ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 169 สีหน้าหนักใจ(1)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 169 สีหน้าหนักใจ(1)

ตอนที่ 169 สีหน้าหนักใจ(1)

ยินอวี่โหรวจ้องมองฉินมู่หลาน ก่อนจะพยักหน้าแล้วพูด “ใช่แล้ว ครอบครัวพี่สาวแสนดีของแกเป็นคนซื่อ แต่ก็ยังมีคู่นี้อยู่ หากเป็นเช่นนั้นจริง…ตระกูลก็จะให้ความสนใจพวกเขา”

เหยาจิ้งถงพยักหน้าด้วยความเข้าใจถ่องแท้

ตระกูลเซี่ยคนอื่นมีการแสดงออกอย่างชัดเจน มีแค่ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่เท่านั้นที่คาดเดาไม่ได้ นางจึงไม่สามารถมองข้ามได้ ยิ่งมองดูตอนนี้ก็พบว่าฉินมู่หลานยอดเยี่ยมมาก กระทั่งผู้อำนวยการเถายังมีท่าทางเปลี่ยนเป็นกระตือรือร้นอย่างมาก

“โชคดีที่พวกเขาจะออกเดินทางพรุ่งนี้”

“ชิ…แกเชื่อเหรอว่าพวกเขาจะไปจริง”

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นแม่ เหยาจิ้งถงก็ถึงกับขมวดคิ้วและพูดขึ้น “ก็ต้องไปจริงอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเซี่ยเจ๋อน่าคงไม่กังวลใจขนาดนี้หรอกค่ะ”

ยินอวี่โหรวทราบอยู่แล้วว่าตระกูลเซี่ยจะกลับ เพียงแต่ว่า…

“แกดูสิ เหยาซื่อหงกับยินอวี่เจินเป็นแบบนี้ คิดว่าจะยอมปล่อยลูกสาวแท้ ๆ กลับไปเหรอ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหยาจิ้งถงก็รีบหันไปมองนายท่านเหยากับคุณนายเหยา เห็นเพียงรอยยิ้มของผู้อาวุโสทั้งสอง ภายในดวงตาไม่มีความโศกเศร้าเลยสักนิด

“นี่…”

“เกรงว่าเหยาจิ้งจือจะยังไม่ได้บอกยินอวี่เจินเรื่องที่จะกลับ หลังจากหล่อนบอกแบบนั้น คิดว่ายินอวี่เจินจะปล่อยให้หล่อนไปเหรอ กว่าจะได้เจอลูกสาวแท้ ๆ ก็ช่างลำบาก”

ตอนนี้เหยาจิ้งถงเริ่มเป็นกังวล “ฉันวางใจเร็วเกินไปเหรอคะ”

ยินอวี่โหรวไม่ได้พูดอะไรหลังจากได้ยินคำพูดนี้ นางไม่คิดจะคุยเรื่องนี้กับลูกสาวอีกแล้ว และเปลี่ยนไปถามเรื่องหลานชายแทน “จริงสิ อี้หนิงล่ะ ทำไมไม่เห็นเขาเลย”

เมื่อพูดถึงลูกชายขึ้นมา เหยาจิ้งถงก็แสดงแววตาโกรธเคืองออกมาอย่างไม่อาจปิดบัง

“วันนี้นายท่านเหยาพาเซี่ยเจ๋อหลี่ไปคารวะเหล้า ไม่ได้คิดถึงอี้หนิงของเราเลย” หลังจากพูดจบ น้ำเสียงของหล่อนก็เยือกเย็นลงไม่น้อย

“เหอะ…พอมีหลานชายแท้ ๆ แล้วก็ลืมหลานชายคนก่อน”

ยินอวี่โหรวไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจน สุดท้ายมองไปที่เหยาจิ้งถงแล้วพูดขึ้น “เอาเถอะ แกก็อย่ามัวนั่งอยู่ตรงนี้ พาจินหยวนซาน อี้หนิงแล้วก็ม่านลี่ไปดื่มคารวะอวยพรกันสี่คนไป ไม่ใช่ว่าพวกแกจะไม่รู้จักคนพวกนั้นสักหน่อย ไม่ต้องให้เหยาซื่อหงพาไปเองหรอก”

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นแม่ เหยาจิ้งถงก็เริ่มลงมือ จากนั้นก็เดินไปหาสามีกับลูกชายทันที

เมื่อเหยาอี้หนิงได้ยินว่าต้องไปดื่มคารวะอวยพร ก็ไม่ค่อยมีความสุขนัก

“แม่ ผมไม่อยากไป”

เหยาจิ้งถงได้ยินดังนี้ก็ส่งสายตาจ้องลูกชายเขม็ง แล้วพูดขึ้น “ทำไมแกถึงไม่อยากไป ไม่เห็นเหรอว่าเซี่ยเจ๋อหลี่กำลังดื่มคารวะอวยพรอยู่นะ แกอยากให้ทุกคนคิดว่าเซี่ยเจ๋อหลี่เป็นหลานชายคนเดียวของตระกูลเหยา แล้วไม่มีหลานชายแบบแกอีกแล้วใช่ไหม”

เหยาอี้หนิงได้ยินดังนี้ สีหน้าก็มืดมนลงทันที

จินหยวนซานก็เอ่ยขึ้น “จิ้งถงคุณนี่ก็ คุณบอกให้ลูกทำอะไรเนี่ย ลูกไม่สบายใจเลยเห็นไหม” ไม่ต้องพูดถึงลูกชายเลย ตัวเขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจสักเท่าใดเช่นกัน เพียงแต่การไปดื่มคารวะให้คนอื่นนั้นเป็นวิธีการเดียวที่จะได้ผูกมิตรใกล้ชิดกับคนอื่นได้มากขึ้น เขาจึงหันมองเหยาอี้หนิงแล้วพูดขึ้น “เอาเถอะลูก พวกเราไม่ต้องให้คุณตาพาไปหรอก เราไปดื่มคารวะกันเองก็ได้”

เมื่อเห็นพ่อแม่พูดแบบนั้น สุดท้ายเหยาอี้หนิงจึงต้องพยักหน้ายอมรับ

เริ่นม่านลี่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองเหยาอี้หนิงด้วยสายตาดูถูก สีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก แต่ที่นี่มีคนเยอะมาก หล่อนจึงไม่เอ่ยพูดอะไร ทำได้เพียงยอมไปดื่มอวยพรด้วย

เมื่อด้านครอบครัวของเหยาจิ้งถงเริ่มดื่มคารวะ เซี่ยเจ๋อน่าที่เห็นภาพนี้จึงมีปฏิกิริยาขึ้นนิดหน่อย แล้วหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาก่อนจะเดินตรงไป

เกาหยวนเห็นเข้า จึงเอ่ยถาม “คุณกำลังจะไปไหน?”

“ฉันจะไปดื่มคารวะกับพวกคุณน้า”

ต้องทราบว่าผู้คนที่มาในวันนี้มีทั้งคนรวยและคนสูงศักดิ์ ในเมื่อนายท่านเหยาไม่ยอมพาหล่อนไป หล่อนก็จะไปหาเหยาจิ้งถง คุณน้าใจดีขนาดนั้น ต้องยอมพาหล่อนไปด้วยแน่นอน

เกาหยวนได้ยินเช่นนี้จึงใจเต้นนิดหน่อย ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วถือแก้วเหล้าเดินตามเซี่ยเจ๋อน่าไปหาพวกเหยาจิ้งถง

เจี่ยงสือเหิงเห็นทั้งสองคนเดินจากไป จึงขมวดคิ้วขึ้น แล้วอดที่จะหันไปถามฉินมู่หลานเสียไม่ได้ “มู่หลาน น้องสามีของลูกนี่ดูจากหน้าก็เห็นได้ชัดมากเลยนะว่าเป็นคนโง่เขลา แต่มีใจทะเยอทะยานคิดการใหญ่ หากเป็นอย่างนั้น…มันจะดูโง่มากนะ”

หลังจากพูดจบ เจี่ยงสือเหิงก็คิดถึงท่าทางที่ฉินมู่หลานแสดงต่อเซี่ยเจ๋อน่าอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “มู่หลาน หลังจากที่ลูกแต่งเข้าตระกูลเซี่ยไปแล้ว น้องสามีคนนี้คงทำให้ลูกลำบากใจน่าดูเลยใช่ไหม”

เมื่ออยู่ต่อหน้าเจี่ยงสือเหิง ฉินมู่หลานจึงไม่ปิดบังอะไร ก่อนจะเล่าให้ฟังตามตรงว่าเซี่ยเจ๋อน่าเคยทำอะไรไปบ้าง

หลังจากเจี่ยงสือเหิงได้ฟัง สีหน้าก็มืดมนลง

“มู่หลาน เซี่ยเจ๋อน่านี่มันทำเกินไปแล้ว ควรปล่อยให้หล่อนเริงร่าอยู่แบบนี้เหรอ?”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ยกยิ้ม แล้วพูดขึ้น “จริง ๆ แล้วหล่อนก็ไม่ได้เริงร่ามากขนาดนั้นหรอกค่ะ”

เธอทราบดีที่สุดถึงสภาพร่างกายของเซี่ยเจ๋อน่า ไม่เห็นหรือว่าเมื่อครู่นี้สีหน้าของเซี่ยเจ๋อน่าหม่นหมองมากขนาดไหน แสดงให้เห็นว่าร่างกายของหล่อนกำลังมีปัญหาร้ายแรง นอกจากนี้การแท้งลูกยังทำให้สภาพร่างกายของหล่อนย่ำแย่ลงไปอีก

วิธีที่มู่หลานใช้จัดการเซี่ยเจ๋อน่าเป็นเหมือนการต้มกบในน้ำอุ่นโดยที่เซี่ยเจ๋อน่าไม่ได้รู้สึกอะไรเลย แต่ให้เป็นเรื่องคล้ายกับเวรกรรมที่ตามทันแทน

เจี่ยงสือเหิงไม่ทราบเรื่องนี้ เขาจึงรู้สึกโกรธมาก พลางคิดอยู่ในใจว่าจะหาทางล้างแค้นกลับให้ลูกสาว

ฉินมู่หลานไม่ทราบว่าเจี่ยงสือเหิงกำลังคิดอะไรอยู่ ตอนนี้เธอเห็นเซี่ยเจ๋อน่าพูดคุยหัวเราะอยู่กับเหยาจิ้งถงอย่างนั้น จึงไม่ได้สนใจอีก และถอนสายตากลับไปทันที ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

ในตอนนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็มาแล้ว

“มู่หลาน คุณกินข้าวหรือยัง?”

ฉินมู่หลานได้ยินเสียง จึงหันกลับไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะพูดขึ้น “ฉันกินอิ่มแล้วค่ะ คุณหิวหรือเปล่าคะ?”

เห็นฉินมู่หลานมีพลังเต็มเปี่ยมเช่นนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็โล่งใจ “ผมยังไม่หิวหรอก”

เพียงแต่เมื่อเซี่ยเจ๋อหลี่เอ่ยจบไม่นาน ท้องของเขาก็ร้องคำรามขึ้นมา ในตอนเดียวกันนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

ฉินมู่หลานอยากจะหัวเราะอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ดูเขินอายแบบนั้น เธอก็พยายามกลั้นขำอย่างหนัก ก่อนจะมองแล้วเอ่ยถามเขา “อาหลี่ คุณรีบกินข้าวเถอะค่ะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่รู้สึกหิวนิดหน่อยจริง ๆ เขาจึงกินอย่างรวดเร็ว

ส่วนฉินมู่หลานหันมองโดยรอบ ก่อนจะพบว่าเซี่ยเจ๋อน่าเดินตามติดหลังเหยาจิ้งถง แล้วเริ่มดื่มคารวะเหล้า

แขกจำนานไม่น้อยเห็นเหตุการณ์นี้ จึงอดที่จะพูดจาขบขันเสียไม่ได้ “นี่คือลูกสาวของเหยาจิ้งจือใช่ไหม ทำไมไม่ตามแม่ตัวเองล่ะ มาตามคุณหนูรองตระกูลเหยาทำไมกัน”

ตอนนี้เหยาจิ้งจือกลับมาแล้ว เช่นนั้นเหยาจิ้งถงก็ต้องกลายเป็นคุณหนูรอง

เหยาจิ้งถงได้ยินเช่นนี้ ดวงตาก็ฉายแสงวาบ จากนั้นก็ไม่ได้เอ่ยอะไรมาก

เซี่ยเจ๋อน่าที่อยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดนี้ จึงได้แต่เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “คุณน้าใจดีจังค่ะ ตัวหนูเองก็เลยอยากใช้เวลาอยู่ท่านให้มากขึ้น แม่ของหนูโตมาในชนบท จะมาสู้คุณน้าได้ยังไงกัน” ใครใช้ให้พวกแม่ไม่สนใจหล่อนและดันทุรังอยากจะกลับไปชนบทกันเล่า เซี่ยเจ๋อน่าจึงเกลียดพวกเขาทุกคน

คนอื่นได้ยินสิ่งนี้ก็หันมองเหยาจิ้งถง จากนั้นก็หันไปมองทางเหยาจิ้งจือที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

จะมีเรื่องเด็ดๆ อะไรกับยัยเจ๋อไหมนะ ระดับพ่อบุญธรรมเจี่ยงจัดการใครแล้วย่อมเจ็บแสบและแยบยลแน่นอน

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท