บทที่ 797 คดีทารกหายตัวไปในเมืองหลวง
บทที่ 797 คดีทารกหายตัวไปในเมืองหลวง
คดีทารกหายตัวไปทำให้ผู้คนทั้งเมืองหลวงตกอยู่ในความเสี่ยง โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งคลอดหรือมีลูกน้อย แม้กระทั่งผู้ที่ไม่มีลูกยังตื่นตระหนกกับคดีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เป็นทารกหายตัวไป ครั้งต่อไปไม่แน่ว่าอาจเป็นเด็กหายตัวไป จากนั้นก็เป็นหญิงสาว หรือชายหนุ่ม… หากเป็นเช่นนี้ต่อไป จะทำอย่างไรเล่า?
หากการหายตัวไปเพียงแค่ทำให้ผู้คนเกิดความโกลาหล เช่นนั้นการพบชิ้นส่วนแขนขาทารกที่ถูกฟันในแม่น้ำ นั่นยิ่งทำให้ราษฎรโกรธยิ่งกว่าเดิมแล้ว
“ใต้เท้า ท่านต้องตัดสินให้พวกเรานะขอรับ… หลานชายน้อยผู้นั้นของข้าเพิ่งเกิดมาได้เพียงครึ่งเดือน มารดาของเขายังอยู่เดือนอยู่เลย เหตุใดเขาจึงไม่อยู่แล้ว? นึกไม่ถึงว่าคนชั่วช้าฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมเหล่านั้นจะโยนเขาไปเป็นอาหารปลาแล้ว หลานชายน้อยของข้าตายอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ใต้เท้า…”
นอกประตูกรมอาญา ศาลต้าหลี่ และสำนักตรวจการ ล้วนมีชาวบ้านมาคุกเข่าอย่างเนืองแน่น เมื่อพบชิ้นส่วนของทารกในแม่น้ำ ผู้เคราะห์ร้ายก็แทบเสียสติ พวกเขาไปร้องขอความเป็นธรรมกับทางการด้วยความสิ้นหวัง เพราะอยากจะจับฆาตกรที่น่ารังเกียจเหล่านั้นมา พวกเขาต้องการแก้แค้นให้ลูกหลานของตน และทำให้ฆาตกรเหล่านั้นถูกลงโทษตามกฎหมาย
ลู่ฉาวอวี่ฟังเสียงของคนเหล่านั้นและเอ่ยถามคนข้าง ๆ “เจ้าหน้าที่ทำการชันสูตรแล้วหรือยัง?”
“ทำการชันสูตรแล้วขอรับ เป็นเด็กจริง ๆ” อีเจี้ยนที่อยู่ข้าง ๆ กล่าว “ตอนนี้มือปราบกำลังค้นหาในแม่น้ำ ดูว่ายังมีอย่างอื่นอยู่อีกหรือไม่…”
หมายถึงร่างกาย หรือชิ้นส่วนต่าง ๆ
“กำชับเหล่ามือปราบด้วยว่า หากพบสิ่งใดให้นำไปไว้ที่สถานที่ตั้งโลงศพชั่วคราว ไม่ต้องส่งกลับมา” ลู่ฉาวอวี่กล่าว “นอกจากนี้ พวกเราปีนกำแพงออกไป”
ข้างนอกถูกขวางเอาไว้แล้ว อยากตรวจสอบก็ไม่อาจตรวจสอบได้
อย่างไรก็ตาม ลู่ฉาวอวี่เข้าใจความรู้สึกของพวกเขาดี
ตอนนี้นอกจากร้องห่มร้องไห้ ร้องขอความเป็นธรรมจากทางการแล้ว พวกเขาก็ไม่อาจทำอย่างอื่นได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ปล่อยพวกเขาเถิด! และเขาจะต้องตามหาตัวคนเหล่านั้นให้ได้
ไม่ผิด! การเคลื่อนไหวใหญ่โตเช่นนี้จะต้องทำกันเป็นขบวนการ คนเพียงสองสามคนย่อมทำไม่สำเร็จอย่างแน่นอน
หลายกรมกองที่มีหน้าที่รับผิดชอบคดีนี้ส่งกองกำลังออกไปพร้อม ๆ กัน
ลู่ฉาวอวี่นำเจ้าหน้าที่สืบสวนคดีหลายคนไปตรวจสอบ กรมกองอื่น ๆ เองก็นำเจ้าหน้าที่ทางการไปคุ้มกันบ้านของชาวบ้านที่มีลูกน้อย การจำกัดเวลาเดินทางในเมืองหลวงยามวิกาลถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง กลางคืนมีทหารลาดตระเวนจำนวนมากคอยออกตรวจตรา หากออกไปข้างนอก จะดีที่สุดหากหยุดรอให้ตรวจสอบ อย่าได้วิ่งวุ่น ไม่เช่นนั้นจะถูกศรสุ่มยิงตาย
“นับตั้งแต่คดีแรกเกิดขึ้น ทางการได้จัดวางกำลังทหารองครักษ์ตรวจสอบผู้เข้าออกประตูเมืองอย่างเข้มงวด จากข้างนอกเข้ามาในเมืองไม่มีปัญหา ทว่าหากออกไปจากเมืองจะถูกตรวจค้นอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม กระทั่งบัดนี้ยังไม่พบสิ่งปกติ เด็กเหล่านั้นยังเล็ก หากไม่ต้องการให้พวกเขาร้องไห้งอแง ทำได้เพียงให้หลับอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ หากใช้ยานาน ๆ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อพวกเขา…”
ลู่ฉาวอวี่มองดูแผนที่เมืองหลวง วาดสัญลักษณ์ลงไปบนสถานที่ที่น่าสงสัยสำคัญหลายจุด แล้วให้คนของเขาไปตรวจสอบทีละสถานที่
ผู้ร้ายที่ลักพาตัวทารกไปย่อมไม่มีทางฆ่าทารกทั้งหมดได้ ศพสองสามศพที่พบในแม่น้ำจะต้องทำเพื่ออำพรางให้คนของทางการยอมแพ้
คนของทางการไม่เพียงไม่ยอมแพ้ มีเพียงแต่จะโกรธยิ่งกว่าเดิมเท่านั้น
สถานที่ที่ลู่ฉาวอวี่ทำสัญลักษณ์ส่วนใหญ่เป็นสถานที่ที่ครึกครื้นทั่วทั้งเมืองหลวง
ที่แรกโรงพนัน ที่สองหอโคมเขียว ที่สามโรงเตี๊ยม
สถานที่เหล่านี้มีผู้คนมากมาย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่คึกคักที่สุดในยามค่ำคืน ทำให้ง่ายต่อการสร้างความสับสนให้ผู้คน
“อีเจี้ยน” ลู่ฉาวอวี่โบกมือให้อีเจี้ยนที่อยู่ข้าง ๆ “เจ้าคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าคนร้ายเหล่านั้นสั่งคนให้ขุดอุโมงค์ใต้ดิน เหมือนที่ท่านแม่ข้าทำตอนนางอยู่เมืองฮู่เป่ย?”
ดวงตาของอีเจี้ยนเบิกกว้าง “อุโมงค์? หรือว่าผู้ร้ายกลุ่มนั้นใช้อุโมงค์พาตัวเด็กออกไป?”
“คิดจะขุดอุโมงค์ไม่ได้ง่ายดายเพียงนั้น ต้องใช้กำลังคนมหาศาล เจ้าว่าสถานที่ที่หากำลังคนได้ง่ายที่สุดและเป็นที่ที่ผ่านออกไปง่ายที่สุดเป็นที่แบบใด?”
“ใต้เท้า ถึงแม้จะเป็นที่ที่เจริญรุ่งเรืองอย่างเมืองหลวง แต่ก็ยังแบ่งออกหลายระดับ ตอนนั้นใต้เท้ามายังเมืองหลวงเป็นครั้งแรกก็ใช้ชีวิตอย่างคนชนชั้นสูง ไม่รู้ว่าในเมืองหลวงยังมีผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอยู่ในมุมหนึ่ง เท่าที่ข้าได้ยินมา มีที่แห่งหนึ่งเรียกว่าเมืองใต้ดิน ที่นั่นเป็นที่ที่ผู้กระทำผิดรวมตัวกันอยู่มากมาย เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ครั้นฮ่องเต้พระองค์ก่อนมีพระชนมายุห้าสิบพรรษา ทรงโปรดนิรโทษกรรมทั้งแผ่นดิน นักโทษประหารทั้งหมดจึงถูกปล่อยตัว หลังจากคนเหล่านั้นถูกปล่อยตัวออกจากคุก พวกเขาไร้ทางเลือกจึงทำได้เพียงอาศัยอยู่ด้วยกันในเมืองใต้ดิน มิเช่นนั้นเมื่อใดที่เกิดคดีขึ้นมาทางการก็จะไต่สวนพวกเขา วันคืนเช่นนั้นย่อมไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้”
“ที่นั่นมีคนรับผิดชอบหรือไม่?”
“นักโทษประหารเยอะเพียงนั้นจะไม่มีผู้ใดคอยดูแลได้อย่างไร? หากไม่สนใจไยดี นั่นจะไม่วุ่นวายหรอกหรือ? เรื่องนี้เจ้าหน้าที่กรมอาญาควรรู้กระจ่างชัดที่สุด เพราะที่นั่นอยู่ในความรับผิดชอบของกรมอาญา”
“ดูเหมือนที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่สำคัญที่ต้องตรวจสอบออกมา” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “เจ้านำกำลังคนมาเพิ่มเถิด ข้าจะไปตรวจสอบที่นั่นด้วยตนเอง”
ลู่ฉาวอวี่นำยอดฝีมือห้าสิบคนลงไปยังเมืองใต้ดิน
เขาเพิ่งไป ทางลู่อี้ก็ได้รับข่าวแล้ว
ลู่อี้ผู้ที่กำลังจะออกไปหยุดฝีเท้า แล้วกล่าวอย่างใจเย็น “ดูเหมือนข้าจะไม่ต้องไปไหนอีก เพราะเจ้าเด็กคนนั้นไปหาเองแล้ว”
“เมืองใต้ดินแห่งนี้ถูกคนมองข้ามไปได้อย่างง่ายดาย” เซี่ยคุนเอ่ย “คนที่นั่นไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาเดินเพ่นพ่าน ทางเข้ายังมีเจ้าหน้าที่กรมอาญาคอยเฝ้าระวัง หากคนที่อยู่ข้างในขาดสิ่งใด พวกเขาเพียงแค่ต้องส่งกระดาษออกมา แล้วคนจะนำสิ่งของที่เขียนเอาไว้ไปส่งให้ถึงที่ คดีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ พวกเราก็สงสัยเช่นกัน อีกทั้งยังส่งคนออกไปตรวจสอบหลายคน แต่กลับไม่พบเบาะแสใด ๆ”
“การไม่พบเบาะแส หากไม่ใช่พวกเขาอำพรางได้ดีมากก็เป็นเพราะคนที่ท่านส่งไปไร้ประโยชน์” ลู่อี้เอ่ย “ทั่วทั้งเมืองหลวงอยู่ภายใต้การดูแลของเรา แต่ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นซ้ำ ๆ ได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าเรามองข้ามบางอย่างไป หากจะกล่าวว่าที่ใดที่ถูกมองข้ามที่สุด ทั่วทั้งเมืองหลวง นอกจากเมืองใต้ดินแห่งนี้แล้ว ยังจะมีที่ใดได้อีก?”
“ที่นั่นอันตรายมาก ต้องส่งคนไปคุ้มครองฉาวอวี่หรือไม่?”
“เขาพาคนไปมากพอแล้วไม่ใช่หรือ?”
“คนที่นั่นล้วนแต่เป็นนักโทษประหารจนตรอก ฆ่าคนอย่างบ้าคลั่ง พวกมันไม่เพียงแต่โหดเหี้ยม ทว่าวิธีการของพวกมันยังต่ำช้าน่ารังเกียจ”
“ส่งคนจำนวนหนึ่งติดตามไปอย่างลับ ๆ หากไม่พบอันตรายก็อย่าได้แหวกหญ้าให้งูตื่น”
ลู่ฉาวอวี่มาถึงเมืองใต้ดินแล้ว
นึกไม่ถึงว่าทางเข้าจะเป็นถ้ำแห่งหนึ่ง
“คารวะใต้เท้า…” เจ้าหน้าที่ทางการกรมอาญาผู้หนึ่งเดินเข้ามา ค้อมคำนับลู่ฉาวอวี่
ลู่ฉาวอวี่มองคนตรงหน้าแล้วกล่าวว่า “เจ้ารับผิดชอบที่นี่มาโดยตลอดหรือ?”
“ข้าน้อยอยู่ที่นี่มาสองปีแล้วขอรับ สองปีนี้ข้าน้อยเป็นผู้รับผิดชอบที่นี่”
“หมู่นี้มีคนเมืองใต้ดินเข้าออกบ้างหรือไม่?”
“ใต้เท้า คนข้างในใจคอโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก หากไม่จำเป็นจริง ๆ คนข้างในไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาขอรับ ครั้งก่อนชาวเมืองคนหนึ่งบอกว่ามารดาเฒ่าของเขากำลังจะตาย กระนั้นข้าน้อยยังไม่ปล่อยให้ไป”
“เจ้านำรายการของที่พวกเขาต้องการมาให้ข้าดูหน่อยเถิด” ลู่ฉาวอวี่กล่าว
“ขอรับ”
เจ้าหน้าที่นำบันทึกหลายเล่มออกมา แล้วกล่าวกับลู่ฉาวอวี่ “รายการของที่พวกเขาต้องการในระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาอยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้วขอรับ”
ลู่ฉาวอวี่พลิกอ่าน จากนั้นสายตาของเขาก็หยุดอยู่ที่บันทึกหน้าหนึ่ง
“ตั้งแต่ครึ่งปีก่อนเป็นต้นมา พวกเขาต้องใช้เครื่องมือที่เป็นเหล็กในแต่ละเดือนเป็นจำนวนมาก เจ้าเคยถามหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“เคยถามขอรับ ของที่พวกเขาต้องการหากไม่ใช่หม้อเหล็ก ช้อนเหล็ก หรือพลั่ว ก็เป็นของจำเป็นในชีวิตประจำวันหรือของที่ใช้ในการทำงาน ของเหล่านี้ไม่น่ามีปัญหากระมัง?”
————————