ตอนที่ 184 มีแขกมาเยือนหน้าบ้าน
ตอนที่ 184 มีแขกมาเยือนหน้าบ้าน
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินฉินมู่หลานเอ่ยแบบนั้น จึงพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ได้ ผมจะจำเอาไว้”
หลังจากนั้นเซี่ยเจ๋อหลี่ก็มุ่งหน้าไปหาฟู่ซวี่ตง
ฟู่ซวี่ตงเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่มาหา จึงอดยิ้มไม่ได้ “อาหลี่ ฉันได้ยินเรื่องที่เขาลือกันแล้ว ไม่คิดเลยว่าเหยาอี้หนิงกับนายจะเป็นญาติกัน แล้วเขายังทำตัวหน้าไม่อาย เรียกนายว่าพี่ชายต่อหน้าคนเยอะแยะหวังจะให้ทุกคนรู้ว่าพวกนายเป็นพี่น้องกันอีก”
อันที่จริงเขาได้ยินข่าวมาจากทางเมืองหลวงอยู่ก่อนแล้ว จึงทราบว่าแม่ของเซี่ยเจ๋อหลี่คือลูกสาวคนโตของตระกูลเหยา
ตอนแรกเขารู้สึกตะลึงงันนิดหน่อยเมื่อทราบว่าเหยาอี้หนิงไม่ใช่หลานชายแท้ ๆ ของนายท่านเหยา ก่อนจะมองว่ามันเป็นความโชคดีบนความโชคร้าย แต่เมื่อคิดว่าเซี่ยเจ๋อหลี่กับเหยาอี้หนิงเป็นพี่น้องกันจริงๆ เขาก็เหมือนจะรับไม่ได้ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้เหยาอี้หนิงเคยก่อปัญหาให้พวกเขา หากต้องญาติดีกันต่อในอนาคต เขาคงทำใจไม่ได้อย่างแน่นอน
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของเซี่ยเจ๋อหลี่ก็ดูไม่ค่อยดีเช่นกัน
“เหยาอี้หนิงเป็นคนน่ารังเกียจ ต่อไปฉันก็คงไม่คิดจะญาติดีกับมันหรอก เมื่อก่อนเป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่ต่าง”
ตอนนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องสืบสวน แต่เขารู้สึกว่าไม่สามารถแยกขาดจากครอบครัวของพวกเหยาอี้หนิงได้ เขาไม่มีทางญาติดีกับเหยาอี้หนิงอยู่แล้ว นอกจากนี้เขายังจำสิ่งที่เหยาอี้หนิงเคยทำได้อย่างขึ้นใจ เขาจะค่อย ๆ กลับคืนสู่พื้นที่ของตัวเอง รออีกสักพักแล้วจะสั่งสอนบทเรียนกลับคืนไปให้อย่างแน่นอน
ฟู่ซวี่ตงได้ยินคำพูดของเซี่ยเจ๋อหลี่ ก็อดจะหัวเราะขึ้นมาเสียไม่ได้ “ถ้านายพูดอย่างนั้น ฉันก็วางใจละ”
ทั้งสองพูดคุยกันต่อไม่กี่คำ ก่อนจะเซี่ยเจ๋อหลี่จะหยิบจดหมายของเสิ่นหรูฮวนออกมา แล้วพูดขึ้น “เสิ่นหรูฮวนฝากมู่หลานเอาเจ้านี่มาให้ นายรีบอ่าน อ่านเสร็จแล้วก็เขียนกลับไปให้หรูฮวนซะ”
“อาหลี่ ทำไมไม่รีบบอกให้เร็วกว่านี้”
ฟู่ซวี่ตงรีบหยิบซองจดหมาย เขาหยิบจดหมายปึกหนาออกมาอ่าน จนกระทั่งอ่านจบ สีหน้าก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตลอด “อาหลี่ หรูฮวนคิดถึงฉันด้วยแหละ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่อยากจะหันมองเลยสักนิด
“เอาเถอะ ในเมื่ออ่านจบหมดแล้วก็รีบเขียนตอบกลับไปซะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฟู่ซวี่ตงก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง แล้วพูดขึ้น “อาหลี่ นายมาเพื่อส่งจดหมายให้ใช่ไหม ตอนนี้นายส่งเสร็จแล้วก็รีบกลับไปเถอะ ฉันจะคิดคำตอบก่อน”
เซี่ยเจ๋อหลี่เหลือบมองฟู่ซวี่ตง แล้วพูดขึ้น “ฉันจะคอยดูตอนนายเขียนจดหมายด้วย”
“อาหลี่…ลูกพี่…ถ้าพี่ยังยืนอยู่ตรงนี้ ผมจะเขียนได้ไหมล่ะครับ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินสิ่งนี้ก็รู้สึกไปไม่เป็น แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของมู่หลาน เขาก็เอ่ยถามตามตรง “ที่บ้านนายรู้เรื่องของนายกับหรูฮวนหรือยัง?”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของฟู่ซวี่ตงก็ค่อย ๆ จางลง “พวกเขารู้แล้ว”
เซี่ยเจ๋อหลี่สังเกตเห็นความผิดปกติได้ทันที “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ หรือว่าครอบครัวนายคัดค้านเรื่องที่นายกับหรูฮวนคบหาดูใจกัน?”
“ก็ไม่ใช่ว่าคัดค้าน แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรฉันมากมายอยู่แล้ว ถึงอย่างนั้นฉันก็บอกพวกเขาไปแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่จึงไม่พูดอะไรมากมายอีก
ทุกบ้านย่อมมีเรื่องราว ที่บ้านของซวี่ตงก็มีเรื่องมากมายเช่นกัน
ตอนแรกพ่อแม่ของฟู่ซวี่ตงได้ตระเตรียมทุกอย่างในเส้นทางชีวิตของเขาเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว พวกเขาอยากให้ลูกชายเดินตามเส้นทางที่วาดเอาไว้ให้ เพียงแต่ซวี่ตงกลับต่อต้าน พวกเขาจึงโกรธ จากนั้นฟู่ซวี่ตงก็ทนไม่ไหว จึงหนีออกจากบ้านแล้วสมัครเข้าร่วมกองทัพ และการมาเข้าร่วมกองทัพนี้ก็ถือเป็นการต่อต้อนอุดมการณ์ของพ่อแม่อย่างสิ้นเชิง
หลังจากนั้นเป็นต้นมา พ่อแม่ของฟู่ซวี่ตงก็ไม่สนใจอะไรเขาอีกเลย
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่จึงถอนหายใจ แล้วพูดขึ้น “ถ้าบอกไปแล้ว อย่างนั้นก็ดีแล้ว ถึงยังไงความสัมพันธ์ของนายกับหรูฮวนก็ดี”
ฟู่ซวี่ตงก็เห็นพ้องต้องกัน เขาจึงยกยิ้ม แล้วกล่าว “ใช่แล้ว ไม่ต้องสนใจพวกเขาหรอก ครั้งหน้าเดี๋ยวฉันไปปักกิ่ง จะไปหาตระกูลเสิ่นอย่างเป็นทางการ”
เซี่ยเจิ๋อหลี่ได้ยินสิ่งนี้จึงพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “ได้สิ”
หลังจากนั้นเซี่ยเจ๋อหลี่ก็กลับทันที
ฉินมู่หลานเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่กลับมา จึงรีบเอ่ยถามทันที “เป็นยังไงบ้าง ซวี่ตงได้เขียนตอบกลับไหม?”
“เขากำลังใช้สมองคิดเขียนตอบอยู่ แล้วก็เขาบอกเรื่องของเขากับหรูฮวนให้ที่บ้านทราบแล้ว เพียงแต่ว่า…” เมื่อเอ่ยถึงตอนท้าย เซี่ยเจ๋อหลี่ก็เล่าความจริงให้ฟัง
หลังจากได้ยินคำพูดของเซี่ยเจ๋อหลี่ ฉินมู่หลานก็ขมวดคิ้วทันที
“จากที่เห็น ดูเหมือนว่าพ่อแม่ของฟู่ซวี่ตงจะเป็นเหมือนที่หรูฮวนเคยบอกว่าพวกเขาลำเอียงมากจริง ๆ แต่ก็อาจเป็นเพราะลูกชายคนเล็กยอมเชื่อฟัง พวกเขาถึงชอบลูกชายคนเล็ก เหมือนพ่อแม่เขาอยากจะควบคุมลูกมาก ๆ เลยนะ การที่ฟู่ซวี่ตงหนีออกจากบ้านมาก็ดีแล้ว ไม่อย่างนั้นต้องอยู่ใต้อาณัติพ่อแม่ไปตลอด บางทีหากคิดจะมีคู่ครองก็คงหาตามใจตัวเองไม่ไดด้วย”
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเช่นนี้จึงหยักหน้าแล้วพูด “ก็จริงนะ อย่างซวี่ตงก็ไม่แย่”
หลังจากที่ทั้งสองคุยกันได้สักพัก เหยาจิ้งจือก็เข้ามา หล่อนมองฉินมู่หลานแล้วเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม “มู่หลาน เย็นนี้อยากจะกินอะไร เดี๋ยวแม่ทำให้เอง”
ฉินมู่หลานรู้สึกอยากกินบางอย่างจริง ๆ “แม่คะ เย็นนี้ฉันอยากกินหมูหมักทอดค่ะ” ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
“ได้สิ เดี๋ยวแม่ทำให้นะ”
เหยาจิ้งจือเห็นว่าฉินมู่หลานมีของที่อยากกิน จึงรีบไปเตรียมครัวให้พร้อม พวกเขานำหมูหมักมาเยอะมาก ในเมื่อลูกสะใภ้คนเล็กอยากกิน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทอดให้เยอะหน่อย
หลังจากทุกคนกินเสร็จ ก็รีบเข้านอนแต่หัวค่ำ
เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานก็คิดจะเข้าเมืองไปพร้อมกับเหยาจิ้งจือ โดยไม่คาดคิดว่าหมอเลี่ยวจะมาหาเสียก่อน
ฉินมู่หลานเห็นหมอเลี่ยวมาหาจึงรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย “หมอเลี่ยวคะ คุณมาได้ยังไงคะเนี่ย”
เมื่อเลี่ยวเหวินหยางเจอฉินมู่หลาน สีหน้าก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “หมอฉิน คุณกลับมาแล้วจริงด้วย เมื่อสองวันก่อนผมมาหาคุณ แล้วได้ทราบว่าคุณไปปักกิ่งมา ก็เลยคิดว่าเมื่อไหร่คุณจะกลับมาสักที ไม่คิดเลยว่าคุณจะกลับมาแล้ว มันดีมากจริง ๆ”
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”
เลี่ยวเหวินหยางรีบอธิบายจุดประสงค์ของการมาหาอย่างรวดเร็ว “หมอฉินครับ หมอเฉากับหมอจ้าวยังใช้เครื่องมือในโรงพยาบาลไม่ค่อยได้ ผมจึงอยากเชิญคุณไปช่วยสอนพวกเขาอีกสักครั้งครับ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็ยิ้มแล้วพยักหน้าตอบตกลง “ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะไปกันตอนไหนดีคะ?”
“ไปตอนนี้ได้เลยไหมครับ?”
หมอเลี่ยวมองฉินมู่หลานด้วยสีหน้าสงสัย แน่นอนว่ายิ่งเร็วเท่าใดก็ยิ่งดี แต่ฉินมู่หลานเพิ่งกลับมาจากปักกิ่งเมื่อวานนี้ แล้วเธอยังตั้งท้องลูกแฝดอีกด้วย ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำตามความต้องการของเธอ
ฉินมู่หลานหันมองเหยาจิ้งจือแล้วพูดขึ้น “แม่คะ ถ้าอย่างนั้นฉันคงพาแม่เข้าเมืองไม่ได้แล้วค่ะ”
เหยาจิ้งจือยกยิ้มแล้วกล่าว “ไม่เป็นไรหรอก พวกเราไปที่นั่นกันเองก็ได้ เธอไปโรงพยาบาล ฉันไปซื้อของ หลังจากฉันซื้อของเสร็จเดี๋ยวจะไปหาเธอที่โรงพยาบาล แบบนี้เป็นอย่างไร?”
มู่หลานได้ยินสิ่งนี้ จึงพยักหน้าแล้วเอ่ยตอบ “ได้ค่ะ”
สุดท้ายเซี่ยเหวินปิงก็ออกไปด้วย มีเขาไปด้วย อย่างน้อยก็ยังช่วยเหยาจิ้งจือถือของได้
หลังจากฉินมู่หลานมาถึงโรงพยาบาลทหารแล้ว เหยาจิ้งจือกับเซี่ยเหวินปิงก็ไปซื้อของ ขณะฉินมู่หลานตรงไปที่ห้องเครื่องมือบีอัลตร้าซาวน์ เพื่อพบหมอเฉากับหมอจ้าวอีกครั้ง
“หมอฉิน เจอกันอีกแล้วนะคะ วันนี้ต้องขอรบกวนคุณด้วยค่ะ”
…………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เส้นทางความรักของซวี่ตงจะราบรื่นไหมน้า แต่ถ้าทางบ้านปล่อยจอยแบบนั้นก็ไม่น่าห่วงแล้วล่ะ
ไหหม่า(海馬)