บทที่ 1014 นางผู้ภักดี
บทที่ 1014 นางผู้ภักดี
ทุกคนปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่แล้วมองตามออกไปข้างนอก
เสี่ยวเถาผู้นั้นพยายามขัดขืน แต่กลับถูกฉุดกระชากลากถูออกไป
กู้เสี่ยวหวานที่ได้รับการช่วยเหลือจากฉินเย่จือเองก็ตามออกมาด้วย
กู้ซินเถาแต่งตัวเสร็จและตามซุนซื่อลงไป เมื่อเห็นท่าทางที่น่าสังเวชของเสี่ยวเถา ในตอนแรกนางรู้สึกประหลาดใจ แต่จากนั้นก็รู้สึกมีความสุข
ทันใดนั้น ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ประตู ยกเว้นหลิวเทียนฉือ
เสี่ยวเถาร้องห่มร้องไห้และร้องโอดครวญไม่หยุด แต่นอกเหนือจากการดูความสนุกสนานแล้ว ไม่มีใครพูดหรืออ้อนวอนแทนนางเลย
“คุณหนู คุณหนู” เสี่ยวเถาร้องเรียกแต่คุณหนูของตนเอง แต่หลิวเทียนฉือยังคงหลบหน้านาง
“สาวน้อยเสี่ยวเถาผู้นี้คงไม่มีความกล้าขนาดนั้น บางทีหลิวเทียนฉืออาจจะเป็นคนออกคำสั่งก็ได้” อาโม่กระซิบเบา ๆ จากด้านหลัง
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า เสี่ยวเถาเป็นเพียงแพะรับบาป ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งของหลิวเทียนฉือ นางคงไม่กล้ากระทำการอุกอาจเช่นนี้
เมื่อเห็นนางร้องไห้อย่างขมขื่น หลิวเทียนฉือที่อยู่ด้านในก็ยิ่งหลบเลี่ยง
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกว่าสาวใช้คนนี้น่าสงสารเหลือเกิน
สำหรับกู้เสี่ยวหวาน สาวใช้คนนี้ไม่ถือว่าเป็นคนชั่วร้ายโดยสันดาน แต่นางได้ทำเรื่องที่เลวทรามภายใต้คำสั่งของหลิวเทียนฉือ
หญิงผู้นี้ดูเหมือนจะภักดี นางโดนกระทำถึงเช่นนี้แล้ว นางยังไม่เอ่ยถึงหลิวเทียนฉือเลยแม้แต่น้อย
เมื่อคิดดูแล้ว หลิวเทียนฉือคงคาดหวังว่าสาวใช้ผู้นี้จะไม่พูดอะไรถึงนาง
เมื่อเห็นว่าเสี่ยวเถากำลังจะถูกลากออกไป
และยังมีรอยคดเคี้ยวอยู่ใต้ร่างกายซึ่งดูเหมือนจะเปื้อนเลือด
“เดี๋ยวก่อน” กู้เสี่ยวหวานเอ่ยขึ้นฉับไว และสยบเสียงรอบข้างลงได้ทันที
เจ้าหน้าที่สองคนที่กำลังลากเสี่ยวเถาหยุดการเคลื่อนไหวทันที
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานได้ขอให้เจ้าหน้าที่หยุด ลวี่เทาจึงมองนางอย่างสงสัย ฮูหยินเจียงมองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยความงุนงง ไม่รู้ว่านางคิดจะทำอะไรกันแน่
เสี่ยวเถาก็ไม่ยอมเปิดปากขอความช่วยเหลือ เฝ้าดูกู้เสี่ยวหวานที่เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
“เสี่ยวเถา เจ้าช่างป็นสาวใช้ที่ซื่อสัตย์ยิ่งนัก” กู้เสี่ยวหวานชื่นชมอย่างจริงใจ
เสี่ยวเถาผู้นี้ถูกฉุดกระชากลากถูอยู่บนพื้น เสื้อผ้าบนร่างกายของนางไม่ได้หนามากนัก เสื้อผ้าจึงขาดหลุดลุ่ยจนผิวหนังบนร่างกายถลอกปอกเปิด
ครั้นเห็นกู้เสี่ยวหวานเอ่ยกับนาง เสี่ยวเถาก็ตกตะลึงเล็กน้อยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อไป
เมื่อเห็นใบหน้าเศร้าสร้อยของเสี่ยวเถา กู้เสี่ยวหวานก็พูดต่อว่า “เรื่องเมื่อครู่ ข้าจะไม่ถือสาเอาความกับเจ้า ตราบใดที่เจ้าบอกข้าว่าใครสั่งให้เจ้าทำเช่นนี้”
กู้เสี่ยวหวานต้องการให้เสี่ยวเถาเปิดเผยว่าใครเป็นคนยุยงนาง แม้ว่าน่าจะเป็นหลิวเทียนฉืออย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าเสี่ยวเถาไม่บอก และกู้เสี่ยวหวานกล่าวหาหลิวเทียนฉือโดยตรง นางอาจถูกหลิวเทียนฉือทุบตีได้
“กู้เสี่ยวหวาน เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าหมายความว่าข้าเป็นผู้สั่งให้หญิงผู้นี้เป็นคนลงมือหรือ?” หลิวเทียนฉือได้ยินเสียงดังจากข้างนอกก็รีบวิ่งออกไปทันที นางจ้องมองที่กู้เสี่ยวหวานและพูดอย่างมุ่งร้าย
กู้เสี่ยวหวานกล่าว “แน่นอนว่า แม่นางหลิวตกเป็นผู้ต้องสงสัยไม่น้อย”
“เจ้า…” ใบหน้าของหลิวเทียนฉือเชิดขึ้นด้วยความโกรธ นางชี้ไปที่เสี่ยวเถาแล้วพูดเสียงดัง “เสี่ยวเถา บอกนางไปว่าข้าเป็นคนสั่งเจ้า หรือเจ้าเป็นคนทำเอง!”
“ข้าเป็นคนทำเอง” เสี่ยวเถาตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด
“กู้เสี่ยวหวาน เจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่? นางสารภาพแล้วว่าทำมันด้วยตนเอง และเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้า” เมื่อเห็นว่าเสี่ยวเถาไม่ได้ซัดทอดถึงตัวนาง หลิวเทียนฉือจึงรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่ง
ทว่าความพึงพอใจนี้เองที่ทำร้ายหัวใจของเสี่ยวเถา
กู้เสี่ยวหวานคลี่ยิ้ม “คุณหนูหลิว ท่านช่างอยู่สูงจริง ๆ ท่านไม่ต้องการแม้แต่สาวใช้ผู้ซื่อสัตย์ที่อยู่กับท่านมาหลายปี ถ้าเป็นข้า ข้าจะไม่เต็มใจที่เสียคนดี ๆ แบบนี้ไป”
หลิวเทียนฉือไม่รู้ว่านางหมายถึงอะไร “ภายใต้สายตาของทุกคน สาวใช้ผู้นี้ได้ทำสิ่งที่อุกอาจและเป็นที่ถูกจับตามอง จะมาขอให้ข้าปกป้องนางได้อย่างไร? ถ้าข้าปกป้องนาง เจ้าจะเห็นด้วยหรือ กู้เสี่ยวหวาน?”
ด้วยท่าทางและคำพูดเช่นนั้น ดูเหมือนจะบอกกู้เสี่ยวหวานว่า ไม่ใช่ว่านางไม่อยากช่วย แต่นางกำลังรู้สึกลำบากใจจริง ๆ
“คุณหนูหลิว ตราบใดที่ท่านขอร้องให้ข้าปล่อยสาวใช้ของท่านไป ข้าจะปล่อยนางไปอย่างแน่นอน เพราะตัวข้าเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บที่ตรงไหน แต่หญิงผู้นี้กลับต้องทนทุกข์ทรมาน ตราบใดที่ท่านขอร้องข้า ข้าจะปล่อยนางไปทันที” กู้เสี่ยวหวานกล่าวอย่างใจดี
“ให้ข้าขอร้องเจ้าน่ะหรือ? อย่าแม้แต่จะคิดเลย” ทันทีที่หลิวเทียนฉือได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานต้องการคำขอโทษ นางจึงรีบปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด
แต่เสี่ยวเถาที่อยู่ข้าง ๆ นั้นตื่นตระหนก ตราบใดที่คุณหนูขอร้อง วันนี้นางจะรอดออกไปได้
“คุณหนู…” เสี่ยวเถามองหลิวเทียนฉืออย่างวิงวอน หวังว่าหลิวเทียนฉือจะพูดสิ่งดี ๆ ให้นางได้ยิน
อารมณ์ของหญิงสาวผู้สูงส่งอย่างหลิวเทียนฉือพลุ่งพล่านขึ้นอีกครั้ง นางมองลงไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างไม่พอใจ และพูดอย่างหยิ่งยโส “ก็แค่สาวใช้คนหนึ่ง อย่าคิดที่จะให้ข้าขอร้องเจ้าเลยกู้เสี่ยวหวาน”
ฮูหยินเจียงได้ยินดังนั้นก็โกรธมาก โกรธจนแทบกระอักเลือดออกมา
หลิวเทียนฉือผู้นี้ บทจะฉลาด นางก็ฉลาดเป็นกรด บทจะโง่ นางก็โง่เสียยิ่งกว่าหมู
แค่คำพูดไม่กี่คำมันจะเป็นจะตายเชียวหรือ? นี่เป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยชีวิตสาวใช้ของนางได้ แต่การวางมาดของหลิวเทียนฉือสูงเกินไป
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หลิวเทียนฉือ
อาโม่ซึ่งอยู่ข้าง ๆ ก้าวมาหาฉินเย่จือและกระซิบสองสามคำ หลังจากนั้นฉินเย่จือก็พยักหน้าเบา ๆ “ไม่สะดวกที่ข้าจะปรากฏตัว เข้าไปดูแลแม่นางให้ดี”
อาโม่พยักหน้ารับทราบ และหลังจากเห็นฉินเย่จือคุยกับกู้เสี่ยวหวานสองสามคำ เขาก็จากไป
อาโม่เดินเข้าไปหยุดลงข้างกายกู้เสี่ยวหวานทันที