สุด ถ้าไม่เรียกเขาแล้วจะเรียกใครไปด้วยล่ะครับ”
คำพูดนี้เมื่อคนเก่าคนแก่ของแผนกฉุกเฉินได้ยินก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเหล่าพนักงานใหม่ได้ยินกลับรู้สึกตะลึงพรึงเพริด!
จะอย่างไรเฉินชางก็ยังอายุไม่มาก ไม่ต่างจากพวกเขานัก แต่เมื่อพิจารณาจากปริมาณผมบนศีรษะของเขาแล้ว ตำแหน่งก็ไม่น่าจะสูงกว่าพวกตนด้วยซ้ำ
แต่ว่า…กลับทำงานเหมือนกับหัวหน้าแพทย์!
นำราวด์วอร์ดเช่นนี้เป็นอภิสิทธิ์ของหัวหน้าแพทย์เท่านั้น
หรือว่า…หมอเฉินคนนี้คือหัวหน้าเฉิน
ทุกคนคิดถึงตรงนี้ก็ทอดถอนใจออกมาด้วยความตื่นตะลึง หรือว่าเฉินชางคือผู้มีความสามารถที่ทางโรงพยาบาลรับเข้ามาเป็นกรณีพิเศษ
ทางหลัวโจวยิ่งช็อกหนัก เพราะเขารู้จักเฉินชางดี อย่างไรก็นับว่ารู้รากรู้ฐานของเฉินชางมาบ้าง ตอนแรกเขาคิดว่าเฉินชางคงเป็นแค่หมอน้อยธรรมดาในแผนกฉุกเฉิน แต่ตอนนี้เมื่อถึงช่วงเวลาราวด์วอร์ด เขาก็รู้สึกเหมือนทัศนคติทุกอย่างของตัวเองถูกทำลายลงทั้งหมด!
ให้แพทย์ดูแลไข้คนหนึ่งไปราวด์วอร์ดเช่นนี้ คิดอะไรกันแน่
ส่วนหมอที่มาใหม่ทั้งหลายก็แปลกใจมากเช่นกัน นี่…หมอเฉิน ไม่สิ หรือต้องเรียกว่าหัวหน้าเฉิน
คิดแล้วเหอลู่ซึ่งเป็นหมอภายใต้การดูแลของสือน่าก็เบิกตากว้างแล้วถามว่า “อาจารย์คะ นี่…หัวหน้าเฉินดูหนุ่มจังเลยนะคะ!”
สือน่าถูกคำพูดประโยคนี้ขอเหอลู่ทำเอาสับสนไปหมดแล้ว
“หัวหน้าเฉินเหรอ หนุ่มเหรอ ก็โอเคอยู่นะ!”
สือน่าเงยหน้าขึ้นยิ้มๆ “เหล่าเฉิน นักเรียนของฉันบอกว่าคุณยังหนุ่ม แล้วยังเรียกคุณว่าหัวหน้าเฉินด้วย!”
เฉินปิ่งเซิงเห็นหมอสาวกล่าวชมตนเช่นนี้ก็ยืดตัวขึ้นทันที ทั้งยังส่งเสียงหัวเราะออกมา “งั้นหรือครับ อาจเป็นเพราะผมหน้าเด็กมั้งครับ แล้วก็มีมาดของหัวหน้าแพทย์อยู่ด้วย!”
ทุกคนหัวเราะ
ตอนนี้เอง เหอลู่ก็กระซิบว่า “ฉันหมายถึงหัวหน้าเฉินค่ะ ไม่ใช่อาจารย์เฉิน”
สือน่าชะงักไปเล็กน้อย “หัวหน้าเฉินหรือ เหล่าเฉินยังไม่ได้เป็นหัวหน้าแพทย์เลยนะ”
ทันใดนั้นสือน่าก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “เสี่ยวเหอ…เธอคงไม่ได้พูดถึงเฉินชางหรอกนะ!”
เหอลู่พยักหน้าราวกับมีเหตุผลเสียเต็มประดา “ใช่แล้วค่ะ หมายถึงคุณเฉินชาง ยังหนุ่มยังแน่นก็ได้เป็นหัวหน้าแพทย์แล้ว เขาจบจากมหาลัยชื่อดังหรือคะ”
สือน่าได้ยินดังนั้นก็หัวเราะลั่น
อันเยี่ยนจวิน เฉินปิ่งเซิงและคนอื่นๆ ได้ยินคำพูดของเหอลู่ ก็รู้สึกราวกับตัวเองทำสมองหายไป
“อีกไม่นานเสี่ยวเฉินก็คงได้เป็นหัวหน้าแพทย์แล้วละ!” สือน่าพูดยิ้มๆ
เหอลู่ตาค้างไปแล้ว “แต่…อาจารย์หมอทุกคนเรียกหมอเฉินไปราวด์ด้วย…นี่ไม่ใช่เรื่องที่หัวหน้าแพทย์เท่านั้นถึงจะทำได้เหรอคะ”
ทุกคนฟังจบก็เข้าใจกระจ่างขึ้นมาทันที จากนั้นก็หัวเราะออกมา
หวังเชียนที่อยู่ข้างๆ หัวเราะจนน้ำตาไหล
สือน่าก็ถูกนักเรียนของตนทำเอาขำไม่หยุด เธอรีบอธิบายว่า “ที่แผนกของพวกเรา ใครเป็นคนผ่าตัด คนนั้นก็ต้องเป็นคนดูแลผู้ป่วย เสี่ยวเฉินผ่าตัดให้ผู้ป่วยหลายคน คนไข้ในการดูแลของพวกเราทุกคนก็เป็นผู้ป่วยของเขาทั้งนั้น ดังนั้นก็เลยต้องเรียกเสี่ยวเฉินไปราวด์ด้วย!”
ฟังจบเหอลู่ก็เข้าใจกระจ่างแจ้ง
เฉินชางฟังถึงตรงนี้ก็ยกยิ้มขึ้นมา “หัวหน้าเฉินหรือครับ ไม่เลวเลย ฮ่าๆ ผมจะกลายเป็นหัวหน้าแล้ว เหล่าเฉิน ผมก้าวหน้าเร็วกว่าคุณอีกนะเนี่ย!”