ตอนที่ 150 พี่สาว
ตอนที่ 150 พี่สาว
เหยาอี้หนิงพาเหยาจิ้งถงกับลุงเหยาตรงไปยังบ้านพักของเซี่ยเจ๋อหลี่ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ข้างในก็ทำได้เพียงรอพวกเขากลับมา
“แม่ ลุงเหยา ครอบครัวของเซี่ยเจ่อหลี่ออกไปข้างนอกแล้ว ให้ผมพาไปหาเซี่ยเจ๋อหลี่ก่อนไหม”
เหยาจิ้งถงไม่พูดอะไร แล้วหันไปมองลุงเหยาแทน
ลุงเหยาพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นรบกวนนายน้อยอี้หนิงตามตัวสหายมาให้หน่อย”
เซี่ยเจ๋อหลี่กำลังวุ่นอยู่กับการฝึกซ้อม เมื่อเห็นเหยาอี้หนิงมา จึงขมวดคิ้วย่น “มีอะไร?”
เมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาของเซี่ยเจ๋อหลี่ เหยาอี้หนิงก็ไม่นึกอยากเสวนากับเขา แต่ติดที่ตอนนี้ลุงเหยามาด้วย เขาจึงจำเป็นต้องพูด “นายจำลุงเหยาที่บอกว่าคุ้นหน้านายที่สถานีรถไฟได้ไหม ตอนนี้เขารอนายอยู่ตรงประตูหน้าบ้านพัก นายไปหาพร้อมฉันเถอะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเช่นนี้แต่ก็ยังนิ่งไม่ไหวติง พลางขมวดคิ้วก่อนจะพูดขึ้นว่า “พ่อบ้านตระกูลเหยาของพวกนายน่ะเหรอ มาหาฉันทำไม”
อันที่จริงเขาคาดเดาในใจได้แล้ว แต่มันกะทันหันไปนิดหน่อย พวกเขายังไม่ได้ตรวจสอบให้ละเอียดเลย คนตระกูลเหยากลับมาหาถึงหน้าประตูเสียแล้ว
เหยาอี้หนิงได้ยินดังนี้ จึงอดที่จะพูดบอกกล่าวเสียไม่ได้ “แน่นอนว่ามีธุระกับนาย ที่จริงแล้วพวกเขาไม่ได้มาหานายหรอก แต่อยากมาหาแม่นาย แต่แม่กับเมียนายไม่มีใครอยู่ที่บ้านกันเลย”
เสียงพูดคุยของทั้งสองไม่ค่อยเบานัก จึงทำให้สมาชิกในทีมของเซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินกันถ้วนหน้า พวกเขาทราบว่าหัวหน้าเซี่ยกับหัวหน้าเหยาขัดแย้งกันมาตลอด ไม่คิดว่าตอนนี้ทั้งสองจะกำลังพูดคุยกัน และเนื้อหาในบทสนทนาก็ยิ่งทำให้น่าฉงนเข้าไปใหญ่ว่าทำไมแม่ของหัวหน้าเซี่ยถึงเข้ามามีบทบาทด้วย
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อตามหาแม่ของตน จึงทราบได้ว่าพวกเขาคงพบอะไรบางอย่างแล้ว ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เซี่ยเจ๋อหลี่จึงหันไปบอกฟู่ซวี่ตง “ซวี่ตง นายช่วยดูหน่อยนะ เดี๋ยวฉันไปก่อน”
“ได้ นายรีบไปเถอะ”
ฟู่ซวี่ตงก็รู้สึกสงสัยเช่นกัน แต่จากสัญชาตญาณของเขากลับรู้สึกได้ว่านี่ต้องเป็นเรื่องใหญ่โตแน่นอน ตระกูลเหยาถึงกับมาหาแม่ของอาหลี่ ประกอบกับเหตุการณ์ตอนที่ลุงเหยาจ้องมองเซี่ยเจ๋อหลี่แล้ว เขาก็รู้สึกได้ว่าต้องมีบางสิ่งที่แอบแฝงจนน่าตกใจ
หลังจากเซี่ยเจ๋อหลี่ตามเหยาอี้หนิงกลับมา ก็พบว่าลุงเหยากับเหยาจิ้งถงยังรออยู่ตรงนั้น เขาเคยเจอลุงเหยามาก่อนและยังไม่เคยเจอเหยาจิ้งถง เพียงแต่เมื่อได้ยินเหยาอี้หนิงเรียกว่าแม่ เขาจึงทราบตัวตนของอีกฝ่ายได้ทันที
เหยาจิ้งถงเคยเห็นรูปถ่ายของเซี่ยเจ๋อหลี่แล้ว เพียงแต่ว่ามันดูไม่ชัดเท่าได้เห็นกับตา ประกอบกับจำภาพนายท่านเหยาสมัยที่ยังเป็นหนุ่มได้ ดังนั้นเมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ จึงนึกถึงนายท่านเหยาขึ้นมาทันที
เซี่ยเจ๋อหลี่แค่คนเดียวก็เหมือนเขามากอยู่แล้ว แล้วพี่สาวแสนดีของหล่อนจะหน้าเหมือนนายท่านเหยาขนาดไหนกัน
“เธอคืออาหลี่สินะ ฉันได้ยินอี้หนิงเล่าเรื่องเธอมาก่อน”
เหยาจิ้งถงก้าวเดินมาข้างหน้า ทักทายเซี่ยเจ๋อหลี่ด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยเจ๋อหลี่มองเหยาจิ้งถงสักครู่ ก่อนจะพยักหน้าเพื่อเป็นการเคารพทักทาย
เหยาอี้หนิงเห็นการแสดงออกของเซี่ยเจ๋อหลี่ก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันที ขนาดยังไม่ได้พากลับไปยังทำตัวเช่นนี้ หลังจากพากลับไปคงไม่เมินใส่พวกเขาเลยเหรอ
ไม่ต้องพูดถึงเหยาอี้หนิง แม้แต่เหยาจิ้งถงก็แทบจะรักษารอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้เสียไม่ได้ ในสายตาของหล่อน เซี่ยเจ๋อหลี่ยังเด็กแต่กลับทำตัวเช่นนี้
และลุงเหยาก็พูดได้ถูกจังหวะพอดี “สวัสดีครับ สหายเซี่ย ต้องขอโทษด้วยที่รบกวนคุณ ก่อนหน้านี้พวกเราเพิ่งพบอะไรบางอย่างว่าแม่ของคุณอาจจะเป็นคุณหนูใหญ่ที่หายตัวไปแห่งตระกูลเหยาครับ”
สีหน้าของเซี่ยเจ๋อหลี่ไม่ได้แปลกใจมากนัก เพียงแค่หยิบกุญแจออกมาเปิดประตูแล้วพูดว่า “พวกคุณเข้ามาข้างในก่อนเถอะครับ”
มีคนมากมายยืนอยู่ตรงหน้ประตู ไม่นานก็มีคนอยากรู้อยากเห็นมองเข้ามา
ลุงเหยาเห็นดังนี้ จึงเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ขอบคุณสหายเซี่ยมากขอรับ”
เมื่อเห็นลุงเหยาเดินเข้าไป เหยาจิ้งถงกับเหยาอี้หนิงก็ทำได้เพียงตามพวกเขาเข้าไปเช่นกัน
ครอบครัวที่อาศัยอยู่ใกล้ ๆ เห็นเซี่ยเจ่อหลี่กับคนอื่นเดินเข้าไปข้างใน ก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้
“คนที่เพิ่งเข้าไปด้วยอีกสองคนนั่นคือครอบครัวของหัวหน้าเหยาใช่ไหม เขาไม่ได้สนิทกับหัวหน้าเซี่ยขนาดนั้นไม่ใช่เหรอ”
“ใช่แล้ว ได้ยินว่าทั้งสองไม่ค่อยถูกกัน”
“แล้วสองคนเมื่อกี้ที่เข้าไปนั่นคือใครกัน?”
“เรื่องนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
หลายคนกำลังพูดคุยกันอย่างสงสัย และมีผู้รู้คนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ได้ยินมาว่าแม่ของหัวหน้าเหยาอยู่ที่นี่ ผู้หญิงที่สวมเสื้อขนสัตว์เมื่อกี้คือแม่ของหัวหน้าเหยาล่ะ ส่วนอีกคนที่ดูแก่กว่านั่นดูท่าจะไม่ใช่พ่อของหัวหน้าเหยาด้วยสิ ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร”
“นั่นเป็นแม่ของหัวหน้าเหยาจริงเหรอ ยังสาวขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย”
“แล้วพวกคุณเคยเห็นแม่ของหัวหน้าเซี่ยหรือยัง ดูสาวมากเหมือนกันนะ ได้ยินว่ามาจากชนบท แต่ดูไม่เหมือนคนชนบทเลย”
ไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา คนอื่นก็พูดตาม “ใช่แล้ว แม่ของหัวหน้าเซี่ยไม่เหมือนชาวชนบทเลย”
“โอ๊ย ตอนแรกก็เห็นพูดกันว่าภรรยาของหัวหน้าเซี่ยเป็นสาวบ้านนอกทั้งอ้วนทั้งน่าเกลียด แต่พวกคุณดูฉินมู่หลานสิ ไม่ได้อ้วนหรือน่าเกลียดตรงไหนเลย และก็ไม่เหมือนคนชนบทด้วย ครอบครัวของหัวหน้าเซี่ยดูดีทุกคนเลย”
“ใช่เลย”
หลังจากที่ทุกคนรวมตัวกันเพื่อพูดคุยไปได้สักพัก ก็พากันแยกย้ายไป
อีกด้านหนึ่ง หลังจากฉินมู่หลานพาเหยาจิ้งจือกับเซี่ยเหวินปิงเข้าเมืองเพื่อไปซื้อของแล้ว ก็รีบกลับมาทันที
เมื่อทุกคนกลับมาก็พบว่าพวกเขามีแขกอยู่ในบ้าน
ไม่รีรอให้ใครได้ทันพูดอะไร เหยาจิ้งถงก็รีบตรงปรี่เข้าไปด้วยสีหน้าตื่นเต้น ก่อนจะคงว้าจับข้อมือของเหยาจิ้งจือ แล้วเอ่ยเสียงดัง “พี่…ในที่สุดพวกเราก็ได้เจอพี่แล้ว”
เหยาจิ้งจือมองเหยาจิ้งถงด้วยความสับสน “คุณคือ?”
“พี่ ฉันชื่อจิ้งถง เป็นน้องสาวพี่ค่ะ”
ฉินมู่หลานเห็นเหยาจิ้งถงจับมือเหยาจิ้งจือเอาไว้ จึงก้าวเดินไปข้างหน้าแล้วคว้าตัวเหยาจิ้งจือมาหลบไว้ข้างหลัง ขณะเดียวกันก็สลัดมือของเหยาจิ้งถงออก
เหยาจิ้งถงโดนผลักออกอย่างกะทันหัน นัยน์ตาจึงขุ่นมัวขึ้นทันที แต่ไม่นานนักก็หันมายกยิ้มให้ฉินมู่หลานแล้วพูดขึ้น “เธอเป็นลูกสะใภ้ของพี่ใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเธอก็ควรเรียกฉันว่าน้านะ”
“คุณน้าท่านนี้ ถึงแม่สามีของฉันจะอยากตามหาครอบครัวของตัวเอง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรแน่นอนนะคะ แล้วคุณน้ารู้ได้ยังไงว่าแม่สามีของฉันเป็นพี่สาวของคุณน้า”
ตอนแรกเหยาจิ้งถงไม่ได้อยากตามหาเหยาจิ้งจือ แต่เมื่อแวบแรกที่เห็นเหยาจิ้งจือ หล่อนก็มั่นใจได้ทันทีว่านี่คือลูกสาวของนายท่านเหยาและคุณนายเหยาที่พลัดหลงไปในตอนนั้น
ในตอนนี้ ลุงเหยาค่อย ๆ ก้าวเข้าไปข้างหน้าทีละก้าว ดวงตาเปียกชื้นขึ้นนิดหน่อย ก่อนจะมองเหยาจิ้งจือราวกับหลุดไปในภวังค์
หากเซี่ยเจ๋อหลี่เหมือนนายท่านเหยากับคุณนายเหยาตอนยังหนุ่มสาว เช่นนั้นเหยาจิ้งจือก็คือแม่พิมพ์เดียวกันกับนายท่านเหยา ลูกสาวช่างหน้าเหมือนพ่อเหลือเกิน ช่างเหมือนเหลือเกิน
“คุณหนูจือจือ”
เมื่อได้ยินลุงเหยาเรียก เหยาจิ้งจือก็ตกตะลึง รู้สึกเพียงว่าคุ้น ๆ “คุณ…”
“ผมคือลุงเหยานะครับ”
“ลุงเหยา…”
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เจอหน้ากันแล้ว แม่พี่หลี่จะจำคนที่บ้านได้ไหมนะ
ไหหม่า(海馬)