ตอนที่ 211 นำพยานไปยังเมืองหลวง (2)
EnjoyBook
ตอนที่ 211 นำพยานไปยังเมืองหลวง (2)
เมื่อมาถึงลานตากเมล็ดพืชของหมู่บ้าน ฉินมู่หลานพบว่าผู้คนภายในหมู่บ้านต่างก็อยู่ที่นี่กันหมด เย่ต้าหย่งยืนอยู่ด้านหน้าสุดด้วยใบหน้าเศร้าสลด บนร่างกายมีใบไม้เน่าจำนวนไม่น้อย คิดว่าเมื่อสักครู่นี้คงถูกรุมประณามแล้ว
เย่เสี่ยวเหอยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นภายในหมู่บ้าน เมื่อเห็นพ่อของตนเองยืนอยู่ด้านหน้า อีกทั้งท่าทางเหมือนถูกคนทุบตี ก็รู้สึกประหลาดใจ
“พ่อคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
เย่ต้าหย่งคาดไม่ถึงว่าลูกสาวของตนจะกลับมา ขณะนี้เขาจ้องมองหล่อน นัยน์ตาปรากฏความเกลียดชังเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวเสนอความเห็นจับกุมตัวเหยาจิ้งจือขึ้นมาอย่างกะทันหัน เรื่องราวขณะนี้คงไม่เกิดขึ้น ลูกสาวคนนี้ช่างพาหายนะมาให้เขาจริงๆ
เมื่อเห็นว่าพ่อนิ่งเงียบและจ้องมองตนเองด้วยความเกลียดชัง เย่เสี่ยวเหอพลันรู้สึกว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นโดยที่หล่อนยังไม่รู้
แม้ว่าเย่ต้าหย่งจะไม่ตอบคำถาม แต่หวังหม่านจูที่อยู่ด้านข้างนั้นเอ่ยเรื่องทั้งหมดออกมาทั้งน้ำตานองหน้า สุดท้ายกล่าว “ถ้าไม่ใช่เพราะแก พ่อของแกจะถูกปลดจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านได้ยังไง”
“อะไรนะ……เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร”
เย่เสี่ยวเหอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เกิดขึ้นตรงหน้าตนแล้ว หล่อนไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสหลายท่านได้พูดเรื่องที่เย่ต้าหย่งได้กระทำผิดในช่วงหลายปีมานี้ รวมถึงปัญหาการเก็บช่วงช่วงปีนั้น เป็นเพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเย่ต้าหย่งจึงทำให้หมู่บ้านสูญเสียธัญพืชจำนวนหลายพันกิโลกรัม อย่างไรก็ตามปีนั้นเย่ต้าหย่งใช้วิธีการสกปรกทำการปกปิดข่าวและหาแพะรับบาป สุดท้ายความจริงก็ได้กระจ่างในวันนี้แล้ว
ความผิดของเย่ต้าหย่งมีมากมาย และเมื่อเย่เสี่ยวเหอมาถึง เรื่องราวที่หล่อนได้ทำก่อนหน้านี้ก็ถูกกล่าวออกมา
“เย่เสี่ยวเหอกับหวังหม่านจูต้องการลอบทำร้ายเหยาจิ้งจือเพื่อแลกกับเงิน เลวร้ายเป็นอย่างมาก คนแบบนี้เป็นอาชญากรชัดๆ”
“อะไรนะ……ลักพาตัวเหยาจิ้งจือเหรอ? ทำไมต้องลักพาตัวหล่อนด้วย?”
“ใช่ ทำไมต้องเลือกเหยาจิ้งจือด้วยล่ะ?”
ผู้คนภายในหมู่บ้านต่างสงสัยและหัวหน้าใหญ่เย่เถียจู้กล่าวอธิบาย “เพราะเหยาจิ้งจือพบพ่อแม่ผูเให้กำเนิดแล้ว พ่อแม่ที่แท้จริงของหล่อนอยู่ที่เมืองหลวง และยังมีฐานะดีด้วย”
“อะไรนะ……นี่เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ”
“เป็นเรื่องจริง”
เหยาจิ้งจือลุกขึ้นยืนและยอมรับ
“ว้าว……”
ผู้คนภายในหมู่บ้านต่างตะลึงงัน
ขณะนี้หญิงสาวตระกูลโจวและตระกูลจูเองก็เล่าเรื่องราวที่ตนเองรับรู้ออกมาเช่นกัน พวกหล่อนเห็นเย่เสี่ยวเหอถูกจับ แต่ก่อนหน้านี้ก็เห็นว่าเย่เสี่ยวเหอและกลุ่มอันธพาลนั้นต้องการลักพาตัวเหยาจิ้งจือก่อน
ขณะนี้ ทุกคนต่างก็รับรู้ถึงเรื่องเลวร้ายที่ครอบครัวของผู้ใหญ่บ้านได้ทำลงไป ว่าครอบครัวของเย่ต้าหย่งเน่าเฟะมาตั้งแต่ต้น
“เย่ต้าหย่ง ไสหัวออกไปจากหมู่บ้านชิงซาน”
“ออกไปให้พ้นจากหมู่บ้านชิงซาน”
“ไสหัวออกไป ออกไปให้พ้น”
“ครอบครัวของพวกเขาไม่คู่ควรอยู่ภายในหมู่บ้านชิงซาน”
“ใช่ ไม่คู่ควร”
ผู้คนภายในหมู่บ้านโกรธมาก ทั้งหมดต่างตะโกนขับไล่ให้ครอบครัวของเย่ต้าหย่งออกไปจากหมู่บ้านชิงซาน
ผู้อาวุโสหลายท่านก็มีความคิดแบบนี้และได้ร่วมกันประกาศขับไล่ครอบครัวของเย่ต้าหย่งออกจากหมู่บ้านชิงซาน
“ยอด เยี่ยมมาก”
“ใช่ ควรจะเป็นเช่นนี้”
ผู้คนภายในหมู่บ้านเห็นด้วยกับการตัดสินใจแบบนี้เป็นอย่างมาก
ครอบครัวเย่ต้าหย่งได้รับคำตัดสินแล้ว อย่างไรก็ตามฉินมู่หลานก็ไม่ได้คิดจะปล่อยผ่านเย่เสี่ยวเหอไปเช่นกัน
แม้ว่าแผนการของเย่เสี่ยวเหอจะไม่สำเร็จ แต่สุดท้ายหล่อนก็โดนข้อหาจ้างวานฆ่า เรื่องนี้ย่อมเป็นคดีอาญา ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะส่งตัวหล่อนให้กับสถานีตำรวจ
“ไม่……ไม่เอา……”
ในที่สุดเย่เสี่ยวเหอก็รู้จักกลัวแล้ว เมื่อตอนรับเงินหล่อนรู้สึกมีความสุข แต่เมื่อตกอยู่ภายใต้กำมือของฉินมู่หลานและพวกเขา อีกทั้งอาจจะต้องเข้าคุก หล่อนก็ย่อมรู้สึกหวาดกลัว
ฉินมู่หลานไม่สะทกสะท้าน มอบเย่เสี่ยวเหอให้กับเหวินเชี่ยนและเอ่ย “จากนี้ฉันมอบหล่อนให้เป็นหน้าที่ของคุณ คุณรีบส่งตัวหล่อนเข้าตะรางได้เลย”
“รับทราบค่ะ พี่สะใภ้”
เหวินเชี่ยนยิ้มพลางพยักหน้า รู้สึกเพียงแค่มีความสุข
เดิมทีพวกเขายังอกสั่นขวัญแขวน ต้องระวังคนที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้นแล้วตรงที่จับตัวผู้กระทำผิดได้ หลังจับผู้ที่คอยบงการอยู่เบื้องหลังได้ พวกเขาก็หายใจหายคอได้คล่องแล้ว
หวังหม่านจูมองเย่เสี่ยวเหอที่ถูกจับมาโดยตลอด จากนั้นรีบวิ่งไปด้านหน้าและเอ่ย “เดี๋ยวก่อน พวกเธอจะพาลูกสาวของฉันไปที่ไหน”
อย่างไรเย่เสี่ยวเหอก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของตนเอง หวังหม่านจูย่อมเป็นกังวล
“ทำไม คุณเองก็อยากจะเข้าตะรางพร้อมกับลูกสาวของคุณงั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นเพิ่มคุณไปอีกสักคนฉันก็ไม่ถือสาหรอกนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวังหม่านจูก็นิ่งเงียบในทันใด
หากตนเองถูกส่งเข้าไปภายในนั้นด้วย เช่นนั้นจะทำอย่างไร
มองเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสนของหวังหม่านจู หัวใจของเย่เสี่ยวเหอพลันจมดิ่ง สุดท้ายหล่อนก็ถูกพาตัวไป ผู้คนภายในหมู่บ้านคอยเฝ้ามองเย่ต้าหย่งและหวังหม่านจูกลับบ้านไปเก็บข้าวของ
สำหรับเรื่องเหล่านี้ ฉินมู่หลานและคนอื่นไม่ได้สนใจมากนัก ผู้คนภายในครอบครัวต่างก็เตรียมกลับบ้าน
แต่ผู้คนภายในหมู่บ้านได้รู้ความเป็นมาของเหยาจิ้งจือแล้ว ขณะนี้ต่างก็อยากรู้อยากเห็นมาก
ฉินมู่หลานเห็นว่าพ่อแม่สามีถูกรั้งตัวไว้ก็รีบกลับบ้านก่อน เมื่อเธอถึงบ้าน เวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง สมาชิกคนอื่นของครอบครัวก็กลับมา
“ไอยา…… ไม่เคยรู้เลยว่าผู้คนภายในหมู่บ้านจะกระตือรือร้นขนาดนี้”
หลี่เสวี่ยเยี่ยนทอดถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ คนอื่นๆ ก็พยักหน้าเช่นกัน
เหยาจิ้งจือยังจำเรื่องทางด้านโหยวหย่งได้ รีบหันไปมองฉินมู่หลานและเอ่ยถาม “มู่หลาน ผู้ชายคนนั้นที่ถูกจับได้ตอนหลังเขาได้พูดอะไรหรือเปล่า?”
ฉินมู่หลานพยักหน้าและเอ่ย “พูดค่ะ เรื่องที่แม่หายตัวไปในปีนั้นเกี่ยวข้องกับยินอวี่โหรวจริงๆ เรื่องราวครั้งนี้ก็เป็นแผนการของพวกเขา เป้าหมายก็คือต้องการจัดการคุณ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของเหยาจิ้งจือพลันน่าเกลียดมาก แม้แต่เซี่ยเหวินปิงก็กำหมัดแน่นอย่างอดไม่ได้
“พวกเขาทำเกินไปแล้ว ครอบครองสถานะของจิ้งจือมาเนิ่นนานหลายปี กว่าจิ้งจือจะพบเจอพ่อแม่ของตนเองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย สุดท้ายกลับต้องการกำจัดจิ้งจือ ทำกันเกินไปจริงๆ”
เมื่อเอ่ยคำพูดสุดท้าย เซี่ยเหวินปิงก็เอ่ยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ “ไม่ได้ เรื่องนี้จะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้แล้ว พวกเราควรไปเมืองหลวงและทำให้ผู้อาวุโสทั้งสองคนนั้นได้เห็นว่าลูกสาวบุญธรรมของพวกเขาโหดเหี้ยมอำมหิตขนาดไหน”
ฉินมู่หลานเห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้
“พ่อพูดถูก พวกเรานำตัวหงเทียนเอินไปยังเมืองหลวงกันค่ะ”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
คนชั่วโดนกำจัดไปแล้วครอบครัวหนึ่ง เหลือตามไปคิดบัญชีคนบงการในเมืองหลวงแล้วล่ะค่ะ
ไหหม่า(海馬)