บทที่ 490 ต่อไปนี้เขาคือน้องชายของแก!
ในที่สุดก็เขียนเครื่องหมายจบประโยคข้างหลังคำว่า ‘ผ่าตัด’ ได้แล้ว!
เวลาที่ยาชาออกฤทธิ์สิ้นสุดอย่างรวดเร็วเช่นกัน ตอนนี้เฉินชางพูดกับข่งเจียฮุยว่า “ลองสัมผัสความรู้สึกสักหน่อยครับ แต่อย่าออกแรงเด็ดขาด”
เส้นเอ็น เส้นเลือดและเส้นประสาทของมือที่ต่อไว้ค่อนข้างหนา การผ่าตัดซ่อมแซมก็ค่อนข้างมั่นคงเช่นกัน ต่อให้ขยับเล็กน้อย ก็จะไม่รู้สึกอะไรมากอยู่ดี
พอได้ฟังสิ่งที่เฉินชางบอก ข่งเจียฮุยก็ชะงักไปครู่เดียว ก่อนจะเคลื่อนไหวนิ้วเล็กน้อย!
มีความรู้สึกแล้ว!
ขยับแล้ว!
ขยับได้แล้วจริงๆ!
ตอนนี้ข่งเจียฮุยซาบซึ้งใจจนแทบน้ำตาไหล
ทีแรกนึกว่าจะไม่มีหวังแล้ว เขาคิดว่า ถึงยังไงก็เป็นมือที่ถูกตัดออกไปแล้ว ยังจะต่อคืนได้อีกเหรอ
แต่ต่อคืนได้แล้วจริงๆ!
ขณะที่ฤทธิ์ยาชาค่อยๆ หมดไป เขาก็รู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของมือ!
แตกต่างกับความรู้สึกก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง!
อีกทั้งยังขยับได้ด้วย…
พอนึกถึงจุดนี้ ข่งเจียฮุยก็รีบกล่าวขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจ “หมอเฉินครับ ขอบคุณมากครับ ผมซาบซึ้งใจมากจริงๆ ต่อไปนี้ถ้ามีอะไรให้ผมช่วย คุณก็บอกมาได้เลย!”
เฉินชางยิ้ม “นี่เป็นสิ่งที่ผมควรทำครับ แต่คุณก็อย่าขยับมั่วซั่ว ต้องตรึงกระดูกไว้ เมื่อครู่นี้ผมแค่ให้คุณทดสอบความรู้สึกเฉยๆ”
หลังจากได้รับการผ่าตัดต่อมือแบบนี้มา จำเป็นต้องเข้าเฝือกสักระยะหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เคลื่อนไหวแล้วเกิดความเสียหายโดยไม่จำเป็น
ผู้ที่เข้าเฝือกให้ก็คือถานจงหลิน เขาชำนาญเรื่องนี้มาก ทั้งยังเป็นความภาคภูมิใจของตัวเองด้วย อย่างน้อยในจุดนี้หัวหน้าแผนกอันก็ทำได้ไม่ดีเท่าเขา!
กลุ่มหัวหน้าแผนกที่อยู่ข้างหลังกำลังมองเฉินชางด้วยความอิจฉา
นี่ถือเป็นโอกาสดี!
หมอเฉินเที่ยงหนุ่มยังแน่น คงอายุราวๆ สามสิบละมั้ง
ส่วนข่งเจียฮุยก็อายุประมาณสามสิบเหมือนกัน เป็นคนหนุ่มทั้งคู่แบบนี้ ถ้าไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย ไม่ว่าในภายหลังข่งเจียฮุยจะเก่งกาจขนาดไหน เฉินชางก็จะถูกเขาจดจำไว้ในใจเสมอ
ถึงอย่างไรเฉินชางก็เป็นคนที่ช่วยชีวิตมือขวาของเขาไว้!
ถ้าพูดแบบหยาบๆ หน่อยก็คือ ช่วยชีวิต ‘แฟนสาว’ ของเขาไว้!
ใช่แล้ว คำพูดฟังดูหยาบคาย แต่แบบนี้บรรยายได้เห็นภาพมากกว่า
อนาคตของข่งเจียฮุยสว่างสดใสแน่นอน ส่วนเฉินชางต่อให้ชีวิตจะแย่ขนาดไหน แต่ต่อไปก็จะต้องเติบโตเหมือนเรือที่ลอยขึ้นสูงตามน้ำแน่นอน!
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้คนที่หนุนหลังข่งเจียฮุยก็ยังมีข่งเสียงหมินอีกคน
เฉินชางถือว่าได้สร้างวาสนาที่ยิ่งใหญ่ไว้แล้ว
แต่วาสนาแบบนี้ใช่ว่าทุกคนจะสร้างได้ ถ้าไม่มีความสามารถเหมือนหมอเฉิน ทุกอย่างก็เป็นเพียงคำพูดที่ไร้น้ำหนัก!
ในฐานะที่เป็นแพทย์แผนกศัลยกรรมทั่วไปคนหนึ่ง สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดก็ยังเป็นความสามารถของตัวเอง!
ไม่แปลกใจที่ข่งเสียงหมินพาข่งเจียฮุยมาส่งถึงที่นี่ด้วยตัวเอง!
ทุกคนเห็นเฉินชางไม่ลำพองใจ ดูเหมือนอารมณ์ปกติมาก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางความรู้สึกใดๆ เหมือนไม่ต่างอะไรกับช่วยชีวิตขอทานไว้คนหนึ่ง
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาค่อนข้างทึ่งเช่นกัน!
จรรยาบรรณสูงส่ง ฝีมือเลิศล้ำ พลังกายก็ดี หน้าตาก็หล่อ มีความรักในงานที่ทำ!
เติบโตทั้งด้านคุณธรรม สติปัญญา ร่างกาย สุนทรียศาสตร์และการศึกษา
หมอเฉินผู้แสนดี!
ช่างเป็นคนหนุ่มที่ดีจริงๆ
ตอนที่ล้างมือ กลุ่มหัวหน้าแผนกทยอยกันยื่นกระดาษให้เฉินชาง จากนั้นทิ้งช่องทางติดต่อไว้ ในภายหลังจะได้ติดต่อกันสะดวก
แม้แต่ฮั่วกว๋อชิ่งที่กระตือรือร้นมาตลอดก็ยังคว้าโอกาสนี้ไม่ได้
……
……
คนกลุ่มหนึ่งเดินออกจากห้องผ่าตัดด้วยกัน รวมทั้งข่งเจียฮุยด้วย
หลังจากออกมาแล้ว พวกเขาก็เห็นคนอีกกลุ่มอยู่ข้างนอก
ข่งเสียงหมินกับภรรยา รวมทั้งฉินเสี้ยวยวนรีบยืนขึ้นแล้วเดินเข้ามา
“เสี่ยวเฉิน การผ่าตัดราบรื่นดีไหม” ฉินเสี้ยวยวนถามเป็นคนแรก
เฉินชางมองพวกเขาปราดหนึ่ง แล้วพยักหน้าตอบ “ครับ การผ่าตัดสำเร็จด้วยดีครับ!”
ตอนนี้ข่งเจียฮุยไม่ได้หวาดกลัวเหมือนเมื่อครู่นี้แล้ว ตอนที่เห็นพ่อแม่ เขาก็อดปลอบใจไม่ได้
“คุณพ่อครับ คุณแม่ครับ ผมไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไรจริงๆ การผ่าตัดเมื่อกี้สำเร็จแล้ว! หมอเฉินเก่งมากจริงๆ ผมรู้สึกขอบคุณมากครับ”
“ผู้อำนวยการครับ ผมไม่เป็นอะไร! คุณไม่ต้องเป็นห่วงแล้วครับ”
เมื่อเห็นข่งเจียฮุยอาการค่อนข้างดี ทุกคนถึงได้โล่งอก
ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว!
ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว!
ทุกคนที่อยู่ข้างนอกพากันทอดถอนใจตอนที่พูดประโยคนี้
ถ้าการผ่าตัดข่งเจียฮุยล้มเหลวขึ้นมาจริงๆ…พวกเขา…แค่คิดก็รู้สึกถึงความยุ่งยากแล้ว
เรื่องยุ่งยากตามมาเป็นกอง
ถึงอย่างไรในสายตาพวกเขา การผ่าตัดต่อมือก็เป็นเคสที่ยากและเจ๋งมาก เป็นการผ่าตัดที่มีรายละเอียดสูงมาก คุณสมบัติของแพทย์ผู้ผ่าตัดก็สูง คนที่จะทำการผ่าตัดแบบนี้ได้ดี จะต้องเป็นคนที่มีความสามารถมากจริงๆ!
พูดตามตรง นี่เป็นการผ่าตัดเลเวลสูงที่มีเพียงเฉินชางเท่านั้นที่ทำได้
เป็นเพราะการผ่าตัดเคสนี้แยกเป็นการผ่าตัดย่อยได้หลายส่วน ถึงได้ทำให้ระดับความยากลดลงเล็กน้อย
เฉินชางเองก็ถือว่าทำให้การผ่าตัดดำเนินไปอย่างราบรื่น ควบคุมได้เป็นอย่างดี!
ข่งเสียงหมินมองเฉินชาง ใช้สองมือกุมมือเขาไว้ แล้วโค้งตัวแสดงความขอบคุณ!
“หมอเฉิน ขอบคุณคุณมากจริงๆ ครับ!”
ภรรยาของเขาก็พยักหน้าโค้งตัวเช่นกัน
ในสายตาของคนอื่นที่อยู่รอบๆ นี่คือฉากที่สั่นสะเทือนอารมณ์มาก!
บุญคุณครั้งนี้ยิ่งใหญ่มากจริงๆ
แต่ไม่มีใครอิจฉา
เพราะนี่คือสิ่งที่เฉินชางสมควรได้รับ
พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ สมแล้วที่คุณได้รับความเคารพ
เฉินชางเห็นแล้วเกรงใจนิดหน่อย ถึงอย่างไร…พูดตามตรง เฉินชางยังรู้สึกว่าอีกฝ่ายมีฐานะสูงส่งและมีอำนาจมาก พอมาแสดงท่าทีแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกกังวลอยู่บ้างจริงๆ
“เกรงใจแล้วครับ เกรงใจแล้ว คุณข่งเกรงใจเกินไปแล้ว อีกอย่างผมก็ได้ยินเรื่องของพี่เจียฮุยมาแล้วด้วย เสียสละตัวเองเพื่อผู้อื่น คุณสมบัติแบบนี้ทำให้ผมนับถือมากจริงๆ ครับ”
พอได้ยินเฉินชางเรียกลูกชายว่าพี่เจียฮุย ข่งเสียงหมินก็ชะงักนิดหน่อย ก่อนจะพยักหน้าครุ่นคิด แล้วกล่าวเสียงเรียบว่า “อืม เจียฮุย ต่อไปนี้หมอเฉินก็คือน้องชายของแก มีเรื่องอะไรก็ช่วยเหลือกัน ครั้งนี้เสี่ยวเฉินช่วยลูกไว้เยอะเลย!”
ประโยคนี้ทำให้คนที่อยู่รอบๆ ตะลึงค้างทันที
แม้แต่ฉินเสี้ยวยวนที่อยู่ข้างหลังก็ยังงงเป็นไก่ตาแตก
นี่มัน…
ไม่ทันรอให้เขาตอบอะไร ข่งเสียงหมินพูดต่อไปว่า “แล้วอีกอย่าง เสี่ยวเฉิน เรียกผมว่าคุณข่งฟังดูห่างเหินเกินไป ต่อไปเรียกว่าคุณอาข่ง ถ้ามีเวลาว่างก็มาเป็นแขกบ้านเราได้”
ภรรยาของข่งเสียงหมินก็พยักหน้าเช่นกัน “ใช่แล้ว! ถ้ามีเวลาว่าง เสี่ยวเฉินก็มาเที่ยวบ้านเราบ้างนะจ๊ะ”
ตอนนี้คนที่อยู่รอบๆ อดกลืนน้ำลายไม่ได้!
นี่มัน…
แม่งเอ๊ย แบบนี้คุ้มมาก!
ตอนนี้ถือว่าได้สร้างคอนเนคชั่นกับข่งเสียงหมินแล้ว
อนาคตยาวไกล
ฉินเสี้ยวยวนตบหน้าผากตัวเอง เมื่อไม่กี่วันก่อนตัวเองยังบอกให้เฉินชางสร้างคอนเนคชั่นเพิ่มอยู่เลย…
ไม่แน่ว่าอาจจะได้เจอบุคคลผู้ทรงคุณค่าอะไรทำนองนั้น!
ตอนนี้ได้เจอกับข่งเสียงหมินแล้ว
เจ้าเด็กนี่…เป็นตัวเอกงั้นเหรอ
โชคดีเกินไปหรือเปล่า!
พอคิดถึงตรงนี้ จู่ๆ ฉินเสี้ยวยวนก็นึกขึ้นได้ว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องแย่สำหรับเขาเสียหน่อย
ตอนนี้เอง จู่ๆ โทรศัพท์ของฉินเสี้ยวยวนก็ดังขึ้น
หลังจากรับโทรศัพท์ พบว่าปลายสายคือถานลี่กั๋ว
“เหล่าฉิน ผู้อำนวยการสำนักสุขภาพที่ผมเล่าให้คุณฟังวันนั้น บอกว่าต้องการจะคุยกับคุณครับ”
ฉินเสี้ยวยวนอึ้งนิดหน่อย นึกไม่ถึงว่าเขาคนนั้นจะทำเรื่องราวให้ใหญ่โตแล้วจริงๆ!
คิดจริงเหรอว่าฉันฉินเสี้ยวยวนจะเปราะบางขนาดนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ฉินเสี้ยวยวนกังวลอยู่แล้วว่าเรื่องจะมาถึงขั้นนี้ จึงเก็บคลิปจากกล้องวงจรปิดของวันนั้นไว้
ถ้าคุณต้องการทำให้เป็นเรื่องใหญ่ งั้นก็อย่าหวังว่าจะมีใครได้อยู่อย่างสงบสุขเลย
พอนึกถึงตรงนี้ ฉินเสี้ยวยวนก็เดือดดาลเช่นกัน
และตอนนี้เอง ข่งเสียงหมินเอ่ยขึ้นว่า “ผู้อำนวยการฉิน แล้วก็ทุกคนด้วย ไปกินข้าวด้วยกันไหมครับ เรื่องของเจียฮุยทำให้ทุกคนหิวกันหมดแล้ว ขออภัยจริงๆ!”
เป็นอย่างนั้นจริงๆ การผ่าตัดทำให้เสียเวลาไปหลายชั่วโมง ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามแล้ว เลยมื้อเที่ยงมาแล้วด้วยซ้ำ
แต่ฉินเสี้ยวยวนสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง แล้วบอกว่า “เอ่อ คือ…คุณข่ง ผู้อำนวยการสำนักสุขภาพต้องการคุยกับผม…ทางนี้อาจจะมีธุระนิดหน่อย คงไปทานด้วยไม่ได้แล้ว พวกคุณไปกันก่อนดีไหมครับ”
เดิมทีข่งเสียงหมินต้องการจะแสดงความขอบคุณฉินเสี้ยวยวน แต่พอได้ยินฉินเสี้ยวยวนพูดแบบนี้ เขาก็พยักหน้าทันที “อ้อ? เรื่องงานเหรอครับ ด่วนหรือเปล่า”