เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร – ตอนที่ 32

ตอนที่ 32

“ดอกไม้สวยขนาดนี้ ทิ้งไปก็น่าเสียดาย ลู่เฟยเขาหวังดีนะ ถ้าเขารู้เขาต้องเสียใจมากแน่ๆ”เซี่ยหยางพูดติดตลก ยังเด็ดดอกไม้มาดอมดมครู่หนึ่ง

ช่ายยั่นกลอกตาใส่เขา แล้วพูดขึ้นมาอย่างเหยียดๆ“นายนี่มันน่าโมโหจริงๆ กาอันไหนไม่เปิดก็หยิบอันนั้น(ประเด็นไหนไม่ควรยกขึ้นพูด ก็พูดอันนั้น)ไปหัดปากมันลิ้นลื่น(พูดคล่องแต่ไม่ค่อยเป็นความจริง“กะล่อน”)แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ยังไม่เคยเห็นคุณเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนิ่”

เซี่ยหยางหัวเราอิๆ แล้วลูบจมูกพลางพูดขึ้นมาว่า“ผมไม่ได้เป็นแบบนี้ตลอดสักหน่อย ผมเอาดอกไม้ให้คุณดีไหม คุณจะเอาไหมล่ะ?”

“พอได้แล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับนายสักหน่อย ให้ดอกไม้อะไรกันล่ะ”ช่ายยั่นทำปากจู๋

เซี่ยหยางหยิบกระดาษกับปากกาออกมา วาดรูปดอกไม้ดอกหนึ่ง แสร้งทำเป็นยื่นให้กับช่ายยั่นพลางพูดขึ้นมาว่า“อ่ะ คุณเอาไหม?”

“ดูไม่ออกเลยนิ่ ว่านายจะวาดรูปเป็นด้วย?”ช่ายยั่นยิ้มอย่างเขินอาย แล้วรับมาดูด้วยความสนใจ ว่าไม่ได้นะมันพอดูได้เลยแหละ

“จิ๊บจ๊อยหน่า ไม่ได้มีค่าอะไร แต่ว่านะ ในบ้านผมมีดอกไม้เยอะจริงๆนั่นแหละ ถ้ารู้ตั้งแต่แรกเอามาให้คุณด้วยดีกว่า”

เซี่ยหยางพูดทีเล่นทีจริง

“ดอกไม้อะไร นายยังปลูกดอกไม้อีกหรอเนี่ย?”ช่ายยั่นพูดอย่างไม่เข้าใจ

“กะหล่ำดอกไง เต็มทั้งไร่เลย”

ช่ายยั่นตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วอดที่จะยื่นหมัดเล็กๆออกไป แต่ถูกเซี่ยหยางรับเอาไว้อย่างรู้ตัว เธอบิดม้วนไปมาครู่หนึ่ง แล้วกัดริมฝีปากพูด“นายทำอะไรนะ ตาบ้า”

มองดูท่าทางของเธอที่ในความออดอ้อนยังมีความงามแฝงไว้ จึงทำให้เซี่ยหยางมึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง

ตอนนี้ ตรงข้างนอกหน้าต่างมีศีรษะหนึ่งรีบถอยกลับไป เป็นศีรษะของเลขาสาว เธอกำลังแอบดูอยู่ด้านนอก รีบเดินจากไปทันที หลังจากนั้นก็หยิบมือถือออกมา“ฮัลโหล เถ้าแก่ลู่ใช่ไหมคะ?ดอกไม้ของคุณกำนันช่ายไม่อยากได้ค่ะ แต่เธอรับดอกไม้จากคนอื่นแล้วล่ะค่ะ ดูเหมือนคนคนนั้นจะชื่อว่าเซี่ยหยางนะคะ คุณอย่าโกรธไปล่ะ เป็นแค่ดอกไม้กระดาษเท่านั้นเอง เห้อ คุณอย่าด่าสิคะ……”

ลู่เฟยที่อยู่ปลายสายโกรธจนทนไม่ไหว ด่ากราดปลายสายออกไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว แต่เลขาสาวกลับพูดอะไรออกไปไม่ได้ ดูท่าเงินจะไม่ได้หาง่ายๆเลยสินะ

ในเวลานี้เอง เจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดินคนนั้นรีบเข้ามาด้วยท่าทีร้อนใจ เขาจัดระเบียบเสื้อผ้าหน้าผมหน้ากระจก และเคาะประตูห้องสำนักงานของช่ายยั่นอย่างระมัดระวัง

“เข้ามาได้”ช่ายยั่นรีบชักมือกลับมา ใบหน้ามีเลือดฝาดแดงระเรื่อ

เซี่ยหยางหัวเราะ แล้วหันกลับไปสบสายตากับเจ้าหน้าที่คนนั้น ช่างบังเอิญเป็นเหตุการณ์ศัตรูได้พบกันตาแดงเป็นพิเศษ(เมื่อศัตรูได้พบหน้ากัน มักมีอารมณ์โกรธแค้นรุนแรงเป็นพิเศษ)

“ทำไมถึงเป็นนาย?”เจ้าหน้าที่ถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก

“บังเอิญจัง ทำไมมาเร็วแบบนี้?”เซี่ยหย่งไม่ได้ตกใจอะไร เขาแค่ตกใจกับการทำงานของช่ายยั่น เจ้าหน้าที่คนนี้ช่างรวดเร็วจริงๆ ดูท่าคงจะกลัวช่ายยั่นมาก

เจ้าหน้าที่ถลึงตามองเซี่ยหยางอย่างโกรธเคือง แล้วจากนั้นก็พูดกับช่ายยั่นว่า“กำนันช่ายครับ คุณตามผมมา มีอะไรให้รับใช้ครับ?”

“นั่งสิ ช่วงนี้ที่สำนักงานยุ่งมากหรอคะ ตอนแรกอยากจะหาเวลาว่างเพื่อดูความคืบหน้าของงาน”ช่ายยั่นยังคงนิ่งสงบ เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้น สวมบทบาทความเป็นผู้นำ

เจ้าหน้าที่คนนั้นถึงกับต้องปาดเหงื่อ แล้วพูดขึ้นอย่างกดดัน“ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของกำนันช่ายครับ ทุกอย่างเป็นปกติมากครับ และยินดีให้คุณตรวจสอบได้ทุกเมื่อ ผมในฐานะสำนักงานที่ดินของตำบลยินดีต้อนรับครับ”

“ได้ยินมาว่าช่วงนี้คุณไปที่หมู่บ้านตงเจียวมาใช่ไหมคะ ไปทำงานอะไรหรอคะ?”ช่ายยั่นถามขึ้นด้วยความหมายลึกซึ้ง

เจ้าหน้าที่คนนั้นถึงกับร้อนรน สังเกตได้ทันทีว่ามีอะไรผิดปกติไป จึงหันไปมองเซี่ยหยาง จึงเข้าใจอะไรได้คร่าวๆ พูดพึมพำ“คือกำนันช่ายครับ ไม่มีเรื่องอะไรสามารถปิดคุณได้จริงๆ”

“เป็นอะไรไป หรือมีคนทำผิดกฎ?”ช่ายยั่นถาม

เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่าเซี่ยหยางกำลังมองเขาอย่างขบขัน อีกทั้งท่าทียังดูมั่นใจมาก ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเซี่ยหยางกับช่ายยั่นเป็นอะไรกัน เขาจึงกัดฟันพูด“ผมจะพูดตามความจริงครับ นั่นก็คือคนตรงหน้าของคุณ เขาไม่ได้ทำตามขั้นตอนการสร้างบ้าน ผมจึงไปที่นั่นด้วยตัวเอง และได้ปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับ”

ช่ายยั่นกับเซี่ยหยางมองสบตากัน และรู้ดีกันอยู่แล้ว แต่เซี่ยหยางยังคงยิ้มอยู่ ท่าทางเหมือนกำลังดูเรื่องสนุกอยู่

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ขออนุญาตถามได้ไหมคะ ว่าคุณจัดการยังไง?”ช่ายยั่นเอ่ยถาม

เจ้าหน้าที่คนนั้นพูดอย่างอ้ำอึ้ง“ผมได้เขียนค่าปรับให้กับเซี่ยหยางไปครับ แล้วจัดการทำตามกฎบอกให้เขาหยุดงาน หลังจากนั้นก็ให้เขาไปทำตามขั้นตอน ทั้งหมดก็ประมาณนี้ครับ”

“อ๋อ แล้วใบค่าปรับล่ะ?”ช่ายยั่นมองไปที่เซี่ยหยาง

เซี่ยหยางหยิบออกมา แล้วสะบัดไปมา พูดขึ้นมาว่า“นี่ครับ ผมทำตามขั้นตอนไปแล้วไม่ใช่หรอครับกำนันช่ายครับ ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ?”

“เอกสารจัดการเสร็จแล้ว เร็วขนาดนี้เชียว?”เจ้าหน้าที่มองไปที่เซี่ยหยางอย่างตกใจ

“ใช่ครับ เมื่อกี้ผมทำที่กำนันช่ายครับ ผมกับช่ายยั่นถือว่าเป็นคนรู้จักกันครับ ความจริงผมบอกกับเธอไปตั้งแต่แรกแล้วนะครับ แต่เธอกำลังยุ่งอยู่ เลยทำให้ล่าช้าไป เพราะฉะนั้น……”เซี่ยหยางจงใจพูดอย่างลังเล เพื่อดูปฏิกิริยาของเจ้าหน้าที่

เจ้าหน้าที่ตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบพูดกับช่ายยั่นไปว่า“กำนันช่ายครับ ปะ เป็นเรื่องจริงหรอครับ?”

“ใช่ค่ะ แต่ถือว่าคุณยังคงมีความรับผิดชอบกับงาน แต่ด้วยการทำงานที่ขาดการวิเคราะห์ และโทษที่ฉันไม่ได้บอกกับคุณก่อนด้วย”ช่ายยั่นพูดอย่างเรียบเฉย

พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ก็เกิดร้อนใจขึ้นมา ถึงได้พบว่าเซี่ยหยางคนนี้ไม่ได้เป็นคนธรรมดาอย่างที่พูดไว้เลย ถ้าเขายังดูไม่ออกอีกว่าช่ายยั่นเอนเอียงไปทางเขาก็ถือว่าโง่มาก จึงรีบพูดขึ้นมาว่า“ไม่ ไม่ครับ ผมทำงานพลาดเอง กำนันช่ายอย่าได้ถือสาเลยนะครับ”

“คุณไม่ได้ทำผิดหรอกค่ะ อีกทั้งสองวันมานี้ฉันยังเตรียมจะไปหาพวกคุณ เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของงาน ฉันได้ยินชื่อเสียงผลงานของคุณมาก่อน ดูเหมือนจะสมคำร่ำลือนะคะ ปีนี้เตรียมจะเลื่อนขั้นแล้วใช่ไหมคะ?แต่คุณดูเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้สิคะ ว่าจะจัดการยังไง?”

ช่ายยั่นพูดอย่างมีเลศนัย ความหมายชัดเจนไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เป็นการพูดอย่างอ้อมๆให้เขาระวังตัวไว้ให้ดี

เจ้าหน้าที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ ถ้าหากถูกช่ายยั่นจับจุดอ่อนได้ อย่าพูดขึ้นเรื่องสนับสนุนเลย ถึงจะมีตำแหน่งก็ยากที่จะรักษาไว้ ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน นำใบค่าปรับนั่นกลับคืนมา แล้วจัดการยัดเข้าไปในปากเคียว หลังจากนั้นก็กลืนมันทั้งเป็น เขาสะอึกจนกลอกตาบน แล้วเริ่มไอออกมา

“เป็นความเข้าใจผิด ทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิดครับ กำนันช่าย ความจริงเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย”เจ้าหน้าที่พูดด้วยหน้าพะอืดพะอม

เซี่ยหยางที่เห็นแล้วรู้สึกตลกมาก แต่ช่ายยั่น ถึงกับอ้าปากค้างตะลึง แล้วอดพูดไปได้ว่า“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

“ไม่ครับ ผมไม่เป็นอะไร กำนันช่ายครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ คุณทำงานต่อเถอะครับ”ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ก็ลุกขึ้น แล้วเดินออกไปข้างนอก พอออกไปได้เขาก็รีบอาเจียนออกมา จากนั้นเขาก็หยิบมือถือออกมา โทรศัพท์หาลู่เฟย

“คุณนี่เอง เรื่องของเซี่ยหยางจัดการได้ไม่เลวเลยนิ่ ครั้งหน้าผมค่อยเลี้ยงข้าวคุณนะ”

“กินอะไรล่ะ ทำไมคุณไม่บอกว่าเซี่ยหยางกับกำนันช่ายรู้จักกัน ผมเกือบถูกปลดแล้วคุณรู้ไหม?”เจ้าหน้าที่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่เล่าให้เขาฟังอย่างคร่าวๆ

“คุณว่าไงนะ?ไอ้เหี้ยเอ่ย มึงจะได้เห็นดีกับกูแน่ คุณอย่าใจร้อนสิ ผมไม่มีทางทำให้คุณเสียเปรียบหรอก ขอแค่คุณช่วยผมอีกเรื่อง”ลู่เฟยพูดอย่างโมโห

“ผมไม่มีเวลาแล้ว คุณไปหาคนอื่นเถอะ ผมไม่อยากทำพลาดตอนแก่นะ ผมยังอยากอยู่ต่ออีกสองปี”เจ้าหน้าที่รีบวางสายทันที แล้วหันกลับไปมองอย่างลับๆล่อๆ จากนั้นก็เดินจากไปอย่างคอตก

ด้านในห้องทำงาน ช่ายยั่นกุมปากแล้วอดที่จะหัวเราะไม่ได้ ส่ายหัวไปมาแล้วพูดขึ้นมาว่า“จริงๆเลย มันคุ้มไหมเนี่ย ฉันเป็นคนใจแคบใจดำแบบนั้นหรอ?”

“เขากังวลเรื่องอนาคตของเขา ครั้งนี้โชคดีที่ได้คุณช่วยไว้ เป็นไปตามคาดตาแก่พูดไม่มีผิดเลย ลูกสาวอย่างคุณเป็นความภาคภูมิใจของเขา”เซี่ยหยางดีใจ จึงพูดออกไปอย่างไม่ปิดบัง

ช่ายยั่นตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วกะพริบตาปริบๆถามขึ้นมาว่า“นายว่าตาแก่อะไรนะ พ่อฉันหรอ?”

“หา?ไม่ใช่สักหน่อย คุณฟังผิดแล้ว”เซี่ยหยางรีบพูดกลบเกลื่อน

“เซี่ยหยาง นายกล้าไม่เบาเลยนิ่ ยังจะพูดมั่วๆอีก เอกสารของนายฉันจะไม่ทำให้แล้ว”ช่ายยั่นแสร้งทำเป็นพูดด้วยความโมโห

เซี่ยหยางเกาหัวแกรกๆ แล้วยิ้มแห้งๆ“ผมพูดผิดเอง พูดผิดเองครับ กำนันช่ายอย่าถือสาเลยนะครับ”

“ฉันยกโทษให้ก็ได้ เอาล่ะ นายกลับไปจัดการเรื่องในหมู่บ้านเถอะ อีกไม่กี่วันฉันจะไปดูสักหน่อย เศรษฐกิจในแต่ละหมู่บ้านต้องพึ่งนายแล้วนะ เรื่องเอกสารไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ฉันจะรีบติดต่อหมู่บ้านของพวกนายเอง”ช่ายยั่นหัวเราะร่าทเหมือนจะไม่ได้โกรธกับคำพูดหยอกเย้าล้อเล่นของเซี่ยหยาง

“ขอบคุณท่านผู้นำครับที่ไว้วางใจ ลาก่อนครับ”เซี่ยหยางกุมมือเล็กๆของช่ายยั่น เขย่าหลายที แล้วเดินจากไปอย่างอาลัยยอาวรณ์

ช่ายยั่นมองดูแผ่นหลังของเซี่ยหยางเดินจากไป เธอกลับสติหลุด ไอ้เจ้าเด็กคนนี้ ทำไมเธอถึงเกลียดไม่ลงนะ กลับกันยิ่งเกิดความรู้สึกที่พิเศษขึ้น

กำลังคิดบ้าๆอะไรอยู่เนี่ย?ช่ายยั่นหัวเราะกับตัวเอง แล้วลูบคลำใบหน้าอันร้อนฉ่า แล้วหยิบมือถือขึ้นมาโทรศัพท์ออกไป

เซี่ยหยางที่พึ่งกลับมาถึงในหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านหวังหยุนจู้ก็ตามมาทันที เขาใช้สายตาชำเลืองมองอย่างลับๆล่อๆ แต่ก็ไม่กล้าเข้าไป

“โอ้โห นี่มันผู้ใหญ่บ้านไม่ใช่หรอเนี่ย มาหาพี่หยางหรอ?ทำไมไม่เข้ามาข้างในก่อนล่ะ?”เอ้อนิ้วมองไปที่หวังหยุนจู้อย่างร่าเริง

“หา เอ่อคือ มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ เขาอยู่บ้านไหม?”หวังหยุนจู้พูดอย่างเขินๆ

“พึ่งกลับมาน่ะ ลุงมีเรื่องอะไรเหรอ?”เอ้อนิ้วเอ่ยถาม

หวังหยุนจู้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงหยิบกระดาษหลายแผ่นยื่นให้กับเอ้อนิ้วไป แล้วพูดว่า“นี่เป็นเอกสารสร้างบ้าน นายเอาไปให้เซี่ยหยางเถอะ ฉันไปก่อนนะ”

“ไม่นั่งก่อนเหรอครับ?”เอ้อนิ้วหัวเราะอิๆ มองดูหวังหยุนจู้เดินจากไปอย่างรีบร้อน แล้วจัดการยื่นเอกสารส่งมอบให้เซี่ยหยาง“พี่หยาง หวังหยุนจู้ไม่กล้าเจอหน้าพี่น่ะ จริงๆเล้ย”

เซี่ยหยางหรี่ตามองดู ในใจของเขารู้ดี ช่ายยั่นจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็ว โบราณกล่าวไว้ได้ดี เจ้าหน้าที่ระดับสูงกดดันคนระดับล่าง(คนที่มียศตำแหน่งสูงกว่าบอกให้ทำอะไรก็ต้องทำหากไม่ทำตัวเองก็จะต้องเดือดร้อน)อย่างช่ายยั่นก็เป็นถึงกำนัน มันจึงทำให้หวังหยุนจู้ผู้ใหญ่บ้านกระจอกๆตกใจกลัว

ดูท่า มีเส้นของช่ายยั่น จะเป็นการคุ้มครองตัวเองไม่ใช่น้อย จากนี้ไปหวังหยุนจู้จะต้องทำอะไรอย่างระมัดระวังแล้วล่ะ อย่างไรก็ตามสตรีและคนถ่อยเป็นผู้เข้าด้วยยาก(สตรีและคนถ่อยคือคนประเภทเดียวกัน)ช่ายยั่นไม่ใช่คนที่จะเข้าประจบประแจงได้ง่ายๆ และหวังหยุนจู้ก็เป็นแค่คนถ่อย ยังคงต้องระมัดระวังตัวเองไว้

“จริงสิเอ้อนิ้ว ครั้งก่อนที่ให้นายไปสืบเรื่องนั้นน่ะ เป็นยังไงบ้าง”เซี่ยหยางยื่นบุหรี่ให้กับเอ้อนิ้ว แล้วก็จัดการจุดบุหรี่ให้ตัวเอง

“พี่หยาง ผมกำลังจะบอกพี่พอดีเลย พี่น้องที่ส่งออกไปสืบได้ข่าวของจางหมาจื่อแล้วนะ ไอ้หมอนี่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านของเรา และย้ายออกไปแล้ว”เอ้อนิ้วพูดพึมพำ

เซี่ยหยางคิดอยู่พักหนึ่ง จึงเอ่ยถามไปว่า“นี่เขากำลังหนีความผิดหรอเนี่ย เมล็ดพันธุ์ที่เสียหายในครั้งก่อน ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาแน่ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่หายไปแล้วไม่กล้าโผล่หน้ามาให้เห็นแบบนี้หรอก”

“เขาหนีไปได้ไม่ไกลหรอกครับ เรื่องมันมีอยู่ว่า……”เอ้อนิ้วเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เซี่ยหยางฟังหนึ่งรอบ

เซี่ยหยางหยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วพูดขึ้นมาว่า“พอดีเลย งั้นนายไปกับฉันหน่อยแล้วกัน”

“พี่หยาง ให้เรียกพี่น้องมาสองสามคนไหม?”เอ้อนิ้วเอ่ยถาม

“ไม่จำเป็นหรอก เราสองคนไปก็พอแล้ว จางหมาจื่อคนอย่างไอ้หมอนี่ต้องจัดการมันให้หนัก อีกทั้งจากที่ฉันดูแล้ว เขาน่าจะไม่มีความกล้าพอหรอก เบื้องหลังของเขาต้องมีคนคอยบงการแน่ๆ ต้องขุดมันออกมา ไม่อย่างนั้นจะต้องเสียหายหนักแน่”เซี่ยหยางพูดจบ ก็ไปสั่งงานที่ฟาร์มสเตย์ แล้วเดินออกจากบ้านไป

เอ้อนิ้วตามไป ทั้งสองเดินทางไปที่หมู่บ้านเกาตี้ที่อยู่ข้างเคียง เอ้อนิ้วใช้นิ้วชี้ไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้นมาว่า“พี่หยาง จากที่พี่น้องเราได้ตรวจสอบมา จางหมาจื่อน่าจะอยู่ข้างในครับ เราเข้าไปเลยไหมพี่?”

เซี่ยหยางที่มองดูอยู่ครู่หนึ่ง ที่นี่เป็นป่า ด้านในมีกระท่อมไม้หลังหนึ่ง มันเก่ามาก เขาพยักหน้าแล้วพูดขึ้นมาว่า“นายเข้าไปดูสถานการณ์ด้านในก่อน อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่นล่ะ ครั้งจะต้องจับมันให้ได้”

“พี่หยางวางใจเถอะ เรื่องนี้ต้องทำสำเร็จแน่”เอ้อนิ้วหัวเราะหิๆ แล้วค่อยๆหมุดเข้าไปในป่

เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร

เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร

Status: Ongoing

ที่ดินหลายไร่ เด็กในสังกัดเป็นโขยง เวลาทำสวนยุ่ง ผมดื่มโค๊กม่อสาวสวย เวลาไม่ยุ่ง พาสาวสวยเหล้าดอง อย่าขยับ สาวสวย ทำไมฟักทองอ่อนไปอยู่หน้านมหนูได้ล่ะ เงินทอง ที่ดิน สวน สาวสวย ราวกับสายน้ำพุ่งทะลักเข้ามาเป็นระลอกๆ พอกะลิ้มกะเหลี่ยอยู่ร่ำไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท