เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร – ตอนที่ 6

ตอนที่ 6

“รังแกตาแก่อย่างฉันจะไปมีความหมายอะไร?”ช่ายเลี่ยงปาดเหงื่อ แล้วจ้องมองเจ้าฉายอย่างระมัดระวัง ปากพูดแบบนั้น

“เจ้าเด็กบ้า ฉันขอเตือนแกไว้นะ ถ้าให้พูดฉันรุ่นเดียวกับพ่อแกเลยนะเว่ย แกจะคุยตกลงอะไรกันก็ได้ แต่ทางที่ดีแกเอาวูล์ฟด๊อกตัวนี้ไปให้ไกลหน่อยได้ไหม?”

เซี่ยหยางยิ้มตาหยีแล้วไปที่ข้างตัวของเจ้าฉาย หลังจากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า“คราวนี้ ลุงพูดมาได้รึยัง?ว่ามาที่แปลงผักฉันทำไม?จะทำเรื่องชั่วอะไร?”

“ในแปลงผักของแกมีไอ้ผักกวางตุ้งเส็งเคร็งพวกนั้นไม่ใช่หรอ?พวกเราก็แค่อยากมาดูเองไม่ได้รึไง?”

“แค่ดูน่ะได้”เซี่ยหยางมองไปที่จอบหลายชิ้นที่ถูกโยนทิ้งไว้ แล้วพูดอย่างเยือกเย็น“แต่พวกลุงเอาจอบมาด้วย หมายความว่ายังไง?”

“พึ่งทำงานที่สวนเสร็จ ก็เลยตรงมาที่นี่เลย!”ช่ายเลี่ยงเริ่มเปลี่ยนเป็นลำคานขึ้นมา ลุกขึ้นปัดเศษฝุ่นที่ก้นไปมา

“เรื่องมันมีแค่นี้เอง แกมันเป็นแค่เด็กคนหนึ่งอยากจะคิดยังไงก็เรื่องของแก”

พูดจบ ชายแก่ที่รุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของตนเองวิ่งหนีหายไปทำให้หนุ่มสาวทั่วไปถึงกับพูดอะไรไม่ออก แม้แต่จอบก็ไม่เอาแล้ว ชั่วพริบตาเดียวก็พุ่งตัวลงน้ำไป ว่ายไปยังฝั่งตรงข้าม

เซี่ยหยางจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบหนึ่งม้วน เมื่อไล่ชายสามคนที่คิดไม่ดีจากไป เขาไม่สามารถบอกให้เจ้าฉายเข้าไปกัดคนอื่นจริงๆได้

เช้าวันที่สอง หลังจากที่เซี่ยหยางอาบน้ำเสร็จ ก็เข้าไปในโลกแผ่นหยกรดน้ำให้กับโสม ของสิ่งนี้เขาปลูกเป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าใบมันจะแตกกิ่งก้านสาขาอย่างไร เขากัดฟัน แล้วเขี่ยดินที่อยู่รอบๆเมล็ดโสมออกอย่างระมัดระวัง

ผ่านไปไม่นานเขาก็มองเห็นรูปลักษณ์สีแดงสีขาวสลับกันไปมาของโสม เขาเขี่ยออกอีกสองสามเมล็ด ต้นหนึ่งยางประมาณสิบเซนติเมตร เขาจับโสมที่มีความใหญ่ประมาณนิ้วโป้งแม่เท้าอยู่ในมือ

“เล็กขนาดนี้?”เซี่ยหยางขมวดคิ้ว รีบเอาโสมปลุกกลับไป หลังจากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ริมธารตักน้ำแร่มาสองถังจัดการรดลงไปทักทายกับโสมสิบเมล็ดนี้

ถ้ามีผู้เชี่ยวชาญรู้ว่าเซี่ยหยางสามารถปลูกโสมได้ถึงจุดนี้โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ยี่สิบวันก็ ต้องตกใจจนลิ้นห้อยตกออกมาแน่ แต่เขาเองกลับคิดว่ามันเล็กเกินไป!

คนที่ไม่มีความรู้น่าสงสารจริงๆ!คนอื่นกว่าเมล็ดจะงอกออกมาต้องใช้เวลาเดือนสองเดือน!ใหญ่ได้เท่านิ้วโป้งหัวแม่เท้าได้ต้องใช้เวลาดูแลอย่างน้อยสามถึงห้าปี เด็กหนุ่มคนนี้ช่างเหลือเกินจริงๆ

หลังจากรดน้ำผักและเห็ดในแปลงผักตอนเที่ยงแล้ว เซี่ยหยางก็เดินไปที่ข้างๆบ่อปลา เขาหยิบแหจับปลาและจับปลาคาร์พสองตัวที่มีน้ำหนักครึ่งกิโลขึ้นมา เขาฆ่าปลาและล้างทำความสะอาด ตั้งไฟและย่าง หลังจากนั้นไม่นาน ทุ่งผักก็ตลบอบอวลเต็มไปด้วยกลิ่นของปลาสดธรรมชาติ

“เอ้อนิ้ว หยุดหว่านแหได้แล้ว พักก่อนเถอะ มากินปลาเผากัน!”

“มาแล้ว!”หลี่เอ้อนิ้วได้กลิ่นหอมฉุยมานานแล้ว เขาเอาปลาคาร์พหลายตัวที่จับมาได้โยนกลับไปในย่อปลา นั่งลงพลางหัวเราะอิๆ

ทั้งสองนั่งอยู่ตรงริมแม่น้ำ ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆของยามบ่าย รับลม กินปลาที่ใหญ่และหอมหวนที่สุด ฟังเสียงร้องจื้อๆในยามบ่าย ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าชีวิตช่างงดงามเหลือเกิน

ทั้งสองพักอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกลับไปจับปลาในแม่น้ำลงบ่อปลา

ถ้าเป็นเมื่อหลายทศวรรษก่อน ปลาในแม่น้ำมีมากกว่านี้ แต่หลังจากผ่านกาลเวลามานาน ก็ถูกบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่นจับไปไม่น้อย ปลาจึงเหลือไม่มาก คนหนุ่มสาวก็เข้าไปทำงานในเมืองกัน บรรดาคนแก่ก็จับปลากันจนเบื่อ มันจึงเป็นผลดีต่อเซี่ยหยางกับหลี่เอ้อนิ้ว

เซี่ยหยางพบว่า ภายใต้การใช้น้ำแร่จากโลกแผ่นหยกกระตุ้นการเจริญเติบโตนั้น ในทุกๆวันปลาทุกตัวจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วได้ถึงหนึ่งถึงสองเท่าเลย ปลาบางส่วนปลาบางตัวโตจนมีขนาดใหญ่ที่สุด และเริ่มขยายพันธุ์ ในช่วงสองวันที่ผ่านมามีการพบเห็นปลาตัวเล็กบางตัวออกหากินเป็นครั้งคราว

เพื่อความปลอดภัย เขาเอาเจ้าปลาตัวเล็กพวกนี้ไปปล่อยไว้ในบ่อปลาเล็กอีกบ่อหนึ่ง เขาคิดมาแล้วในตอนที่กำลังสร้างบ่อปลา มันสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้ปลาใหญ่กินปลาเล็กได้

ปลาใหญ่ในบ่อมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พอหว่านแหลงไปก็สามารถจับได้ตั้งหลายตัว ปลาในนี้รวมๆกันแล้วมีจำนวนเกือบพันตัว ปลาในบ่อปลาอนุบาลก็มีหลายร้อยตัว ปลาเหล่านี้จะเป็นรายได้ที่งามมากเลยล่ะ

ในทุกๆวันเซี่ยซานยังคงดื่มน้ำที่เซี่ยหยางเป็นคนให้กับเขา ตอนนี้เขาใช้ไม้เท้าค้ำยันได้อย่างไม่กินแรงแล้ว ทุกวันนี้ชายชราจะต้องไปลัดเลาะเดินในหมู่บ้านหลายรอบ หลังจากนั้นค่อยไปพูดคุยเล่นหมากรุกกับบรรดาคนแก่ในหมู่บ้าน

ผ่านไปอีกสองวัน ผักกวางตุ้งแบทชที่สองก็สามารถออกไปสู่ร้านฝูหมั่นโหลวได้ตามเวลา เป็นรายรับอีกหลายหมื่นหยวนอีกแล้ว เซี่ยหยางรู้สึกว่าชีวิตช่างดีเหลือเกิน

แต่แล้วค่ำของวันนี้ ในบ้านมีแขกไม่ได้รับเชิญหนึ่งคน

ช่ายเลี่ยงมาแล้ว ยังเอาเงินสดหนึ่งก้อนมาด้วย

“ลูกชายฉันมาแล้ว บอกตรงๆกับเขาไปเถอะ”เซี่ยซานเห็นเซี่ยหยางเดินเข้ามาในบ้าน แล้วพูดกับช่ายเลี่ยงไปว่า“ตอนนี้ฉันไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในบ้านแล้วล่ะ ฉันมอบหมายให้เขาหมดแล้ว ถ้าแกยากจะเช่าอยากจะซื้อ ก็ไปพูดกับเขาซะนะ”

พูดจบ เซี่ยซานก็ใช้ไม้ค้ำยันออกไปจากบ้าน

ช่ายเลี่ยงรู้สึกอับอายมาก ตาแก่นี่เจ้าคิดเจ้าแค้นจริงๆเลย แต่จะให้เขาคุยธุระกับเจ้าเด็กนี่จริงๆหรอ?

“พ่อผมพูดไม่ผิดหรอกครับ ตอนนี้ในบ้านผมเป็นเสาหลัก เถ้าแก่ช่ายมีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?”เซี่ยหยางนั่งลงตรงหน้าของช่ายเลี่ยง แล้วเอ่ยถามอย่างเรียบเฉย

“มีเรื่องนิดหน่อย”ช่ายเลี่ยงยื่นบุหรี่ไปให้เซี่ยหยางหนึ่งม้วน แล้วสูบไปสองคำ พูดขึ้นมาว่า“ฉันอยากจะเช่าที่ดินสองหมู่ของบ้านแกหน่อย ปีละห้าหมื่นหยวน ถ้าแกตกลงเราก็ทำสัญญากัน เงินพวกนี้ก็จะเป็นของแกทั้งหมด”

พูดจบ ช่ายเลี่ยงก็ผลักเงินสดห้าหมื่นหยวนไปอยู่ตรงหน้าของเซี่ยหยาง

ช่ายเลี่ยงรู้สึกเสียดายเล็กน้อย เพียงแต่ ถ้าไม่เช่าที่ดินของเจ้าเด็กนี่มา สวนของเขาก็ต้องจบกัน ช่วงนี้ร้านฝูหมั่นโหลวไม่ใช้ผักที่ไร่ของเขาแล้ว ร้านอาหารร้านอื่นก็มีลูกค้าประจำอยู่แล้ว ถึงจะอยากขายถูกๆออกไปก็คงไม่มีใครอยากได้หรอก

ช่ายเลี่ยงขายได้เฉพาะผักเล็กๆน้อยๆให้กับคนในเมืองทุกวัน ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป แปลงผักของเขาคงจะต้องเจ๊งแน่

หลังจากคิดไตร่ตรองไปมาก็รู้สึกว่าต้องโยนความผิดไปไว้ในมือของเซี่ยหยาง ไม่รู้ว่าเขาคิดวิธีนี้ได้อย่างไร ทำให้ร้านฝูหมั่นโหลวใช้ผักของเขาเพียงผู้เดียวให้ได้

เพราะฉะนั้น จึงมีเพียงแค่วิธีนี้แล้ว

เซี่ยหยางคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงพอรู้ความคิดของช่ายเลี่ยงคร่าวๆ เขาแสยะยิ้มขึ้นมา แล้วพูดไปว่า“เถ้าแก่ช่าย ลุงว่าแบบนี้ดีไหม?”

“เป็นยังไง?”ช่ายเลี่ยงสีหน้าดูดีใจมาก คิดว่าจะมีหวังอะไร

“ลุงเอาที่ดินสิบหมู่มาให้ฉันเช่า แล้วฉันจะให้ค่าเช่าหนึ่งแสนหยวนต่อปี”เซี่ยหยางพูดไปด้วยพลางยิ้มตาหยี“อีกทั้งลุงดูสิ ลุงอายุเยอะปูนนี้แล้ว ปีปีหนึ่งลุงก็ได้ไม่เท่าไหร่หรอก ทำไมเงินก้อนนี้ไปเล่นไพ่นกกระจอกกับจิบชาดีกว่า?”

“ฝันไปเถอะ!”ช่ายเลี่ยงโกรธไม่ใช่น้อย แล้วพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์“แปลงผักของฉันสร้างรายได้ปีละห้าหกแสนหยวน จะฉันเช่าออกไปด้วยเงินหนึ่งแสน แกฝันไปซะเถอะ!”

“ดูสิ ที่ดินสองหมู่ของผมมีมูลค่าผลผลิตสูงในหนึ่งปี ลุงอยากใช้เงินห้าหมื่นหยวนมาเช่าไป คิดว่าตัวเองฉลาด แล้วคนอื่นโง่รึไงกัน”เห็นช่ายเลี่ยงไม่พูดอะไร เซี่ยหยางก็พูดอย่างยิ้มต่อไปว่า“ลุงช่ายเถ้าแก่ช่าย งั้นเอางี้ดีกว่าฉันให้ลุงหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นเป็นไง?”

“แก!”

“หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นห้า?”

“หนึ่งแสนสองหมื่น?!”

“ไอ้เด็กเหี้ย!”ช่ายเลี่ยงทนไม่ได้อีกต่อไป เขารู้สึกว่าตัวเองถูกหยามเกียรติ เขาตบโต๊ะเสียงดัง เอาเงินไป แล้วด่ากราด“กูไม่เคยถูกใครรังแกแบบนี้มาก่อน หึ ไม่เช่าก็เรื่องของมึง!”

มองดูงช่ายเลี่ยงเดินจากไปด้วยความกระจัดกระจาย ในใจของเซี่ยหยาง เซี่ยหยางถึงกับถอนหายใจ แล้วพูดขึ้นมาว่า“เถ้าแก่ช่ายเดินช้าๆนะ มีเวลาก็เที่ยวที่บ้านบ่อยๆนะ!”

ช่ายเลี่ยงกลับมาถึงบ้านด้วยความเหนื่อยล้า เห็นช่ายยั่นลูกสาวยอดดวงใจกลับมา เขารีบเก็บความไม่สบอารมณ์ทุกอย่างทันที แล้วต้อนรับลูกสาวด้วยความอบอุ่น

“งานที่หมู่บ้านใกล้เคียงราบรื่นไหมลูก?หัวหน้ากับลูกน้องร่วมมือกันดีไหม?ได้กินข้าวตรงเวลารึเปล่า?ทำไมวันนี้ถึงมีเวลาว่างกลับมาได้ล่ะลูก?”ช่ายเลี่ยงที่ล้างมือแล้วเตรียมไปทำกับข้าวให้ลูกสาว ถามไถ่ด้วยความห่วงใย

“ไม่ดูแลตัวเองดีๆจะทำงานกับคนหมู่มากได้ยังไงล่ะคะพ่อ?”ช่ายเลี่ยงเข้าครัวไปเป็นลูกมือของพ่อตัวเอง หัวเราะพลางพูดขึ้นมาว่า“อีกไม่นานหนูก็จะได้ย้ายกลับมาประจำการที่ตำบลเฮยถู่แล้วนะคะ พรุ่งนี้หนูจะไปตรวจดูหมู่บ้านละแวกใกล้เคียง เพราะฉะนั้นคืนนี้หนูเลยกลับมาได้ ช่วงนี้ไม่มีคนดูแลพ่อ พ่อเอาแต่ดื่มเหล้าใช่ไหมคะ?”

หลังจากสองพ่อลูกพูดคุยกันได้สักพัก ช่ายยั่นก็เอ่ยถามว่า“พ่อคะ ช่วงนี้พ่อเจอเรื่องไม่สบายใจอะไรมารึเปล่าคะ?บอกหนูได้นะ ดูสิว่ามีวิธีจัดการยังไงบ้าง?”

ช่ายเลี่ยงกัดฟันแน่น ลูกสาวเป็นถึงกำนัน ปกติก็มีเรื่องให้ทำเยอะแยะอยู่แล้ว เขาจะบอกเรื่องรบกวนจิตใจของตัวเองให้กับลูกสาวได้อย่างไร?แต่ในเวลานี้เอง ในสมองของเขามีภาพใบหน้าของเซี่ยหยางไอ้เด็กอวดดีแวบขึ้นมา เขากัดฟันกรอด เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับลูกสาวฟังทั้งหมด

เช้าของวันที่สอง เซี่ยหยางเปลือยท่อนบนหว่านแหลงไปจากบนเรือ เบื่อจับปลาน้ำตื้นทุกวัน เลยอยากเล่นอย่างอื่นบ้าง แต่เสียดายลองมาสองสามครั้งแล้วไม่มีปลาเลย วันนี้มือจับปลาอย่างหลี่เอ้อนิ้วก็ไม่ได้มาด้วย ไปซื้อของที่ในตัวเมือง

เซี่ยหยางที่รู้สึกเซ็งๆจึงเก็บแหกลับไป เตรียมจะไปย่างปลากิน ในตอนนี้เอง พบเหลือบตามองไป ก็เห็นชายห้าหกคนมุ่งตรงมาหาตนเอง มองไปไกลๆสามารถมองเห็นชายหัวโล้นวัยกลางคนคนหนึ่ง

นี่มันช่ายเลี่ยงไม่ใช่หรอ?

“เถ้าแก่ช่าย วันนี้ลมอะไรพัดผู้อาวุโสอย่างลุงมาที่นี่งั้นหรอ!”เซี่ยหยางอดที่จะพูดเสียดสีตาแก่หน้าไม่อายอย่างช่ายเลี่ยงไม่ได้ ในเวลานี้เองเขายังมองเห็นผู้หญิงสองคนเดินอยู่ข้างๆเขา หนึ่งในนั้นเป็นสาวงามคนหนึ่ง“โอ้โห สาวสวยคนนี้ใครกันหรอ?หรือวันนี้ลุงจะใจดีมาแนะนำภรรยาให้กับผมน่ะ?”

“ไอ้เด็กเหี้ย หุบปากของแกเดี๋ยวนี้นะ!”ช่ายเลี่ยงอยากจะพุ่งเข้าไป ถ้าไม่ใช่ชายหลายคนที่ทำอาชีพเดียวกันกับเขาดึงไว้ เขาคงจะเขาไปซัดเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้แล้ว

“พ่อคะ ไปโมโหกับเด็กแบบนี้ทำไม?”ช่ายยั่ยพูดอย่างยิ้มๆ“หรือพ่อไม่คิดว่าหน้าตาของเด็กหนุ่มคนนี้ดึงดูดสายตาคนกัน?”

เมื่อพวกเขาพูดกัน มีคนไม่กี่คนที่มาถึงแม่น้ำแล้ว ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงยี่สิบเมตร ไม่ไกลกันนัก เซี่ยหยางเขาเข้าใจในสิ่งที่ช่ายยั่นพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ เขาแสยะยิ้มขึ้นมาแล้วพูดไปว่า“สาวสวยคนนี้พูดได้ไม่เลว พวกลุงจะข้ามแม่น้ำหรอ?ให้ผมพายเรือไปส่งไหม?”

“ใครต้องการเรือของแก!”ช่ายเลี่ยงวิ่งไปคลายปมเชือกของเรือไม้ที่อยู่ข้างๆสวนผักของตัวเองออก แล้วพูดขึ้นมาว่า“พวกเราก็มี”

หันกลับไป ช่ายเลี่ยงถึงพบว่าช่ายยั่นลูกสาวตัวเองกับเลขาได้ขึ้นรถของไอ้เด็กเวรนั่นไปแล้ว

“นี่ ยั่นจื่อ ระวังนะ ไอ้เด็กเวรนั่นมันโหดมากเลยนะลูก!อย่าตกลงน้ำไปล่ะ!”ช่ายเลี่ยงรีบเรียกชายหลายคนขึ้นเรือ แจวตามเรือของเซี่ยหยางไป“ไอ้หนุ่ม พายเรือให้นิ่งนะเว่ย ถ้าลูกสาวฉันตกน้ำไปฉันถลกหนังแกแน่ !”

“หล่อนเป็นลูกสาวของลุงหรอกเหรอ?ลุงมีลูกสาวสวยขนาดนี้ได้ไงกัน!”เซี่ยหยางพูดด้วยความตกใจ มองดูสาวสวยตรงหน้า แล้วหันกลับไปมองไอ้หัวโล้นอย่างช่ายเลี่ยง ใครจะไปคิดว่าตาแก่หน้าไม่อายอย่างเขาจะมีลูกสาวที่สวยได้ขนาดนี้?

“นี่ไอ้เด็กบ้าอย่าพูดมั่วๆนะ”ผู้หญิงอีกคนหนึ่งนั่งบนเรือซึ่งดูแก่กว่าเล็กน้อยหน้าตาธรรมดาๆ ยิ้ม“นี่คือคุณช่ายยั่น กำนันในตำบลเฮยถู่ของเรา”

เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร

เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร

Status: Ongoing

ที่ดินหลายไร่ เด็กในสังกัดเป็นโขยง เวลาทำสวนยุ่ง ผมดื่มโค๊กม่อสาวสวย เวลาไม่ยุ่ง พาสาวสวยเหล้าดอง อย่าขยับ สาวสวย ทำไมฟักทองอ่อนไปอยู่หน้านมหนูได้ล่ะ เงินทอง ที่ดิน สวน สาวสวย ราวกับสายน้ำพุ่งทะลักเข้ามาเป็นระลอกๆ พอกะลิ้มกะเหลี่ยอยู่ร่ำไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท