อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนพิเศษ 157 เนี่ยนเนี่ยนรออยู่ข้างนอก

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนพิเศษ 157 เนี่ยนเนี่ยนรออยู่ข้างนอก

ตอนพิเศษ 157 เนี่ยนเนี่ยนรออยู่ข้างนอก

ติงเซียงเกือบจะกรีดร้องอีกครั้ง ใบหน้าของนางซีดเผือดราวกับกระดาษ เหงื่อเย็นไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

โม่เพียวทำราวกับไม่เห็นท่าทางของนาง และโอบไหล่นาง ขณะถามด้วยรอยยิ้ม “เจ้าชื่อ… ติงเซียงใช่หรือไม่?”

“แฮ่ก แฮ่กๆ…” ช่วยเอาถุงผ้านั่นออกไปไกลกว่านี้หน่อยได้หรือไม่ นางกลัว

โม่เพียวพยักหน้า และยังคงถามด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนูเปี่ยวเป็นคนให้ปล่อยงูตัวนี้มาใช่หรือไม่?”

“แฮ่ก แฮ่กๆ…” ติงเซียงพูดไม่ออกเลย

“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าสนับสนุนให้คุณหนูเปี่ยวเป็นภรรยาของคุณชายใหญ่ใช่หรือไม่?”

“…” เส้นประสาทติงเซียงเกร็งขึ้นมาทันที และหันไปมองสตรีแปลกหน้าที่สอบถามนางเรื่องนี้ ได้ยินมาว่าสาวใช้คนนี้มาวันเดียวกับอวี้ซี และถูกนายท่านรองพามาเช่นกัน ดังนั้นนางกับอวี้ซีน่าจะสนิทสนมกันมาก

หลายคนรู้ว่านางสนับสนุนคุณหนูเปี่ยว โม่เพียวและอวี้ซีสนิทกัน จึงไม่น่าแปลกที่นางจะเข้าใจ

เมื่อเห็นว่านางยังคงเงียบ โม่เพียวก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วโอบแขนรอบคอนางแน่นขึ้น “ข้าขอถามว่าเหตุใดเจ้าถึงไม่คิดให้มากกว่านี้? อยากจะสนับสนุนคุณหนูเปี่ยวหรือ? เจ้าก็เห็นว่าคุณหนูเปี่ยวมีจิตใจชั่วร้ายและโหดเหี้ยมอำมหิตเพียงใด ภายนอกนางดูอ่อนโยนและอ่อนแอ แต่กลอุบายของนางช่างน่าขนลุก คุณ…อวี้ซีได้พบกับนางเพียงครั้งเดียว แต่นางก็คิดจะปลิดชีพอวี้ซีเสียแล้ว โดยที่ไม่ได้เป็นห่วงข้ากับแม่เฒ่าเซินที่อยู่ในสวนดอกไม้เลย ดังนั้นเจ้าก็น่าจะเห็นแล้วว่านางเลือดเย็นเพียงใด ใช่หรือไม่?”

ติงเซียงเม้มปาก หลุบตาลงเล็กน้อย ในที่สุดก็เลิกมองถุงผ้าที่อยู่ข้างๆ อารมณ์ของนางเริ่มกลับมาปกติ

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นนางก็เม้มปาก แล้วพูดเย้ยหยัน “ถ้าข้าไม่สนับสนุนคุณหนูเปี่ยว แล้วจะให้ข้าสนับสนุนใครได้อีก? สนับสนุนอวี้ซีงั้นหรือ? เจ้าช่างไร้เดียงสานัก อวี้ซีเป็นเพียงสาวใช้ผู้ต่ำต้อย แม้ว่านางจะ ได้รับความโปรดปรานจากคุณชายใหญ่ แต่เจ้าคิดว่านางจะเป็นนายหญิงได้งั้นหรือ? เหลวไหล อย่างมากนางก็เป็นได้แค่นางบำเรอ เจ้าอยากให้ข้าสนับสนุนนางบำเรองั้นหรือ?”

นางต้องการหาคนที่คอยสนับสนุนนาง แต่ผู้สนับสนุนคนนั้นจะต้องไม่ใช่แค่นางบำเรอแน่นอน

นางบำเรอกับคนรับใช้ต่างกันอย่างไร? ถึงตอนนั้น นายหญิงสามารถทำให้ชีวิตของนางบำเรอต้องเลวร้ายยิ่งกว่าความตายด้วยคำพูดเพียงคำเดียวได้ไม่ใช่หรือ? แล้วในฐานะหัวหน้าสาวใช้ที่สนับสนุนนางบำเรอ จะมีชีวิตที่ดีในอนาคตได้อย่างไร?

แน่นอนว่านางรู้ว่าคุณหนูเปี่ยวมีจิตใจไม่บริสุทธิ์ แต่สุดท้ายก็เป็นคนที่นางรู้จักดี นางไม่มีทางเลือก

โม่เพียวถอนหายใจอีกครั้ง “แต่เจ้าก็เห็นเช่นกันว่าคุณหนูเปี่ยวเลือดเย็นเพียงใด เจ้าคิดว่าเจ้าจะสบาย เมื่อนางกลายเป็นนายหญิงใหญ่งั้นหรือ? ข้าบอกเลยว่าเป็นไปไม่ได้ ในอนาคตเจ้าจะเป็นคนแรกที่จะถูกนางกำจัด เพราะตอนนี้เจ้าเป็นเหมือนสายลับที่นางจัดไว้ข้างกายคุณชายใหญ่ เจ้าก็รู้ว่านางร้ายกาจเพียงใด ด้วยนิสัยใจคอของนาง นางจะกำจัดและฆ่าเจ้าทิ้งแน่นอน รอบตัวนางไม่ได้ขาดแคลนสาวใช้ไม่ใช่หรือ?”

ติงเซียงตัวสั่นไปหมด สีหน้าของนางจริงจัง

โม่เพียวหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน ข้าไม่ได้บอกว่าต้องการให้เจ้าสนับสนุนคุณ… อวี้ซี ข้าได้ยินมาว่าคุณชายใหญ่มีสัญญาหมั้นหมายแล้วใช่หรือไม่? เจ้าสามารถสนับสนุนคู่หมั้นของคุณชายใหญ่ได้ เจ้าลองคิดดูสิว่านางไม่ได้อยู่ในจวนซูกั๋วกง และนางไม่มีญาติมิตรในอาณาจักรเทียนอวี่ เมื่อนางเพิ่งแต่งเข้ามา นางก็ต้องไม่คุ้นเคยกับหลายสิ่งหลายอย่าง และเจ้าที่เป็นหัวหน้าสาวใช้ข้างกายคุณชายใหญ่ ก็จะเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับนาง ดังนั้นก็จะได้รับผลประโยชน์มากมายใช่หรือไม่?”

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าคุณชายใหญ่มีคู่หมั้นแล้ว?” ติงเซียงหันศีรษะไปมองโม่เพียวด้วยความสงสัย นางสงสัยว่าเหตุใดนางถึงพูดคำว่าคุณหน้าชื่ออวี้ซี เห็นได้ชัดว่านางดูอ่อนกว่าอวี้ซีไม่ใช่หรือ?

โม่เพียวพ่นลมหายใจเบา ๆ “แน่นอนว่าข้ารู้มาจากการสอบถาม แต่คำพูดของข้าก็สมเหตุสมผลอยู่ดีใช่หรือไม่ การสนับสนุนคนที่ไม่รู้จักจวนซูกั๋วกง และไม่มีใครให้พึ่งพานั้น ย่อมดีกว่าการสนับสนุนคนที่มีพรรคพวกเป็นของตัวเองอยู่แล้ว และลูกสมุนเหล่านั้นก็อิจฉาและใจร้ายกับเจ้าใช่หรือไม่?”

ติงเซียงเม้มปากแน่น อันที่จริงสิ่งที่นางพูดก็สมเหตุสมผลดี

หลิ่วยางยางคนนั้นเป็นคนขี้งกและเจ้าเล่ห์เพทุบาย เต็มไปด้วยเล่ห์กลและตีสองหน้า

ตอนนี้นางสั่งให้คนไปจับงูอู่ปู้มาปล่อยไว้ในสวนดอกไม้โดยไม่สนใจคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำ ความโหดร้ายนี้เกินกว่าที่นางจะรับได้แล้ว มันน่ากลัวเกินไป

หากคนเช่นนี้กลายเป็นนายหญิงใหญ่ นางอาจมีจุดจบที่เลวร้ายจริง ๆ

โม่เพียวไม่พูดอีกต่อไป และปล่อยให้นางคิดอยู่ครู่หนึ่ง

ครึ่งชั่วยามต่อมา ติงเซียงก็เม้มปากแล้วลุกขึ้นยืน “เจ้าอย่าคิดว่าข้าจะสนับสนุนอวี้ซี ข้ามีเรื่องต้องทำ ดังนั้นข้าขอตัวก่อน”

นางเดินโซเซจากไป ดูเหมือนกำลังวิ่งหนี

โม่เพียวยักไหล่ จ้องมองแผ่นหลังของนางที่สั่นเทาเหมือนลูกแมวแล้วยกยิ้ม

นางฉลาดเกินไปจริง ๆ และรู้วิธีใช้ประโยชน์จากชัยชนะ ตอนนี้ติงเซียงจะต้องระแวงคุณหนูเปี่ยวแน่นอน แม้ว่าสำหรับนางและคุณหนูนั้น ติงเซียงไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ดีนัก

แต่เพื่อป้องกันไม่ให้นางแอบสร้างปัญหาอีก ก็จำเป็นต้องพูดเช่นนี้

ไม่รู้ว่าติงเซียงจะแสดงออกอย่างไร เมื่อนางพบว่าอวี้ซีที่นางพูดถึงคือคู่หมั้นของคุณชายใหญ่

แต่นิสัยของนางก็ไม่ได้เลวร้าย ครั้งนี้นางเสี่ยงชีวิตเพื่อเตือนคุณหนู คุณหนูย่อมไม่ปฏิบัติต่อนางอย่างเลวร้ายในอนาคต

เดี๋ยวนะ…

อนาคตหรือ???

ทันใดนั้นโม่เพียวก็ตระหนักได้ว่าตนทำอะไรลงไป

ดูเหมือนว่านางจะลืมไปแล้ว ว่านางกับคุณหนูมาที่จวนซูกั๋วกงเพื่ออะไร

พวกนางมาที่นี่เพื่อถอนหมั้น เพื่อถอนหมั้น

เหตุใดถึงต้องเอาติงเซียงมาเป็นพันธมิตร? หากคุณหนูเปี่ยวได้เป็นนายหญิง การถอนหมั้นก็จะง่ายขึ้นหรือเปล่า?

โม่เพียวรู้สึกละอายใจที่เจอหน้าคุณหนูของนาง นางปิดหน้าตัวเองด้วยความละอายใจ คิดว่ามันคงสายเกินไปที่จะไปโถงเล่อฝูของฮูหยินเฒ่า เพื่อขอโทษคุณหนู

เนี่ยนเนี่ยนไม่รู้ว่าโม่เพียวจะดึงติงเซียงกลับไป หลังจากที่นางจากมาแล้ว บัดนี้นางกำลังยืนอยู่ที่ประตูโถงเล่อฝู พลางคิดถึงฮูหยินเฒ่าไป๋ที่กำลังเรียกหานาง

เป็นเวลานานแล้วที่แม่นมอวี๋เข้าไปข้างในเพื่อรายงาน แต่ก็ยังไม่มีใครออกมาเรียกให้นางเข้าไป

เนี่ยนเนี่ยนชมทิวทัศน์ในเรือนด้วยความเบื่อหน่ายเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเรือนที่สวยงามและสงบของไป๋หลิวอี้ การตกแต่งเรือนของฮูหยินเฒ่าไป๋นั้นนุ่มนวลและอบอุ่นกว่า จะเห็นได้ว่านิสัยของนางเป็นอย่างไร พี่ใหญ่และท่านแม่บอกว่านางเป็นคนใจดี

นางมองซ้ายมองขวา ในที่สุดสายตาของนางก็จับจ้องไปยังแมวที่ขดตัวอยู่ที่มุมหนึ่ง มันซ่อนตัวพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้

แมวตัวนั้นน่าจะสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของนาง ในที่สุดมันก็ลืมตาขึ้นอย่างเกียจคร้าน แล้วจ้องมองนางเขม็ง

คนหนึ่งคนและแมวหนึ่งตัวจ้องหน้ากันเงียบ ๆ สีหน้าของทั้งสอง… จริงจังมาก

ในขณะนี้ฮูหยินเฒ่าไป๋ในห้องกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาว ถือสายประคำไว้ในมือ แล้วนับทีละเม็ด

หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ถามแม่นมอวี๋ที่อยู่ข้าง ๆ ว่า “นางอยู่ข้างนอกมานานเพียงใดแล้ว?”

“เรียนฮูหยินเฒ่า สองในสี่ชั่วยามแล้วเจ้าค่ะ”

…………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

โม่เพียวก็ฉลาดพูดเหมือนกันน้า ยุจนฝั่งตรงข้ามระแวงกันเอง

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท