เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร – ตอนที่ 37

ตอนที่ 37

“ถอยหน่อยครับ เถ้าแก่ของเรามาแล้ว”เอ้อนิ้วรีบเดินเข้าไปเปิดทาง ผู้คนต่างพากันหลีกทางให้ พวกเขาล้วนเป็นแขกที่มาเที่ยวที่นี่ ตอนนี้กำลังต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์

“แจ้งตำรวจเถอะ รีบไปส่งโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“เป็นไปได้ไหมอาจจะถูกวางยาพิษในอาหาร เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย”กลุ่มคนในนั้น จู่ๆก็มีคนพูดขึ้นหนึ่งประโยค

ประโยคนี้เหมือนกระทะที่ถูกระเบิดออกมา มันทำให้แขกต่างพากันตกใจจนหน้าซีด พวกเขามองมาที่อาหารบนโต๊ะของตนเอง มีคนเริ่มกระวนกระวายแล้ว

“รีบตรวจสอบดูอาหารและอุปกรณ์เครื่องใช้บนโต๊ะของตัวเองเร็วเข้า ถ้ามียาพิษจริงๆ พวกเราต้องแย่แน่ๆ เถ้าแก่เซี่ยต้องอธิบายกับพวกเรานะ ไม่อย่างนั้นพวกเราไม่วางใจแน่”บรรดาแขกต่างพากันจุดประเด็นขึ้นมา และเริ่มตกใจจนตื่นตระหนก

เซี่ยหยางร้อนใจมากกว่าพวกเขา เขานั่งยองๆพยุงสองคนนี้ขึ้นมา แล้วลองทดสอบการหายใจ ดูเหมือนจะยังมีลมหายใจ จึงอดที่จะโล่งใจไม่ได้ เขย่าตัวหลายครั้ง ไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบรับ จึงมองไปที่เอ้อนิ้ว ให้หามขึ้นมา

“รีบนำพวกเขาไปวางลง ฉันจะลองดู”เวลานี้เองมีคนด้านนอกพุ่งตรงเข้ามาคนหนึ่ง คนคนนั้นก็คือเหอเสี่ยวหย่า

“ผมต้องส่งพวกเขาไปที่โรงพยาบาลครับ”เซี่ยหยางรีบพูดอธิบาย

เหอเสี่ยวหย่ากลับส่ายหัวแล้วพูดขึ้นมาว่า“ไม่ทันแล้ว ที่นี่ห่างไกลจากโรงพยาบาลมาก ต้องไม่ทันการณ์แน่ๆ วางพวกเขานอนราบลง เร็วเข้า”

“พี่หยางทำยังไงดี?”เอ้อนิ้วแบกคนอีกคนไว้ที่หลังแล้วถามอย่างมึนงง

“ฟังเธอเถอะ คนอื่นๆเข้ามาช่วยกันเร็ว”เซี่ยหยางรู้ดีว่าเหอเสี่ยวหย่าไม่มีทางพูดอะไรพร่ำเพรื่อในสถานการณ์แบบนี้แน่นอน เธอเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญเพาะปลูกพืชสมุนไพร การศึกษาสูง ต้องรู้วิธีการรักษาแน่ๆ

คนหลายคนต่างพากันหามคนเข้าไปอย่างวุ่นวาย แล้ววางราบไปกับโซฟา เหอเสี่ยวหย่าเลิกแขนเสื้อขึ้น แล้วตรวจดูอาการของคนทั้งสองอย่างละเอียด

เซี่ยหยางรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย นับตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ และหลังจากได้รับการช่วยเหลือจากโลกแผ่นหยก ทุกอย่างค่อนข้างราบรื่น ถึงแม้จะต้องพบเจอกับอุปสรรคเล็กๆน้อย แต่ก็ไม่เป็นเหมือนตอนนี้ เพราะว่าถ้าไม่จัดการให้ดีอาจถึงชีวิตได้

ถ้าหากเป็นแบบนี้จริงๆ ผลสุดท้ายต้องไม่คาดคิดแน่ ทุกอย่างที่ตนเองสร้างมาก็จะต้องถูกพังทลายหายไปชั่วพริบตาเดียว รวมถึงชื่อเสียง กระทั่งอาจจะถูกตำรวจเรียกสอบปากคำ

“ไม่ตายหรอกใช่ไหม?”เวลานี้เอง จู่ๆเอ้อนิ้วพูดออกมาหนึ่งประโยค

เหอเสี่ยวหย่าไม่พูดอะไร ยังคงตรวจดูอาการต่อ หลังจากนั้นเธอก็รีบพูดขึ้นมาว่า“เอาปากกากับกระดาษมา เร็วเข้า”

“นี่ครับอันนี้เป็นของที่ผมพกติดตัวตลอด”เอ้อนิ้วล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกง สิ่งนี้ใช้สำหรับการจดออเดอร์และคิดเงิน

เหอเสี่ยวหย่ารีบเขียนลงบนกระดาษ แล้วยื่นให้กับเซี่ยหยางไป“คุณไปเอาของพวกนี้ตามที่เขียนมานะ รีบหน่อย ภายในสิบนาทีต้องทำให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นอาการของพวกเขาจะน่าจะห่วง”

เหอเสี่ยวหย่าพูดจบก็บอกให้เอ้อนิ้วไปช่วยด้วย เธอเริ่มปั๊มหัวใจให้กับคนทั้งสอง และยังหยิบสิ่งของมาง้างปากพวกเขาออก ทุกคนต่างพากันยุ่งวุ่นวายจนเหงื่อไหลไคลย้อย

เซี่ยหยางมองดูตัวหนังสือที่เขียนอยู่บนกระดาษ ล้วนเป็นพวกพืชผัก ยังมีของแปลกจำนวนไม่น้อย ทั้งกานฉายหู จินอิ๋นฮวาและอื่นๆ เขาไม่สนใจอะไรอีก หาคนที่รู้จักหลายคนมาช่วย

ใช้เวลาไม่กี่นาที ของทุกอย่างก็หาได้จนครบ แล้วรีบเอาไปในห้องครัว เริ่มจุดไฟต้ม

เซี่ยหยางรู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นตำรับยา เขาจึงครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วเข้าไปตักน้ำในโลกแผ่นหยกออกมาเล็กน้อย จัดการต้มเพิ่มข้าไป

ไม่นานยาสองชามก็ต้มเสร็จ เซี่ยหยางรีบยกเข้าไปอย่างรีบร้อน เหอเสี่ยวหย่ารีบเอาให้ทั้งสองที่กำลังจะตายดื่มลงไป หลังจากนั้นก็รออย่างร้อนใจ

เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาที คนทั้งสองหายใจเร็วขึ้น หลังจากนั้นก็พากันอ้วกอาเจียนออกมา เริ่มชักกระตุก เหอเสี่ยวหย่าบอกให้เอ้อนิ้วกับเซี่ยหยางกดตัวของพวกเขาไว้ นำพวกเขาพยุงขึ้นมา ตบหลังของพวกเขา

ตอนนี้คนที่ตามทั้งสองคนมาด้วยเริ่มโวยวายขึ้นมา แล้วมีคนตะโกนว่า“แบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าพวกเขาเป็นอะไรขึ้นมา พวกคุณต้องรับผิดชอบ”

“ขอโทษด้วยครับ เป็นความผิดของผมเอง ใจเย็นๆก่อนนะครับ คุณคนนี้เธอเป็นหมอนะครับ”เพื่อทำให้พวกเขาสงบสติอารมณ์ เซี่ยหยางจึงชี้ไปที่เหอเสี่ยวหย่า

เหอเสี่ยวหย่าอธิบายว่า“เอาล่ะค่ะ อีกเดี๋ยวพวกเขาก็หายแล้ว พักผ่อนสักครู่ก็จะดีขึ้นเอง”

เป็นไปตามคาด รอจนพวกเขาอาเจียนออกมาแล้ว ก็ฝืนขึ้นอย่างรวดเร็ว มีเพียงแค่อาการสะอิดสะเอียนคลื่นไส้เท่านั้น เหอเสี่ยวหย่าบอกให้เซี่ยหยางไปเตรียมน้ำมา ให้พวกเขากลั้วปาก

เซี่ยหยางจึงเข้าไปชงชาออกมา โดยใช้น้ำในโลกแผ่นหยก หลังจากที่ทั้งสองดื่มไปแล้วครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาดีขึ้น แล้วอาการค่อยๆดีขึ้นตามมาด้วย เพียงแต่สีหน้าไม่ค่อยดีเท่านั้น

เหอเสี่ยวหย่ากับเซี่ยหยางสบสายตากัน เช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นบนหน้าผาก แล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก

ก้อนหินที่อยู่ในใจของเซี่ยหยางถือได้ว่าตกลงมาได้สักที เขาใช้สายตาจ้องมองไปที่เหอเสี่ยวหย่าอย่างขอบคุณ แล้วลุกขึ้นพูดกับทุกคนไปว่า“เรื่องนี้ผมจะรับผิดชอบเอง ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในวันนี้ฟรีทั้งหมด หวังว่าทุกคนจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร”

“เป็นแบบนี้แล้ว ใครจะไปกล้ากินอีก ถ้าเป็นเหมือนพวกเขาล่ะ?พวกเราไปกันดีกว่า”แขกหลายคนต่างพากันโห่ร้อง คนอื่นๆมีความกังวลเล็กน้อย จึงพากันเตรียมที่จะเดินทางกลับ

เซี่ยหยางที่นึกอะไรขึ้นมาได้ จู่ๆก็กระโดดออกไป แล้วพูด“ขอโทษด้วยครับ วันนี้รบกวนทุกคนให้ความร่วมมือด้วย เกรงว่าจะไม่มีใครสามารถไปจากที่นี่ได้ครับ”

“คุณพูดอะไรน่ะ คุณจะทำอะไร พวกเรามีอิสระของตัวเองนะ”แขกบางคนเริ่มไม่พอใจ

“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้นครับ ผมแค่อยาก ในเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้ว ต้องมีคนจงใจวางยาพิษแน่ๆ คนร้ายต้องซ่อนอยู่ในพวกคุณ ผมจะรีบแจ้งตำรวจตรวจสอบเรื่องนี้”เซี่ยหยางพูดพลางจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทร

มีแขกเริ่มร้อนรน ตะโกนโวยวาย“คุณมีสิทธิ์อะไรมาสงสัยพวกเราห้ะ พวกเรามากินข้าวที่นี่ จะวางยาพิษได้ยังไง นี่เป็นความรับผิดชอบของพวกคุณ นี่มันน่ากลัวมากเกินไปแล้วนะ”

เซี่ยหยางไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร ถ้าคนร้ายหนีจากไป จากนี้จะตรวจสอบก็คงทำได้ยาก อีกทั้งต้องจับคนร้ายมาให้ได้ ไม่อย่างนั้น ผลลัพธ์ไม่อาจคาดคิดได้

ไม่อยากให้พวกเขาไป ยังมีเหตุผลที่สำคัญอีกอย่าง นั่นก็คือถ้าพวกเขาจากไป เกรงว่าจะไม่มีใครมาใช้บริการที่นี่อีก จะเกิดวงจรอุบาทว์ขึ้น หลังจากออกไปแล้วเมื่อเรื่องราวถูกแพร่สะพัดออกไป กิจการของที่นี่ต้องล้มไม่เป็นท่าแน่ ใครจะกล้ามากินสถานที่วางยาพิษในอาหารแบบนี้อีก?

แต่เห็นได้ชัดว่าบรรดาแขกต่างไม่พอใจ พากันโวยวายบอกว่าจะไปจากที่นี่ หรืออาจจะเป็นเพราะเซี่ยหยางจะแจ้งตำรวจ จึงทำให้พวกเขาตกใจ เนื่องจากไม่มีใครอยากถูกตำรวจทำการสอบสวน

ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เซี่ยหยางไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เวลานี้เองเหอเสี่ยวหย่าลุกขึ้นมา กวาดสายตาไปที่ผู้คน แล้วพูดขึ้นมาว่า“ความจริงทุกคนอย่างร้อนใจไปเลย ฉันมีวิธีหาตัวคนร้ายค่ะ แต่ต้องขอสละเวลาส่วนตัวของพวกคุณสักครู่”

“จริงหรอเนี่ย อย่าพูดให้มันลึกลับนักสิ”มีคนไม่เชื่อ

“หมอสาวคนนี้เก่งมากเลยนะ เมื่อกี้สามารถช่วยให้พวกเขาสองคนรอดได้ น่าจะมีความสามารถอยู่แหละ ไม่อย่างนั้นถ้าเรื่องนี้แจ้งตำรวจไป ต้องวุ่นวายมากแน่ๆ พวกเราให้ความร่วมมือเขาไปดีกว่า”มีแขกบางส่วนเห็นด้วย

เซี่ยหยางตบอกรับปาก“ความรู้สึกของทุกคนผมเข้าใจดีครับ ขอแค่พวกคุณให้ความร่วมมือ หาตัวคนร้ายให้เจอ ค่าใช้จ่ายไม่ได้ฟรีแค่เฉพาะวันนี้ พรุ่งนี้ก็ฟรีครับ อีกทั้งเงินที่พวกคุณใช้จ่ายไปก่อนหน้านี้ ผมจะคืนให้ทุกคนทั้งหมด ดีไหมครับ?”

“แบบนี้ค่อยยังชั่ว ยังไงก็เสียเวลาแค่ไม่กี่นาที ถ้าไม่ไหวพวกเราก็แค่ไปก็ยังไม่สาย”คนจำนวนมากกว่าครึ่งตัดสินใจอยู่ต่อเพื่อดูสถานการณ์ เนื่องจากสงสัยว่าใครเป็นคนร้าย

เซี่ยหยางมองไปที่เหอเสี่ยวหย่าด้วยสีหน้าหนักใจ พลางพูดขึ้นมาว่า“คุณมั่นใจไหมครับ?ทั้งหมดต้องพึ่งคุณแล้วล่ะ”

“วางใจเถอะค่ะ คุณบอกให้คนเอากระเป๋าของฉันมา ก็พอแล้ว”เหอเสี่ยวหย่าดูเหมือนจะมั่นใจในตัวเองมาก

ผ่านไปไม่นานกระเป๋าก็มาถึง เหอเสี่ยวหย่าปิดประตู หยิบพวกขวดกับโหลวออกมา เริ่มทำการผสม

เซี่ยหยางนั่งมองอยู่ข้างๆอย่างไม่เข้าใจ จึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า“คุณกำลังทำอะไรน่ะ?”

“ทดสอบน้ำยาน่ะ เดี๋ยวคุณก็รู้เอง ฉันเชื่อว่ามันต้องอยู่ในตัวของคนร้าย ไม่ว่าจะอย่างไร ฉันจะช่วยคุณหาตัวมันออกมาให้ได้”เหอเสี่ยวหย่าส่งยิ้มให้เขา แล้วใช้สายตามองเซี่ยหยางอย่างปลอบโยน

“เอาล่ะ ความสุขในอนาคตของผมขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะ”เซี่ยหยางรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังเล่นการพนัน สิ่งที่เขาพูดไม่ใช่การพูดเกินจริงเลย เมื่อหาคนร้ายไม่เจอ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก

“นานๆจะเห็นคุณตื่นเต้นแบบนี้ ตอนนี้ผู้ช่วยอย่างฉันไม่ได้อยู่อย่างเปล่าประโยชน์แล้วใช่ไหม?”เหอเสี่ยวหย่าในเวลานี้ กลับเริ่มพูดล้อเล่นหัวเราะคิกคัก

เซี่ยหยางผงะไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างขมขื่น“ครับ ถ้าหากครั้งนี้คุณช่วยผมหาคนร้ายได้ ผมจะให้คุณอยู่ต่อไป”

“คุณพูดแล้วนะ นี่ถือว่าเป็นการรับปากแล้วนะ ห้ามคืนคำล่ะ ไม่อย่างนั้น ฉันจะไม่ช่วยคุณจริงๆด้วย”เหอเสี่ยวหย่าแลบลิ้น

ก็ได้ ถือว่าเธอกำลังขู่บังคับตนอยู่แล้วกัน แต่ก็ช่างมันเถอะ ขอแค่จัดการปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันให้เรียบร้อย เก็บสาวสวยคนนี้ไว้ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร

“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ว่าคุณจะอยู่ที่นี่อีกนานเท่าไหร่?”เซี่ยหยางพูดอย่างร้อนใจ

“ได้แล้วล่ะ ตอนนี้คุณไปบอกให้คนเข้าแถวนะ แล้วเข้ามาทีละคน”เหอเสี่ยวหย่านำน้ำยาเทใส่ลงไปในกะละมัง แล้วเทน้ำจำนวนไม่น้อย หลังจากนั้นก็นั่งอยู่ข้างๆอย่างไม่รีบไม่ร้อน

เซี่ยหยางไม่รู้ว่าเธอจะมาไม้ไหนกันแน่ จึงออกไปทำตามคำสั่งของเหอเสี่ยวหย่า“ทุกคนช่วยเข้าแถวหน่อยนะครับ แล้วเข้ามาด้านในทีละคน หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสานะครับ ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เสร็จแล้ว”

บรรดาแขกต่างพากันไม่เข้าใจ แต่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รอจนพวกเขาเข้าไปถึงได้พบว่า เหอเสี่ยวหย่าชี้ไปที่กะละมังแล้วพูดว่า“พวกคุณช่วยล้างมือหน่อยค่ะ นี่เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อ กลัวว่าพวกคุณจะมีสารพิษแปดเปื้อนจะไม่ดี”

คำพูดแบบนี้ทำให้ทุกคนยอมรับได้ จึงยื่นมือเข้าไปล้าง พอเห็นคนมากกว่าครึ่งล้างมือแล้ว เซี่ยหยางที่ยืนอยู่ข้างๆรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ จึงเอ่ยถามออกไปว่า“เกิดอะไรขึ้นน่ะ ไม่มีผลอะไรเลยหรอครับ?”

“อย่าใจร้อนไปสิคะ ถ้าคุณเป็นคนร้าย จะยืนอยู่ตรงหน้าแถวหรอ?ต้องกำลังกังวลแน่ๆ?”เหอเสี่ยวหย่ากล่าวเตือน

“ใช่ จริงด้วยแฮะ ตอนนี้ผมกังวลว่าคนร้ายจะหนีไป”เซี่ยหยางพูดอย่างเป็นกังวล

“จะหนีไปได้ยังไงหัน ถ้าหากหนีไป ก็จะเป็นการเปิดโปงตัวเอง โดนเฉพาะสถานการณ์ช่วงรอยต่อแบบนี้ อีกทั้งในมือของคนร้ายต้องหลงเหลืออะไรไว้ให้สามารถตรวจสอบเจอเป็นแน่ เพราะฉะนั้นคุณก็อย่ากังวลไปเลย อีกไม่นานคนร้ายจะปรากฏตัวขึ้นเอง”เหอเสี่ยวหย่าพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ

เซี่ยหยางจึงได้เพียงแค่รอ เขามองไปยังข้างหน้าที่เหลือคนไม่กี่คนแล้ว ในตอนที่เขาใกล้จะนั่งไม่ติด เอ้อนิ้วก็เดินเข้ามา เกาหัวแกรกๆแล้วพูดไปว่า“พี่หยาง ให้ผมล้างหน่อยไหมครับ”

“นายจะล้างทำไม พวกเรากำลังทดสอบต่างหาก รีบออกไปซะเถอะอย่ามาเกะกะที่นี่ ไปดูข้างนอกให้ดี อย่าให้คนเข้ามา”เซี่ยหยางพูดอย่างหน่ายใจ

“ทดสอบอะไรน่ะ นี่มันน้ำยาฆ่าเชื้อไม่ใช่หรอครับ?ทุกคนต่างพากันพูดแบบนั้น”เอ้อนิ้วถามอย่างสงสัย

เหอเสี่ยวหย่าหัวเราะ แล้วพูดออกไปว่า“นี่เป็นเพียงการพูดเพื่อไม่ให้ทุกคนรู้สึกกลัวหรือรังเกียจ แต่น้ำยาตัวนี้มันมีฤทธิ์สามารถฆ่าเชื้อได้จริงๆนั่นแหละ นายจะล้างดูก็ได้”

“งั้นผมล้างหน่อยนะ”เอ้อนิ้วพูดจบก็เดินเข้าไป ยื่นมือไปในกะละมัง

ในเวลานี้เอง น้ำในกะละมังจู่ๆก็ทำปฏิกิริยา หลังจากที่เอ้อนิ้วนำมือออกไป มือของเขาก็เปลี่ยนสี เขาจึงอดที่จะมึนงงไม่ได้“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมคนอื่นล้างไม่เป็นอะไร ผมล้างถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?”

เหอเสี่ยวหย่าถึงกับอึ้งไป ชี้ไปที่เอ้อนิ้ว“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมมือของนายถึงได้มีปฏิกิริยา?หรือนายเป็นคนร้าย?”

เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร

เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร

Status: Ongoing

ที่ดินหลายไร่ เด็กในสังกัดเป็นโขยง เวลาทำสวนยุ่ง ผมดื่มโค๊กม่อสาวสวย เวลาไม่ยุ่ง พาสาวสวยเหล้าดอง อย่าขยับ สาวสวย ทำไมฟักทองอ่อนไปอยู่หน้านมหนูได้ล่ะ เงินทอง ที่ดิน สวน สาวสวย ราวกับสายน้ำพุ่งทะลักเข้ามาเป็นระลอกๆ พอกะลิ้มกะเหลี่ยอยู่ร่ำไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท