ตอนที่ 225 เธอคิดว่าเธอเป็นใคร(2)
ตอนที่ 225 เธอคิดว่าเธอเป็นใคร(2)
เห็นเซี่ยอวี่หรงไปแล้ว เวินเนี่ยนอันก็รู้สึกโล่งใจเหลือเกิน หล่อนกลัวมากว่าการที่เพื่อนของตนอยู่ต่อจะไปทำลายความสัมพันธ์ของฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ เพราะอีกไม่นานฉินมู่หลานก็จะคลอดแล้ว หากอารมณ์ไม่ดีก็ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ เป็นเช่นนั้นแล้วหล่อนคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
แต่ฉินมู่หลานไม่ได้สนใจเรื่องเซี่ยอวี่หรงเลย เธอกิน ๆ นอน ๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยสักอย่าง หากไม่เอ่ยคัดค้าน เหยาจิ้งจือก็คงจะคว้าชุดชั้นในของเธอมาซักให้ด้วย
อีกด้านหนึ่ง หลังเซี่ยอวี่หรงกลับถึงเมืองหลวงก็รีบตรงกลับบ้าน จากนั้นก็ตรงไปหาคุณนายเซี่ยทันที
“คุณย่าคะ หนูคิดถึงคุณย่าจังเลย”
คุณนายเซี่ยเห็นหลานสาวเพียงคนเดียวมาหาก็รู้สึกดีใจมาก
“อวี่หรง หลานกลับมาตั้งแต่ตอนไหนกัน เจ้าเด็กคนนี้นี่ พักร้อนแต่ละทีก็ไม่เห็นจะเคยกลับบ้านเลยนะ”
“คุณย่าคะ หนูไปหาเพื่อนมาค่ะ ตอนนี้หนูก็กลับมาแล้วนี่ไงคะ” เมื่อเอ่ยจบ หล่อนก็พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยอีกครั้ง “คุณย่า เมื่อเร็ว ๆ นี้หนูรู้สึกเศร้าใจมากเลยค่ะ”
เมื่อเห็นหลานสาวเป็นแบบนี้ คุณนายเซี่ยก็รีบเอ่ยถามทันที “ทำไม เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“คุณย่าคะ คุณย่ารู้เรื่องที่ตระกูลเหยาเจอลูกสาวแท้ ๆ แล้วใช่ไหม”
“ต้องรู้อยู่แล้ว ตอนตระกูลเหยาจัดงานเลี้ยงรับรอง ย่ากับพ่อแม่หลานก็ไปกัน”
เซี่ยอวี่หรงได้ยินสิ่งนี้ จึงเม้มปากก่อนจะพูดขึ้น “อันที่จริงหนูรู้จักลูกชายของลูกสาวตระกูลเหยา หนูได้เจอเขาเมื่อสามปีก่อน แล้วก็ชอบเขามาก เพียงแต่ว่า…”
หลังจากพูดจบ สีหน้าของเซี่ยอวี่หรงก็เต็มไปด้วยความเศร้าใจ “อีกฝ่ายไม่ได้ชอบหนู สุดท้ายเขาก็ไปแต่งงานกับผู้หญิงบ้านนอกคนที่ชื่อฉินมู่หลาน หนูโกรธมากเลย หนูด้อยกว่าฉินมู่หลานตรงไหนกัน เซี่ยเจ๋อหลี่ถึงไม่ชอบหนู แต่กลับไปตกหลุมรักหล่อนได้”
คุณนายเซี่ยไม่เคยรู้เรื่องเลย เมื่อได้ยินหลานสาวพูดแบบนี้ แววตาก็เต็มไปด้วยความแปลกใจ “อะไรนะ…หลานเคยชอบหลานชายของนายท่านเหยาเหรอ แล้วทำไมถึงไม่บอกย่าตั้งแต่แรกล่ะ”
“คุณย่า มันน่าอายจะตายไป แล้วจะให้หนพูดได้ยังไงคะ หนูแสดงออกชัดเจนแล้ว แต่เขาเหมือนจะไม่ชายตามองเลย แล้วยังรำคาญหนูอีก ถ้าให้หนูพูดออกไปก็คงน่าอายมากแน่”
“เจ้าเด็กคนนี้”
คุณนายเซี่ยอดที่จะดีดหน้าผากหลานสาวเสียไม่ได้ แต่หลังจากได้ฟังเรื่องพวกนี้แล้ว นางก็รู้สึกโกรธนิดหน่อย
“ถ้าอย่างนั้นตอนนั้น เซี่ยเจ๋อหลี่ยังไม่ได้มีอะไรเลยใช่ไหม เขาจึงทำเช่นนั้น แล้วยังดูถูกหลานอีก เขานี่ไม่ได้ดูตัวเองเลยว่าเป็นใครมาจากไหน”
หลังจากพูดจบ คุณนายเซี่ยก็รู้สึกเสียใจแทนหลานสาว
“ไม่ได้ จากนี้ต้องหาโอกาส สั่งสอนเขาสักหน่อย”
“คุณย่า คุณย่าใจดีที่สุดเลย”
เซี่ยอวี่หรงรีบโถมเข้ามาหาคุณนายเซี่ยอย่างแนบชิด
แต่คุณนายเซี่ยเหลือบมองหลานสาวของตน ก่อนจะพูดขึ้น “สำหรับเรื่องเขา หลานอย่าได้คิดเชียว เซี่ยเจ๋อหลี่แต่งงานแล้ว แกไม่นานก็จะมีลูกแล้ว ผู้ชายแบบนี้ไม่เหมาะกับหลานหรอก”
“แต่ว่าคุณย่าคะ หนูชอบเซี่ยเจ๋อหลี่”
“ไม่ได้…”
คุณนายเซี่ยยืนกรานเด็ดขาด “หลานอยากได้คนที่แต่งงานซ้ำสองเหรอ หลานอย่าโง่ไปหน่อยเลย เดี๋ยวย่าจะหาคนที่ดีกว่าให้หลานเอง”
“คุณย่า นอกจากเซี่ยเจ๋อหลี่ หนูจะไม่แต่งกับใครอื่นอีก”
คุณนายเซี่ยได้ยินสิ่งนี้ก็มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น “จะแต่งอะไรไม่แต่งอะไร อย่าพูดแบบนี้อีกนะ”
เซี่ยอวี่หรงเห็นแบบนี้ ก็รีบเอ่ยการวิเคราะห์ที่แสนรอบคอบขึ้นมา “คุณย่าลองคิดดูสิคะ ตอนนี้นายท่านเหยามีลูกสาวแท้ ๆ แค่คนเดียว ลูกสาวบุญธรรมกับแม่แท้ ๆ ของหล่อนโดนผลักไสไล่ส่งไปแล้ว ต่อไปทรัพย์สินทั้งหมดก็จะเป็นของลูกสาวคนโตตระกูลเหยา แล้วต่อไปก็จะต้องเป็นของเซี่ยเจ๋อหลี่ แบบนี้เซี่ยเจ๋อหลี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่เหรอ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ คุณนายเซี่ยก็พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว
ถึงแม้เหยาจิ้งจือจะมีลูกชายสองคน แต่เซี่ยเจ๋อหลี่โดดเด่นกว่าเพียงคนเดียว จากนี้ไปทรัพย์สมบัติตระกูลเหยาก็จะมีแนวโน้มตกเป็นของเซี่ยเจ๋อหลี่ได้มากที่สุด
เมื่อคิดได้เช่นนี้ คุณนายเซี่ยก็พิจารณาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง รู้สึกได้ว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ เพียงแต่ฉินมู่หลานยังอยู่ ไม่ว่าหลานสาวจะต้องการมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์
เซี่ยอวี่หรงได้ยินเช่นนี้ ก็อดที่จะพูดเสียไม่ได้ “คุณย่า เรื่องนี้คุณย่าไม่ต้องกังวลค่ะ หนูว่าตัวเองดีกว่าฉินมู่หลาน เพราะฉะนั้นต่อไป เซี่ยเจ๋อหลี่จะต้องสนใจหนูแน่นอนค่ะ” หลังจากพูดจบ สีหน้าของหล่อนก็ฉายแววมั่นใจเต็มเปี่ยม
เมื่อเห็นหลานสาวมีท่าทางเช่นนี้ คุณนายเซี่ยก็พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “อวี่หรงของพวกเราก็เป็นคนยอดเยี่ยมมาตลอด ดีกว่าฉินมู่หลานอยู่แล้ว”
“เอาล่ะ ย่าเข้าใจเรื่องที่พูดแล้ว เอาไว้ย่าจะลองคิดดูอีกที”
เมื่อได้ยินสิ่งที่คุณนายเซี่ยเอ่ย เซี่ยอวี่หรงก็รู้สึกได้ว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ จึงกอบกุมมือหญิงชราเอาไว้แน่น แล้วพูด “คุณย่า คุณย่าใจดีที่สุดเลยค่ะ”
“เอาล่ะๆ หลานรีบไปพักผ่อนเถอะ”
คุณนายเซี่ยเฝ้ามองหลานสาวที่เดินออกไป ก่อนจะคิดถึงความเป็นไปได้ของเรื่องนี้
ฉินมู่หลานที่อยู่อีกด้านหนึ่งไม่ได้ทราบเรื่องนี้เลย ตอนนี้เธอกำลังพูดคุยกับเหยาจิ้งจือ “แม่คะ ตอนนี้ท้องของฉันเริ่มใหญ่มากแล้ว เดือนหน้าก็น่าจะคลอดแล้ว เพราะฉะนั้นอีกสองวันฉันคิดว่าจะไปตรวจที่โรงพยาบาล เผื่อว่าต้องไปโรงพยาบาลเร็วกว่ากำหนด จะได้เตรียมตัวได้ทันค่ะ”
พวกเขาเป็นฝาแฝดกัน ฉินมู่หลานจึงไม่อยากเสี่ยง จึงคิดจะไปโรงพยาบาลให้เร็วหน่อย
“ได้ค่ะแม่ ถ้าอย่างนั้นต้องรบกวนแม่แล้วค่ะ”
เหยาจิ้จือยกยิ้มพลางส่ายหัวก่อนจะพูดขึ้น “รบกวนอะไรกัน ฉันมีหน้าที่ดูแลเธออยู่แล้ว”
แต่สิ่งที่ทั้งสองไม่คาดคิดก็คือ ขณะที่ฉินมู่หลานคิดจะไปโรงพยาบาลในอีกหนึ่งวัน ซูหว่านอี๋ก็มาหา
เมื่อฉินมู่หลานได้เจอซูหว่านอี๋ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “แม่คะ มาได้ยังไงคะเนี่ย”
ซูหว่านอี๋ได้เห็นลูกสาวก็ร็สึกตื่นเต้นมาก “มู่หลาน ไม่ได้เจอลูกนานเลย” ขณะเอ่ยก็มองท้องของลูกสาวอีกครั้ง ก่อนจะพูดขึ้น “ลูกท้องใหญ่จังเลย ดูเหมือนว่าใกล้จะคลอดแล้วนะ”
“แม่คะ เดือนหน้าจะคลอดแล้ว ท้องก็ต้องใหญ่เป็นธรรมดา”
ซูหว่านอี๋ได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้า “ใช่แล้ว แม่จำได้ว่าลูกจะคลอดเดือนหน้า ถึงได้มาหาที่นี่ พอถึงเวลาลูกต้องพักฟื้น แม่จะได้ช่วยดูแลได้”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ เหยาจิ้งจือก็อดยกยิ้มแล้วพูดขึ้นเสียไม่ได้ “ญาติสะใภ้ ที่จริงแล้วฉันก็ยังอยู๋ที่นี่นะ คุณไม่เห็นจำเป็นต้องลำบากมาเลย”
ซูหว่านอี๋ได้ยินสิ่งนี้ ก็รีบเอ่ยทันที “ฉันทราบดีค่ะว่าพวกคุณสามารถดูแลมู่หลานได้ดี แต่ฉันก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จึงได้มาดูแล้วคอยช่วยอีกแรง ก็แค่อยากทำหน้าที่ตัวเองบ้างค่ะ”
เหยาจิ้งจือได้ยินสิ่งนี้ ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และยกยิ้มพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ญาติสะใภ้ หากถึงตอนนั้นต้องขอรบกวนคุณแล้ว มีพวกเราสองคนคอยดูแลมู่หลานด้วยกันจะต้องปลอดภัยมากขึ้นแน่อน”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เออ เจริญละตระกูลเซี่ย ให้ท้ายหลานให้เป็นมือที่สามคนอื่นแล้วยังหาทางแยกคู่รักให้เลิกกัน ขอให้เจริญลงๆ นะคะ
มียาอะไรมาดับมั่นนังอวี่หรงบ้างไหมนะ นอยาวจะทิ่มตาอยู่ละ
ไหหม่า(海馬)