เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร – ตอนที่ 21

ตอนที่ 21

“ไม่เลวเลยจริงๆ รสชาติเป็นเอกลักษณ์มาก ผมเองก็เป็นนักดื่มทางด้านนี้เหมือนกัน ตอนแรกแค่จะมาลองชิมดู คิดไม่ถึงว่าน้ำชานี้ราวกับไม่เคยดื่มที่ไหนมาก่อน พอเข้าปากกลิ่นก็หอมอบอวลรสชาติหวานล้ำ หลังดื่มเสร็จก็ยังติดใจในรสชาติอย่างไม่มีที่สิ้นสุด” เถ้าแก่เจ้าแขวนรอยยิ้มบนใบหน้า อดดื่มเข้าไปอีกหลายอีกไม่ได้

ต่อมา หวางหลิงก็เริ่มสัมภาษณ์พวกพี่เฉียนต่อ ทุกคนมีความคิดเห็นตรงกัน ต่างรู้สึกว่าดื่มอร่อยเป็นพิเศษ

“ดูท่าทาง จะเป็นชาดีโดยแท้จริง ตอนนี้พวกเรามาสัมภาษณ์เถ้าแก่ร้านนี้กันบ้าง ก็คือพี่สุดหล่อผู้องอาจผึ่งผายคนนี้นี่เอง เป็นยังไงคะ ยังหนุ่มมากไหม?” หวางหลิงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเซี่ยหยาง ยกไมค์ยื่นไปที่เขา ใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “เถ้าแก่เซี่ย บอกพวกเราหน่อยว่า ชานี้เป็นชาอะไร วิธีการชงชงอย่างไรคะ?”

เซี่ยหยางยังไม่ได้เตรียมตัว แต่เขารู้สึกว่านี่เป็นการโฆษณาที่ดีที่สุด ก่อนจะพูดว่า “ใบชานี่คือชาที่ผมปลูกเองกับมือ ไม่เหมือนกับใบชาทั่วไปนัก ผมเองก็ไม่ได้มีฝีมือในการชงชาอะไร แต่ขอเพียงดื่มใบชาชนิดนี้ รสชาติจะเป็นอย่างที่คุณจินตนาการไม่ถึงอย่างแน่นอน”

“เห็นที ที่ชานี้อร่อย เป็นเพราะใบชานี้สินะ ต่อไป พวกเรามาดูกันว่าผักของที่นี่รสชาติเป็นยังไงกันค่ะ” หวางหลิงพูดจบ ก็ส่งสัญญาณให้ช่างกล้องที่อยู่ด้านหลังปิดกล้อง จากนั้นก็มองเซี่ยหยางพลางกล่าวยิ้มๆ ว่า “เถ้าแก่เซี่ย เป็นยังไงบ้าง พอใจไหมคะ?”

“ค่อนข้างดีทีเดียว เหนือความคาดหมายจริงๆ คราวก่อนมาไม่ทันได้ขอบคุณ ครั้งนี้ยังไงก็ต้องทานฟรี” เซี่ยหยางยิ้มกริ่ม มองหญิงสาวที่ฉลาดเฉลียวและมีชีวิตชีวาที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก

“นี่ต้องขอโทษด้วยอย่างมาก ฉันไร้ความชอบไม่ควรได้รับของตอบแทน” หวางหลิงกะพริบดวงตากลมโต ยิ้มอย่างนุ่มนวล

“ที่ไหนกัน คุณช่วยผมเยอะมาก การช่วยโฆษณาให้ผม ก็คือความชอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด “เวลานี้เซี่ยหยางจู่ๆ ก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา โดยอยากจะทำให้ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่ง และโฆษณานี้จะต้องถึงเป้าหมายอย่างแท้จริง เรียกได้ว่ารู้จักกันอย่างกว้างขวาง สมัยนี้ ไม่ใช่เหล้าดีย่อมไม่กลัวตรอกลึกอีกแล้ว

พอผักยกมาเสิร์ฟ พวกเขาก็เริ่มกินอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งขึ้นมา ไม่นานนัก พวกเขาก็ถูกดึงดูดความสนใจไว้ กระทั่งกินอย่างโลภขึ้นมา ถึงกับหยุดไม่ได้เลยทีเดียว

หวางหลิงวางตะเกียบลงอย่างจำใจ หยิบไมค์ขึ้นมาอีกครั้ง สั่งให้เปิดกล้อง ก่อนจะกล่าวกับพี่เฉียนว่า “คุณรู้สึกว่า ผักนี่รสชาติเป็นอย่างไรบ้างคะ?”

“อร่อยเกินไปแล้ว ฉันเองก็ทำธุรกิจร้านอาหารเช่นกัน ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์เลยทีเดียว พุทโธ่ไม่พูดแล้ว ฉันได้ลองชิมก่อนแล้ว นานมากแล้วที่ไม่ได้กินผักแบบนี้” พี่เฉียนทางหนึ่งพูด ทางหนึ่งก้มหน้ากินเข้าไปเต็มคำ

คนอื่นๆ ก็เหมือนกัน ความกังขาในตอนแรกไม่เหลือนานแล้ว ถึงอย่างไรก็เป็นคนมีฐานะ แต่ทำราวกับหิวมานานมากอย่างไรอย่างนั้น ไม่สนภาพลักษณ์กันเลยทีเดียว

“ทุกท่านคงเห็นแล้วสินะ มันอร่อยมากจริงๆ ค่ะ อีกเดี๋ยวพวกเราจะไปเยี่ยมชมแปลงผักกับสระเลี้ยงปลาของเถ้าแก่เซี่ยกัน ไม่พูดแล้วกัน ฉันเองก็ยังอดน้ำลายไหลไม่ได้เลยค่ะ” หวางหลิงรีบเก็บไมค์ เริ่มสวาปามเข้าไป ช่างกล้องคนนั้นที่อยู่ด้านข้างก็รีบร้อนตาลีตาเหลือกเช่นเดียวกัน ราวกับอดอยากมานานแล้วอย่างไรอย่างนั้น ทิ้งกล้องไว้แล้วเริ่มกินอย่างบ้าคลั่ง

เห็นพวกเขาชอบแบบนี้ ในใจเซี่ยหยางสุขใจราวกับดอกไม้บาน ผักที่อยู่บนโต๊ะมองเห็นก้นจานอย่างรวดเร็ว เห็นท่าทางพวกเขากินดื่มกันจนอิ่มแปล้ เซี่ยหยางก็รู้ว่าเรื่องในวันนี้นับว่าประสบความสำเร็จแล้ว

ผลเป็นดังคาด เวลานี้เถ้าแก่เจ้าก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เถ้าแก่เซี่ยครับ ผักเหล่านี้ของคุณปลูกออกมายังไงกัน? ดูไม่ได้ต่างกับผักทั่วไป แต่พอกินแล้วทำไมถึงอร่อยขนาดนั้น?”

“ช่วงเวลาสั้นๆ แค่นี้คงเล่าไม่หมด หากพวกคุณสนใจล่ะก็ พวกเราสามารถไปดูแปลงปลูกกันได้” เซี่ยหยางเสนอความเห็นออกมา

พวกเขาอดใจไม่ไหวกันนานแล้ว จึงลุกขึ้นเดินตามไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างตามไปกันแทบไม่ทัน

ระหว่างทาง เซี่ยหยางถอยหลังสองสามก้าว ก่อนจะเอ่ยกับหวางหลิงที่อยู่ด้านข้างว่า “นี่คือเพื่อนคุณหมดเลยเหรอ?”

“นับเป็นเพื่อนทั่วไปแล้วกัน เมื่อก่อนตอนอยู่สถานีโทรทัศน์พวกเขาเคยทำโฆษณาก็เลยรู้จักกัน ต่างเป็นเถ้าแก่ร้านอาหารทั้งนั้น ครั้งนี้ได้ยินฉันพูดถึงร้านคุณ เลยอยากมาลองดู ตอนนี้ดูท่าคงจะสนใจปลากับผักสดของคุณมาก” หวางหลิงอธิบาย

เซี่ยหยางกำลังมีความคิดเช่นนี้พอดี เขาอยากได้ลูกค้าเหล่านี้มาก เพราะอย่างไรที่ดินมากกว่าครึ่งของชาวบ้านล้วนให้ตนเองเป็นคนเพาะปลูก นี่จึงจำเป็นต้องหาลู่ทางการค้า แค่ร้านฝูหมั่นโหลวของเฉินเจียทีเดียวย่อมมีจำกัด

“ขอบคุณนะ เห็นแก่หน้าคุณ เดี๋ยวจะมอบโปรโมชั่นให้พวกเขา” เซี่ยหยางพูดอย่างซาบซึ้งใจ เข้าไปแนะนำสถานการณ์ให้ทุกคนฟัง

“ผักสดเหล่านี้ก็แตกต่างเหมือนกันสินะ การเจริญเติบโตยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว อืม กินสดๆ ก็ไม่เลวเลย พวกคุณเองก็รีบลองชิมดูสิ” เถ้าแก่เจ้าตกตะลึงสุดขีด

พี่เฉียนเองก็ดูต่อไม่หยุด พวกเถ้าแก่ร้านอาหารแทบจะตกตะลึงจนตาค้าง เคยทำการค้ามาตั้งหลายปี คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะยังมีผักอร่อยเช่นนี้อยู่อีก

“เถ้าแก่เซี่ย หวังว่าจะขายสินค้าให้พวกเราได้ พวกเราไม่มีใครจองแต่ต้องการเลยสักหลายร้อยชั่ง หลังกลับไปลองทำดู หากขายดี พวกเราก็จะร่วมงานกันระยะยาว” พวกเขาต่างพากันแสดงความคิดเห็น

เซี่ยหยางดีใจอย่างมาก รีบให้เอ้อนิ้วมาที่นี่ทำการลงทะเบียนไว้ เขารีบต่อรองราคา พวกเถ้าแก่เจ้าเหมือนร้อนใจมาก ไม่มีการต่อรองอะไรเลย ก็เรียกคนขับรถมาขนของไป

เพียงแค่คนเหล่านี้ ผักสดทั้งหมดที่เพิ่มเข้ามาก็ขายไปได้หนึ่งถึงสองตัน ต่างจ่ายเงินสดทั้งสิ้น เซี่ยหยางคำนวนดูแล้ว ลบเงินทุนออก สินค้าล็อตนี้ก็ได้กำไรถึงแสนกว่าเชียวนะ

หยิบเงินสองหมื่นส่งให้เอ้อนิ้วโดยตรง เอ้อนิ้วดีใจแสยะปากยิ้มไม่หยุด พูดอย่างดีใจจนออกนอกหน้าว่า “พี่หยาง ติดตามพี่นี่มีอนาคตจริงๆ ต่อให้พี่ไล่ผมไป ผมก็ไม่ไป”

เซี่ยหยางหัวเราะ นี่แค่เพิ่งจะเริ่ม เส้นทางต่อจากนี้ยังอีกยาวไกล แต่จะว่าไปแล้ว ผักและผลไม้สดอะไรนั่น อย่างไรก็ยังคงธรรมดาเกินไป แม้ว่าราคาของที่นี่จะสูงกว่าราคาของที่อื่นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้กำไรมากเท่าไหร่นัก

คิดมาคิดไป ยังคงปลูกพวกโสมกับเห็ดหลินจือดีกว่า พืชที่ไม่ได้พบเห็นทั่วไปจะราคาดีกว่า แต่พืชเหล่านี้จะเติบโตช้าอยู่บ้าง เห็นทีต่อไปคงต้องหาพืชที่เจริญเติบโตเร็วกำไรจะได้สูงขึ้นเสียแล้ว

“เถ้าแก่เซี่ย วันนี้ขอบคุณคุณแล้ว วันหลังฉันจะมาอุดหนุนใหม่นะคะ” หวางหลิงยู่ปากเล็กๆ ของเธอ ดูน่ารักเป็นอย่างยิ่ง

“ผมสิควรขอบคุณคุณ มาคราวหน้า ผมจะให้คุณทานฟรีอีก” เซี่ยหยางมองสาวสวยงดงามที่อยู่ตรงหน้า มักมอบความรู้สึกที่น่ารักใสซื่อให้ผู้อื่นอยู่เสมอ ทำให้คนอื่นรู้สึกสุขกายสุขใจราวกับดื่มน้ำพุที่ใสสะอาด

หวางหลิงกัดริมฝีปากอย่างตกตะลึง ก่อนจะกล่าวว่า “ยังฟรีอยู่อีกเหรอ ฉันเกรงใจจัง”

“ไม่เพียงแค่คราวหน้า ต่อไปมาอีกก็ไม่คิดเงิน” เซี่ยหยางพูดโพล่งออกมา

หวางหลิงเบิกตากว้าง ท่าทางดีใจมาก ก่อนจะกล่าวว่า “เฮอะ งั้นฉันก็ต้องทำโฆษณาให้คุณมากขึ้นน่ะสิ”

“ได้ หากได้ผล ผมยังจะจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้คุณด้วย” เซี่ยหยางลูบจมูก

“แน่นะ? งั้นฉันก็ต้องวางแผนให้ดีแล้ว วางใจฉันได้เลย แล้วพบกันใหม่ค่ะ” หวางหลิงยิ้มหวาน

จากนั้นเซี่ยหยางกับหวางหลิงก็แลกเปลี่ยนช่องทางการติดต่อกันไว้ เห็นหวางหลิงนั่งรถจากไปแล้ว ในใจก็มีไอเดียแล้วเช่นกัน ต่อไปจะต้องผูกมิตรกับนักข่าวสาวคนนี้ให้มากๆ เข้ามาต้องทำให้แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ขึ้น ยังต้องขอให้เธอช่วยเหลืออีกไม่น้อย

แต่หวางหลิงกลับเป็นพวกรวดเร็วอย่างยิ่ง พอตกกลางคืน สถานีโทรทัศน์ภายในเมืองก็เผยแพร่บทสัมภาษณ์ครั้งนี้ออกมา ทำเอาเอ้อนิ้วตื่นเต้นดีใจ พูดใส่ทีวีอย่างสนุกสนาน

ที่ทำให้เซี่ยหยางคาดไม่ถึงคือ รายการที่ออกอากาศ กลับโด่งดังเป็นพิเศษ วันต่อมาจึงมีคนที่ชื่นชมในชื่อเสียงต่างทยอยกันมาไม่ได้ขาด พากันมาชิมอาหาร

ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนจากตำบลเดียวกันของเมือง ขับรถมากันจนอุดเส้นทางของหมู่บ้านไว้ คนเหล่านี้ทานในร้านอาหารกับภัตตาคารจนเบื่อแล้ว พอมากินที่นี่ก็รู้สึกติดใจ มีบางคนไม่ยอมจากไปเสียเลย กินตั้งแต่เช้าจรดเย็น เวลานี้ทำเอาหมู่บ้านครึกครื้นจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว

แต่เอ้อนิ้วกับพนักงานเหล่านั้นก็ยุ่งขิงเช่นเดียวกัน แม้แต่เซี่ยหยางเองก็ยังไม่ได้พัก เข้าไปช่วยกัน พ่อเขายังเกณฑ์คนในหมู่บ้านมาเป็นผู้ช่วยที่นี่ บิดากล่าวขึ้นอย่างทอดถอนใจว่า นี่ทำให้เขาคิดถึงภาพความทรงจำของทีมผลิตในตอนนั้นขึ้นมา ทุกคนกินข้าวหม้อเดียวกัน เป็นความครึกครื้นอย่างที่สุด แล้วยังเอร็ดอร่อยอีกด้วย

“พี่หยาง สองวันมานี้ค้าขายดีมากเลย นี่มันยังไงกัน พวกพนักงานก็แทบจะรับมือกันไม่ไหวแล้ว” วันนี้ยุ่งตลอดจนถึงค่ำ เอ้อนิ้วเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก พลางเดินมาหาเซี่ยหยาง

เซี่ยหยางเองก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าที่ค้าขายดีขนาดนี้ ดูท่านี่ล้วนเป็นผลงานของหวางหลิง เขานิ่งคิด ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “นายบอกให้ทุกคนทนอีกสักสองวัน ฉันประกาศรับสมัครพนักงานแล้ว อีกอย่างบอกกับพวกเขาว่า ต่อไปจะขึ้นค่าจ้างให้”

“แบบนี้ก็เยี่ยมไปเลย แต่ว่าพี่หยาง มีบางเรื่องที่พี่ต้องปรับปรุงนะ ลูกค้าส่วนใหญ่บอกว่า หากที่ร้านเรามีสถานที่เดินเล่นหรือพักผ่อนหย่อนใจก็คงดี พวกเขากินข้าวก็ไม่มีที่ให้ไป พื้นที่ของฟาร์มสเตย์มีจำกัด อึดอัดจะตายแล้ว” เอ้อนิ้วบ่นพึมพำ

ผู้พูดไม่คิดผู้ฟังคิดมาก พอถูกเอ้อนิ้วเตือนมาเช่นนี้ เซี่ยหยางก็เริ่มจะคิดขึ้นมา จริงด้วย ในเมื่อต้องทำ เติมเต็มความต้องการของลูกค้า การให้บริการมังกรตัวหนึ่ง กิน อยู่ เที่ยวเล่น ความบันเทิง ล้วนต้องมีครบครัน

“เอ้อนิ้ว ที่พักนี่ทำได้ วันหลังฉันจะหาที่เพื่อขยับขยาย ทำบ้านออกมาสักหลายๆ หลังไว้รับรองลูกค้า แต่ที่เที่ยวเล่นนี้ ฉันยังคิดไม่ออกสักพัก นายมีความคิดดีๆ บ้างไหม?” เซี่ยหยางส่งบุหรี่ให้เอ้อนิ้ว ตนเองก็จุดสูบด้วยเช่นกัน

เอ้อนิ้วเกาศีรษะ จู่ๆ ตรงหน้าก็พลันสว่างวาบ ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “เอ่อ พี่หยาง ผมคิดว่า ทำสระว่ายน้ำได้อยู่นะ นอกจากนี้ก็ทำสระน้ำไว้ตกปลา ผมว่าสถานที่ตกปลามีเยอะมากล้วนน่าทำทั้งนั้น”

“ความคิดนี้เข้าท่าดี ยังมีอีก จุดที่ทำควรมีลักษณะพิเศษและแรงดึงดูดด้วย” เซี่ยหยางถาม

“ถ้าอย่างนั้น จ้างสาวสวยสักสองสามคนมาเต้นรำดีไหม?” เอ้อนิ้วกล่าวพลางหัวเราะฮึฮึ

เซี่ยหยางกลอกตามองบนใส่เขา พลางพูดว่า “ทำไมแกไม่บอกให้เปิดบ่อนพนันไปเลยล่ะ?”

“ก็ได้นะ ผมว่าดีมากเลย กินเสร็จเล่นไพ่ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พวกเรายังได้เงินจากโต๊ะ……”

เอ้อนิ้วไม่ได้พูดจนจบ ก็พบสายตาเซี่ยหยางที่มองมาราวกับมองคนโง่ จึงรีบหยุดไว้ทันที ก่อนจะยิ้มแหยๆ กล่าวว่า “พี่หยาง แล้วพี่ว่าจะทำอะไรดีล่ะ?”

“ตอนนี้ยังไม่มีความคิดดีๆ แต่ในเมื่อเป็นชนบท ผู้อื่นมาเล่นเพราะอะไรล่ะ นายเคยคิดบ้างไหม?” เซี่ยหยางถาม

เอ้อนิ้วกะพริบตาปริบๆ เกาศีรษะก่อนจะกล่าวว่า “ผมรู้สึกว่าพวกเขาอยู่ในเมืองจนเบื่อพอแล้ว เลยมาเที่ยวเล่นในที่ใหม่ๆ บ้าง”

“ถูกเผง นายว่าสาวสวยเอย เล่นพนันเอยอะไรนั่น ในเมืองมีเต็มไปหมด ย่อมจะไม่ได้ พวกเขามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะหาสถานที่ดีๆ เงียบสงบสักแห่ง ดังนั้นจึงต้องทำการพัฒนาในด้านนี้” เซี่ยหยางเอ่ยความคิดของตัวเองออกมา

“อย่างนั้นอะไรที่เรียกว่าที่ดีๆ เงียบสงบล่ะ” เอ้อนิ้วกล่าวขึ้นมาอย่างงงงัน

เซี่ยหยางพลันมีความรู้สึกผิดที่สีซอให้ควายฟังขึ้นมา จึงยิ้มขื่นแล้วกล่าวว่า “เรื่องนี้นายอย่าเพิ่งยุ่งไปก่อน สองวันนี้รับคนมาเพิ่มสองสามคน นายเองก็เหนื่อยแย่ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

สองสามวันให้หลัง คนที่มาหมู่บ้านยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนมาคนไป แทบจะกลายเป็นตลาดสดไปเสียแล้ว

แต่โชคดีที่รับพนักงานมาช่วยสองสามคน ได้มีที่ให้พักหายใจบ้างเสียที แต่ต่อมาความยุ่งยากก็มาเยือน ถนนในหมู่บ้านเดิมทีก็แย่แถมยังคับแคบพออยู่แล้ว เกือบจะแน่นจนติดขัดไปหมด

นอกจากลูกค้าที่มาทานข้าวเหล่านั้นแล้ว ยังมีเถ้าแก่ร้านอาหารระดับเล็กไปจนถึงกลางพากันมาหาเซี่ยหยางเพื่อเจรจาการค้า แม้ว่าเซี่ยหยางจะจงใจเสนอราคาผักสดกับปลาในราคาสูง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ

แบบนี้ พอรถบรรทุกของพวกเขาขับเข้ามา ถนนก็เดินทางไม่สะดวก แออัดจนแน่นสนิท

วันนี้พอบิดาเขาหาเซี่ยหยางเจอแล้ว ก็กล่าวอย่างหนักอกหนักใจว่า “หยาง มีเรื่องจะพูดกับแก”

“พูดมาสิ มีอะไรเหรอ?” เซี่ยหยางมองบิดา เวลานี้สุขภาพเขาดีขึ้นเรื่อยๆ เดินเหินก็รวดเร็วมากขึ้น แต่น้อยมากที่จะตามหาตัวเขาเพื่อพูดคุย

เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร

เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร

Status: Ongoing

ที่ดินหลายไร่ เด็กในสังกัดเป็นโขยง เวลาทำสวนยุ่ง ผมดื่มโค๊กม่อสาวสวย เวลาไม่ยุ่ง พาสาวสวยเหล้าดอง อย่าขยับ สาวสวย ทำไมฟักทองอ่อนไปอยู่หน้านมหนูได้ล่ะ เงินทอง ที่ดิน สวน สาวสวย ราวกับสายน้ำพุ่งทะลักเข้ามาเป็นระลอกๆ พอกะลิ้มกะเหลี่ยอยู่ร่ำไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท