Martial god space ตอนที่ 354 เคล็ดวิชากายาทรราชย์ขั้นที่ห้า
เย่ ซีหวิน ไม่รู้ว่าทําไมเธอถึงเกลียดชังเขามากถึงขนาดนี้ แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจมันอีกต่อไปแล้ว
เจตจํานงแห่งดาบ กําลังเดือดพล่านอยู่ภายในร่างกายของเขา!
ความเกลียดชังของใครบางคนฝังรากหยั่งลึกจนไม่อาจมีชีวิตอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้
” เจ้าเบื่อจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วใช่มั้ย? “ เย่ ซีหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา เจตจํานงแห่งดาบที่แผ่ออกมาจากร่างของเขาทําให้หลายคนเริ่มรู้สึกหวาดกลัว
” เจ้ากล้าทําก็ต้องกล้ารับ เจ้ายังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า! ” หญิงสาวในชุดคลุมสีแดง ตะโกนเสียงดัง พร้อมกับแสดงสีหน้าที่ดูถูกเหยียดหยาม
” ชายคนนี้เป็นเหมือนเนื้อร้ายของสถาบันยอดยุทธของเรา เขาคอยกัดกินจากด้านใน คนอย่างเขาไม่สมควรมีชีวิตอยู่! “ ศิษย์ของวิหารซวนหยวน กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยจิตสังหารในทุกคําพูด
“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!…ช่างน่าขัน! เจ้าคิดว่าข้าคือฆาตกรที่ฆ่าคนเหล่านั้น และเจ้าคิดจะสังหารข้า? สําหรับข้าพวกเจ้าก็แค่หมาแมว ถ้าอยากตายนักก็เข้ามา ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้ไม่ต่างจากหมาและแมว! ” เย่ ซีหวิน หัวเราะด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนกลายเป็นหมองคล้ำทันที เมื่อได้ยิน เย่ ชีหวิน กล่าวอย่างเย้ยหยันพวกเขารู้ว่า เย่ ซีหวิน สามารถทําตามที่เขาพูดได้ เขาได้ฆ่าศิษย์ผู้คุ้มกฏของหอตุลาการหลายคนท่ามกลางสายตาของสาธารณชนมาแล้ว
อย่างที่เขากล่าวเขาจะลอบสังหารไปทําไม ขนาดตัดหัวคนต่อหน้าเขายังทํามาแล้ว
ทุกคนหันหน้าไปมองที่ศิษย์ผู้คุ้มกฏของหอตุลาการ และแน่นอนว่าสีหน้าของศิษย์ผู้ คุ้มกฏตอนนี้เปลี่ยนกลายเป็นสีแดง พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง คนธรรมดาไม่อาจเทียบกับพวกเขาได้ อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน เปรียบเทียบพวกเขากับหมาและแมว มันเหมือนตบพวกเขาต่อหน้าสาธารณชน แต่ในเวลานี้ พวกเขาต้องข่มความรู้สึกเอาไว้โดยไม่มีทางเลือก
มีเพียงเหตุผลเดียวนั่นก็คือ พวกเขาไม่สามารถเอาชนะ เย่ ซีหวิน ได้
มีเพียงศิษย์ของวิหารซวนหยวนเท่านั้น ที่สีหน้ายังดูเป็นปกติ ราวกับว่า เย่ ซีหวิน ไม่ได้พูดอะไรถึงเขาเลย
หญิงสาวในชุดคลุมสีแดง สังเกตใบหน้าของ เหมียวหยู่ เธอต้องการให้เขาลงมือและฆ่า เย่ ซีหวิน แม้เธอจะรู้ดีว่าเขาไม่มีพลังพอจะฆ่า เย่ ซีหวิน แต่เธอเชื่อว่าด้วยความแข็งแกร่งของศิษย์ผู้คุ้มกฏมันมีความเป็นไปได้
ศิษย์ผู้คุ้มกฏของหอตุลาการจ้องมองที่ เย่ ซีหวิน ด้วยแววตาราวกับดาบ หากสามารถเฉือน เนื้อเขาได้ด้วยการมองเขาคงทําไปแล้ว บรรยากาศโดยรอบเริ่มตึงเครียดขึ้นมาทันที คนเหล่านั้นกําลังรอให้ เหมียวหยู่ ออกคําสั่ง เพียงแค่เขาสั่งมาคําเดียวการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่น่าหวาดกลัวก็จะเริ่มขึ้นทันที
แม้เป็นเพียงแค่การคาดเดาเท่านั้นว่า เย่ ซีหวิน อาจเป็นผู้เชี่ยวชาญดาบ แต่การเดาบางครั้งก็จําเป็นต้องมีองค์ประกอบหลายๆ สิ่งการเดาโดยอาศัยเหตุผลส่วนตัวไม่ใช่สิ่งควรนํามาใช้
“เขาเป็นคนที่น่ารังเกียจอย่างยิ่ง เราไม่อาจปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่าน ป ปะ…” หญิงสาวในชุดคลุมสีแดง ไม่ทันได้พูดจนจบประโยค เจตจํานงแห่งดาบอันน่าสะพรึงกลัวก็เสียบเข้าไปร่างของเธอ
“ปังงง! “ ร่างของหญิงสาวในชุดคลุมสีแดงกลายเป็นหมอกเลือดทันที เจตจํานงแห่ง ดาบของ เย่ ซีหวิน นั้นรวดเร็วมาก มีเพียง เหมียวหยู่ เท่านั้นที่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวเจตจํานง แห่งดาบของ เย่ ซีหวิน แต่มันก็สายเกินไปที่เขาจะหยุดการโจมตีนั้นได้ทัน
“ข้าให้โอกาสแล้ว แต่เจ้าไม่รับไว้! “ เย่ ซีหวิน กล่าวอย่างเย็นชา ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“ เจ้าอวดดีเกินไปแล้ว เจ้ากล้าลูบคมถึงใต้จมูกของหอตุลาการ ฆ่าศิษย์ของสถาบันยอดยุทธข้าไม่คิดว่าเจ้าจะบ้าได้ถึงขนาดนี้! ” เหมียวหยู่ ไม่สามารถควบคุมความโกรธของเขาได้อีกต่อไป
“อย่าพูดเหมือนเธอไร้เดียงสา ผู้หญิงคนนี้พยายามกระตุ้นให้คนอื่นฆ่าข้าทุกครั้ง หากไม่ฆ่าเธอใจข้าคงไม่สงบ!” เย่ ซีหวิน กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
หลายคนต่างพากันสูดหายใจยาว เย่ ซีหวิน คนนี้ไม่ใช่คนที่ยอมให้คนอื่นข่มเหง และเหยียดหยาม เขากล้าฆ่าผู้คนต่อศิษย์ผู้คุ้มกฏของหอตุลาการโดยไม่ลังเล ราวกับว่าเขาไม่มีใครอยู่ในสายตาตั้งแต่แรก
อย่างไรก็ตาม เขามีทั้งความแข็งแกร่งและความมั่นใจ แม้ว่าญิงสาวในชุดคลุมสีแดงจะอันตราย และเต็มไปด้วยเกลียดชัง แต่ความแข็งแกร่งของเธอก็อยู่ในขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 7 ความแข็งแกร่งเช่นนี้หลายคนไม่สามารถเปรียบเทียบได้
หากไม่ใช่เพราะเขาแข็งแกร่ง เธอคงไม่มาที่นี่พร้อมกับศิษย์ผู้คุ้มกฏของหอตุลาการ
แต่บุคคลดังกล่าว กลับถูกกําจัดโดย เย่ ซีหวิน ภายในดาบเดียว โดยไม่มีโอกาสแม้จะตอบโต้
” ถ้าเจ้าอยากลองรู้ว่าข้าเป็นฆาตกรจริงหรือไม่ ต้องลองดูว่าข้าจะสังหารเจ้าได้หรือไม่! “ดวงตาของ เย่ ซีหวิน เต็มไปด้วยไฟของความโกรธ ส่องเป็นประกาย เมื่อมองไปที่เหมี่ยวหยู่ ออร่าอันน่าสะพรึงกลัวกดทับร่างของ เหมียวหยู่ เอาไว้จนใบหน้าเขาหมองคล้ำการหายใจติดขัด เขาตระหนักได้ทันทีว่า เย่ ซีหวิน ไม่ใช่ฆาตกรคนนั้น
ด้วยความแข็งแกร่งของ เย่ ซีหวิน เขาสามารถฆ่าจอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 8 ได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเขาไม่จําเป็นต้องลอบสังหาร นอกจากนี้ เย่ ซีหวิน ยังกล้าเป็นปฏิปักษ์กับหอตุลาการ การสังหารหนึ่งคนก็ถือเป็นฆาตกร และการฆ่าคนสองคนก็ถือเป็นฆาตกรเหมือนกัน อะไรคือความแตกต่าง?
ยิ่งกว่านั้น ตามผลการสอบสวน ฆาตกรรมไม่ใช่คนที่มีพลังอันยิ่งใหญ่
” หืม! ไปกันเถอะ!” เหมียวหยู่ เค้นเสียงพูดอย่างเย็นชา เขาไม่มีทางเลือกนอกจากไป ไม่เช่นนั้นเขาจะถูกฆ่าด้วยความโกรธของ เย่ ซีหวิน ตอนนี้เขาไม่สามารถทําอะไรได้เลย
เย่ ซีหวิน ไม่สนใจที่จะฆ่า เหมียวหยู่ เขาไม่ใช่ปีศาจที่จะฆ่าผู้คนเมื่อเขาเห็น หากอีกฝ่ายต้องการฆ่าเขา ก็อย่าโทษเขาภายหลัง
เย่ ซีหวิน ไม่ได้เคลื่อนไหว เขาเพียงทิ้งร่องรอยของจิตวิญญาณเอาไว้ที่ร่างศิษย์ของวิหารชวนหยวนอย่างเงียบๆ หลังจากนั้นสักครู่ เย่ ซีหวิน ก็สัมผัสได้ว่าศิษย์ของวิหารชวนหยวนคนนั้น ได้แยกออกไปจากกลุ่มของศิษย์ผู้คุ้มกฏของหอตุลาการ และบินออกจากเมืองอย่างรวดเร็ว
เย่ ซีหวิน เดินออกไปนอกร้าน และรีบไล่ตามเขาออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน อีกฝ่ายจะบินอย่างรวดเร็วเพื่อพยายามติดต่อกับศิษย์ของวิหารชวนหยวนคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ความเร็วของเขาจะเทียบกับปีกมารของ เย่ ซีหวิน ได้อย่างไร
เย่ ซีหวิน สามารถไล่ตามศิษย์ของวิหารชวนหยวนคนนี้ได้ทันในช่วงเวลาสั้น ๆ
” ทําไมเป็นเจ้า? ” ศิษย์ของวิหารชวนหยวนรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็น เย่ ซีหวิน เขาไม่รู้ว่าทําไม เย่ ชีหวิน บินมาทางเดียวกับเขา “ เจ้าต้องการอะไร?”
ในใจของเขาเกิดความหวาดระแวง
“ข้ามาเพื่อฆ่าเจ้า! “ เย่ ซีหวิน กล่าว พร้อมแสยะยิ้ม
“เจ้าฆ่าสาวกด้วยวิธีนี้ เจ้าไม่กลัวผู้มีอํานาจระดับสูงของสถาบันยอดยุทธ คิดบัญชีเรื่องนี้กับเจ้าในภายหลัง? ” ศิษย์ของวิหารชวนหยวน ตะโกนออกมาด้วยความคับแค้น
“เจ้าไม่จําเป็นต้องเสแสร้ง ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นศิษย์ของวิหารชวนหยวน!” เย่ ซีหวิน กล่าวพร้อมกับหัวเราะ
“เป็นเจ้า…ที่ฆ่าสาวกของเราตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา!” สีหน้าศิษย์ของวิหารชวนหย วนเปลี่ยนกลายเป็นเคร่งเครียด เขาเข้าใจเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ในทันที
” ปิ้งป่อง! เจ้าทายถูก แต่อีกในไม่ช้า เจ้าก็จะตามไปอยู่กับพวกเขา! ” เย่ ซีหวิน กล่าวพร้อมกับหัวเราะ
“ข้าจะแก้นแค้นให้กับพวกเขา! “ ศิษย์ของวิหารชวนหยวน กําลังโกรธจัด เขาตวัดดาบไปที่ เย่ ซีหวิน ทันที ปราณดาบอันน่าสะพรึงกลัวทําลายล้างพื้นที่โดยรอบจนกลายเป็นที่ราบรกร้าง
“ดูเหมือนคนที่ฆ่าศิษย์ผู้คุ้มกฏจะเป็นฝีมือเจ้า! “ เย่ ซีหวิน เห็นทักษะดาบการใช้ดาบที่ทรงพลังของเขาแล้ว เขาก็เข้าใจได้ในทันที ศิษย์ผู้คุ้มกฏที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้คงตายใต้คมดาบของเขาศิษย์ผู้คุ้มกฏเหล่านั้นช่างโง่เขลาหลังจากตรวจสอบเป็นเวลานาน พวกเขากลับไม่รู้ว่าฆาตกรที่แท้จริงยืนอยู่ข้างๆ พวกเขามาตลอด
“เจ้าช่างใจกล้าจริงๆ แอบซ่อนตัวปะปนอยู่ในกลุ่มของพวกเขามาตลอด! “ เย่ ซีหวิน ตะโกนด้วยน้ําเสียงเย็นชา
” ชิ้งงงง!” เจตจํานงแห่งดาบของ เย่ ซีหวิน ทะยานขึ้นสู่ฟ้าราวกับเสียงการปะทะกันของโลหะ เจตจํานงแห่งดาบพุ่งตรงเข้าไปร่างศิษย์ของวิหารชวนหยวนคนนั้นทันที
“เปรี้ยงง!”
ปราณดาบ และเจตจํานงแห่งดาบ ปะทะกันกลางอากาศ คลื่นของแรงกระแทกอันน่าสะพรึงกลัวกระจายออกมาราวกับเกลียวคลื่นมหาสมุทรขนาดใหญ่ที่สามารถกวาดล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า
“บรื้มมม! ” เจตจํานงแห่งดาบบดขยี้ปราณดาบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
” วันนี้ข้าจะส่งเจ้าไปยังประตูนรก! ” เย่ ซีหวิน หัวเราะอย่างเย้ยหยัน ออร่าอันน่าเกรงขาม ระเบิดออกมาจากร่างของเขาราวกับเทพแห่งความตายจุติลงมาเกิดใหม่ เพียงแค่เขาชี้นิ้วไปที่ศิษย์ของวิหารชวนหยวน พลังศักดิ์สีทองสายหนึ่งก็พุ่งออกมา
เจตจํานงแห่งดาบของ เย่ ซีหวิน อัดแน่นไปด้วยพลังงานอันมหาศาล มันทรงพลังมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาราวกับการระเบิดของดวงดาว ก่อนจะพุ่งตรงออกไปหาศิษย์ของวิหารชวนหยวน
” ตายยย! ”
เย่ ซีหวิน ตะโกนเสียงดังกึกก้อง เจตจํานงแห่งดาบสีทองพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ศิษย์ของวิหารชวนหยวน ไม่ยอมแพ้ เขาโจมตีสวนกลับด้วยปราณดาบอีกครั้ง
” ปังงงง! “ ปราณดาบปะทะเข้ากับเจตจํานงแห่งดาบของ เย่ ซีหวิน มันไม่สามารถต้านพลังโจมตีอันมหาศาลนี้ได้ หลังจากปราณดาบแตกสลายกลายเป็นเจตจํานงแห่งดาบยังไม่ได้อยู่เพียงแค่นั้น มันพุ่งเขาไปหาร่างศิษย์ของวิหารซวนหยวนต่อจากนั้นทันที
” ฉัวะ!” ร่างศิษย์ของวิหารชวนหยวนถูกแยกออกเป็นสองส่วน
ในที่สุดศิษย์ของวิหารชวนหยวนก็ถูกสังหาร
เย่ ซีหวิน ฆ่าศิษย์ของวิหารซวนหยวนโดยปราศจากความลังเล หลังจากนั้น เขาก็บินย้อนกลับไปที่เมืองตู้เฉิง
แม้ว่า เย่ ชีหวิน รู้ว่าศิษย์ของวิหารชวนหยวนกําลังตามหาศิษย์คนอื่นๆ ของวิหารชวนหยวน หากเขาแอบตามไปเงียบๆ เขาออาจจะจับได้ปลาตัวใหญ่ อย่างไรก็ตาม เขาต้องคํานึงถึงความปลอดภัยของตัวเองก่อน หากเขาต้องเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสฝาน ในตอนนี้เขาคงตกที่นั่งลําบากตอนนี้ เย่ ชีหวิน ไม่แน่ใจจะสามารถต่อกรกับผู้อาวุโสฝาน
เวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในช่วงสามวันที่ผ่านมา แม้ว่า เย่ ซีหวิน และศิษย์ผู้คุ้มกฏไม่ได้ปะทะกัน แต่เมืองตู้เฉิงนั้นไม่ได้เงียบสงบ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันมีฝูงสัตว์อสูรบุกเข้ามา พวกมันได้ปิดล้อมเมืองตู้เฉิงเอาไว้เหตุการณ์ครั้งนั้นทําให้มีผู้คนชีวิตไปนับร้อยหลังจากนั้นพวกเขาจะสามารถขับไล่พวกมันได้สำเร็จ
เย่ ซีหวิน กําลังนั่งสมาธิอยู่ในห้อง เขาเพ่งสมาธิเข้าไปในพื้นที่ลึกลับภายในจิตใจของเขา ร่างกายของเขาในตอนนี้ได้เปลี่ยนกลายเป็นสีทอง เขาพยายามบรรลุขั้นที่ 5 ของเคล็ดวิชากายาทรราชย์
คัมภีร์เนตรส่องวิถี เป็นเสมือนรากฐานของ เย่ ซีหวิน ในส่วนของ เคล็ดวิชากายาทรราชย์เป็นเสมือนรากฐานสําหรับการต่อสู้เช่นเดียวกัน เย่ ซีหวิน อาศัยความได้เปรียบของร่างกายเอาชนะฝ่ายตรงข้าม หากไม่มีร่างกายที่แข็งแกร่งเขาจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบและพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
เคล็ดวิชากายาทรราชย์ติดคอขวดอยู่ในขั้นที่ 4 มานานแล้ว แม้ว่าเขามีพลังมากพอที่จะบรรลุขั้นที่ 5 แต่เขาไม่อาจบรรลุขั้นที่ 5 ได้อย่างสมบูรณ์
ตอนนี้เคล็ดวิชากายาทรราชย์ได้มาถึงขีดสูงสุดแล้ว เย่ ซีหวิน ใกล้จะทําสําเร็จแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ร่างกายของ เย่ ซีหวิน ก็เปล่งแสงสีทองออกมา ทําให้ทั้งห้องสว่างไสวราวกับมีดวงอาทิตย์สองดวง เย่ ซีหวิน ค่อยๆ ลืมตาขึ้น จากนั้นเขาก็ถอนหายใจยาวด้วยความรู้สึกโล่ง ในที่สุดเขาก็สามารถบรรรลุเคล็ดวิชากายาทรราชย์ขั้นที่ 5
“ ม้ามังกร! นั่นม้ามังกร! มันปรากฏตัวขึ้นแล้ว! ”
เสียงตะโกนของผู้คนนับไม่ถ้วนดังมาจากนอกห้องของเขา
