ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 156 คนตระกูลเซี่ยมาอยู่ที่นี่

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 156 คนตระกูลเซี่ยมาอยู่ที่นี่

ตอนที่ 156 คนตระกูลเซี่ยมาอยู่ที่นี่

เมื่อคุณนายเหยาเห็นลูกสาวกับครอบครัวมา นางก็รีบโบกมือให้พวกเขาทันที ก่อนจะพูดขึ้น “จือจือ พวกลูกมาได้ทันเวลาพอดีเลย มา เดี๋ยวแม่จะแนะนำคนให้ลูกรู้จัก นี่คือน้าเล็กของลูก”

หลังจากเอ่ย นางก็หันมองยินอวี่โหรวอีกครั้ง แล้วพูดขึ้น “อวี่โหรว นี่จือจือหลานเธอนะ ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าเราจะได้เจอจือจือ มันยอดเยี่ยมเหลือเกิน”

ยินอวี่โหรวหันมองเหยาจิ้งจือด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แล้วพูดขึ้น “จือจือนี่เอง หน้าเหมือนตอนเด็กๆ เลย”

พูดจบนางก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปหาเหยาจิ้งจือ จับมือหล่อนไว้แล้วพูดขึ้น “นี่เป็นเรื่องน่ายินดีทีเดียว ในที่สุดจือจือของพวกเราก็กลับมาแล้ว ตอนเธอยังเด็กฉันก็เคยอุ้มเธอด้วยนะ”

เห็นท่าทางใจดีของยินอวี่โหรว เหยาจิ้งจือจึงยกยิ้มแล้วเรียกนางว่า ‘น้าเล็ก’ แต่เมื่อหล่อนอยากเอ่ยพูดอะไรบางอย่างต่อ ฉินมู่หลานก็ก้าวเดินไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้น “ท่านผู้นี้คือคุณยายเล็กใช่ไหมคะ หนูเคยได้ยินคุณยายเล่าให้ฟัง ยายหน้าตาคล้ายกับน้าจิ้งถงมากเลยนะคะ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ แววตาของยินอวี่โหรวก็เป็นประกายวาบ

นี่กำลังย้ำเตือนนางว่าเหยาจิ้งถงเป็นลูกสาวของตนไม่ใช่ลูกสาวของคุณนายเหยาอย่างนั้นใช่ไหม? ลูกสะใภ้ของเหยาจิ้งจือคนนี้ยังสาวแต่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์พอตัวทีเดียว เพียงแต่ตอนนี้นางไม่อาจพูดอะไรได้ ทำได้เพียงเอ่ยยิ้มรับ “ใช่แล้วล่ะ จิ้งถงดูเหมือนฉันมาก เช่นเดียวกับอวี่เจินนั่นแหละ เพราะเราสองคนเป็นพี่น้องกัน”

นี่เป็นเรื่องจริง เหยาจิ้งถงกับคุณนายเหยาดูคล้ายกันมากโดยเฉพาะช่วงดวงตา ส่วนเซี่ยเจ๋อหลี่กับเหยาอี้หนิงก็ดูเหมือนแม่ของพวกเขาทั้งคู่ นั่นเป็นสาเหตุที่ฉินมู่หลานคิดว่าดวงตาของเซี่ยเจ๋อหลี่กับเหยาอี้หนิงมีความคล้ายกันมาก

คุณนายเหยาได้ยินดังนี้ก็ยกยิ้มแล้วหันไปพูดกับฉินมู่หลาน “ใช่จ้ะ จิ้งถงเหมือนยายมากด้วยเหมือนกัน” หลังจากนั้นก็เอ่ยแนะนำเซี่ยเจ๋อหลี่กับฉินมู่หลาน สุดท้ายก็แนะนำเซี่ยเหวินปิง

ยินอวี่โหรวได้ยินก็หันไปมองและยิ้มให้เซี่ยเหวินปิง ก่อนจะพูดขึ้น “นี่สามีของจิ้งจือเหรอ ดูใจดีมากเลยนะ”

เย็นวันนี้จินหยวนซานสามีของเหยาจิ้งถงก็อยู่ที่นั่นด้วย เมื่อเห็นเซี่ยเหวินปิงเช่นนี้ สายตาก็เต็มไปด้วยความดูถูก ตอนแรกเขากลัวว่าหากนายท่านเหยาเจอลูกสาวแท้ ๆ แล้วจะมีปัญหา แต่หลังจากได้เจอเซี่ยเหวินปิงกับเหยาจิ้งจือที่ดูเหมือนคนบ้านนอกแบบนี้แล้วเขาก็สบายใจขึ้นมาก ต่อให้เขาจะไม่ใช่ลูกเขยของตระกูลเหยา แต่เซี่ยเหวินปิงก็เทียบเขาไม่ติดสักนิด

เซี่ยเหวินปิงรับรู้ถึงได้ถึงสายตาของทุกคนที่จับจ้องมาที่เขา ในใจพลันรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่าตัวเอง แต่ก็พยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ เขาจะทำให้จิ้งจือรู้สึกอับอายขายขี้หน้าไม่ได้เด็ดขาด

แต่แล้วก็ไม่มีใครจ้องมองเซี่ยเหวินปิงอีก ตอนนี้สายตาของยินอวี่โหรว เหยาจิ้งถง และจินหยวนซานต่างจับจ้องไปที่เซี่ยเจ๋อหลี่กับฉินมู่หลาน เหยาจิ้งจือกับเซี่ยเหวินปิงไม่มีอะไรให้ต้องเป็นกังวล เพราะคนที่ต้องใส่ใจคือเซี่ยเจ๋อหลี่กับฉินมู่หลานสองสามีภรรยา ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

เซี่ยเจ่อหลี่กับฉินมู่หลานได้เจอยินอวี่โหรวกับจินหยวนซานเป็นครั้งแรก ทั้งสองก็ไม่ได้แสดงกิริยากระด้างกระเดื่องอะไร เอ่ยทักทายอย่างสุภาพนอบน้อม

ยินอวี่โหรวเอ่ยทักทายพวกเขากลับด้วยรอยยิ้ม นอกจากนี้ก็ได้มอบของขวัญเนื่องในโอกาสที่ได้มาพบกันให้ด้วย

จินหยวนซานก็ยกยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน เพียงแต่ไม่เตรียมของขวัญอะไรมา

คุณนายเหยาเห็นเช่นนี้จึงขมวดคิ้วนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วเชิญให้ทุกคนนั่งลงแทน “เอาล่ะ ตอนนี้ทุกคนก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว พวกเรารีบนั่งกันเถอะ อาหารจากในครัวกำลังจะมาแล้ว”

หลังจากทุกคนนั่งลงแล้ว อาหารก็มาถึงในไม่ช้า

ตอนนี้ฉินมู่หลานมีความอยากอาหารค่อนข้างดี จึงรับประทานไปไม่น้อย

คุณหญิงเหยารู้สึกมีความสุขเมื่อเห็นฉินมู่หลานกินเยอะมาก “มู่หลาน เธอควรกินเยอะกว่านี้อีกนะ ยังอยากกินอะไรอีกไหม เดี๋ยวฉันสั่งให้ในครัวทำให้อีก”

ฉินมู่หลานได้ยินดังนี้จึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณยายคะ อาหารมีเยอะมาก หนูกินไม่ไหวหรอกค่ะ และอาหารพวกนี้ก็เป็นของโปรดหนูทั้งนั้น เพราะฉะนั้นไม่ต้องให้ทำเพิ่มแล้วล่ะค่ะ”

เมื่อเห็นฉินมู่หลานรับประทานอย่างมีความสุขเช่นนี้แล้ว คุณนายเหยาจึงไม่พูดอะไรอีก

เริ่นม่านลี่แอบชำเลืองมองฉินมู่หลาน แววตาเต็มไปด้วยความหดหู่ แต่ก่อนตอนกินข้าวเย็นที่บ้าน ทั้งนายท่านเหยากับคุณนายเหยาต่างเอาใจใส่หล่อนกันหมด แต่ตอนนี้ทุกคนกลับสนใจเพียงฉินมู่หลาน ไม่แม้แต่จะถามหล่อนเลยสักคำ

ส่วนเหยาอี้หนิงเพิ่งทะเลาะกับเริ่นม่านลี่ จึงไม่ปรายตามองหน้าภรรยาของตนเลยสักนิด ได้แต่รับประทานอาหารเงียบ ๆ

เหยาจิ้งถงสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างระหว่างลูกชายกับลูกสะใภ้ จึงเอ่ยถามขึ้น “อี้หนิง แกกับม่านลี่ทะเลาะกันเหรอ ทำไมไม่เห็นพูดกันเลย”

เหยาอี้หนิงไม่ได้พูดอะไร ขณะที่เริ่นม่านลี่กล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “แม่คะ พวกเราไม่ได้ทะเลาะกันหรอกค่ะ พวกเรายังดีกันอยู่” ขณะเอ่ยก็แอบชำเลืองมองเหยาอี้หนิง

เหยาอี้หนิงก็ไม่อยากทะเลาะกับหล่อนต่อหน้าผู้คนมากมาย นอกจากนี้เซี่ยเจ๋อหลี่ยังอยู่ที่นี่ด้วย เขาจะเสียหน้าต่อหน้าอีกฝ่ายไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงเอ่ยเสริม “ใช่ครับแม่ พวกเราไม่ได้ทะเลาะกัน แม่ดูผิดแล้ว”

เหยาจิ้งถงรู้สึกเสียใจที่เปิดปากถามออกไปเช่นนั้น เดิมทีหล่อนคิดว่าในบ้านตอนนี้มีแค่ผู้อาวุโสทั้งสองกับพวกเขา แต่ตอนนี้มีครอบครัวของเหยาจิ้งจือมาร่วมด้วย หากลูกชายกับลูกสะใภ้ทะเลาะกันจริง อย่างนั้นคงเป็นเรื่องน่าอายต่อหน้าคนจำนวนมากไม่ใช่เหรอ

ขณะที่เหยาจิ้งถงกำลังจะพูดอะไร เสียงจากข้างนอกก็ดังเข้ามา

นายท่านเหยาเห็นสิ่งนี้ก็ขมวดคิ้วฉับ หันไปบอกลุงเหยา “เหยาซาน นายไปดูหน่อยสิว่าข้างนอกมีอะไร”

“ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”

ลุงเหยารีบออกไปทันที และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าแปลกพิกล

เมื่อนายท่านเหยาเห็นลุงเหยากลับมาแล้ว ก็รีบเอ่ยถามทันที “ข้างนอกเกิดอะไรขึ้น?”

ลุงเหยาไม่ได้ตอบในทันที และหันไปหาเหยาจิ้งจือก่อนจะพูดขึ้น “คุณหนูจือจือครับ ลูกชายคนโตกับลูกสาวคนเล็กของคุณหนูมาแล้วครับ”

“อะไรนะ…”

เหยาจิ้งจือถึงกับสงสัยว่าตนเองหูฝาดไป “คุณลุงกำลังบอกว่า…เจ๋อเหว่ยกับเจ๋อน่ามาที่เมืองหลวงเหรอ?”

“ใช่ครับ พวกเขาทั้งครอบครัวมาที่นี่หมดแล้ว”

ไม่รีรอให้เหยาจิ้งจือได้พูดอะไร คุณนายเหยาก็เอ่ยอย่างมีความสุข “เหยาซาน ถ้าอย่างนั้นนายยังยืนทำอะไรอยู่เล่า รีบไปรับลูกอีกสองคนของจือจือเข้ามาสิ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ลุงเหยาก็เดินออกไปรับคนข้างหน้า

ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ถึงกับหันมองหน้ากัน มีบางอย่างน่าสงสัยว่าพวกพี่ใหญ่ทราบเรื่องได้อย่างไร กว่าจะรู้ตัวพวกเขาก็มาถึงเมืองหลวงกันแล้ว พวกเขายังไม่ได้บอกพี่ใหญ่เลย แต่พวกเขามากันเองเสียแล้ว เซี่ยเจ๋อน่าเองก็มาด้วย ไม่รู้ว่าทราบเรื่องนี้กันได้อย่างไร

ลุงเหยาจัดการทุกอย่างได้ว่องไวมาก ไม่นานครอบครัวของเซี่ยเจ๋อเหว่ยกับคู่ของเซี่ยเจ๋อน่าก็เข้ามา

คนกลุ่มหนึ่งเดินติดตามหลังลุงเหยา หันมองโดยรอบอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่มาถึงที่นี่ก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าแม่ของพวกเขาจะมีภูมิหลังเช่นนี้ นี่คือสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดฝันมาก่อน

หลังจากรอสักพัก เซี่ยเจ๋อเหว่ยกับหลี่เสวี่ยเยี่ยนก็มองเห็นเหยาจิ้งจือกับคนอื่น ๆ ทั้งสองจึงก้าวเดินเข้าไปข้างหน้าด้วยสีหน้าตื่นเต้นแล้วเอ่ยเรียก “มู่หลาน อาหลี่ พวกเธอก็อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอเนี่ย”

เหยาจิ้งจือกับฉินมู่หลานหันไปยิ้มแล้วพูดขึ้น “ใช่แล้ว พวกเราเพิ่งมาถึง”

เมื่อพูดจบ ทั้งสองก็ได้ถามพวกเขาว่าทราบข่าวนี้มาจากที่ใด

แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ถามออกไป เหยาจิ้งถงก็ลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยพูดอย่างกระตือรือร้น “พวกเธอยังไม่ได้กินข้าวกันใช่ไหม เร็วเข้า มานั่งกันสิ”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ต้องเป็นแม่เฒ่าสารพัดพิษแน่นอนที่เป็นคนสั่งให้กระจายข่าว มู่หลานน่าจะพอดูออกแล้วว่าใครน่าจะมีแผนร้าย

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท