บทที่ 515 มีกระป๋องเครื่องดื่มงอกในท้อง
เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว เฉินชางก็จัดการกับ ‘สินสงคราม’ ทันที
อย่างแรกก็คือ [ทักษะการผ่าตัด JHVI ระดับปรมาจารย์]
ต่อมาคือ [ทักษะความเชี่ยวชาญยาที่ใช้ในแผนกฉุกเฉินระดับปรมาจารย์]
ทักษะหนึ่งเป็นทักษะทำงานอัตโนมัติ อีกทักษะหนึ่งเป็นทักษะเรียกใช้
แม้การผ่าตัดทั้งคืนจะยากลำบาก แต่ก็ได้รับผลประโยชน์สมกับที่ลงแรง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเฉินชางเปิดหน้าจอภารกิจขึ้นมา ถึงค่อยพบว่าเขาทำภารกิจสำเร็จไปอีกหนึ่งภารกิจ
นี่เขาพลาดอะไรไปหรือเปล่า
เฉินชางดีอกดีใจประหนึ่งเจอเงินสองพันหยวนอยู่ในกระเป๋าเสื้อตัวเก่าอย่างไรอย่างนั้น เขารีบเปิดดูภารกิจสำเร็จภารกิจนั้นขึ้นมาดู เสียงระบบแจ้งเตือนขึ้นว่า
[ติ๊ง! ลงดันเจี้ยนที่มีความยากตั้งแต่ระดับ 50 ขึ้นไปสำเร็จ ได้รับรางวัล: ทักษะใส่ท่อช่วยหายใจ (ระดับปรมาจารย์)]
ตอนนี้เฉินชางจึงค่อยเข้าใจกระจ่าง นี่คือภารกิจจากผู้ป่วยที่มีผ้าก๊อซตกหล่นอยู่ในช่องอกมาสิบปีคนนั้น หากปล่อยไว้เช่นนั้น ต่อไปอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
ทว่านี่ไม่เกี่ยวกับผู้ป่วย แต่เป็นความผิดพลาดทางการแพทย์ของบุคลากร เรื่องนี้เป็นสิ่งเตือนใจเฉินชางได้ดี เพราะความประมาทลำพองใจของตนอาจทำให้ผู้ป่วยมีระเบิดเวลาอยู่ในร่างกายก็เป็นได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของพวกเขาได้ตลอดเวลา
ภายหลังเฉินชางก็ไม่ได้ไปจี้ถามจิ่งหรานแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
บางทีพอเป็นหมอนานวันเข้า คงค่อยๆ ปล่อยวางความอยากรู้อยากเห็นเรื่องซุบซิบไปได้เอง
เขาเปิดช่องเก็บของออกมา พบว่ามีหนังสือทักษะสีม่วงเล่มหนึ่ง หินจำลองสี่ก้อน และหนังสือทักษะที่ว่างเปล่าหนึ่งเล่ม
เฉินชางกดใช้หนังสือทักษะสีม่วงทันที เสียงระบบแจ้งเตือนขึ้นว่า
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับทักษะการผ่าตัดของแผนกศัลยกรรมหัวใจ: ทักษะผ่าตัดซ่อมแซมหลอดเลือด Innominate artery ที่เสียหาย ระดับปรมาจารย์!]
ได้รับทักษะมาสองทักษะ ทำให้เฉินชางอดดีใจไม่ได้จริงๆ เรียกว่าเขาก้าวเข้าใกล้การเป็นแพทย์แผนกฉุกเฉินที่ยอดเยี่ยมไปอีกหลายก้าวแล้ว!
แต่ว่าตกลงแล้ว JHVI คือการผ่าตัดอะไรกันแน่ หากไม่รู้แน่ชัดเฉินชางคงนอนไม่หลับ เขารีบเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาค้นหาข้อมูล พอหาข้อมูลได้แล้ว เฉินชางจึงค่อยทราบว่าบางทีตนเองอาจเก็บของล้ำค่ามาก็เป็นได้!
การผ่าตัด JHVI เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการผ่าตัดหลอดเลือดดำตับ เป็นการผ่าตัดที่ยากสุดในหมู่การผ่าตัดอาการบาดเจ็บนอกตับ เป็นการผ่าตัดที่อันตรายที่สุด และเป็นหนึ่งในปัญหายุ่งยากที่สุดของวงการศัลยกรรมตับ
หลอดเลือดดำบริเวณตับประกอบไปด้วยหลอดเลือดดำใหญ่และหลอดเลือดดำหลังตับ เนื่องจากมีลักษณะทางกายวิภาคพิเศษทำให้จัดการได้ลำบาก ดังนั้นปัจจุบันนี้จึงเป็นการผ่าตัดที่ยากมากๆ
เมื่อหาข้อมูลได้เช่นนี้ เฉินชางพลันเบิกบานใจขึ้นมาทันที
……
……
เช้าวันต่อมา เฉินชางเพิ่งมาถึงโรงพยาบาลก็ถูกฉินเยว่ขวางไว้หน้าประตู!
“คิดได้หรือยังคะ!”
เฉินชางชะงักไป คิดอะไรอะ
เธอมาเช้าขนาดนี้…เพื่อมาขวางฉันเนี่ยนะ
แต่เมื่อเห็นท่าทางดุดันของฉินเยว่ เฉินชางก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาทันที “อืม! คิดแล้วครับ!”
ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นก็รีบแบมือ “ขอมือถือด้วยค่ะ ฉันจะดู!”
จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าเช้าวันนี้ว่างเกินไปหรือไม่ คนไข้ไปอยู่ไหนกันหมด
พวกคุณรีบออกมาสิ!
ปกติแทบจะแซงคิวกันมาเลยไม่ใช่เหรอ
วันนี้ถึงจะไม่แซงคิวมา ผมก็ยินดีตรวจให้พวกคุณ โอเคไหม
รีบพาผู้หญิงคนนี้ออกไปทีเถอะ…
เฉินชางมองฉินเยว่ ยิ้มอย่างกระอ่วน “ผมยังไม่แน่ใจเลยครับ ก็เลยมาแต่เช้าจะได้มาถามความเห็นคุณหน่อยว่าคุณชอบแบบไหน”
ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นก็หรี่ตาทันที “งั้นพูดมาเลยค่ะ ฉันจะรอฟังว่ามีอะไรบ้าง!”
เฉินชางขมวดคิ้ว พยายามกระตุ้นเซลล์สมองของตัวเอง จากประสบการณ์ที่รวบรวมมา จากการไตร่ตรองและการเรียนรู้อันเจ็บปวด ทำให้เขาคิดได้ว่าหากพูดคำว่า ‘เล็กหรือน้อย’ อีกฝ่ายต้องไม่พอใจแน่!
คำว่าเล็กหรือน้อยเป็นสิ่งต้องห้ามของฉินเยว่!
“เยว่เยว่คนเบิ้ม!”
“ไสหัวไป!”
เฉินชางกลืนน้ำลาย “ที่รักผู้ยิ่งใหญ่!”
“เหอะ!”
“เอ่อ…”
ในขณะที่เฉินชางกำลังกระตุ้นเซลล์สมองตัวเองไม่หยุดหย่อนอยู่นั้น หนุ่มสาวคู่หนึ่งก็เดินอุ้มลูกเข้ามา! เมื่อเห็นฉินเยว่ หญิงสาวก็เข้ามาจับฉินเยว่ไว้แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงกระหืดกระหอบ “หมอคะ…เร็วเข้า! ช่วยลูกฉันด้วยค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินเยว่และเฉินชางก็ไม่มีอารมณ์จะมาทะเลาะกันแล้ว รีบหันไปมองเด็กคนนั้นทันที
ชายหนุ่มไปทำเรื่องตามระเบียบการด้านข้างอย่างเร่งร้อน ส่วนหญิงสาวจูงเด็กเอาไว้ด้วยสีหน้ากระวนกระวาย มองฉินเยว่อย่างหวั่นวิตก
ขณะที่เธอกำลังจะพูด เด็กในอ้อมกอดก็กล่าวขึ้นมาว่า “แม่วางผมลงเถอะ เจ็บไปหมดแล้ว!”
เธอชะงักไป รีบวางลูกลงทันที
พอเฉินชางเห็นเด็กน้อยเตะขาไปมาด้วยท่าทางมีชีวิตชีวาก็ชะงักไป
เด็กคนนี้เป็นอะไร ทำไมต้องช่วย
ฉินเยว่เองก็แปลกใจเช่นกัน “เด็กคนไหนหรือคะ เป็นอะไรมาคะ”
ตอนนี้อีกฝ่ายจึงกล่าวขึ้นว่า “เขานี่แหละค่ะ เปินเปินมานี่สิลูก อย่าวิ่งมั่วซั่ว”
เด็กผู้ชายซนมาก พอเข้ามาที่แผนกฉุกเฉินแล้วก็จับโน่นลูบนี่ มองตรงโน้นตรงนี้ นี่…เหมือนคนที่ต้องการความช่วยเหลือที่ไหนกัน
ฉินเยว่ถามว่า “เด็กเป็นอะไรมาคะ”
หญิงสาวตอบว่า “เขากลืนห่วงฝากระป๋องของลู่ลู่ลงท้องไปแล้ว!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ฉินเยว่และเฉินชางก็ชะงักไป
เธอรีบอธิบายต่อ “พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า ฉันก็ให้เครื่องดื่มยี่ห้อลู่ลู่เขากระป๋องหนึ่ง ตอนเปิดกระป๋องฉันไม่ทันระวังเลยทำห่วงฝาตกเข้าไปในกระป๋อง แล้วฉันก็เทเครื่องดื่มใส่แก้วให้เขาทาน แต่พอเขาดื่มในแก้วหมดก็ยกกระป๋องดื่มเข้าไปอีก ตอนนี้แหละที่เขากลืนห่วงฝากระป๋องไปด้วย!”
พูดจบเธอก็มีสีหน้าวิตกกังวล “หมอคะ ห่วงมันคมมาก คงไม่บาดท้องเขาใช่ไหมคะ”
ฉินเยว่ฟังถึงตรงนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ที่อีกฝ่ายพูดก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
หลอดอาหารของเด็กไม่ได้มีความกว้างเท่าไหร่นัก ถ้าหลอดอาหารหดตัว อีกทั้งห่วงฝากระป๋องก็ค่อนข้างคม อาจทำให้หลอดอาหารเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย!
เฉินชางรีบพูดขึ้นว่า “พวกเราลองส่องกล้องดูกระเพาะก่อนเถอะครับว่าเป็นยังไงบ้าง ดูว่าจะเอาออกมาได้หรือเปล่า!”
พ่อแม่ของเด็กได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าทันที “ใช่ๆๆ ส่องกล้องดูกระเพาะ!”
เฉินชางเดินไปถามไป “หลังกลืนเข้าไปแล้ว ได้กินอะไรอีกไหมครับ”
หญิงสาวส่ายหน้า “ไม่ได้กินค่ะ พอเขาบอกฉันว่าเขากลืนบางอย่างเข้าไปฉันก็ตกใจมาก แล้วรีบพาเขามาที่แผนกฉุกเฉินเลยค่ะ”
เฉินชางฟังจบก็พยักหน้า นี่ถือเป็นข่าวดี
ขณะพูดคุยกันก็เดินพาเด็กเข้าไปในห้องส่องกล้อง ตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงครึ่ง เฉินชางจึงเดินเข้าไปในห้องส่องกล้องกับฉินเยว่เลย
หมอเวรเห็นเฉินชางก็กล่าวทักทาย “หมอเฉิน คนไข้เป็นอะไรมาครับ”
เฉินชางตอบไปว่า “เด็กคนนี้ดื่มลู่ลู่แล้วกลืนห่วงฝากระป๋องเข้าไปโดยไม่ทันระวังน่ะครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินชาง เขาก็มองไปที่เด็กน้อยด้วยสีหน้าสงสัย
เด็กชายเห็นหมอในห้องส่องกล้องท่าทางน่ากลัวจึงก้าวถอยหลังไปหลายก้าว “ผม…ผมก็ไม่ได้อยากกินมันสักหน่อย”
ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด พอทุกคนได้ยินคำพูดนี้แล้วก็รู้สึกอยากจะยิ้มออกมาจริงๆ
พ่อแม่เด็กก็ยิ้มแห้งๆ ออกมา ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี!
หมอประจำห้องส่องกล้องพยักหน้าให้เด็กชาย “อืม ผมรู้แล้ว งั้นพวกเราก็เอามันออกมากันเถอะ ไม่งั้นถ้ามันหยั่งรากในท้อง ต่อไปก็จะมีกระป๋องงอกในท้องนะ!”
เมื่อฟังถึงตรงนี้ เด็กชายก็ตกใจจนหน้าซีด
หมอส่องกล้องพยักหน้า “อืม งั้นก็เป็นเด็กดีนะ มาตรงนี้สิ อย่าขยับมั่วซั่ว เดี๋ยวหมอจะดูให้ว่าตอนนี้มันมีรากงอกหรือยัง!”
เด็กชายพยักหน้าอย่างจริงจัง ไม่กล้าขยับมั่วซั่วอีก