บทที่ 531 อวิชชาที่น่ากลัว
เมื่อได้ยินเหยาจื้อเหวินอธิบายประวัติการเจ็บป่วย จู่ๆ ลูกสาวทั้งสองของอีกฝ่ายก็ยืนขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธ
“พวกเราไม่ได้เสียดายเงิน เงินไม่ใช่ปัญหา แต่พวกเราไม่อยากให้คุณพ่อได้รับความทุกข์ทรมาน!”
“เขาอายุมากขนาดนี้แล้ว ยังต้องไปใส่สายสวนลากลิ่มเลือดอะไรนั่นอีก ลำบากเกินไปแล้ว”
ประโยคนี้ทำให้เฉินชางเกือบกลั้นขำไม่ไหว ผู้ป่วยสูงอายุเป็นอัมพาตครึ่งซีกไม่มีสติรู้ตัว กลั้นปัสสาวะกับอุจจาระไม่ไหวด้วยซ้ำ คุณยังบอกว่าไม่อยากให้เขาลำบากอีกเหรอ
แต่…ถ้าจะให้โมโหใส่พฤติกรรมโง่เง่าของญาติผู้ป่วย เฉินชางได้แต่สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เขาไม่อยากสนทนากับญาติผู้ป่วยแบบนี้แม้แต่ประโยคเดียว จึงหันกลับไปถามเหยาจื้อเหวิน “ทำไมไม่ส่งไปแผนกประสาทวิทยาครับ”
เหยาจื้อเหวินดูจนใจอย่างชัดเจนมาก เธอถอนหายใจแล้วตอบว่า “ตอนนี้ข้างบนไม่มีเตียง ขอให้น้ำเกลือแล้วก็รักษาที่นี่ก่อน พรุ่งนี้ถึงจะย้ายไป”
เฉินชางดูรายการการให้น้ำเกลือแล้วก็ยิ้มทันที ครอบครัวนี้มีเงินจริงๆ สารน้ำ NBP [1]ขวดละสามร้อยหยวน เป็นยาที่ต้องออกเงินซื้อเอง ช่วยบำรุงประสาท วันนี้ให้น้ำเกลือไปแล้วสองขวด
เท่ากับลดความยุ่งยากให้พวกเฉินชางแล้วไม่น้อย ยินดีที่ไม่ต้องปวดหัวเรื่องฐานะทางการเงิน!
ปกติเนื่องจากมีโรคเฉียบพลันไม่น้อย ต้องใช้ยาดีและยาแพงจำนวนมากเพื่อรักษา แต่ถ้าเป็นยาที่ราคาแพงมาก ก็มีหลายครอบครัวที่รับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว
ผู้ป่วยไม่มีความยุ่งยากเรื่องนี้ แต่นึกไม่ถึงว่าจะเจอปัญหาที่ยุ่งยากยิ่งกว่านั้น: คนในครอบครัวที่ไร้ความรู้!
เหยาจื้อเหวินพูดต่อ “เพราะการเป็นอัมพาตครึ่งซีกจะมีอาการอัมพาตก้านสมองส่วนท้ายตามมา ตอนนี้ผู้ป่วยดื่มน้ำกินอาหารก็ยังไอเลย ทั้งยังพูดไม่ได้ ความรู้สึกตัวต่ำ กลั้นปัสสาวะอุจจาระไม่อยู่”
พอได้ฟังเหยาจื้อเหวินอธิบาย เฉินชางก็บอกทันทีว่า “ผู้ป่วยต้องใส่สายยางทางจมูก”
ตอนนี้ลูกสาวพูดขึ้นอีกว่า “ตอนนี้เขาเป็นแบบนี้แล้ว การสอดท่อเข้ากระเพาะอาหารจะทรมานขนาดไหนกัน! แล้วอีกอย่าง…เขาก็ดื่มน้ำเองได้ค่ะ”
เฉินชางถามต่อ “กลั้นอุจจาระปัสสาวะไม่อยู่ ไม่ได้ใช้สายสวนอุจจาระเหรอครับ”
เหยาจื้อเหวินส่ายหน้า แล้วตอบด้วยความจนใจ “เปล่าค่ะ! ญาติผู้ป่วยไม่อนุญาต กลัวว่าผู้ป่วยจะไม่สบายตัว!”
ประโยคนี้ทำให้เฉินชางโมโหจนถลึงตา แทบจะด่าคนแล้ว!
คนในครอบครัวที่ดูเหมือนมีความรู้ แต่ทำไมทำตัวปัญญาอ่อนแบบนี้ล่ะ!
เฉินชางกลั้นความโกรธเอาไว้ เขาเงยหน้าบอกญาติผู้ป่วยว่า “ผู้ป่วยกลั้นอุจจาระปัสสาวะไม่ได้ ถ้าไม่ใส่สายสวน ก็อาจจะเกิดอาการปัสสาวะคั่งได้ครับ!”
หญิงชราส่ายหน้า “ฉันใส่ผ้าอ้อมให้เขาแล้ว ไม่กลัวหรอกค่ะ ใส่สายสวนปัสสาวะอะไรนั่นจะทรมานขนาดไหนกัน แค่ฉันเห็นก็ยังเจ็บแทนเลย…ไม่ได้ค่ะ ไม่ได้ ต่อให้เขาฟื้นขึ้นมาก็ไม่ยอมอยู่ดี”
นี่ก็ไม่ได้ นั่นก็ไม่ได้ เฉินชางทำได้เพียงพาเหยาจื้อเหวินเดินออกไป
ตอนนี้ เล่อเล่อนำหนังสือยินยอมปฏิเสธการรักษามาแล้ว
ญาติผู้ป่วยให้ความร่วมมือมาก หญิงชราเซ็นชื่อได้สวยงามมาก แค่เห็นก็รู้ว่า ‘มีการศึกษา’
แต่เหยาจื้อเหวินก็ยังไม่วางใจ เดินไปเดินมาแล้วก็เลี้ยวกลับไปคุยกับญาติผู้ป่วยสามสี่รอบ รอบละยี่สิบนาที แล้วก็ผ่านไปแบบนี้สองชั่วโมงกว่าแล้ว
เหยาจื้อเหวินกลับมาที่ห้องทำงาน โมโหจนแทบจะเขวี้ยงเวชระเบียนทิ้ง
“คนพวกนี้เป็นใครกัน กลัวได้รับความทุกข์ทรมาน ไม่อยากให้ผู้ป่วยสูงอายุลำบาก แบบนี้จงใจจะทำให้ตายใช่ไหม”
ได้ยินเสียงไอดังมาจากในทางเดินตึกไม่หยุด เฉินชางถอนหายใจอีกแล้ว
บางครั้ง คนที่ฆ่าผู้ป่วยก็ไม่ใช่หมอ แต่เป็นญาติของผู้ป่วย
เฉินชางยังค้นพบอีกว่า คนที่ ‘เข้าใจนิดเดียว’ พวกนั้นยิ่งรับมือยากมากกว่า มักเอาความรู้ครึ่งๆ กลางๆ ที่ค้นหาจากไป๋ตู้หรือไม่ก็ได้ยินมามาท้าทายวิชาชีพของหมอ
ประมาณตีสองกว่า ประตูห้องเวรดึกก็มีเสียงเคาะดังต่อเนื่อง
เฉินชางและหยาจื้อเหวินรีบลุกขึ้นเดินออกไป
“เป็นอะไรไปครับ”
“ผู้ป่วยนอนไม่หลับพลิกตัวไปพลิกตัวมา ใช้มือดึงเครื่องควบคุมการให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ ทั้งยังไอรุนแรงขึ้นด้วยค่ะ!” เล่อเล่อบอก
พอได้ยินแบบนี้ เฉินชางกับเหยาจื้อเหวินก็สีหน้าเปลี่ยนทันที แล้วรีบกลับมาที่ห้องผู้ป่วย
หลังจากเข้ามาแล้ว ก็พบว่าลูกสาวสองคนกำลังกดมือผู้ป่วยสูงอายุอยู่ ไม่ให้เขาเอามือคลำมั่วซั่ว
หญิงชรากำลังปลอบใจผู้ป่วยสูงอายุด้วยท่าทางมีเมตตา “ไม่เป็นไรนะคะ ไม่เป็นไร!”
จากนั้นก็ใช้มือลูบคลำมือของผู้ป่วยสูงอายุ ช่วยนวดให้เขา
เฉินชางอึ้งทันที เห็นได้ชัดว่าญาติผู้ป่วยตีความอาการของผู้ป่วยสูงอายุคนนี้ว่าเป็นความเครียดและกระสับกระส่าย
เฉินชางเลิกผ้าห่มขึ้นมาดู ปัสสาวะไม่เปียก ยังสะอาดอยู่ แต่ตรงท้องน้อยพองขึ้นมาอย่างชัดเจน
เฉินชางแทบประสาทกิน ให้น้ำเกลือไปเยอะขนาดนี้ แต่ไม่มีน้ำปัสสาวะออกมาเลย ไม่กระสับกระส่ายก็แปลกแล้ว!
เฉินชางรีบบอกว่า “ผู้ป่วยต้องใส่สายสวน ตอนนี้เกิดภาวะปัสสาวะคั่งรุนแรงแล้ว กระเพาะปัสสาวะนูนขึ้นมาชัดเจน เขาก็เลยกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงแบบนี้!…
…แล้วก็! พวกคุณเห็นแก่ความรู้สึกของผู้ป่วย เรื่องนี้พวกเราเข้าใจได้!…
…แต่มีความจริงบางอย่างที่พวกคุณต้องทำความเข้าใจนะครับ ไม่มีการรักษาแผนไหนที่ผู้ป่วยไม่เจ็บปวด พวกเราไม่อาจปล่อยให้ผู้ป่วยรู้สึกทรมานหนักกว่าเดิมแค่เพราะทนความเจ็บปวดเล็กน้อยนี้ไม่ไหว…
…ยิ่งถ้าความเจ็บปวดมหาศาลนั้นเป็นสิ่งที่พวกเรารับรู้ได้ล่วงหน้า”
หลังจากอธิบายไปรอบหนึ่ง ในที่สุดก็ยอมให้ใส่สายสวนปัสสาวะแล้ว
แต่…ตอนที่เล่อเล่อเตรียมใส่สายสวนปัสสาวะ หญิงชราก็เกิดเปลี่ยนใจไม่ยอมอีก!
“มีพยาบาลผู้ชายหรือเปล่า”
เฉินชางกับเหยาจื้อเหวินงงไปชั่วขณะ แม้แต่เล่อเล่อก็อึ้งเช่นกัน
แม่งเอ๊ย ผู้ป่วยสูงอายุคนนี้ไม่มีสติสัมปชัญญะแล้ว คุณยังมาถามอีกเหรอว่ามีพยาบาลผู้ชายหรือเปล่า
เฉินชางถอนหายใจ “เล่อเล่อ ผมทำเอง”
เขาใส่สายสวนปัสสาวะอย่างชำนาญ ในที่สุดน้ำปัสสาวะก็ไหลออกมาแล้ว
ในที่สุดผู้ป่วยสูงอายุที่กระสับกระส่ายก็สงบลงแล้ว
แต่…
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีก
เล่อเล่อรายงานอย่างร้อนใจ “หมอเฉินคะ ผู้ป่วยตัวร้อนค่ะ!”
เฉินชางกับเหยาจื้อเหวินสบตากันแวบหนึ่ง แล้วก็รีบเข้าไปที่ห้องผู้ป่วย
ผู้ป่วยมีอุณหภูมิร่างกาย 38.3 องศาเซลเซียส ทั้งยังไอไม่หยุดด้วย!
โดยทั่วไป ผู้ป่วยที่มีภาวะอุดตันหลอดเลือดสมองแบบนี้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่การเป็นอัมพาต แต่เป็นการไอสำลักตอนให้อาหารเนื่องจากภาวะอัมพาตก้านสมองส่วนท้าย จากนั้นก็ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ปอด
ส่วนอาการปอดติดเชื้อ สำหรับผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกเฉียบพลันแบบนี้ ก็มักจะมีอันตรายถึงชีวิต
เฉินชางเงยหน้าถาม “คุณให้น้ำเขาดื่มหรือเปล่า”
ญาติผู้ป่วยชะงักทันที ตอบอย่างหน้าแดง “ฉันเห็นเขา…”
เฉินชางถอนหายใจ “เตรียมใส่สายยางทางจมูก”
ญาติผู้ป่วยแบบนี้ สักวันก็คงทำให้ผู้ป่วยมีอันตรายถึงชีวิต
เฉินชางอธิบายต่อไป ญาติผู้ป่วยช่างเป็นคนที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ
หญิงชรามองเฉินชางกับเหยาจื้อเหวินด้วยความโมโหเล็กน้อย พร้อมบอกว่า “คุณหมอ…พวกเราไม่เข้าใจ คุณจะมาโทษพวกเราไม่ได้นะ…พวกเราไม่เข้าใจเลย!”
เฉินชางโมโหจนแทบหัวเราะออกมา เมื่อกี้คุณเข้าใจดีมากไม่ใช่เหรอ
ตอนกลางคืน เดินไปเดินกลับระหว่างห้องผู้ป่วยอย่างนี้ทั้งคืน ยาปฏิชีวนะก็ใช้แล้วเช่นกัน
ควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้แล้วในเบื้องต้น แต่นี่เป็นแค่…การเริ่มต้นเท่านั้น
ผู้ป่วยมีภาวะหายใจล้มเหลวแล้ว ตอนนี้รวมกับอาการปอดติดเชื้อ พรุ่งนี้ก็ต้องส่งเข้าห้อง ICU แล้ว
หรือจะส่งไปที่แผนกประสาทวิทยา?
ฝันไปเถอะ พวกเขาไม่ยอมรับผู้ป่วยที่อาการหนักขนาดนี้แน่
เป็นอย่างที่คาดไว้ ตอนเช้าเวลาเก้าโมงกว่า หลังจากส่งต่อเวรเสร็จ ผู้ป่วยก็ถูกส่งตัวไปที่ห้อง ICU ท่ามกลางความเสียใจของญาติ หมอแผนกประสาทวิทยาไม่มีทางรับผู้ป่วยที่อาการหนักขนาดนี้มาไว้ที่ห้องผู้ป่วยอยู่แล้ว
ที่สำคัญที่สุดก็คือ จนกระทั่งตอนนี้ผู้ป่วยก็ยังไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ!
บรรดาญาติผู้ป่วยยังคงเอาแต่แก้ตัวกับหมอเจิ้งที่ห้อง ICU…
เฉินชางส่ายหน้า
บางครั้ง ความไม่รู้ของญาติผู้ป่วย ก็เป็นการส่งญาติตัวเองลงหลุมศพได้เหมือนกัน
การส่งอำนาจในการเซ็นยินยอมให้พวกเขา เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าไว้วางใจจริงๆ…
[1] สาร NBP หรือ 3-Butylphthalide เป็นสารประกอบในน้ำมันเมล็ดคื่นช่าย