ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 171 ครึ่งต่อครึ่ง(1)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 171 ครึ่งต่อครึ่ง(1)

ตอนที่ 171 ครึ่งต่อครึ่ง(1)

หลังจากเหยาอี้หนิงกลับมา เหยาจิ้งถงก็เห็นว่าสีหน้าของลูกชายแปลกไป จึงรีบเอ่ยถาม“อี้หนิง ทำไมเหรอ มีเรื่องอะไร ทำไมแกถึงดูกังวลแบบนี้”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหยาอี้หนิงก็ได้สติกลับมา เขาจึงรู้สึกว่าควรบอกสิ่งที่เพิ่งได้ยินไปให้แม่ได้ฟัง

“แม่ ผมมีอะไรจะบอก”

เมื่อเห็นลูกชายพูดแบบนั้น หัวใจของเหยาจิ้งถงก็เต้นระรัว รู้สึกได้ว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น จึงรีบพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ได้ พวกเราเข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”

จินหยวนซานที่อยู่ด้านข้างก็รีบตามเข้ามาเช่นกัน

เหยาอี้หนิงเห็นพ่อแม่ของเขาอยู่ที่นั่น แต่ภรรยาของเขาไม่ได้อยู่ด้วย จึงถามขึ้นอีกครั้ง

เหยาจิ้งถงได้ยินดังนี้จึงบอกทันที “ม่านลี่กลับไปพักที่ห้องแล้ว” อันที่จริงหล่อนมีคำพูดมากมายเกี่ยวกับลูกสะใภ้ นับตั้งแต่พบว่าหล่อนไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของตระกูลเหยา ลูกสะใภ้คนนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ไม่มีความเคารพกันเหมือนแต่ก่อนแล้ว ซึ่งเป็นความจริงที่เกิดขึ้นในขณะนี้

และเมื่อเหยาอี้หนิงได้ยินเช่นนี้ ก็ไม่เอ่ยถามอะไรอีก

เหยาจิ้งถงเห็นว่าลูกชายไม่พูดอะไร จึงรีบเอ่ยถาม “อี้หนิง มีเรื่องอะไร เมื่อกี้แกดูท่าไม่ค่อยดีเลย”

เหยาอี้หนิงได้ยินสิ่งนี้ ความรู้สึกจึงถาโถมกลับมา แล้วพูดตามตรง “เมื่อกี้ตอนผมไปหาคุณตา ได้ยินท่านคุยกับคุณยาย เขาบอกว่า…ตอนครอบครัวของเหยาจิ้งจือกลับไปแล้ว ก็จะให้อะไรบางอย่างกับพวกเขาด้วย”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหยาจิ้งถงก็เอ่ยถามอย่างกังวลใจ “คืออะไร?”

หล่อนทราบว่าชายชราคงให้ของมากมายแน่ ไม่อย่างนั้นลูกชายคงไม่มีสีหน้าเช่นนี้

เมื่อคิดย้อนกลับไป สีหน้าของเหยาอี้หนิงก็ดูไม่ค่อยดีนัก “คุณตาบอกว่า จะแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลเหยาให้กับเหยาจิ้งจือ”

“อะไรนะ…คุณตาลูกบอกแบบนั้นเหรอ?”

สีหน้าของเหยาจิ้งถงเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

จินหยวนซานที่อยู่ด้านข้างอดที่จะพูดไม่ได้ “คุณตาของลูกวางแผนจะมอบทรัพย์สินของครอบครัวให้ถึงครึ่งหนึ่งเลยเหรอ นี่มันมากเกินไปแล้ว” อย่างที่ทราบว่าเหตุที่เขาแต่งงานเข้าตระกูลเหยาในตอนแรกก็เพื่อหวังจะได้ทรัพย์สินของตระกูลเหยาในอนาคต ในตอนแรกเขาคิดว่าทรัพย์สินของตระกูลเหยาจะตกเป็นของตระกูลตัวเอง เพราะมีลูกชายใช้แซ่เหยา แต่จู่ ๆ ก็มีลูกสาวแท้ ๆ ปรากฏตัวขึ้น และทรัพย์สินครึ่งหนึ่งกำลังจะโดนถูกแบ่งออกไป นี่มันอะไรกัน

เหยาจิ้งจือแต่งงานไปนานแล้ว และลูกชายลูกสาวของหล่อนก็ล้วนใช้แซ่เซี่ย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลเหยาเลย แล้วทำไมเหยาจิ้งจือถึงได้ทรัพย์สินมากมายเช่นนั้นเพียงคนเดียว

หลังจากที่เหยาจิ้งถงกลับมาตั้งสติได้แล้ว หล่อนก็เริ่มสงบอารมณ์ลง หันไปถามลูกชาย “แกไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม?”

“แม่ ผมจะไปฟังผิดได้ยังไง คุณตากับคุณยายพูดแบบนั้นจริง ๆ คิดว่าพอคุณตาจัดการเรื่องทรัพย์สินเสร็จ ก็จะแบ่งให้เลย”

“มากเกินไปแล้ว…”

เหยาจิ้งถงตบโต๊ะที่อยู่ข้าง ๆ อย่างแรง สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ “พอเจอลูกสาวแท้ ๆ แล้วก็ไม่สนใจพวกเราเลย พวกเขาไม่เคยคิดถึงวันเก่า ๆ สักนิด”

หล่อนคิดหวนไปถึงตอนที่ตนย้ายเข้ามาอยู่บ้านตระกูลเหยาตั้งแต่อายุยังน้อย เต็มใจสวมบทเป็นลูกสาว พร้อมทำทุกอย่างในฐานะลูกสาวที่ดีมาโดยตลอด แต่หลังจากพวกเขาเจอลูกสาวแท้ ๆ แล้ว ก็ใส่ใจแต่เหยาจิ้งจือเพียงคนเดียว

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาลืมความกตัญญูของหล่อนไปหมดแล้วหรือ หล่อนจดจำความรู้สึกที่มีต่อแม่ผู้ให้กำเนิดไม่ได้ด้วยซ้ำ จำได้เพียงว่าคุณนายเหยาคือแม่ แต่แล้วพวกเขากลับมาทำแบบนี้กับตัวเอง

“ไม่ได้ เหยาจิ้งจือจะต้องไม่ได้ทรัพย์สินมากมายเช่นนี้”

หากนายท่านเหยากับคุณนายเหยามอบทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยให้เหยาจิ้งจือ เช่นนั้นหล่อนยังพอยอมรับได้ แต่นี่กลับจะแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลไป หล่อนย่อมไม่ยอมเด็ดขาด หล่อนมีแซ่เหยา ลูกชายหล่อนก็ใช้แซ่เหยา ทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลเหยาควรเป็นของพวกเขาทั้งหมด

เพื่อสืบทอดตระกูล หล่อนจึงไม่แต่งงานออกเรือน แต่เลือกแต่งจินหยวนซานเข้ามาเป็นลูกเขยของบ้าน ทุกอย่างที่หล่อนทำก็เพื่อตระกูลเหยา หากหล่อนได้แต่งงานออกเรือนไปคงไม่หาคนแบบจินหยวนซานแน่นอน หล่อนย่อมหาได้ดีกว่านี้เป็นไหน ๆ แต่ตอนนี้ความพยายามของหล่อนกลับกำลังจะเปล่าประโยชน์

เหยาอี้หนิงเห็นพ่อกับแม่โกรธมาก จึงให้คำแนะนำตามขั้นตอน “พ่อ แม่ อย่าโกรธกันเลย เหยาจิ้งจือเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของคุณตากับคุณยาย ใช้เวลานานกว่าจะตามหากันพบ ทั้งสองก็ต้องใส่ใจหล่อนเป็นพิเศษกว่าหน่อยอยู่แล้ว”

“แล้วจะให้ทำยังไง ฉันไม่ใช่ลูกสาวของพวกเขาเหรอ ฉันอยู่ด้วยมาตั้งหลายสิบปี แล้วพอลูกสาวแท้ ๆ มา ก็ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา พวกเขาเอาฉันไปไว้ตรงไหน”

เหยาอี้หนิงรีบกล่าวอย่างตรงประเด็น “แต่คุณตาจะแบ่งทรัพย์สินออกไปแค่ครึ่งเดียวนะ ถ้าอย่างนั้นก็จะเหลืออีกครึ่งหนึ่ง อาจจะเก็บเอาไว้ให้แม่ก็ได้ คุณตาไม่น่าลำเอียงนะ”

“ไม่ลำเอียงยังไง ครอบครัวของพวกเราจะได้เหมือนกับตระกูลเซี่ยได้ยังไงกัน”

จินหยวนซานอดที่จะพูดแทรกไม่ได้ “อี้หนิง ลูกมีแซ่เหยานะ เป็นหลานชายของนายท่านเหยากับคุณนายเหยา พวกเซี่ยเจ๋อหลี่เป็นแค่หลานธรรมดา ถ้าอยากจะให้ทรัพย์สมบัติเหยาจิ้งจือ ก็ไม่ควรจะแบ่งให้ถึงครึ่งหนึ่ง”

เหยาจิ้งถงก็หมายความถึงสิ่งเดียวกัน นี่คือสิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้ เพราะลูกชายของหล่อนใช้แซ่เหยา

เหยาอี้หนิงคาดหวังอยู่แล้วว่าทุกอย่างของตระกูลเหยาจะตกเป็นของพวกเขา เขาเคยคิดเช่นนั้นมาก่อน แต่ตอนนี้จะไปทำอะไรได้เล่า

ความผูกพันธ์ทางสายเลือดระหว่างเหยาจิ้งจือกับพวกผู้อาวุโสตระกูลเหยาไม่อาจตัดขาดกันได้ นอกจากนี้ทุกอย่างของตระกูลเหยาก็ยังเป็นของนายท่านเหยาด้วย หากเขาคิดจะมอบให้ใคร พวกเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้

“พ่อ แม่ อย่าโกรธไปเลย แล้วไม่ต้องบอกเรื่องนี้กับใครด้วยนะ คุณตาเป็นหัวหน้าตระกูลเหยา เขาจะทำอะไรก้ได้ตามที่ต้องการ”

เหยาจิ้งถงถือว่าทุกอย่างของตระกูลเหยาเป็นของตัวเองมานานแล้ว จึงยอมรับไม่ได้ไปโดยปริยาย “ไม่ได้ เราจะปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด”

หลังจากเอ่ยจบ แววตาของเหยาจิ้งถงก็ส่องประกายชั่วร้าย หล่อนต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นจะไม่เหลืออะไรเป็นของตัวเองแน่ เมื่อคิดได้เช่นนั้นก็หันมองจินหยวนซานกับเหยาอี้หนิงแล้วพูดขึ้น “พวกคุณพักผ่อนกันก่อนเถอะ ฉันมีธุระต้องไปจัดการ”

“แม่ แม่จะไปไหน?”

เหยาอี้หนิงเห็นแม่จะออกไปข้างนอก จึงรีบเอ่ยถามทันที

เหยาจิ้งถงโบกมือ แล้วพูดขึ้น “ฉันจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย พวกแกรีบไปพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องคิดมาก”

เฝ้ามองแผ่นหลังของผู้เป็นแม่เดินจากไป เหยาอี้หนิงจึงขมวดคิ้วนิดหน่อย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่จะไปทำอะไร

จินหยวนซานรู้สึกได้ว่าภรรยาของเขากำลังหาวิธีแก้ปัญหา “แม่ของลูกน่าจะไปหาคุณยาย เพราะคุณยายจะหาทางออกได้ตลอดไงล่ะ”

เหยาอี้หนิงก้รู้สึกได้เช่นกันว่าแม่กำลังจะไปหาคุณยาย ดังนั้นจึงไม่คิดเรื่องนี้มากมาย

เพียงแต่จินหยวนซานกับเหยาอี้หนิงสองพ่อลูกกลับคิดผิดถนัด เหยาจิ้งถงไม่ได้ไปหายินอวี่โหรวเลย แต่ตรงไปหาเซี่ยเจ๋อน่าแทน

“คุณน้า ทำไมถึงมาที่นี่เหรอคะ”

เหยาจิ้งถงเห้นเซี่ยเจ๋อน่า จึงยกยิ้มบนใบหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “น่าน่า พรุ่งนี้พวกเธอก้จะไปกันแล้ว ทำไมไม่ไปซื้อของฝากก่อนออกเดินทางสักหน่อยล่ะ”

เซี่ยเจ๋อน่าได้ยินคำพูดที่ว่าจะกลับ สีหน้าก็หม่นหมองลงทันที “คุณน้า ไหนบอกจะช่วยพวกหนูยังไงคะ แต่คุณน้าก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ พรุ่งนี้พวกหนูก็ต้องกลับกันแล้ว”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ แววตาของเหยาจิ้งถงก็เป็นประกายซ่อนเร้น

“น่าน่า ตอนนั้นฉันยังหาทางแก้ปัญหาดี ๆ ไม่ได้ แต่ตอนนี้ฉันคิดออกแล้วล่ะ ฉันหาวิธีที่จะให้เธออยู่ต่อได้แล้ว”

ใบหน้าของเซี่ยเจ๋อน่าที่แต่เดิมดูหดหู่ก็พลันสดใสขึ้น “คุณน้า จริงเหรอคะ น้าจะให้หนูกับเกาหยวนได้อยู่ที่นี่จริงเหรอคะ?”

“แน่นอนว่าจริงสิจ๊ะ”

เหยาจิ้งถงพยักหน้าแล้วยิ้มพลางเอ่ย “พรุ่งนี้เธอกลับไปกับพวกตระกูลเซี่ยก่อน แล้วหลังจากนั้นอีกสองวัน ฉันจะให้คนไปรับเธอมาที่เมืองหลวง จากนั้นเธอกับสามีก็จะได้อยู่ที่นี่”

ตอนแรกเซี่ยเจ๋อน่าใฝ่ฝันที่จะอยู่ในเมืองหลวงตลอดไป แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเหยาจิ้งถง หล่อนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นว่า “พรุ่งนี้พวกเราก็ต้องออกไปเหรอ?”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

แบ่งมรดกแบบโหดมาก ยัยจิ้งถงมันจะวางแผนร้ายก็ตอนนี้แหละ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท