บทที่ 519 คุณวางมือเถอะ!
ตอนเช้าก่อนส่งต่อเวร เฉินชางเคยชินกับการมาที่แผนกฉุกเฉินตั้งแต่เช้าครู่
เมื่อคืนวานคลื่นสงัดลมสงบ ประเทศสงบ ประชาร่มเย็น หวังเชียนที่เป็นแพทย์เวรกลางคืนกำลังถืออาหารเช้าของแมคโดนัลด์พร้อมไถแอปพลิเคชั่นโต่วอินอยู่ตรงนั้นอย่างผ่อนคลาย
มุมปากเผยรอยยิ้มที่โค้งเหมือนกระดูกสันหลังส่วนเอว ยิ้มมีเลศนัยมาก!
เฉินชางอดถามยิ้มๆ ไม่ได้ว่า “พี่รองเชียน นี่พี่ใช้เวรกลางคืนเพื่อมาพักร้อนสินะครับ”
หวังเชียนยิ้มอย่างภูมิใจ “นั่นก็แน่นอนอยู่แล้ว ผมเป็นคนนิสัยดี หน้าขาว[1]ด้วย!”
เฉินชางพูดไม่ออก เหมือน…จะเป็นอย่างนี้จริงๆ บางครั้งอยู่แผนกฉุกเฉินจะไม่เชื่อเรื่องโชคลางแบบนี้ก็ไม่ได้ บางคนก็เรียกว่านักรบหน้าดำ ยกตัวอย่างเช่นเขาเอง
ทันใดนั้น เขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหัวหน้าหลี่ถึงหน้าดำ[2]!
เฉินชางนั่งลงเพราะไม่มีงานอะไร เขาเปิดตารางคุณลักษณะของตัวเอง ถึงอย่างไรก็ไม่ได้ดูมานานแล้ว รู้สึกแค่ว่าตั้งแต่เลเวลถึงสามสิบเป็นต้นมา ความเร็วในการอัปเลเวลก็ช้าลง
เมื่อวานฆ่ามอนสเตอร์ชั้นลอร์ดระดับ 75 แต่ระดับตัวเองเพิ่มขึ้นแค่ระดับเดียวเอง เรื่องนี้ทำให้เฉินชางไม่ค่อยเข้าใจ
เมื่อก่อนแค่ฆ่ามอนสเตอร์ไส้ติ่งก็อัปเลเวลได้แล้ว!
[เฉินชาง: ระดับ: 35 (230/70000)]
[อาชีพ: แพทย์แผนกศัลยกรรมหัวใจ]
[คะแนนอาชีพ: 24 คะแนน]
[แพทย์แผนกศัลยกรรมทรวงอก: คะแนนอาชีพ: 40 คะแนน]
[คะแนนทักษะ: 16 แต้ม]
[ค่าความรู้สึกดีของเมิ่งซี: ตอนนี้มี 40 แต้ม (ค่าความรู้สึกดี 60 แต้ม)]
ตอนที่เฉินชางเห็นว่าต้องใช้ค่าประสบการณ์ 70000 เพื่อเพิ่มหนึ่งระดับ เขาก็อดงงไม่ได้ นี่มันเยอะไปหรือเปล่า
ผ่าตัดไส้ติ่งหนึ่งเคสได้ค่าประสบการณ์เพิ่มแค่สองร้อยเอง โบนัสสองเท่าก็ได้แค่สี่ร้อยอยู่ดี ต้องผ่าตัดไส้ติ่งสองร้อยเคสถึงจะได้อัปหนึ่งเลเวลงั้นเหรอ
เฮ้อ พอมาดูตอนนี้ เหมือนระบบกำลังบอกฉันว่า เลิกเฝ้าเป็นสุนัขอยู่ที่หมู่บ้านมือใหม่ได้แล้ว รีบออกไปเติบโตข้างนอกเถอะ!
ทีแรกนึกว่าพอถึงระดับสี่สิบแล้วจะง่าย พอมาดูตอนนี้ ก็พบว่าเหมือนจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น!
ที่ไหนจะมีมอนสเตอร์ระดับสูงที่ทำให้ตนเติบโตเยอะขนาดนั้น…
แต่ตอนที่เฉินชางเห็นคะแนนอาชีพ เขาก็ดีใจทันที คะแนนทักษะอาชีพของแผนกศัลยกรมทรวงอกถึงสี่สิบแล้ว
ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ!
เฉินชางเปิดคอลลัมน์ทักษะ พอเห็นทักษะยาวยืด จู่ๆ เขาก็หน้าแดงนิดหน่อย
ต้องพูดจากใจเลยว่า หมอจิ่งช่างเป็นคนดี!
ถึงอย่างไรในนั้นก็มีของขวัญมากมายที่ได้มาจากหมอจิ่ง พอนึกถึงตรงนี้ เฉินชางก็รู้สึกว่าวันหลังเลี้ยงข้าวหมอจิ่งสักมื้อดีไหม
ไม่อย่างนั้นจะรู้สึกไม่สบายใจ!
ทันใดนั้น เฉินชางก็เข้าใจความหมายที่แท้จริงของสำนวนหนึ่งแล้ว
ดื่มน้ำบ่อ อย่าลืม ‘คนขุดบ่อ’![3]
แต่เมื่อเห็นว่ายังมีภารกิจกองใหญ่ที่ยังทำไม่สำเร็จ จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่า ถ้าอยากดื่มน้ำ ก็ยังต้องขุดบ่อเอง!
แต่ถ้าอยากเพิ่มระดับ เฉินชางก็ต้องหาวิธีการ พยายามหาเคสผ่าตัดที่ใกล้เคียงกับระดับทักษะของตัวเอง ไม่อย่างนั้นค่าประสบการณ์ก็จะเพิ่มขึ้นช้าเกินไป!
ถ้ายังไม่ถึงระดับสี่สิบ ไม่มีทางเรียนผ่าตัดระดับสี่ได้เลย สิ่งนี้จำกัดความก้าวหน้าของเฉินชางอย่างร้ายแรง คงจะให้เป็นผู้ใช้แรงงานไปทั้งชีวิตไม่ได้หรอกมั้ง
ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีการผ่าตัดระดับสี่ แต่ก็ยังเป็นเวอร์ชันไม่สมบูรณ์ ทำให้เฉินชางไม่พอใจเป็นอย่างมาก!
…
…
ตอนที่ส่งต่อเวร หลี่เป่าซานเดินเข้ามาในห้องทำงาน พอเห็นทุกคนก็บอกว่า “วันนี้ผมมีเรื่องมาประกาศครับ”
หัวหน้าพยาบาลเถียนเซียงหลานกลอกตามองบน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมาก็มีเรื่องประกาศทุกวัน ทำเอาหัวหน้าพยาบาลต้องคำนวณต้นทุนทุกวัน เหนื่อยใจมาก
ต้องทราบไว้ว่า เมื่อหัวหน้าแผนกประกาศเรื่องใดสักเรื่อง หัวหน้าพยาบาลที่เป็นเหมือนพ่อบ้านใหญ่ก็ต้องพิจารณาเรื่องละเอียดยิบย่อยอีกเป็นกอง
หลี่เป่าซานพูดต่อ “เมื่อวาน หัวหน้าเหอจากศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินมาที่นี่ ตอนนี้การจัดตารางงานของศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินค่อนข้างยุ่งยาก แต่ละโรงพยาบาลกดดันมาก เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ต้องกู้ชีพ ทรัพยากรทางการแพทย์ของพวกเรายังไม่พอเลย เมื่อวานผมปรึกษากับผู้อำนวยการโรงพยาบาลแล้ว ผู้อำนวยการตัดสินใจว่า จะสร้างทีมปฏิบัติการพิเศษเล็กๆ ขึ้นมาสักทีม อุทิศกำลังส่วนหนึ่งของตัวเอง…
…ทีมปฏิบัติการพิเศษนี้ หลักๆ พุ่งเป้าไปที่การผ่าตัดฉุกเฉิน ยกตัวอย่างเช่นการผ่าตัดผู้ป่วยจากอุบัติเหตุรถยนต์ อุบัติเหตุทั่วไป เพราะแบบนี้ โรงพยาบาลก็จะเลือกคนจากแผนกที่เกี่ยวข้องมาหนึ่งคนเพื่อร่วมทีมปฏิบัติการพิเศษของพวกเรา และแผนกฉุกเฉินของพวกเราก็จะเป็นแผนกที่คอยออกหน้าประสานงาน ต้องเลือกสามคน คนหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ อีกสองคนเป็นหมอแผนกศัลยกรรม…
…แน่นอน โรงพยาบาลไม่ให้ทุกคนเหนื่อยเปล่าอยู่แล้ว สมาชิกทุกคนที่เข้าร่วมปฏิบัติการพิเศษนี้ จะได้รับสวัสดิการและเบี้ยเลี้ยงพิเศษจากโรงพยาบาล ผมจะส่งข้อมูลให้ทุกคนดูในแชทกลุ่ม”
พอได้ยินหลี่เป่าซานพูดแบบนี้ ผู้ใต้บังคับบัญชาก็พากันวิพากษ์วิจารณ์
แผนกฉุกเฉินเดิมทีก็เหนื่อยและงานยุ่งมากอยู่แล้ว ตอนนี้กำลังจะสร้างทีมปฏิบัติการพิเศษ งานของทีมนี้จะมีความกดดันและความรับผิดชอบมากขึ้นแน่นอน!
ส่วนเบี้ยเลี้ยงพิเศษ ใจก็อยากได้แต่กำลังไม่พอทำ!
ส่วนเฉินชางก็ใจสั่นหวั่นไหว นี่ไม่ใช่โอกาสหรอกเหรอ
เขากำลังคิดอยู่ว่าจะไปหามอนสเตอร์ระดับสูงที่ไหนดี ตอนนี้มีโอกาสแล้ว เขาย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
หลี่เป่าซานมองทุกคนพร้อมถามว่า “ผมจะเลือกคนรับผิดชอบเอง เป็นหมอแผนกศัลยกรรมทั่วไปสองคน ใครยินดีจะเข้าร่วมครับ”
เมื่อพูดจบ ทุกคนก็เริ่มมองหน้ากันเลิกลั่ก
หลัวโจวอยากจะเข้าร่วม แต่ความรู้ประสบการณ์ไม่พอ ยากที่จะรับภารกิจสำคัญได้
เหล่าเฉินก็ใจเต้นมากเช่นกัน แต่…มีเหตุผลมากมายที่ทำให้เขาเลือกไม่ได้
เฉินชางยกมือขึ้นแล้ว!
ตามติดด้วยหวังเชียน หวังข่ายอัน เจียงเทา
หลี่เป่าซานมองไปรอบๆ แวบหนึ่ง แล้วพยักหน้า “หวังเชียน หวังข่ายอัน พวกคุณสองคนก็แล้วกัน เจียงเทาคุณตั้งใจให้ความร่วมมือหัวหน้าแผนกอันเพื่อพัฒนางานของแผนกศัลยกรรมมือเถอะ”
เฉินชางเหม่อทันที…
นี่ดูถูกฉันเหรอ
แต่ทันใดนั้น หลี่เป่าซานก็พูดต่อว่า “งั้นก็ตกลงตามนี้แล้วกัน เสี่ยวเฉิน คุณมาเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนหวังเชียนกับหวังข่ายอันก็คอยให้ความร่วมมือกับเฉินชาง”
ทุกคนพากันมองไปที่เฉินชางอย่างงุนงง
แม้แต่เฉินชางเองก็ยังงงเป็นไก่ตาแตก ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะได้เป็นผู้รับผิดชอบ
หัวหน้าหลี่ประเมินฉันสูงเกินไปแล้วมั้ง
หลังจากพูดจบ หลี่เป่าซานก็มองเฉินชางหวังเชียนรวมทั้งพวกหวังข่ายอัน “ไม่มีปัญญาอะไรใช่ไหม”
ทุกคนส่ายหน้า
หลี่เป่าซานจึงพยักหน้าบอกว่า “งั้นผมจะรายงานขึ้นไปตอนนี้เลย”
หลังจากหลี่เป่าซานออกไป แล้วเข้ามาที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการ ตอนนี้จางโหย่วฝู เถามี่ก็อยู่ที่นี่ด้วย
“เป็นยังไงบ้าง เลือกคนได้หรือยัง” ฉินเสี้ยวยวนถาม
หลี่เป่าซานหยิบกระดาษออกมาแผ่นหนึ่ง “เฉินชางเป็นผู้รับผิดชอบ หวังข่ายอัน หวังเชียนเป็นแพทย์ครับ”
“โจวเสี่ยวตงของแผนกเรา” จางโหย่วฝูกล่าว
“แผนกของเราคือจางเหวินฟู่” เถามี่กล่าว
ฉินเสี้ยวยวนชะงักงัน คนพวกนี้ยังประสบการณ์ไม่สูงและอายุน้อย สูงสุดก็คือหวังข่ายอัน เป็นแพทย์รองหัวหน้าแผนก แต่เนื่องจากประวัติการศึกษาดี ปีนี้ก็อายุสามสิบห้าแล้วเช่นกัน
จางเหวินฟู่เป็นแพทย์เจ้าของไข้ อายุสามสิบห้า ส่วนที่เหลือเป็นหนุ่มน้อยเหมือนกันหมด
เรื่องนี้ทำให้เถามี่ค่อนข้างกังวล เขามองหลี่เป่าซาน
“หัวหน้าหลี่ ให้เสี่ยวเฉินเป็นผู้รับผิดชอบแบบนี้ เขายังอายุน้อยเกินไปหรือเปล่า ถึงยังไง…งานกู้ชีพก็ค่อนข้างซับซ้อนนะ”
คำถามนี้ หลี่เป่าซานคิดมาแล้วทั้งคืน “ผมคิดมาดีแล้วครับ เด็กคนนี้ก็เหมือนสปริง ยิ่งมีความกดดันมาก ก็ยิ่งระเบิดพลังงานออกมามาก!…
…แล้วอีกอย่าง พวกเราก็รับประกันให้พวกเขาได้ไม่ใช่เหรอครับ”
ฉินเสี้ยวยวนลังเลนิดหน่อย แล้วก็พยักหน้า “ครับ ก็ลองดูแล้วกัน ถ้าไม่ไหวค่อยให้คุณจัดการเอง”
เมื่อทุกคนเห็นฉินเสี้ยวยวนตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน
เป็นไปตามนี้ รายชื่อทีมกู้ชีพแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว
[1] หน้าขาว 脸白 หมายถึงโชคดี ดวงดี
[2] หน้าดำ 脸黑 หมายถึงโชคร้าย
[3] คนขุดบ่อ ภาษาจีนออกเสียงว่า จิ่งเหริน 井人