ตอนที่ 154 คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเหยา
ตอนที่ 154 คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเหยา
ใบหน้าของเริ่นม่านลี่หม่นลงทันที เหยาจิ้งถงที่อยู่ด้านข้างก็สีหน้าไม่ค่อยดีเช่นกัน เหยาอี้หนิงผู้เป็นลูกชายมีอายุไล่เลี่ยกันกับเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วยังแต่งงานเร็วกว่า แต่ภรรยาของเซี่ยเจ๋อหลี่กลับตั้งครรภ์ลูกแฝด ในขณะที่เริ่นม่านลี่ยังไม่ถึงไหน เมื่อคิดได้เช่นนั้นก็อดเหลือบมองเริ่นม่านลี่เสียไม่ได้
เริ่นม่านลี่ยังคงจ้องมองฉินมู่หลานอยู่ จึงไม่ทันได้เอะใจ
แต่ถึงอย่างนั้น ฉินมู่หลานก็อ่านแววตาและท่าทางการแสดงของทุกคนได้ เธอเห็นคุณนายเหยาดีใจ จึงยกยิ้มบนใบหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “คุณนาย อาหลี่กับหนูโชคดีตั้งท้องทันทีตั้งแต่แต่งงาน ต่อไปก็หวังว่าจะได้คลอดลูกตามกำหนดค่ะ”
ถึงแม้ว่าครรภ์ฝาแฝดจะมีแนวโน้มที่ต้องคลอดก่อนกำหนดก็ตาม แต่ฉินมู่หลานก็หวังให้เด็กทั้งสองคลอดครบกำหนด
คุณนายเหยาได้ยินสิ่งที่ฉินมู่หลานพูด จึงรีบพูดทันที “ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน” ขณะที่พูดก็อดไม่ได้ที่จะมองแล้วพูดต่อ “เธอเป็นหลานสะใภ้ฉัน จะมาเรียกว่าคุณนายอะไรกัน เรียกฉันว่าคุณยายสิ”
ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้ จึงเอ่ยเรียกด้วยความอัธยาศัยดี “ได้ค่ะ คุณยาย” ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
เมื่อเห็นฉินมู่หลานเอ่ยเรียก คุณนายเหยาก็ได้แต่รู้สึกมีความสุขมาก แต่ด้วยความที่ไม่มีอะไรในมือมอบให้ นางจึงรีบสั่งให้ลุงเหยาไปเตรียมของมาอีก
นายท่านเหยาเห็นฉินมู่หลานเรียกภรรยา ก็มองไปด้วยสายตาคาดหวัง อยากได้ยินเธอเรียกว่า ‘คุณตา’ เช่นกัน
ฉินมู่หลานเห็นนายท่านเหยามองมาที่ตัวเอง จึงเอ่ยเรียก ‘คุณตา’ ด้วยความดีใจ
“เอ้อ…”
นายท่านเหยาขานรับด้วยความปรีดา ได้แต่คิดว่าหลานสะใภ้คนนี้ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน ไม่เพียงแค่สวยเท่านั้น มารยาทก็ดี มีวิจารณญาณมากด้วย
เมื่อคิดได้เช่นนั้น นายท่านเหยาก็อดที่จะหันมองเหยาจิ้งจือกับเซี่ยเจ๋อหลี่เสียไม่ได้ อยากได้ยินพวกเขาเอ่ยเรียกด้วยเช่นกัน
เซี่ยเจ่อหลี่เห็นภรรยาของตนเรียกไปแล้ว เขาจึงเอ่ยขึ้นเช่นกัน “คุณตา คุณยาย”
“ดี ดี”
นายท่านเหยาเห็นหลานชายเก่งแบบนี้ ก็รู้สึกมีความสุขมาก คุณนายเหยาที่อยู่เคียงข้างก็มีความสุขมากเช่นกัน และเมื่อลุงเหยากลับมาแล้ว นางก็มอบของขวัญให้เซี่ยเจ๋อหลี่กับฉินมู่หลานทันที “อาหลี่ มู่หลาน นี่เป็นของขวัญที่ได้มาเจอกันที่ตากับยายมอบให้ รีบรับไปเร็วเข้า”
เซี่ยเจ๋อหลี่กับฉินมู่หลานไม่ได้มีปฏิกิริยาแต่อย่างใด เพียงแค่ยอมรับไว้อย่างนอบน้อม
ในขณะนี้เองสีหน้าของเหยาอี้หนิงกับเริ่นม่านลี่ก็ดูไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากสิ่งที่คุณนายเหยามอบให้นั้นคือจี้หยกมังกรคู่ ก่อนหน้าพวกเขาอยากได้จี้หยกทั้งสองอันนี้ แต่คุณนายเหยากลับไม่ให้ ไม่คิดว่าจะให้เซี่ยเจ๋อหลี่กับฉินมู่หลาน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เหยาอี้หนิงกับเริ่นม่านลี่ก็พากันกำหมัดแน่น รู้สึกเพียงว่าคุณนายเหยาไม่ได้มองพวกเขาเป็นหลานเลย แน่นอนว่าลูกบุญธรรมย่อมได้รับการเลี้ยงดูแตกต่างจากลูกแท้ ๆ อยู่แล้ว แต่พวกเขากลับลืมไปแล้วว่าตอนที่พวกเขาแต่งงาน คุณนายเหยาก็ได้มอบสิ่งของดี ๆ ให้ตั้งมากมาย
เหยาจิ้งถงเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตา แววตาจึงเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง เพียงแต่ซ่อนเอาไว้ดีมาก จึงไม่ได้พูดอะไร แต่กลับหันไปพูดกับคุณนายเหยาด้วยวาจาติดตลกแทน “แม่คะ อาหลี่กับมู่หลานได้ของขวัญที่ได้มาพบกัน แล้วพี่กับพี่เขยทำไมไม่มีล่ะ แม่สองมาตรฐานหรือเปล่าเนี่ย”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ คุณนายเหยาก็หันไปพูดกับเหยาจิ้งถงพร้อมรอยยิ้ม “แกก็ใจร้อนไป แน่นอนว่าแม่เตรียมของขวัญเอาไว้ให้พี่สาวกับพี่เขยแกด้วย” นางเห็นเหยาจิ้งถงดูใส่ใจเหยาจิ้งจือมาก จึงรู้สึกโล่งใจ ตอนแรกยังกลัวว่าเมื่อได้เจอกันแล้วลูกสาวแท้ ๆ ทั้งสองจะบาดหมางกัน แต่กลายเป็นว่าสองพี่น้องกลับเข้ากันได้ดี เช่นนั้นนางก็โล่งใจแล้ว
แม้แต่นายท่านเหยาก้หันมองเหยาจิ้งถงด้วย การแสดงออกของหล่อนค่อนข้างน่าพอใจ
เหยาจิ้งจือไม่คิดว่าหล่อนกับสามีจะได้ด้วย และตอนนี้ก็เห็นความคาดหวังส่งผ่านมาจากนายท่านเหยากับคุณนายเหยาด้วย อยากได้รับการยอมรับว่าเป็นพ่อแม่แท้ ๆ จึงไม่ลังเล แล้วรีบเอ่ยขึ้นเสียงดัง “พ่อ แม่”
เซี่ยเหวินปิงที่อยู่ด้านข้างก้เอ่ยเรียกว่า ‘พ่อ แม่’ เช่นกัน
เพียงแต่สายตาของผู้อาวุโสทั้งสองต่างจับจ้องไปที่เหยาจิ้งจือ ไม่ได้หันมองเซี่ยเหวินปิงเลย เมื่อทั้งสองเห็นลูกสาวเอ่ยเรียกพวกเขาในที่สุด ดวงตาก็แดงก่ำด้วยความดีใจ สุดท้ายก็มอบของขวัญเนื่องในโอกาสที่ได้มาเจอกันให้เพื่อแสดงน้ำใจ
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้หันมองลูกเขยคนนี้เลย แต่ผู้อาวุโสทั้งสองก็ไม่ทอดทิ้งเซี่ยเหวินปิงแล้วมอบของขวัญให้ด้วย เพียงแต่สิ่งที่มอบให้กับเซี่ยเหวินปิงเป็นซองสีแดงขนาดใหญ่ นอกนั้นก็ไม่มีอย่างอื่นอีกแล้ว
ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่เห็นดังนั้นจึงพากันขมวดคิ้ว แต่ซองแดงนั้นค่อนข้างใหญ่ ถือได้ว่าเป็นความปรารถนาของผู้อาวุโสทั้งสอง พวกเขาจึงไม่ได้พูดอะไรมาก
เหยาจิ้งถงเห็นผู้อาวุโสทั้งสองไม่เห็นเซี่ยเหวินปิงอยู่ในสายตา แววตาจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ถึงแม้ว่าเหยาจิ้งจือจะเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของท่านทั้งสอง แต่หล่อนหายไปนานมาก ตอนนี้จึงเทียบกับหล่อนไม่ได้เลย ไม่ต้องพูดเลยว่าตอนนี้เหยาจิ้งจือดูเหมือสาวบ้านนอกแค่ไหน แค่สามีของหล่อนก็เทียบอะไรกับสามีของตัวเองไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าสามีจะแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง แต่ตอนนี้ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองนายกเทศมนตรีแล้ว จึงไม่ต้องเทียบกับชาวไร่ชาวนาอย่างเซี่ยเหวินปิงเลย
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เหยาจิ้งถงก็รู้สึกดีไม่น้อย
หลังจากนั้นนายท่านเหยากับคุณนายเหยาก็กักตัวเหยาจิ้งจือไว้ให้พูดคุยด้วยอยู่เป็นเวลานาน และขอให้ลุงเหยาพาทุกคนไปหาห้องให้เรียบร้อย
เมื่อมองห้องทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้า เหยาจิ้งจือก็อดที่จะหันไปมองแล้วเอ่ยถามลุงเหยาเสียไม่ได้ “ที่นี่ให้พวกเราพักได้หมดเลยเหรอคะ?”
ลุงเหยายิ้มแล้วพยักหน้า “ใช่ครับคุณหนูใหญ่ ที่นี่ให้พวกครอบครัวของคุณหนูพัก พวกคุณอยากจะพักห้องไหน ก็เลือกได้ตามใจชอบเลย หลังจากเลือกเสร็จแล้ว ผมจะให้คนเอาของมาเพิ่มให้”
“อ๋อ ๆ ค่ะ”
เหยาจิ้งจือมองดูทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ก็ได้แต่รู้สึกว่ามันช่างแตกต่างจากความเป็นอยู่ก่อนหน้านี้มาก
เซี่ยเหวินปิงมองห้องพักที่อยู่ตรงหน้าก็รู้สึกตกตะลึงเช่นกัน ในขณะเดียวกันก็รู้สึกด้อยค่าตัวเองนิดหน่อยเมื่อทราบว่าพ่อแม่แท้ ๆ ของเหยาจิ้งจือรวยมาก แต่ชีวิตที่เขาเลี้ยงดูจิ้งจือมาก่อนหน้านี้มีเพียงอาหารมื้อธรรมดา ไม่อาจกินเนื้อสัตว์ได้ทุกวัน จิ้งจือคงทุกข์ทรมานที่ได้แต่งงานกับเขา
เหยาจิ้งจือมองออกว่าเซี่ยเหวินปิงกำลังด้อยค่าตัวเอง จึงยกยิ้มแล้วพูดกับเขา “เหวินปิง พวกเราไปดูห้องกันเถอะ”
“อ้า ได้”
เซี่ยเหวินปิงเห็นเหยาจิ้งจือเป็นแบบนี้ สุดท้ายจึงรู้สึกดีขึ้นอยู่ไม่น้อย
เซี่ยเจ๋อหลี่กับฉินมู่หลานก็ไปดูห้องด้วยเหมือนกัน สุดท้ายก็เลือกห้องทางปีกขวา “อาหลี่ ห้องนี้ดีมาก พวกเราเลือกห้องนี้กันเถอะ”
“ได้สิ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ยอมตามใจภรรยาอยู่แล้ว แต่เมื่อนึกถึงทัศนคติของตระกูลเหยาที่มีต่อพ่อ จึงอดถอนหายใจเสียไม่ได้ “ถึงจะเจอพ่อแม่แท้ ๆ แต่พวกเขาก็กลับดูถูกพ่อ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ผมว่าพ่อกับแม่คงได้มีปัญหากันแน่เลย”
ฉินมู่หลานพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะพูด “ใช่” ขณะที่เอ่ยก็หันมองเซี่ยเจ๋อหลี่ “นอกจากทำไร่ทำนาแล้ว พ่อทำอย่างอื่นอีกไหม?”
“อันที่จริงพ่อทำงานช่างเป็น เขาเก่งพวกงานฝีมือมาก แค่เพราะเป็นคนชนบท จึงไม่ค่อยได้จับพวกเฟอร์นิเจอร์เท่าไหร่ การทำไร่ทำนาจึงเป็นประโยชน์มากกว่า อย่างน้อยก็ได้กินอิ่มท้อง”
ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้ จึงเอ่ยพร้อมครุ่นคิด “ถ้าพ่อทำมีฝีมือการทำงานช่าง ต่อไปก็ทำเงินได้แน่นอน”
ประเทศจะเริ่มปฏิรูปในปีหน้าแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นธุรกิจจะรุ่งเรืองเหมือนดอกเห็ดงอกเงยหลังช่วงฝนตก ขอแค่คว้าโอกาสนี้ไว้ เพียงแต่ว่า…สำหรับคนอย่างตระกูลเหยา บางทีแค่หาเงินได้คงไม่พอ สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือสถานะอันสูงศักดิ์
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเช่นนี้ จึงลูบหัวฉินมู่หลานแล้วพูดขึ้น “มู่หลาน คุณไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นหรอก ดูแลลูกน้อยให้ดีก็พอ”
“อืม”
ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่เลือกห้องแล้ว
เหยาจิ้งจือกับเซี่ยเหวินปิงก็เลือกแล้วเช่นกัน ทั้งสองเลือกห้องนอนใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง ห้องค่อนข้างกว้างขวาง สุดท้ายลุงเหยาก็ให้คนนำเฟอร์นิเจอร์กับของทุกอย่างมาวางตกแต่งให้เรียบร้อย แล้วให้คนเข้าพักกันได้ เหมือนอยู่บ้านตัวเอง
อีกด้านหนึ่ง เหยาจิ้งถงพาเหยาอี้หนิงไปยังบ้านของยินอวี่โหรว
เมื่อเหยาจิ้งถงเข้ามาถึงลานหน้าบ้าน ก็อดที่จะพูดเสียไม่ได้ “แม่ พวกเหยาจิ้งจือมาถึงเมืองหลวงแล้ว แม่ไม่เห็นท่าทางของพวกนายท่านเหยาที่ได้เจอครอบครัวของเหยาจิ้งจือเหรอ อีกสองวันก็จะจัดงานเลี้ยงรับรองให้เหยาจิ้งจือด้วย ถึงตอนนั้นพอทุกคนรู้กันแล้วว่าตระกูลเหยาเจอลูกสาวคนโตแล้ว ก็จะรู้ว่าฉันเป็นแค่ตัวปลอม”
เหยาอี้หนิงที่ยืนอยู่ด้านข้างจ้องมองคุณยายอย่างใจจดใจจ่อ
ยินอวี่โหรวยิ้มก่อนจะโบกมือให้ทั้งสอง แล้วพูดขึ้น “เอาเถอะ พวกแกนั่งลงก่อน ไม่ต้องกังวลไป ถึงเหยาจิ้งจือกลับมาแล้วก็ไม่ได้เป็นปัญหาหรอก ยกเว้นลูกชายของหล่อนที่ชื่อเซี่ยเจ๋อหลี่นั่น แล้วก็ยังมีลูกชายคนโตกับลูกสาวคนเล็กอีกด้วย ฉันส่งคนไปรับทั้งสองคนแล้วล่ะ”
“อะไรนะ…แม่ ทำไมแม่ถึงส่งคนไปรับล่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้น สมาชิกในครอบครัวของเหยาจิ้งจือทุกคนก็จะมาอยู่ที่นี่ ถ้าอย่างนั้นฉันกับอี้หนิงก็ไม่มีที่อยู่ในตระกูลเหยาน่ะสิ”
ยินอวี่โหรวเม้มปากยิ้ม แล้วเอ่ย “นอกจากลูกชายคนเล็กของเหยาจิ้งจือที่มาที่นี่ อีกสองคนเป็นพวกบ้านนอกของแท้เลย ไร้ประโยชน์มาก แกคิดว่าหลังจากเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นจะเป็นยังไงล่ะ”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ปัญหาเริ่มมาแล้วสิ ญาติช่างเสี้ยมมันจะพาทุกคนมาที่นี่แล้ว
ไหหม่า(海馬)