เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร – ตอนที่ 16

ตอนที่ 16

พอเซี่ยหยางเพ่งดูก็เห็นว่า บนตัวเอ้อนิ้วเปียกโชก แถมยังมีโคลนติดอยู่ไม่น้อยด้วย เซี่ยหยางเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน ให้หมามันวิ่งไล่เอาหรือไง?”

“พี่หยาง แย่แล้วล่ะ ย่ามันเถอะ เกิดเรื่องแล้ว” เอ้อนิ้วส่งเสียงกระหืดกระหอบ เห็นได้ชัดว่าร้อนใจมาก

เซี่ยหยางจุดบุหรี่สูบ เอ่ยอย่างไม่รีบไม่ร้อนว่า “ร้อนใจอะไรกัน ฟ้าถล่มก็ยังมีฉันอยู่ ค่อยๆ พูด”

“ผู้ใหญ่บ้านหวังหยุนจู้ ยังมีจางฝู้กุ้ยคนนั้นอีกคน นี่ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขาทำกับผม……” เอ้อนิ้วปัดๆ โคลนบนตัวออก ก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างขัดเคือง

ที่แท้พอเช้าตรู่เอ้อนิ้วก็ไปที่แม่น้ำของหมู่บ้านเพื่อจับปลาแม่น้ำ โดยวางแผนจะปล่อยลงในสระเพื่อเลี้ยงดูมัน ไหนเลยจะคิดว่าขณะกำลังจะจับอยู่นั้น หวังหยุนจู้ก็มาที่นี่กับจางฝู้กุ้ย ขวางเอ้อนิ้วไม่ให้จับปลา

เอ้อนิ้วเป็นคนนิสัยโผงผาง เป็นธรรมดาที่จะไม่ยอมแพ้ หวังหยุนจู้จึงเดือดดาล เดินเข้ามาผลักเอ้อนิ้ว เอ้อนิ้วผู้ไม่ยอมแสดงความอ่อนด้อยออกมา จึงผลักคืนไปบ้าง

หวังหยุนจู้อายุมากแล้วจึงสู้ไม่ไหว พอถูกเอ้อนิ้วผลักก็ล้มลงไปกับพื้นทันที คราวนี้โชคดี ได้จางฝู้กุ้ยมาช่วย แต่ยังคงไม่ใช่คู่มือของเอ้อนิ้วอยู่ดี

จางฝู้กุ้ยเลยเตือนเอ้อนิ้ว ให้เอ้อนิ้วคอยดู เอ้อนิ้วก็ยังดึงดันจะคอยอีก เพียงชั่วประเดี๋ยวเดียวจางฝู้กุ้ยก็เรียกชายฉกรรจ์รูปร่างบึกบึนจำนวนไม่น้อยมาที่นี่ เอ้อนิ้วไหนเลยจะเป็นคู่มือได้ สู้กันไม่กี่ยกก็ถูกผลักลงแม่น้ำไป

“ย่ามันสิ พวกเขาสารเลวเกินไปแล้ว ปลาในแม่น้ำนั่นไม่ใช่ของพวกเขาสักหน่อย ถือดีอะไรไม่ให้ผมจับปลา พี่หยางพี่ว่าจะทำยังไงดี?” เอ้อนิ้วไม่พอใจเป็นอย่างมาก ยืดคอตั้งแสดงถึงความไม่เป็นธรรม

“เห็นได้ชัดว่า อิจฉาตาร้อน ฉันจะไปดูหน่อย” เซี่ยหยางฟังเอ้อนิ้วพูดจบ ก็ฝืนอดกลั้นความโกรธพุ่งไปที่นั่น มีเอ้อนิ้วตามหลังไปติดๆ

พอถึงข้างแม่น้ำ ก็เห็นจางฝู้กุ้ยกับหวังหยุนจู้พูดคุยหัวเราะกันอยู่บนฝั่ง โดยมีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งกำลังจับปลาอยู่ในแม่น้ำ ดูสนุกสนานเสียเหลือเกิน

“เถ้าแก่จาง คุณดูตัวนั้นสิ ใหญ่มาก” หวังหยุนจู้กำลังเตรียมจะยื่นมือไปรับปลาที่ชายฉกรรจ์คนหนึ่งโยนขึ้นมา ไม่คาดว่าจะมีข้างหนึ่งยื่นออกมาจากอากาศ รับปลาตัวนั้นไป

พอหวังหยุนจู้หันหลังไปมอง เห็นเซี่ยหยางถือปลากำลังประเมินน้ำหนักอยู่ในมือ สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะกล่าวอย่างเดือดดาลว่า “ไอ้สารเลว แกทำบ้าอะไร เอาคืนมาให้ฉันนะ”

“อ่ะ เอาไป” เซี่ยหยางหัวเราะ ส่งปลาคืนไปให้ กลับพบว่าปลาได้กระโดดลงแม่น้ำไปแล้ว

หวังหยุนจู้ที่รับอากาศไว้แทน กล่าวอย่างบันดาลโทสะว่า “เซี่ยหยางไอ้ลูกกระต่าย แกตั้งใจสินะ?”

“โทษที ให้ผมเอาปลาที่อยู่ในสระผมมาที่นี่ ปลาของผมใหญ่กว่าตัวนี้อีกนะ ชดใช้ให้คุณตัวหนึ่งเอาไหม” เซี่ยหยางมุมปากแผ่เป็นรอยยิ้ม ดูท่าทางไม่อนาทรร้อนใจ

“บ้านแกสิ ปลาแกเจ๋งนัก พวกเราเองก็เลี้ยงเป็นเหมือนกัน” หวังหยุนจู้พูดอย่างไม่สบอารมณ์

“พวกคุณเลี้ยงหรือไม่เกี่ยวอะไรกับผม คุณก็บอกสิว่าปลาในแม่น้ำนี่เป็นของหลวงใช่หรือเปล่า?” เซี่ยหยางซักถาม

“ใช่แล้วยังไง?” หวังหยุนจู้พูดอย่างไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น

“ใช่ก็ดี เอ้อนิ้ว จับปลาต่อ” เซี่ยหยางพยักหน้า หันหลังไปมองเอ้อนิ้ว

เอ้อนิ้วชักงักไป จากนั้นก็ถกแขนเสื้อกระโดดลงไปในแม่น้ำ เริ่มจับปลา

ชายฉกรรจ์สองสามคนที่อยู่ในนั้นพอเห็นก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา จึงรีบไปปะทะกับเอ้อนิ้วทันที

จางฝู้กุ้ยก็ไม่มองอยู่เฉยๆ คำรามออกมาว่า “ไอ้เด็กเวรหลี่เอ้อนิ้ว แกยังคิดจะต่อสู้กันอีกใช่ไหม ไสหัวขึ้นมานะ”

“มีสิทธิ์อะไรมาไล่? เพราะพวกคุณคนเยอะกว่าเหรอ?” เซี่ยหยางกว่าอย่างไม่เร็วไม่ช้า

จางฝู้กุ้ยแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยความลำพองใจว่า “ตรงนี้พวกฉันมาก่อน อยากจับปลาก็ไสหัวไปไกลๆ หน่อย”

“แล้วถ้าวันนี้พวกเรายืนกรานว่าจะจับตรงนี้ล่ะ?” เซี่ยหยางถามกลับ

“แกจับอีกครั้งก็ลองดูสิ?” จางฝู้กุ้ยกัดฟันพูด

เซี่ยหยางยิ้มเยาะ ชำเลืองมองไปที่แม่น้ำแวบหนึ่ง ยื่นมือข้างหนึ่งออกไปจับขึ้นมาตัวหนึ่ง ความเร็วนั้นไม่ต้องพูดถึงว่าเร็วขนาดไหน ราวกับว่าที่มือเขามีแรงดูดดูดขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น

“จับแล้ว แล้วไงต่อ” เซี่ยหยางถือปลายื่นไปตรงหน้าจางฝู้กุ้ย ในดวงตาฉายแววยั่วยุออกมา

“ไอ้ลูกกระต่าย แกคิดจะทำอะไร?” จางฝู้กุ้ยทำหน้าเครียด พุ่งเข้าไปหาเซี่ยหยางทันที เพิ่งคิดจะสะบัดมือตบหน้าเซี่ยหยาง จู่ๆ ที่ใบหน้าก็เจ็บปวดร้อนวูบขึ้นมา เห็นเพียงหางปลาในมือเซี่ยหยางปัดป่ายไปมา ซ้ายทีขวาที จนใบหน้าจางฝู้กุ้ยเปรอะไปด้วยเกล็ดปลา

“แกยังกล้าลงมืออีก เซี่ยหยางแกเบื่อชีวิตแล้วหรือไง?” หัวหน้าหมู่บ้านหวังหยุนจู้ที่อยู่ด้านข้างร้องอย่างไม่สบายใจคราหนึ่ง พร้อมกับร้องตะโกนพุ่งเข้ามาคิดจะจับตัวเซี่ยหยาง

เริ่มแรกเซี่ยหยางยังไม่ขยับ พอหวังหยุนจู้มาหยุดอยู่ตรงหน้า ก็เอียงตัววูบหนึ่งทันที หวังหยุนจู้ยั้งเท้าไว้ไม่ทัน ซวนเซไปมาอยู่สองสามหนก็หล่นลงไปในน้ำเสียงดังตูม สำลักน้ำไปหลายอึกอย่างไม่รู้ตัว ตะเกียกตะกายปีนขึ้นมา ไอแค่กๆ ไม่หยุด

“ไอ้เด็กสารเลว ฉันจะฆ่าแก” จางฝู้กุ้ยกับหวังหยุนจู้มีใจตรงกัน คราวก่อนกำนัลช่ายยั่นมา เขาก็เสียหน้าไปทีหนึ่งแล้ว เคียดแค้นอยู่ในใจมานาน ตอนนี้ยังมาทำให้เขาโกรธอีก จึงร้องคำรามกระโดดเข้าหา

เซี่ยหยางสะบัดปลาในมือทีหนึ่ง ยัดเข้าไปในปากของจางฝู้กุ้ยพอดี จากนั้นก็วาดเท้าเป็นแนวขวางทีหนึ่ง จางฝู้กุ้ยก็ลงไปคลานอยู่บนพื้นทันที ร้องอึกอักอยู่หลายครั้ง ยกมือขึ้นมาจับปากไว้ หางปลาก็สะบัดไปที่หน้าเขาซ้ายทีขวาที

ชายฉกรรจ์สองสามคนที่อยู่ในแม่น้ำตอนแรกยังแย่งปลากับเอ้อนิ้วอยู่ ไหนเลยจะยังสนใจมากขนาดนั้นอีก กระโดดขึ้นฝั่งกันพึ่บพั่บ รีบเข้ามาล้อมเซี่ยหยางไว้ทันที

“ตีเขา สั่งสอนเขาหนักๆ แล้วฉันจะเพิ่มเงินให้พวกแก!” จางฝู้กุ้ยกว่าจะจับปลาออกจากปากได้ไม่ง่ายเลย จึงร้องตะโกนถลึงตาจ้องมองด้วยความโกรธแค้น

ชายฉกรรจ์เหล่านั้นก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน รีบลงไม้ลงมือกับเซี่ยหยางทันที

เซี่ยหยางใจเย็นมาก ในดวงตามีประกายเยือกเย็นวาบผ่าน ก่อนจะยื่นมือข้างหนึ่งออกไปบีบลำคอของชายฉกรรจ์คนหนึ่งไว้ แล้วโยนลงไปในน้ำเสียงดังซ่า จากนั้นก็กระโดดทีหนึ่ง คว้าศีรษะของชายฉกรรจ์สองคนไว้แล้วกระแทกเข้าด้วยกัน ชายฉกรรจ์สองคนกุมศีรษะส่ายไปมาพลางร้องโอดโอย

ชายฉกรรจ์สองสามคนที่เหลือรู้สึกงุนงงอยู่เล็กน้อย ยังไม่ได้สติขึ้นมา เซี่ยหยางใช้แขนข้างหนึ่งศอกไปหนึ่งที ทั้งหมดต่างล้มลงตีลังกา เพียงไม่ถึงเสี้ยวนาที บนพื้นก็นอนกันระเกะระกะ ส่งเสียงร้องโหยหวนกันระงม

มองเห็นสายตาหวาดกลัวของพวกชายฉกรรจ์ เซี่ยหยางก็ปัดๆ มือ เพิ่งคิดจะสูบบุหรี่สักมวน ก็พบว่ามีลมเย็นสายหนึ่งจู่โจมเข้ามา พอหันหลังไปมองก็เห็นผู้ใหญ่บ้านหวังหยุนจู้ไม่รู้คลำหามาได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังถือฉมวกเตรียมจะแทงเข้ามา

เซี่ยหยางเพิ่งจะออกมือ ก็ได้ยินเสียงดังปัง หวังหยุนจู้กระเด็นออกไปทันที ก่อนที่จะล้มปักลงไปในแอ่งโคลนของแม่น้ำ เหลือเพียงขาสองข้างชี้ออกมาด้านนอก

“กล้าลอบทำร้ายพี่หยาง แกคิดว่าแกเป็นผู้ใหญ่บ้านก็เจ๋งแล้วเหรอ?” เอ้อนิ้วส่งเสียงหัวเราะฮึๆ พลางถูหมัดไปมา

เวลานี้จางฝู้กุ้ยตะลึงงันไปแล้ว อ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง พลันต้องข่มกลั้นไว้ไม่พูดออกมาสักคำ เห็นเซี่ยหยางเดินเข้ามาหา ก็พูดอ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “แก แกจะเอายังไง?”

พอเซี่ยหยางยื่นมือออกมา ก็ทำจางฝู้กุ้ยตกใจจนสะดุ้งโหยง จากนั้นก็รีบปิดหน้าไว้ แต่ไม่คิดว่าเซี่ยหยางจะดึงเขาขึ้นมา

“เรื่องในวันนี้ ฉันหวังว่าต่อไปจะไม่เกิดขึ้นอีก พวกนายอยากเลี้ยงปลาก็เลี้ยงไป แต่อย่ามาเล่นไม่ซื่อกับฉันเข้าใจ?” เซี่ยหยางดีดๆ ฝุ่นบนตัวจางฝู้กุ้ย

จางฝู้กุ้ยตกใจจนหลับตาปี๋ พยักหน้าติดๆ กันพลางกล่าวว่า “เข้า เข้าใจ”

“เข้าใจแล้วยังไม่ไปอีก?” เซี่ยหยางกล่าวออกมาด้วยท่าทางคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

“ได้ จะไปเดี๋ยวนี้ ไปเดี๋ยวนี้” จางฝู้กุ้ยยังไม่หายจากอาการตกใจกลัว รีบสั่งให้คนไปดึงผู้ใหญ่บ้านหวังหยุนจู้ออกมา พาคนจากไปอย่างทุลักทุเล

“พี่หยาง พี่คือไอดอลของผมจริงๆ เมื่อไหร่จะเจ๋งแบบนี้บ้าง สอนผมบ้างสิ?” เอ้อนิ้วเขยิบเข้ามาใกล้ด้วยใบหน้าเลื่อมใส

“อยากเรียนแน่นะ?” เซี่ยหยางเห็นเอ้อนิ้วพยักหน้า ก็ชี้ไปที่บ่อน้ำข้างเถียงนาแล้วกล่าวว่า “ดื่มทุกวัน ต่อไปก็จะแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม”

เอ้อนิ้วกะพริบตาปริบๆ ชะงักไปแล้วส่ายหน้ากล่าวว่า “พี่หยางพี่คิดว่าผมโง่เหรอ พี่นี่ตลกชะมัด ผมไปจับปลาต่อดีกว่า”

“ไม่จับแล้ว ต่อไปเรื่องนี้หาคนทำก็ใช้ได้แล้ว นายยังคงทำหน้าที่ดูแลฟาร์มสเตย์เหมือนเดิม ว่างๆ ก็มาดูที่ดิน” เซี่ยหยางพูดเสร็จก็หมุนตัวเดินจากไป

“พี่หยาง แล้วเรื่องของพวกหวังหยุนจู้จะทำยังไง? หนนี้พวกเราขัดแย้งกันอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่ความรู้สึกที่ได้เล่นงานผู้ใหญ่บ้านมันช่างสนุกจริงๆ ผมอยากจะสั่งสอนพวกเขามาตั้งนานแล้ว” เอ้อนิ้วพูดพลางเดินตามขึ้นมาพลาง

“ระวังไว้หน่อยก็พอ” เซี่ยหยางรู้ว่าพวกหวังหยุนจู้จะต้องไม่รามือง่ายๆ แน่ แต่เขายังมีเรื่องสำคัญกว่าต้องไปทำ

พอกลับมาจากแม่น้ำ ก็เข้าไปในห้องล็อกประตู เข้าสู่โลกแผ่นหยก ค้นดูลักษณะการเจริญเติบโตของโสมกับเห็ดหลินจือ

ว่ากันว่าหลังหวังหยุนจู้กับจางฝู้กุ้ยกลับไป แต่ละคนหน้าตาเปรอะไปด้วยขี้ฝุ่น กำลังอารมณ์บูดบึ้งอยู่ในลานบ้านของจางฝู้กุ้ย

หวังหยุนจู้กว่าจะทำความสะอาดตัวจนสะอาดไม่ง่ายเลย ไหนจะโคลนที่อยู่ในปากอีก จางฝู้กุ้ยดึงบุหรี่ออกมาสูบ เอ่ยขึ้นมาด้วยความโกรธจัดว่า “ไอ้ลูกกระต่ายเซี่ยหยางนี่ มันร้ายกาจเกินไปแล้ว เรื่องนี้ไม่อาจปล่อยไปทั้งอย่างนี้ได้”

หวังหยุนจู้ทำหน้าเบ้ เอ่ยอย่างจนปัญญาว่า “เถ้าแก่จาง คุณว่าพวกเราจะทำอย่างไรได้ สู้ก็สู้ไม่ได้ ความโกรธนี้คงระบายออกไปไม่ได้แล้วล่ะ”

จางฝู้กุ้ยคิดอยู่สักพัก ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยมว่า “เซี่ยหยางเลี้ยงปลาเก่งมากไม่ใช่เหรอ ผมกลับมีความคิดอย่างหนึ่ง พวกเราเอาสระส่วนกลางของหมู่บ้านมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ลูกปลาในแม่น้ำไม่จำเป็นแล้ว ผมสามารถออกเงินไปซื้อหาลูกปลาชั้นดีข้างนอกได้ รอเลี้ยงจนอ้วนพีแล้ว ก็นำออกมาขาย ให้คนในหมู่บ้านดู”

“ความหมายของคุณคือ พวกเราจะแข่งกิจการกับเซี่ยหยาง?” หวังหยุนจู้ถึงบางอ้อขึ้นมาทันที

“เมื่อทำเช่นนี้แล้ว ผมไม่เชื่อหรอกว่า พวกเราจะผลักเซี่ยหยางไม่ให้ล้มได้ ถึงเวลาทุกคนมากินปลาของเรา ทำให้ชื่อเสียงเขาตกต่ำ บากหน้าอยู่ในหมู่บ้านไม่ไหว” จางฝู้กุ้ยเบิกตากว้างอย่างชั่วร้าย

หวังหยุนจู้เผยดวงตาเป็นประกายออกมา พยักหน้าติดๆ กันก่อนจะกล่าวว่า “เยี่ยม เอาตามนี้แหละ ผมจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้”

หวังหยุนจู้พูดเสร็จเพิ่งจะเดินออกไป มือถือก็ดังขึ้น เขารีบรับสาย อดพูดอย่างตกใจไม่ได้ว่า “อะไรนะ? ได้ ฉันรู้แล้ว”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” จางฝู้กุ้ยถามอย่างไม่เข้าใจ

“ผมมีเรื่องด่วนต้องรีบไป เรื่องนี้คุณเตรียมการไปก่อน ผมจะรีบจัดการธุระอย่างรวดเร็ว” หวังหยุนจู้รีบเปิดประตูอย่างรีบร้อน แล้วพุ่งออกไปทันที

เวลานี้ที่หน้าประตูบ้านของเซี่ยหยาง มีชายหัวล้านคนหนึ่งเดินมา เป็นช่ายเลี่ยงนั่นเอง เขาขึ้นไปเคาะประตู เมียงมองมาที่ข้างใน

เซี่ยหยางอยู่ในโลกแผ่นหยกได้ยินการเคลื่อนไหว ก็รีบแฉลบตัวออกมา พอเปิดประตูเห็นเป็นช่ายเลี่ยง ก็กล่าวอย่างข้องใจว่า “ลุงช่ายมีเรื่องอะไรหรือ? บุหรี่ไหม”

ช่ายเลี่ยงรับบุหรี่มา มองเซี่ยหยางอย่างยิ้มกริ่ม ก่อนจะกล่าวว่า “มีเรื่องนิดหน่อย ลูกสาวฉันจะกลับมาแล้ว”

เซี่ยหยางสงสัยเล็กน้อย ตาแก่คนนี้ช่างน่าสนใจจริงๆ ลูกสาวเขากลับมาแล้วต้องมาบอกกับเขาอย่างดีใจอะไรขนาดนั้นด้วย เขาพูดยิ้มๆ ว่า “ลูกสาวที่เป็นกำนันหน้าตาสวยๆ คนนั้นของคุณน่ะเหรอ? ทำไมล่ะ?”

“นั่นแหละ ลูกสาวฉันสวยที่สุดในตำบลเฮยถู่แล้ว ฮ่าๆ” ช่ายเลี่ยงลูบศีรษะ ยิ้มตาหยี ดูภูมิใจเป็นอย่างมาก

“แล้วยังไงเหรอ?” เซี่ยหยางมุมปากกระตุก ช่ายยั่นเป็นคนมีเอกลักษณ์และหน้าตาสวยมาก แต่ตาแก่คนนี้คิดจะพูดอะไรกันแน่?

“ลูกสาวฉันบอกแล้ว หนนี้เธอมาที่หมู่บ้านเพื่อต้องการพิจารณานาย” ช่ายเลี่ยงเอ่ยด้วยสายตาแปลกประหลาด

“พิจารณาผม? ลูกสาวคุณหมายตาผม อยากจะดูว่าผมเหมาะจะเป็นลูกเขยของคุณไหม?” เซี่ยหยางพูดกระเซ้า

ช่ายเลี่ยงสีหน้าเปลี่ยนไป บ่นพึมพำว่า “ไอ้หนุ่มทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ คิดหมายปองลูกสาวฉัน อย่าหวัง เธอมาพิจารณาพืชการเกษตรของนายต่างหาก ยังพาคนมาไม่น้อยด้วย”

“คุณมาเพื่อแจ้งข่าวกับผม? กลัวว่าช่ายยั่นจะมาจู่โจมผมกะทันหัน?” เซี่ยหยางพูดติดตลก

“นั่นไม่ใช่อยู่แล้ว ฉันมาบอกกับนายว่า ให้นายเตรียมตัวให้ดี อย่าได้ดูถูกลูกสาวฉันเชียว เธอเก่งมากนะ เธอบอกแล้ว หากหนนี้พิจารณาแล้วว่าดี ไม่แน่ยังจะช่วยเรียกลูกค้าหารายได้ให้นายได้ ถึงเวลา นายก็ไม่ต้องกลุ้มเรื่องหาลู่ทางอะไรแล้ว” ช่ายเลี่ยงพูดพร้อมกับหัวเราะฮ่าๆ

พอเซี่ยหยางได้ยินย่อมจะดีใจอย่างแน่นอน กำลังคิดจะหาลู่ทางอยู่พอดี จึงอดพูดโพล่งออกมาไม่ได้ว่า “คุณช่างเป็นพ่อตาที่ดีจริงๆ”

เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร

เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร

Status: Ongoing

ที่ดินหลายไร่ เด็กในสังกัดเป็นโขยง เวลาทำสวนยุ่ง ผมดื่มโค๊กม่อสาวสวย เวลาไม่ยุ่ง พาสาวสวยเหล้าดอง อย่าขยับ สาวสวย ทำไมฟักทองอ่อนไปอยู่หน้านมหนูได้ล่ะ เงินทอง ที่ดิน สวน สาวสวย ราวกับสายน้ำพุ่งทะลักเข้ามาเป็นระลอกๆ พอกะลิ้มกะเหลี่ยอยู่ร่ำไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท